ใบหน้าของซูเสี่ยวเฉิงดูโกรธเกรี้ยว เธอเกลียดมู่ซานจนกัดฟันกรอด ยัยคนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว เกือบทำให้ชางหลิงแท้งลูก แค่ไล่เธอออกจากเซิ่งซื่อยังถือง่ายไปซะด้วยซ้ำ
“หลิงหลิง เธอเป็นคนทำหรือเปล่า” ซูเสี่ยวเฉิงเลิกคิ้ว ทำสีหน้าเหมือนฉันรู้นะว่าเธอเป็นคนทำ
ชางหลิงเงียบสนิท “ฉันแค่ไม่อยากจะเห็นเธอที่เซิ่งซื่ออีก”
แต่ว่า ทำไมมู่ซานถึงได้มือหักตอนนี้พอดี มันบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ?
“เธอพูดเองกับปากเลยเหรอว่ามือเธอหักเพราะว่าหกล้ม? ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า กฎของสวรรค์นั้นศักดิ์สิทธิ์เสมอ ใครทำอะไรก็ต้องรับผลกรรม คนแบบนี้น่าจะทำเรื่องเลวเยอะ พระเจ้าทนไม่ไหวอีกต่อไปก็เลยจัดการเธอ”
ชางหลิงยิ้ม ไม่ได้ตอบอะไรไป
ไม่ว่ามันจะเป็นกรรมตามสนองจริงหรือไม่ แต่ว่าเธอก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องของมู่ซานอีกแล้ว
“โธ่เอ๊ย!หยุดทำหน้าบึ้งได้แล้ว ฉันจะบอกเรื่องน่ายินดีกับเธอ” ซูเสี่ยวเฉิงเดินไปรอบๆ ตัวชางหลิง จับแขนเธอแล้วก็ยิ้มกว้าง
“เรื่องน่ายินดีอะไรกันถึงได้ดีใจขนาดนี้!เธอจะได้ย้ายบ้านหรือไง?”
“ฉัน ฉันจดทะเบียนสมรสแล้ว” ซูเสี่ยวเฉิงหน้าแดง แล้วก็กระซิบข้างหูชางหลิงเบาๆ
ชางหลิงอึ้งไป ความคิดแรกของเธอก็คือ เธอคิดว่าซูเสี่ยวเฉิงถูกที่บ้านยั่วยุให้ไปนัดบอด ตอนที่กำลังสับสนอยู่นั้น ก็ถูกลากไปจดทะเบียนสมรส “กับใคร?”
ซูเสี่ยวเฉิงมองหน้าชางหลิงอย่างประหลาดใจ นี่มันคำถามอะไรกัน เธอเป็นคนที่จะแต่งงานมั่วๆ หรือว่ายังไง “จะเป็นใครได้อีกละ ก็หลีซินไง!”
“อะไรนะ? ” ชางหลิงอ้าปากค้าง
ถึงแม้จะดูตั้งแต่แรกแล้วว่าซูเสี่ยวเฉิงกับหลีซินต้องคบกันอย่างแน่นอน แต่ว่า ตอนที่ได้ยินข่าวนี้ เธอก็ยังรู้สึกประหลาดใจมากอยู่ดี
สมแล้วที่เป็นคนใกล้ชิดโหมวยู่ บุคลิกเหมือนเขาเลย อยากจะจดทะเบียนสมรสก็จดเลย
ชางหลิงยิ้มจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอหวังมาตั้งนานแล้วว่าพวกเขาจะได้แต่งงานกัน และตอนนี้มันก็กลายเป็นเรื่องจริงแล้ว ดีจังเลย
“พวกเธอจดทะเบียนสมรสกันเร็วขณะนี้ ทำไมก่อนหน้านี้ถึงได้เงียบกันจังเลย ไปแอบคบกันตอนไหน อธิบายมาให้หมดเลยนะ”
ไม่นานชางหลิงก็ตอบสนอง ยัยซูเสี่ยวเฉิงตัวน้อยคนนี้กล้าไปมีความรักลับหลังเธอ ต้องรอให้จดทะเบียนสมรสก่อนถึงจะบอกเธอ เกินไปแล้ว
“ไม่ แค่ไม่กี่วันเอง ก็จดทะเบียนสมรสกันแล้ว”
ซูเสี่ยวเฉิงเขินอายจนไม่กล้ามองตาชางหลิงตรงๆ เหมือนกับว่าพวกเขาจะแต่งงานกันเร็วไปหน่อย
“ฉันไม่ใช่เพื่อนรักของแกแล้วใช่ไหม เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังปิดบังฉันอีก” ชางหลิงตีไหล่ซูเสี่ยวเฉิงด้วยความเคือง
ซูเสี่ยวเฉิงตอบโต้ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ “เธอเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ เธอท้อง แล้วก็เรื่องบนอินเทอร์เน็ต แถมยังเรื่องย้ายบ้านอีก เรื่องเยอะแยะขนาดนี้เธอยังไม่บอกฉันเลย แกไม่เห็นฉันเป็นเพื่อนแล้วใช่ไหม”
เธอพูดไปพูดมาตาก็เริ่มแดง ตอนที่ซูเสี่ยวเฉิงเห็นคำพูดที่จู่โจมชางหลิงในอินเทอร์เน็ต และเห็นภาพที่น่ากลัวตรงประตูหน้าบ้านของชางหลิงนั้น เธอก็ร้อนรนจนร้องไห้ออกมาหลายต่อหลายครั้ง
“เรื่องสองวันนี้มันยุ่งเหยิงมาก ฉันก็เลยยังไม่ทันได้บอกแก ถือว่ามันเป็นความผิดของฉันแล้วกัน ฉันติดเลี้ยงข้าวแกหนึ่งมื้อ”
“นี่ค่อยดีหน่อย ฉันจะไปร้านอาหารหรูๆ เลย”
“เธอชนะ”
ทั้งสองคนพูดคุยและหัวเราะกันสักพัก ชางหลิงก็หาวนอนด้วยความเหนื่อยล้า หลายวันมานี้เธอนอนไม่ค่อยหลับ ไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลย
ซูเสี่ยวเฉิงเห็นสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีของชางหลิง แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความกังวล “ชางหลิง แกจะเก็บเด็กคนนี้ไว้จริงๆ ใช่ไหม? ”
“อืม ในเมื่อเด็กคนนี้เลือกฉันแล้ว ฉันก็ต้องดูแลเขาให้ดี” ชางหลิงพยักหน้าอย่างแน่วแน่ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน เธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้
“โหมวยู่เขา ไม่ชอบเด็กคนนี้ใช่ไหม” ซูเสี่ยวเฉิงถามอย่างระมัดระวัง
ชางหลิงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ โหมวยู่ไม่ชอบเด็กคนนี้จริงๆ แม้แต่บอกให้เธอไปเอาเด็กออกทันที
“ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ เด็กในท้องนี้คือเลือดเนื้อของเขา บอกว่าไม่เอาก็ไม่เอา ขนาดเห็นเธอโดนรังแกขณะนี้ก็ยังไม่สนใจ ผู้ชายเลว ต้องเป็นเพราะจี้เหยากวงอย่างแน่นอน เขาถึงไม่ต้องการลูกของพวกเธอ” ใบหน้าของซูเสี่ยวเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธ เธอโมโหจนกัดฟันกรอด
ชางหลิงหัวใจเต้นแรง ทำไมจู่ๆ ซูเสี่ยวเฉิงถึงได้พูดถึงโหมวยู่กับจี้เหยากวงกันล่ะ?
“เสี่ยวเฉิง……แกไปได้ยินอะไรมาเหรอ? ”
“ฉันเห็นเองกับตา ตอนเวลาเลิกงานจี้เหยากวงมาหาโหมวยู่ที่บริษัท แถมโหมวยู่ยังพาเธอไปช้อปปิ้งในที่สาธารณะ ทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะกันไม่สนใจใคร น่าโมโหจริงๆ ”
ซูเสี่ยวเฉิงโกรธจนตาแดงก่ำ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะว่าหลีซินห้ามเอาไว้ เธอจะพุ่งเข้าไปจัดการผู้ชายกับผู้หญิงหน้าด้านๆ คู่นั้นอย่างแน่นอน
เชอะ! น้องสาวของผู้มีพระคุณอะไรกัน ก็แค่คนแรดๆ ที่หน้าไม่อายเท่านั้น
เหอะ! เขาไปช้อปปิ้งกับจี้เหยากวงอย่างนั้นเหรอ?
คบกันมาตั้งนานขนาดนี้ เธอยังไม่เคยได้รับการดูแลแบบนั้นเลย!
แสดงว่าตำแหน่งของจี้เหยากวงในหัวใจของเขานั้นมันไม่เหมือนกัน……
แววตาของชางหลิงค่อยๆ มืดมนลง เธอรู้สึกว่ายิ่งนับวันเธอยิ่งไม่เข้าใจโหมวยู่
เขาไม่ควรจะชอบจี้เหยากวงสิ!
ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้?
“หลิงหลิง ฉันขอโทษ!ฉันไม่ควรพูดเพื่อให้แกรู้สึกอึดอัดมากกว่าเดิมเลย” ซูเสี่ยวเฉิงเห็นว่าสีหน้าของชางหลิงมืดมนลง เธอก็ปวดใจจนอยากจะตบหน้าตัวเองสัก 2 ครั้ง ทำไมปากของเธอถึงได้เป็นแบบนี้!
“ขอบคุณนะที่เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง”
ชางหลิงพยายามยกริมฝีปากขึ้น เธอพยายามอย่างมากที่จะฝืนยิ้มออกมา แต่ว่ามันก็ไม่สำเร็จ
ซูเสี่ยวเฉิงน้ำตาไหลด้วยความปวดใจ เธอกำมือชางหลิงแน่น “หลิงหลิง แกไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแกเอง ลูกของแกก็คือลูกของฉัน พวกเราต้องทำให้เขาคลอดออกมาอย่างปลอดภัย ส่วนไอ้ผู้ชายเลวๆ คนนั้น การมีมันอยู่จะทำให้เราเสียใจ!”
ไม่ว่าชางหลิงจะตัดสินใจยังไง เธอก็จะสนับสนุนการตัดสินใจของชางหลิงตลอดไป
ชางหลิงกอดซูเสี่ยวเฉิงแน่น “อืม เพื่อลูก ฉันต้องเข้มแข็ง”
“หลิงหลิง ทำไมแกถึงมาอยู่ที่คฤหาสน์ป้านซานล่ะ? หรือแกไปอยู่กับฉันดีกว่าไหม!”
ความสัมพันธ์ระหว่างคุณชายรองโหมวกับคุณชายฉี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก คนของเซิ่งซื่อต่างก็รู้ดี
ตอนนี้ชางหลิงตั้งท้องลูกของคุณชายรองโหมว แต่ว่าอาศัยอยู่ในอาณาเขตของโหมวฉี่ เรื่องนี้ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
“สถานการณ์ของฉันตอนนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากจะไปรบกวนชีวิตของพวกแก อย่างน้อยคฤหาสน์ป้านซานก็ยังมีบอดี้การ์ด สามารถรับประกันความปลอดภัยพื้นฐานให้ฉันได้ คนพวกนั้นไม่กล้าเข้ามาก่อความวุ่นวายในอาณาเขตของคุณชายฉี่หรอก”
พอนึกถึงชาวเน็ตที่ถูกชักจูงให้เข้าใจผิด ชางหลิงก็รู้สึกปวดหัว
“หลิงหลิงแกวางใจได้เลยนะ ฉันให้หลีซินไปหาวิธีจัดการเรื่องในอินเทอร์เน็ตแล้ว พวกเราแค่ต้องอยู่เฉยๆ ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะมาสาดน้ำใส่ แกก็คิดซะว่าถูกหมาบ้ากัดแล้วกัน อีกเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว”
“ขอบคุณนะ!รบกวนพวกแกด้วยนะ พวกแกเพิ่งจะแต่งงานกันก็ต้องมายุ่งวุ่นวายเรื่องของฉันแล้ว มันไปกระทบเวลาฮันนีมูนของพวกแกหรือเปล่า”
“พวกเรากะว่าแต่งงานแล้วค่อยไปฮันนีมูนกัน” ใบหน้าของซูเสี่ยวเฉิงเริ่มแดงขึ้นมาอีกครั้ง
“ได้วันแต่งงานหรือยัง?”
“วันที่ 20 พฤษภาคม”
ชางหลิงอึ้งไป วันนั้นก็เป็นวันที่พวกเขาเคยคุยกันว่าจะจัดงานแต่งงานเหมือนกัน แต่ว่าดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ไม่รู้ว่างานแต่งงานของเธอยังจะได้จัดอยู่หรือเปล่า
“ทำไม!ตกใจขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าแกกับโหมวยู่ก็วางแผนจะแต่งงานกันวันนั้นเหมือนกันนะ!ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย พวกเราก็มาจัดงานแต่งงานด้วยกัน!”ซูเสี่ยวเฉิงอ่านความคิดของชางหลิงออก แล้วเธอก็ลืมเรื่องขัดแย้งระหว่างชางหลิงกับโหมวยู่ในตอนนี้ไปซะสนิทเลย เธอเสนอแนะด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และกระตือรือร้นมาก
“เอาไว้ครั้งหน้ามาพูดเถอะ! แกต้องเตรียมงานแต่งงานให้ดีเลยนะ ฉันจะรอดูเจ้าสาวที่สวยที่สุด”