ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 307 ฉันไม่เซ็น

บทที่ 307 ฉันไม่เซ็น

ฉินซางพูดจบ หลีซินกับต้วนเหิงเงียบไปทันที แววตาของฉู่ฉือมืดมนลง

เขารู้ว่าเมื่อก่อนคุณชายรองปฏิบัติภารกิจที่อันตรายมามาก แต่ตระกูลโหมวไม่ใช่คนอ่อนแอที่ใครจะมาทำร้ายก็ได้ ทำไมคุณชายรองถึงแบกรักไว้คนเดียวนะ เขาคิดไม่ออกจริงๆ

ฉินซางตบบ่าชางหลิงเบาและพูดปลอบใจว่า “เสี่ยวหลิงหลิง เธออย่าร้อนใจไปเลยนะ ตอนนี้พวกเราจะไปสืบคนที่พี่ใหญ่เจอในช่วงนี้ทุกคน จะต้องมีวิธีแก้ไขแน่”

“นั่นสิ พี่สะใภ้อย่ากังวลไปเลย พวกเราจะต้องช่วยพี่ใหญ่แก้ไขปัญหาแน่” แววตาของหลีซินเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

“รบกวนพวกนายด้วยนะ มีข่าวอะไรจะต้องมาบอกฉันเป็นคนแรกด้วยล่ะ”

“ได้”

หลังจากที่ส่งพวกเขากลับไปแล้ว ชางหลิงก็นั่งเหม่ออยู่ในห้องรับแขกที่ว่างเปล่า นึกถึงโหมวยู่อาจจะถูกศัตรูเมื่อก่อนข่มขู่อยู่ เธอก็อดไม่ได้ขนลุกซู่ทั่วแผ่นหลัง

“เธออย่ากังวลไปเลย ตอนนี้ฉันกำลังตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้าย”

“นายว่าไงนะ?”

ป๋ายจื๋อเป็นแบบนี้ตลอด คำพูดแสนเรียบง่ายของเขากลับทำให้ชางหลิงอึ้งตะลึงทุกครั้ง

การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายงั้นเหรอ?

ป๋ายจื๋อจะตรวจสอบยังไง?

วัยรุ่นหนุ่มตรงหน้าของเธอที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายแล้วยังทำกับข้าวเป็นอีก เมื่อก่อนเขาคงไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นหรอกนะ!

แววตาที่ชางหลิงมองป๋ายจื๋อก็เปลี่ยนไปทันที มีเหงื่อออกมาเต็มฝ่ามือของเธอ “นายจะตรวจสอบยังไง ต้องการเงินไหม?”

“ไม่ต้อง ฉันมีวิธี”

ป๋ายจื๋อพูดจบก็เดินไปที่ห้องตัวเองทันที ชางหลิงได้ยินเสียงเขาคุยโทรศัพท์รางๆ

ตกดึกชางหลิงนอนไม่หลับตามเดิม เธอนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก แสงจันทร์อันเย็นเฉียบสาดส่องเข้ามาในบ้านที่ไม่คึกคักอยู่แล้วให้เย็นเฉียบลงไปอีก

“ยังไม่นอนเหรอ”

ป๋ายจื๋อเดินออกมาจากห้องนอน เห็นชางหลิงที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกก็รู้สึกตกใจ

เขาเทน้ำแล้วเดินไปข้างๆชางหลิง พูดเสียงเบาว่า “ตรวจสอบได้แล้ว ไม่มีใครไปหาเรื่องโหมวยู่”

เห็นสายตาที่ลึกลับของป๋ายจื๋อ ชางหลิงก็ถามกลับไปว่า “ข่าวพึ่งพาได้ไหม?”

“พึ่งพาได้แน่นอน”

ป๋ายจื๋อพูดด้วยแววตาและสีหน้าที่จริงใจ ชางหลิงไม่อาจสงสัยในคำพูดของเขา

ได้ยินข่าวนี้แล้ว ชางหลิงก็โล่งอก เขาไม่เจอเรื่องวุ่นวายเป็นเรื่องที่ดี

“รอเขามาหาเธอ ฉันจะหาโอกาสต่อยกับเขาสักยก เธอก็คอยเก็บเลือดเขาแล้วกัน”

ป๋ายจื๋อรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำในช่วงนี้ของโหมวยู่มาก ไม่ว่าเขาจะหวังดีหรือไม่ก็แล้วแต่ ทำร้ายจิตใจชางหลิงเป็นสิ่งที่เขาอภัยให้ไม่ได้ จะต้องสั่งสอนให้เขาหลาบจำ

“อย่า นายสู่เขาไม่ได้หรอก”

การต่อสู้ของโหมวยู่ชางหลิงเห็นมากับตาแล้ว ป๋ายจื๋อน่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

ป๋ายจื๋อมองกลับไปด้วยแววตาที่เย็นชา ชางหลิงพูดแทงใจดำเขามาก เธอคิดได้ยังไงว่าเขาสู้กับโหมวยู่ไม่ไหว “ฉันมีปืน สู้เขาได้แน่”

“นี่นาย อย่าใจร้อนได้ไหม ที่นี่ประเทศจีนนะ ใช้ปืนไม่ได้”

พอปลอบใจป๋ายจื๋อแล้ว ทันใดนั้นชางหลิงก็นึกปัญหาอะไรขึ้นมาได้ มองเขาและถามอย่างจริงจังว่า “ป๋ายจื๋อ นายไปเอาปืนมาจากไหน?”

“คนอื่นให้ฉันมา”

“ปืนในมือนายใช่อันเดียวกันกับในมิลานไหม?”

“ไม่ใช่ พกปืนไปก็ผ่านด่านตรวจความปลอดภัยบนเครื่องไม่ได้หรอกนะ กระบอกนั้นฉันทำลายมันไปแล้ว”

ได้ยินน้ำเสียงที่เรียบเฉยของป๋ายจื๋อ ชางหลิงก็รู้สึกแผ่นหลังตัวเองเย็นเฉียบไปหมด รอบข้างเธอมีแต่คนแบบไหนกันเนี้ย!

“ในมือนายตอนนี้มีกี่กระบอก”

“กระบอกเดียว เธออยากได้เหรอ? เดี๋ยวฉันลองหาวิธีเอาไว้ให้เธอป้องกันตัวอีกหนึ่งกระบอกแล้วกัน”

“ไม่ต้องๆ ปกติฉันก็ไม่ไปสถานที่อันตรายอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ของแบบนั้นหรอก”

“อืม งั้นเธอก็รีบเข้านอนได้แล้ว ฉันง่วงแล้วไปนอนก่อนนะ”

เห็นแผ่นหลังที่ซื่อตรงของป๋ายจื๋อ ชางหลิงก็รู้สึกปวดหัวมาก

เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่ น้ำเสียงเมื่อกี้ของเขาดูเฉยชามาก เธอมักจะรู้สึกเมื่อก่อนป๋ายจื๋ออาจจะได้จับปืนบ่อยๆ ไม่งั้นก็คงไม่พูดเรื่องปืนด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยหรอก

เรื่องของโหมวยู่ยังไม่ทันทำให้ชัดเจนเลย ทางด้านป๋ายจื๋อก็เกิดปัญหาใหม่อีกแล้ว ชางหลิงรู้สึกเหมือนยี่สิบปีก่อนไร้ประโยชน์มาก คนข้างกายเธอนอกจากซูเสี่ยวเฉิงแล้ว คนอื่นเธอก็ไม่เคยเข้าใจเลย

อดทนมาจนถึงตีสี่ ในที่สุดชางหลิงก็หลับได้สักที

รอจนเธอตื่นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นข้างเตียงของเธอก็มีผู้ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น เธอขยี้ตาหลายครั้ง แน่ใจว่าตัวเองมองไม่ผิด

โหมวยู่มาอยู่ในห้องตัวเองตอนกลางวันแสกๆแบบนี้ได้ยังไง

ชางหลิงขยี้หลายครั้ง จนตาแดงไปหมด โหมวยู่ที่นั่งอยู่ข้างเตียงก็หายไปอีกครั้ง

โหมวยู่เห็นผู้หญิงบนเตียงที่ยังไม่รู้สึกตัวอยู่นาน ก็รู้สึกเป็นห่วง หลังจากที่เขาจากไปแล้ว ชางหลิงจะดูแลตัวเองให้ดีได้จริงเหรอ?

ตอนนี้ยังมีเด็กเพิ่มมาอีกคนอีก ต่อไปเธอจะอยู่คนเดียวยังไง!

โหมวยู่ทำหน้าบึ้งโยนสัญญาการหย่าให้ชางหลิง “เซ็นชื่อ”

“บอกเหตุผลมาก่อน ไม่งั้นนายอย่าคิดจะหย่าได้”

“ฉันบอกแล้วไง ฉันไม่รักเธอแล้ว”

พูดถึงครึ่ง โหมวยู่ก็รีบหลบสายตา เขาพูดโกหกต่อหน้าดวงตาที่ใสแจ๋วคู่นั้นของชางหลิงไม่ลงจริงๆ

โหมวยู่นั่งอยู่ข้างเตียง เจ็บปวดหัวใจเหมือนถูกมีดแทงครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่มีที่ว่างให้แทงแล้ว อาการปวดหัวก็เหมือนจะกำเริบอีกครั้งแล้วด้วย

“ฉันไม่เชื่อ!”

ชางหลิงเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง เธอรับรู้ได้ว่าโหมวยู่ยังรักตัวเองอยู่ ไม่มีทางเป็นเหตุผลนี้แน่ เธอจะต้องถามเหตุผลที่เขาอยากหย่าให้ได้ จากนั้นก็อยู่แก้ปัญหาและเผชิญหน้าไปพร้อมกันกับเขา

เมื่อกี้เขาเพิ่งกลับออกมาจากหลินจื้อ เขามีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว จะต้องทำให้ชางหลิงตัดใจให้ได้โดยเร็ว

เพื่อจะได้ทำตามเป้าหมายสำเร็จ โหมวยู่จึงต้องจำใจพูดแทงใจดำเธอ

“น่ารำคาญจริงๆ ผู้หญิงจอมหลอกลวงอย่างเธอช่างด้อยค่าเสียจริง จากกันด้วยดีไม่ได้หรือไง? เงินที่ฉันให้เธอเพียงพอสำหรับทั้งชีวิตของเธอแล้ว เธอยังไม่พอใจอะไรอีก เอาแต่ยื้อเสียเวลาอยู่แบบนี้จะมีประโยชน์อะไร? ชางหลิง เหลือศักดิ์ศรีให้ตัวเองหน่อยเถอะ เซ็นชื่อซะ”

คำพูดของโหมวยู่ทำเอาชางหลิงแทบกระอักเลือด ผู้ชายเลวคนนี้ ทำไมถึงพูดทำร้ายจิตใจได้ขนาดนี้กันนะ เมื่อก่อนทำไมเธอถึงไม่รู้ว่าฝีปากของโหมวยู่ดีขนาดนี้

ชางหลิงคว้าสัญญาหย่าขึ้นมาโยนไปที่โหมวยู่ “ฉันไม่เซ็น เชิญนายออกไป”

ในตอนนั้น เธออยากจะให้ป๋ายจื๋อเข้ามา เอาปืนจ่อที่หัวของเขา และบังคับเค้นถามความจริงออกมา

น่าโมโหจริงๆเลย!

โหมวยู่จ้องมองชางหลิงนิ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาช้าๆ ไม่ได้เดินออกไปข้างนอก แต่กลับขยับเข้าใกล้เธอแทน

เขาอยากทำอะไร?

ชางหลิงตกใจจนบีบผ้าห่มแน่น

โหมวยู่ขยับเข้ามาใกล้เธอถึงเห็นว่า ขอบตาเขาดำแค่ไหน ภายในดวงตายังมีเส้นเลือดแดงอีก หนวดเคราตรงข้างก็ไม่ได้โกน ดูแล้วเรื่องนี้คงทำให้เขาเครียดจริงๆ ไม่งั้นคนที่ให้ความสำคัญกับบุคลิกภายนอกอย่างเขาไม่ปล่อยให้ตัวเองโทรมแบบนี้หรอก

“นายทำอะไร อย่าเข้ามานะ”

โหมวยู่มองดูชางหลิง ขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆ เขาจ้องมองชางหลิงโดยไม่ละสายตาจนทำให้เธอกลัว หัวใจเต้นรัว เธอมีความรู้สึกที่ไม่ดีเอามากๆ

ชางหลิงถูกบีบบังคับไปจนถึงมุมกำแพง ถอยต่อไปอีกไม่ได้ โหมวยู่กระตุกยิ้มมุมปาก ใบหน้าเย็นชาจนไม่มีความอบอุ่นเลย

ทันใดนั้นโหมวยู่ก็ยื่นมือออกมา จับมือชางหลิงไว้อย่างแรง หยิบของที่เตรียมไว้ตั้งนานแล้วออกมาจากกระเป๋า

“อย่านะ……ไม่ นายปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”

ชางหลิงอยากจะชักมือออกจากฝ่ามือใหญ่ของโหมวยู่ และตะโกนขัดขืนออกไปอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท