ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 303 พวกเราเลิกกันด้วยดีเถอะ

บทที่ 303 พวกเราเลิกกันด้วยดีเถอะ

พอสบตาที่ดื้อรั้นของชางหลิงเข้า โหมวยู่ก็เบนหน้าไปทางอื่นอย่างลำบากใจ

แม้ในใจจะไม่อยาก แต่เขาก็ต้องจำใจไล่ชางหลิงออกไปโดยเร็ว ถ้าเกิดถูกเธอจับได้ขึ้นมาก็จะลำบากมากขึ้น เขากลัวว่าตัวเองจะไม่มีเวลามากขนาดนั้น

“รีบพูด!”

ชางหลิงตะคอกเสียงดัง โหมวยู่ตกใจจนลืมข้ออ้างที่เขาเพิ่งจะคิดได้

เธอจะดูสิ โหมวยู่จะหาข้ออ้างอะไรมาหลอกเธออีก!

โรคระยะสุดท้าย!

ล้มละลาย!

หรือว่าเจอรักแท้!

“ฉันไม่รักเธอแล้ว อยู่ต่อก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราเลิกกันด้วยดีเถอะ”

น้ำเสียงของโหมวยู่ทุ่มต่ำดูทรงพลัง จริงจังและเข้มงวด ชางหลิงฟังไม่ออกว่าเขาล้อเล่นหรือเปล่า

น้ำตาชางหลิงรื้นขึ้นมาเต็มขอบตาทันที เธอลืมตาโตเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เธอเดินไปตรงหน้าโหมวยู่ ระหว่างทั้งสองห่างกันแค่ฝ่ามือเดียว โหมวยู่ไม่สามารถหลบหน้าได้

“โหมวยู่ นายมองที่ตาฉัน แล้วพูดอีกทีสิ”

โหมวยู่เห็นดวงตาที่เสียใจและเด็ดเดี่ยวของชางหลิงได้อย่างชัดเจน และเห็นแววตาเบื้องลึกของเธอที่พร้อมจะตราหน้าเขาว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้

ความรู้สึกเจ็บปวดมันมาอีกแล้ว โหมวยู่รู้ว่าอาการตัวเองกำลังจะกำเริบแล้ว

จะให้ชางหลิงเห็นท่าทางตอนที่อาการเขากำเริบไม่ได้ จะต้องให้เธอตายใจแล้วออกไปเสีย

โหมวยู่ใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ และพูดสามคำนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงที่สุดจะเย็นชาเท่าที่จะทำได้

“รีบหย่ากัน!”

“นายแน่ใจเหรอ?”

ชางหลิงเดิมพันความรักที่มีให้เต็มเปี่ยมและศักดิ์ศรีสุดท้าย แล้วถามไปอีกครั้ง

คนที่รักที่สุดอยู่ตรงหน้า โหมวยู่กำลังถูกความเจ็บปวดทรมาน เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีควบคุมความใจร้อนที่จะพุ่งเข้าไปเธอเอาไว้

เจ็บ! เจ็บมาก!

อยากกอดเธอจัง

สติเส้นสุดท้ายในหัวเขาบอกเขาว่าไม่ได้ ร่างกายเขาเริ่มอ่อนแอลงทุกที เขาจะต้องทำให้ชางหลิงตายใจในวินาทีสุดท้ายนี้ให้ได้ แบบนี้เธอถึงจะใช้ชีวิตได้อย่างเข้มแข็งในตอนที่ไม่มีเขาอยู่ได้

โหมวยู่ตบโต๊ะอย่างแรง ใช้แรงสุดท้ายที่มีอยู่ตะคอกอย่างดุดัน

“ไสหัวออกไป!”

ชางหลิงควบคุมความรู้สึกเสียใจที่เพิ่มระดับขึ้นมาอีกไม่ได้แล้ว ในตอนที่น้ำตาจะไหลออกมาเธอรีบกลับหลังหันวิ่งออกไปข้างนอก

พอชางหลิงหายออกไปจากตรงหน้าของโหมวยู่ สุดท้ายเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป และล้มสลบลงไปบนเก้าอี้

“คุยเสร็จแล้วเหรอ?”

ป๋ายจื๋อมองดูชางหลิงที่รีบวิ่งออกมาจากห้องทำงาน จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาเธอ กลัวว่าเธอจะไม่ระวังลื่นล้ม

ชางหลิงอ้าปาก ภายในใจมีคำพูดมากมายอยากจะพูดออกมา แต่กลับจุกอยู่ในอกจบแทบหายใจไม่ออก สุดท้ายเธอก็พูดไม่ออกเลยสักคำ

ตลอดทางก็โซเซกลับมาถึงคฤหาสน์ป้านซาน หลังจากที่หมอตรวจสอบร่างกายเธอเสร็จแล้วออกไป สมองที่วุ่นวายของชางหลิงก็ถึงชัดเจนขึ้นมา

คำพูดในห้องทำงานเมื่อกี้ของโหมวยู่ยังคงดังอยู่ในสมองของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้เธอเพิ่งจะเข้าใจว่า โหมวยู่อยากจะหย่ากับเธอจริงๆ!

หย่า!

ตั้งแต่กลับมาจากมิลาน เธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าคำนี้จะปรากฏขึ้นในชีวิตของเธอ

ทั้งที่โหมวยู่บอกว่าจะรักและอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต พวกเขาสัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ตายไปด้วยกัน ทำไมเขาถึงกลับใจกะทันหันแบบนี้ล่ะ!

เธอพร้อมตายไปพร้อมกับเขา เขากลับบอกว่าไม่รักตัวเองแล้ว อยากจะจากกันด้วยดี……

ชางหลิงหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

……

ณ ห้องทำงานประธานบริษัทเซิ่งซื่อ หลังจากที่ชางหลิงออกไปแล้วก็ไม่มีใครเข้าไปอีกเลย จนกระทั่งฉู่ฉือเข้ามาถึงเห็นว่าโหมวยู่เป็นลมล้มพับอยู่บนเก้าอี้ทำงาน

ฉู่ฉือเดินไปข้างๆโหมวยู่ ผลักไหล่เขาเบาๆ “คุณชายรอง คุณชายรองครับ ทำไมถึงนอนตรงนี้ล่ะ? ให้ผมพยุงไปที่ห้องพักผ่อนนะครับ”

โหมวยู่ถูกปลุกให้ตื่น เห็นคนข้างๆรางๆ ฟังเสียงแล้วน่าจะเป็นฉู่ฉือ

สมองเขาตอนนี้สับสนไปหมด ตรงที่บาดเจ็บก็ยังรู้สึกเจ็บมาก “ฉันไปพักผ่อนก่อน นายเสร็จงานแล้วก็กลับไปได้เลย ไปอยู่กับถงเอินเยอะๆ”

“คุณชายรอง ผม……”

โหมวยู่เอ่ยถึงถงเอินกะทันหัน ฉู่ฉือที่เข้มงวดและใจเย็นมาตลอดก็กลับเขินอาย

ช่วงนี้เรื่องบริษัทกับเรื่องส่วนตัวคุณชายรองค่อนข้างเยอะ ถงเอินเคยพูดครั้งสองครั้งแล้วว่า ให้เขากลับบ้านเร็วๆ

“กลับไปเถอะ!”

โหมวยู่ปัดมือ กลับหลังหันเดินไปที่ห้องพักผ่อน

ยังดีที่ตอนนี้เขายังมีสติมากพอควบคุมการเคลื่อนไหวของเขาได้ หลังจากที่เดินได้นิ่งแล้วก็เดินไปที่ห้องพักผ่อนทันที เพื่อไม่ให้ฉู่ฉือเกิดสงสัย

นอนอยู่บนเตียงห้องพักผ่อนข้างๆห้องทำงาน โหมวยู่เช็ดเหงื่อบนหน้าผากตัวเอง ดึงลิ้นชักบนหัวเตียง กินยาแก้ปวดเข้าไปสี่เม็ด

หลังจากนั้นไม่นาน อาการเจ็บหัวก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ เขายัดเม็ดยาเข้าปากไปอีกสองเม็ด

หลังจากที่อาการปวดหัวเริ่มหายแล้ว โหมวยู่ก็ลองหลับตาลงช้าๆ หายใจเข้าออกลึกๆ จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมา ทำแบบนี้อยู่สามครั้ง เขาก็ต้องจำใจยอมรับความจริงที่แสนทรหดที่ว่าดวงตาเขาเริ่มเลือนราง

มันมาเร็วกว่าที่เขาคิดเอาไว้!

ลิ่มเลือดในสมองเขากระทบถึงการมองเห็นของเขา เรื่องที่จะหย่ากับชางหลิงต้องรีบจัดการแล้วล่ะ

คฤหาสน์ป้านซาน ในตอนที่ชางหลิงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นอกหน้าต่างก็มีอากาศสดใสในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกท้อด้านนอกหน้าต่างก็กำลังเบิกบานเต็มที่ ทำให้ทั้งลานกลายเป็นสีชมพูอ่อนๆ

นั่งอยู่ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิที่งดงาม ที่เห็นภายนอกคือลานกว้างที่สวยงาม ทันใดนั้นชางหลิงก็รู้สึกว่าเธอกับลานนี้ดูไม่เข้ากันเลย ดูแล้วคงถึงเวลาไปแล้วสินะ สุดท้ายแล้วที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่

เพื่อให้บ้านที่อบอุ่นและมั่นคงกับเด็ด ตอนนี้สิ่งแรกที่เธอต้องทำคือย้ายไปในบ้านที่เป็นของตัวเอง

ตอนนี้เอง ในที่สุดชางหลิงก็เข้าใจความรักของแม่ที่ทิ้งบ้านหลังนั้นไว้ให้ตัวเองในตอนนั้น สามารถใช้มันได้ในตอนที่เธอลำบากมากที่สุด

“ป๋ายจื๋อ เก็บของย้ายไปบ้านของพวกเรากันเถอะ ช่วยฉันตรวจสอบทุกเรื่องเกี่ยวกับโหมวยู่ให้หน่อย”

“กลับไปได้แล้วเหรอ” ป๋ายจื๋อนานๆทีจะยิ้มทีหนึ่ง

ทุกครั้งที่เจอโหมวฉี่สำหรับเขาก็รู้สึกทรมานมาก ในที่สุดก็ออกจากสถานที่เฮงซวยนี้ได้สักที ดีจริงๆ!

ในตอนที่ป๋ายจื๋อขนกล่องเล็กกล่องใหญ่ออกมา ชางหลิงก็ได้รับรู้การจัดการของป๋ายจื๋อใหม่อีกครั้ง

ข้าวของเยอะขนาดนั้น หมอนี่กลับเก็บทั้งหมดในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เธอสงสัยว่าป๋ายจื๋อใช้อาวุธลับอะไรหรือเปล่า ประสิทธิภาพสูงจนน่าตกใจ

“พวกเราไปกันเถอะ”

ป๋ายจื๋อขนของขึ้นรถด้วย และพูดเร่งชางหลิงที่กำลังเหม่อลอยด้วย

“นายเก็บของเสร็จแล้ว พวกเราไปบอกลาโหมวฉี่กันก่อน”

ยังไม่รอชางหลิงไป หลังจากที่โหมวฉี่รู้ข่าวที่ว่าชางหลิงจะไปแล้วก็รีบออกมาทันที

“คุณชาง ผมดูแลไม่ดีตรงไหนคุณบอกมาได้นะครับ ทำไมถึงไปกะทันหันแบบนี้ล่ะ?”

การกระทำของชางหลิงเกิดขึ้นเร็วมากจนไม่ทันได้ตั้งตัว โหมวฉี่ยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? อยู่ที่นี่ไม่ดีเหรอ เขาคิดไม่ออกว่าทำไมชางหลิงถึงเก็บข้าวของออกไปกะทันหันแบบนี้

“คุณชายฉี่ รบกวนคุณมานานขนาดนี้ ตอนนี้ร่างกายฉันก็ดีมากแล้ว เรื่องวุ่นวายด้านนอกก็จัดการแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะพึ่งพาคุณอีกต่อไปแล้วค่ะ”

ไม่รอโหมวฉี่รั้งไว้ ชางหลิงก็พูดต่อว่า “คุณชายฉี่ บุญคุณครั้งนี้ของคุณฉันจะจำไว้ พวกเรากลับก่อน ไม่ต้องส่งแล้วค่ะ”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท