My Vampire System – ตอนที่ 7

ตอนที่ 7

การทดสอบยังคงดำเนินการต่อไปโดยเรย์ร่าคือคนถัดมา เธอเป็นคนเดียวที่มีอาวุธสะพายอยู่ข้างหลัง อาวุธที่เธอใช้นั้นคือธนู แต่รูปร่างของมันกลับไม่เหมือนธนูแบบดั้งเดิมที่พวกเขาใช้เมื่อนานมาแล้ว

ธนูนี้ถูกแกะสลักด้วยชิ้นส่วนของสัตว์อสูร มันเป็นสีดำทมิฬราวกับคันธนูทั้งหมดทำมาจากหินอัญมณี แม้แต่สายธนูก็ทำมาจากวัสดุพิเศษ เหตุผลที่ธนูดูแตกต่างกัน คงเป็นเพราะสิ่งนี้ถูกรู้จักในชื่อ อาวุธอสูร

ธนูที่ทำมาจากร่างกายของสัตว์อสูร เมื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกโจมตีจากเผ่าพันธุ์ดัลกิ เทคโนโลยีของมนุษย์ก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วจากการเลียนแบบเทคโนโลยีของพวกมัน ด้วยสิ่งนี้ มนุษย์จึงได้เรียนรู้ความสามารถในการเดินทางไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่นโดยใช้ประตูมิติ

ดาวเคราะห์เหล่านั้นมักจะมีสัตว์อสูรในระดับที่แตกต่างกัน สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าก็จะสามารถสร้างอาวุธที่ดีกว่าจากมันได้ และนี่เป็นครั้งแรกที่ควินน์เคยเห็นอาวุธอสูรนี้เพราะในโรงเรียนเก่านั้นไม่มีใครซักคนที่มี

เป็นเรื่องแปลกมากที่คนอายุน้อยและไม่น่าจะเคยไปดาวเคราะห์ดวงอื่นมาก่อนได้ครอบครองอาวุธอสูร

เรย์ร่ายืนอยู่กลางสนามและรอให้การทดสอบเริ่มขึ้น ไม่เหมือนรอบของควินน์ พวกเขารอจนกระทั่งเธอพร้อมก่อนแล้วจึงเริ่ม และนั่นทำให้ควินน์เริ่มเห็นถึงการปฏิบัติที่แตกต่าง

เมื่อการทดสอบเริ่มต้นขึ้น เป้าหมายทั้ง 5 ได้ปรากฏแตกต่างกันไปในพื้นที่รกร้าง เรย์ร่าหยิบลูกธนู 5 ดอกออกมาทันที ก่อนจะแนบไว้ยังคันธนูและยิงออกไปทั้งหมดในทิศทางเดียวกัน

ลูกธนูถูกยิงออกไปอย่างดุดันและรวดเร็วมาก แต่ทันใดนั้น ธนูทั้งห้าดอกได้แยกออกไปในทิศทางของมัน มุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่กระจัดกระจายอยู่

“เป็นการคอมโบที่ดี” วอร์เด็นพูดขึ้น “เธอเป็นพวกมีพลังจิตควบคุมแต่มันยังอ่อนแออยู่ ดังนั้นเธอเลยใช้ความสามารถของเธอร่วมกับธนูและควบคุมลูกธนูไปด้วย”

ในชั่วพริบตา เป้าหมายทั้งห้าก็ถูกทำลายทั้งหมด และเธอทำการทดสอบรอบแรกเสร็จสิ้น เป็นครั้งแรกที่ควินน์เห็นว่าอาวุธอสูรนั้นมีประโยชน์ยังไง แม้ว่าคุณจะมีพลังที่อ่อนแอ แต่คุณก็สามารถทำให้มันแข็งแกร่งได้ถ้าใช้ร่วมกัน

ควินน์ยังไม่แน่ใจว่าทักษะของเขานั้นคืออะไร แต่ถ้าหากว่าเขาเพิ่มค่าสถานะให้เลเวลอัพขึ้นไป มันคงมีประโยชน์อะไรซักอย่างเหมือน ดาบอสูรหรืออะไรที่คล้ายๆกัน

ในการทดสอบพละกำลัง เรย์ร่าทำได้ไม่ดีนัก เธอใช้พลังของตัวเองผลักดันหมัดให้เร็วขึ้นเมื่อชกไปที่กลอง แต่สุดท้าย เธอได้คะแนนแค่ 8

และการทดสอบสุดท้าย ควินน์ก็เห็นว่าเธอทำได้ค่อนข้างแย่ เมื่อการทดสอบเริ่มขึ้น เรย์ร่าพยายามที่จะใช้พลังของตัวเองกับลำแสงแหลมคมที่พุ่งตรงมาหาเธอ แต่เธอไม่ทราบว่าพวกมันทั้งหมดคือภาพโฮโลแกรมและไม่ใช่ของจริงมันจึงไม่มีผลใดๆ

ซึ่งก็หมายความว่าทั้งหมดที่เรย์ร่าทำได้คือต้องพึ่งพาร่างกายจริงๆของตัวเองจากการหลบหลีกลำแสง จนสุดท้ายเรย์ล่าก็จบลงด้วยคะแนนเดียวกันกับควินน์

“ดูเหมือนว่า เธอจะมีทักษะเป็น User เลเวล 2” เจนพูดและหมายเลข 2 ก็ปรากฏที่สายรัดข้อมือของเรย์ล่าทันที

ควินน์บอกได้ว่า เรย์ร่าดูไม่มีความสุขเลย เธอเดินย้อนกลับมาแล้วกลับเข้ากลุ่ม ควินน์คิดว่าการทดสอบนั้นมันไม่ยุติธรรม แม้ระดับความสามารถของเธอเป็นเพียงแค่เลเวล 2 แต่เมื่อใช้งานกับธนูแล้ว ควินน์รู้สึกว่าเธอสามารถเอาชนะ User เลเวล 3 เลเวล 4 ได้ง่ายๆเลย

ควินน์เริ่มสังเกตว่าโรงเรียนแห่งนี้วัดเพียงระดับพลังของคุณไม่ใช่ความสามารถในการต่อสู้ธรรมดาเพียงอย่างเดียว

และคนต่อไปที่ทำการทดสอบ คือ เอริน เธอเดินออกไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจโดยที่ไม่คิดจะมองใครเลย เธอยืนอยู่ตรงกลางของสนามทดสอบเพื่อรอให้การทดสอบเริ่มขึ้น

จากนั้น เป้าหมายทั้ง 5 ก็ปรากฏขึ้นทั่วพื้นที่รกร้าง และทันใดนั้น เธอก็สร้างหอกน้ำแข็งแล้วเขวี้ยงมันออกไปยังเป้าหมายจนมันถูกทำลาย เธอทำเช่นนี้ซ้ำๆกับตัวอื่นๆด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ เพื่อจะกำจัดพวกมันให้เร็วเท่าๆกับที่เรย์ร่าทำไว้

การทดสอบครั้งต่อไปของเอรินนั้นน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น เธอเริ่มรวบรวมน้ำแข็งในมือตัวเอง หลังจากผ่านไปประมาณ 1 นาที ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ถูกยิงออกจากมือของเธอและพุ่งเข้าที่จุดกึ่งกลางของกลองพอดี

เสียงกลองดังสนั่นกว่าที่เคยมีมาและตัวเลขก็พุ่งขึ้นอย่างต่อเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็หยุดลงที่ 50

“ไม่แปลกใจเลยที่เธอดูมั่นใจมาก” วอร์เด็นพูด

ควินน์คิดได้ทันทีว่าดีแล้วที่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กัน ไม่เช่นนั้น วอร์เด็นคงตายแน่

ในที่สุดก็ถึงการทดสอบสุดท้าย ผู้คุมสอนได้บอกกับเธอ ว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ทักษะและเธอควรหลบหลีกด้วยตัวเอง เอรินไม่แสดงท่าทีอะไรและเริ่มทดสอบต่อทันที เธอพยายามเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกลำแสง แต่ในที่สุดหุ่นยนต์ก็เร็วเกินไป สุดท้ายเธอจึงโดนโจมตีเข้า

“น่าประทับใจมาก!” เจนพูดขึ้น” เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่ผ่านมา พลังเลเวล 5″

เอรินเดินกลับไปที่กลุ่มราวกับเธอรู้อยู่แล้วว่าผลทดสอบจะเป็นอย่างไร หรืออีกอย่างเธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องทั้งหมดเลย

และในที่สุด คนในกลุ่มสุดท้ายที่ต้องทำการทดสอบ ก็คือ วอร์เด็น

“ได้เวลาแสดงให้ทุกคนเห็นถึงสิ่งที่ฉันมีแล้วสินะ อวยพรฉันด้วยล่ะ”

ควินน์ไม่เข้าใจว่าวอร์เด็นกำลังพูดกับใคร แต่ควินน์รู้ตัวทันทีว่าเป็นตัวเองหลังจากวอร์เด็นขยิบตามาทางเขา ขณะที่เขาเดินไปยังกลางสนาม

“เจ้างี่เง่านั่นแข็งแกร่งจริงๆงั้นเหรอ?”ควินน์คิด

คนส่วนใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งมักจะมีความหยิ่ง หรือไม่ก็อยู่เงียบๆ แต่วอร์เด็นนั้นต่างออกไป เขาไม่ได้หยิ่ง แต่เขามักโอ้อวด

ในที่สุดก็มาถึงทีของเขา เมื่อการทดสอบเริ่มต้นขึ้น ทุกคนอ้าปากค้างในสิ่งที่พวกเขาได้เห็น ในทุกการทดสอบ วอร์เด็นได้ทำสิ่งเดียวกันกับที่เอรินทำ

เขาใช้ทักษะที่เหมือนกัน ทักษะธาตุน้ำเเข็งนั่น และใช้มันได้ดีอีกด้วย

“เห็นมั้ย? ฉันบอกนายแล้วว่าฉันแข็งแกร่ง” วอร์เด็นเอ่ยขณะที่เขาแสดงหมายเลข 5 แก่ควินน์เพื่อนใหม่ที่ดีที่สุดของเขา

สิ่งที่ควินน์คิดคือทักษะพิเศษของวอร์เด็นคืออะไรกันแน่

My Vampire System

My Vampire System

Status: Ongoing

เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ ดัลกิที่ชั่วร้าย และเมื่อพวกเขานั้นต้องการความช่วยเหลือที่มากขึ้น มนุษย์กลุ่มหนึ่งจึงต้องออกโรง

พวกเขาเหล่านั้นซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาเป็นเวลาหลายร้อยปี และพวกเขาก็เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ

บางคนเลือกที่จะแบ่งปันความรู้ของพวกเขากับมนุษย์คนอื่นๆในโลก ด้วยความหวังว่าจะชนะสงครามครั้งนี้ ในขณะที่บางคน ยังคงเก็บซ่อนความสามารถไว้เพื่อตัวของเขาเอง

ควินน์สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปในสงคราม ทั้งบ้านและครอบครัวของเขา สิ่งเดียวที่เขาเหลือคือหนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เขาไม่สามารถจะเปิดมันได้

แต่เมื่อหนังสือเปิดออก ในที่สุดควินน์ก็ได้รับระบบซึ่งคอยมอบภารกิจต่างๆ ให้เขาทำ และสุดท้ายทั้งชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนไป

ยิ่งเขาทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็มีพลังมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งระบบได้มอบภารกิจหนึ่งให้แก่เขา และเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะทำมันได้สำเร็จ

“ถึงเวลากินอาหารแล้ว!”

“คุณต้องดื่มเลือดมนุษย์ภายใน 24 ชั่วโมง”

“HP ของคุณจะลดลงเรื่อย ๆ จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น”

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท