My Vampire System – ตอนที่ 71

ตอนที่ 71

คลังเก็บอุปกรณ์เป็นอาคารชั้นเดียวที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง ที่มีลักษณะคล้ายกับไม้แขวนเสื้อ จุดประสงค์หลักของการสร้างอาคารเเห่งนี้ คือการเก็บเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ต่างๆ เช่น เรือเหาะและอุปกรณ์อื่นๆทั้งหมด ซึ่งพวกเขายังใช้เป็นห้องเก็บสิ่งของชั่วคราวสำหรับนักเดินทางอีกด้วย

ควินน์ค่อยๆเดินออกจากตึก แล้วเดินไปที่อาคารเก็บของนั่น เขาไม่รู้ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นตอนไหนและต้องการที่พักในค่ำคืนนี้ หลังจากที่ได้ต่อสู้กับฝูงหนูจอมตะปบไป เขารู้สึกอ่อนล้ามากๆ

ไม่เพียงแค่นั้น เขาหวังว่าจะเจอสมบัติบางอย่างที่คลังเก็บของนั้นก็ได้ ซึ่งเขามองไม่เห็นข้อเสียของการพยายามเข้าไปในอาคารที่ว่าเลย

ในระหว่างทาง เขาย้ำเท้าอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ส่งเสียงแจ้งเตือนต่อสัตว์อสูรต่างๆที่อยู่ในป่า ขณะที่เขาเดินผ่านตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง เขาสังเกตเห็นหนูจอมตะปบประมาณสองสามตัวกำลังรุมทึ้งอะไรสักอย่างอยู่ข้างถนน

‘บ้าเอ้ย มันอยู่ทุกที่เลย อย่างกับหนูที่โลกมนุษย์’ ควินน์คิดในใจ

ถ้ามีหนูยักษ์แค่ตัวเดียว เขาก็คงจัดการมันได้ ทว่าในขณะที่บนถนนมีพวกมันมากกว่าหนึ่งตัว เขาก็ไม่อยากเสี่ยง ถึงแม้ Exp ที่ได้รับจากการสังหารพวกมันนั้นน่าดึงดูดใจมากๆ แต่การต่อสู้กับพวกมันพร้อมๆกัน ก็หมายความว่ามีโอกาสสูงที่เขาจำเป็นจะต้องใช้สกิลโลหิตสาดกระเซ็น หรืออย่างน้อยก็ต้องใช้สกิลโลหิตฟาดฟัน

ควินน์ยังคงมุ่งหน้าไปยังคลังเก็บอุปกรณ์ จนในที่สุดเขาก็มาถึง ซึ่งด้านหน้ามีประตูเหล็กขนาดใหญ่สองบานที่สามารถเปิดได้ แต่กลัวว่าเสียงของมันจะดังและดึงดูดความสนใจโดยที่ไม่จำเป็น เขาจึงตัดสินใจเดินไปรอบๆอาคารเพื่อดูว่าช่องว่างหรือทางไหนที่เข้าไปได้บ้าง

หลังจากเดินไปแถวๆด้านข้างของอาคาร เขาโชคไม่ดีนัก แต่พอกำลังจะเดินไปด้านหลังของอาคาร เขากลับได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้น เขาค่อยๆก้าวเท้าไปด้านข้างอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังจนแตกตื่น

เขาแนบหลังไปกับกำแพงด้านข้าง พร้อมกับแอบมองข้างหลังอาคารช้าๆ สิ่งที่เห็นคือหนูจอมตะปบอีกตัวที่ร้องระงมด้วยเสียงแหลมคมของมัน เนื่องจากบาดเจ็บที่หลังอย่างแสนสาหัส

มันโอดครวญด้วยความทรมาน ซึ่งเขาสงสัยจริงๆว่ามันอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนแล้ว หลังจากที่เฝ้ารอไปสักพักก็ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตตัวอื่นปรากฏตัวอีก

ควินน์จึงเดินออกมาจากกำแพงด้านข้างและตรงเข้าไปหาหนูยักษ์ที่บาดเจ็บที่ด้านหลัง ในขณะที่เขาเข้าไปใกล้มัน เจ้าหนูจอมตะปบก็ได้แต่ขู่คำรามใส่ควินน์และพยายามเหวี่ยงกงเล็บไปข่วนเขา แต่การโจมตีของมันนั้นเชื่องช้าและสัตว์อสูรตรงหน้านี้ก็ยังไม่สามารถขยับตัวได้

‘แกยังพยายามที่จะฆ่าฉัน ทั้งที่อยู่ในสถาพนี้เนี่ยนะ’ ควินน์คิดในใจ ขณะที่เขาไปใกล้มากกว่าเดิมสัตว์อสูรตัวนี้ก็ยังคงเหวี่ยงกงเล็บไปทางควินน์ แม้ว่ามันจะขยับไปไหนไม่ได้เลย เพราะว่าขาของมันถูกอะไรบางอย่างทับ รวมไปถึงมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่หน้าท้องด้วย

‘ฉันจะช่วยให้แกไม่เจ็บปวดอีกต่อไป’ เขาเดินเข้าไปหาเจ้าหนูยักษ์และทุบที่หัวของมันเพียงครั้งเดียวจนมันตาย

[ ได้รับ Exp 100 แต้ม ]

[ 1140/1600 Exp ]

เมื่อควินน์มองไปที่ด้านหลังของอาคารนี้ เขาก็เห็นช่องว่างเล็กๆอยู่ช่องหนึ่ง

‘ไอ้หนูนี่มันออกมาจากช่องนั้นงั้นเหรอ?’

ก่อนที่จะเข้าไป เขากลืนน้ำลายลงคอเพราะว่าบางอย่างที่ทำให้เจ้าหนูยักษ์บาดเจ็บสาหัสนั้นอาจจะอยู่ข้างในก็ได้ เขาก้มลงคลานเข่าไปข้างหน้า จนเมื่อถึงช่องว่างแล้วพยายามมุดหัวเข้าไป ซึ่งมันใหญ่พอที่มนุษย์สามารถเข้าได้ แต่สิ่งที่เขาหวั่นกลัวก็คือภายในอาคารแห่งนี้ ถ้าหากเขาเข้าไปแล้วอาจจะมีสิ่งของที่ว่านับไม่ถ้วน หรือตัวอะไรสักอย่างที่แข็งแกร่งกว่าหนูจอมตะปบก็ได้

เมื่อควินน์คลานเข้ามาในช่องนั้น เขาก็เริ่มจ้องมองไปข้างหน้าถึงสถานที่ข้างใน แม้ว่าที่นี่จะไม่มีไฟฟ้าและไม่มีแสงจากดวงจันทร์เล็ดลอดเลย แต่ด้วยประสาทสัมผัสการมองเห็นของเขา เขาสามารถมองเห็นความมืดภายในช่องได้อย่างชัดเจน

หลังจากที่สอดส่องช่องทางเข้าอยู่สักพัก ดูเหมือนว่าจะไม่มีตัวอะไรอยู่ข้างใน แต่แน่นอนว่าเขาไม่ปักใจเชื่อ เขาเลยครุ่นคิดอยู่กับมันชั่วขณะหนึ่ง ทว่าในที่สุด โอกาสที่จะได้รับอาวุธสัตว์อสูรใหม่ๆ หรืออะไรบางอย่างที่แสนจะน่าทึ่งกำลังดึงดูดความสนใจจากเขาไปจนหมด

เขาคลานจนสุดทางจนกระทั่งเข้ามาในอาคารได้ ในขณะที่เขาลุกขึ้นยืน เขารู้สึกผิดหวังสุดๆกับสภาพของคลังเก็บอุปกรณ์นี้

แทบทุกอย่างที่นี่ถูกทำลายทิ้งจนไม่มีชิ้นดี โดยมีเพียงเศษโลหะและขยะที่เหลืออยู่เท่านั้น

ไม่มีเรือเหาะสักลำ ไม่มีเครื่องจักรต่างๆและไม่มีอาวุธสัตว์อสูรเลยสักชิ้น สิ่งที่เหลืออยู่ไม่มีอะไรที่ใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม อาคารนี้มีขนาดที่กว้างใหญ่ ซึ่งควินน์จะไม่ยอมแพ้เพียงแค่สิ่งที่ตาเห็นในตอนแรกเริ่ม

เขาเดินไปรอบๆคลังเก็บอุปกรณ์เป็นเวลาสักพัก จนกระทั่งในที่สุด ก็พบห้องประจำการณ์อยู่มุมอาคาร มันยากที่จะบอกได้ว่าที่นี่กว้างใหญ่เพียงใด แต่คลังเก็บอุปกรณ์นี้มันดูเหมือนจะยาวลึกเข้าไปข้างในจนสุดและเมื่อสังเกตห้องประจำการณ์ใกล้ๆมันคล้ายกับตู้คอนเทนเนอร์ขนาดยักษ์เสียมากกว่า

เขาเดินไปยังห้องนั้นที่มีประตูเหล็กอยู่หนึ่งบานและมีเครื่องป้อนรหัสผ่านอยู่ด้านข้าง โดยประตูนี้เป็นเป็นเกรดของทางกองทัพทหาร ซึ่งหมายความว่าแม้แต่ผู้ที่มีทักษะพิเศษก็พบว่ามันเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำลายมันได้ บางทีมันอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม จนถึงตอนนี้จึงไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ รวมไปถึงพวกสัตว์อสูรก็ด้วย

แต่มันชัดเจนแล้วสำหรับเขา ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์นั่นยังไม่ถูกทำลายและส่วนใหญ่สิ่งของที่อยู่ในนั้นต้องเป็นของสำคัญที่ควรค่าแก่การล็อคประตูเอาไว้

‘ฉันควรใช้สกิลอัดกระแทกดีไหม?’ ควินน์มองไปรอบๆคลังเก็บอุปกรณ์นี้ เพดานของมันสูงมากและทำจากโลหะ ถ้าเขาทำการโจมตีด้วยสกิลอัดกระแทกในสถานที่แบบนี้ละก็ เสียงของมันต้องดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณแน่ๆ

อย่างไรก็ตาม ควินน์ไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้ ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าของเขาคือสมบัติในประตูบานนี้บานเดียว ต้องมีบางอย่างที่เขาทำได้สิ?

เขามองไปที่ปุ่มกดรหัสด้านข้าง ก่อนจะกดเลขสุ่มไปสี่หลักแล้วกด Enter

ปิ๊บ!

‘แน่นอน ฉันไม่ได้โชคดีขนาดนั้น’ ควินน์คิด

ในตอนนี้ ควินน์หมดหวังที่จะลองทำทุกอย่างแล้ว เขาคิดว่าบางทีถ้าเขาใช้สกิลตรวจสอบ มันอาจจะบอกข้อมูลอะไรบางอย่างกับเขาได้

[ ตรวจสอบ ]

[ เครื่องป้อนรหัสที่เชื่อมโยงกันกับประตูเหล็ก กดเลขชุดรหัสที่ถูกต้อง ประตูจึงจะเปิดออกได้สำเร็จ ]

ขณะที่ควินน์กำลังจะยอมแพ้ ข้อความจากระบบก็ส่งเสียงแจ้งเตือนขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง

[ สกิล ’ตรวจสอบ’ เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 2 แล้ว ]

[ ตอนนี้ สกิลตรวจสอบจะแสดงข้อมูลเพิ่มเติ่ม เกี่ยวกับวัตถุ มนุษย์และสิ่งของอื่นๆ ]

นับตั้งแต่สกิลโลหิตฟาดฟันของเขาเลเวลอัพ ควินน์มั่นใจมากๆว่าสกิลอื่นๆของเขาก็สามารถเลเวลอัพได้เช่นกัน แต่เขาไม่เคยนึกถึงสกิลตรวจสอบเลย ทั้งๆที่ใช้มันบ่อยเสียเหลือเกิน

ควินน์หันไปมองที่เครื่องกดรหัสอีกครั้ง สัญชาตญาณของเขาบอกให้เขาลองดู

[ ตรวจสอบ ]

[ เครื่องป้อนรหัสที่เชื่อมโยงกันกับประตูเหล็ก กดเลขชุดรหัสที่ถูกต้อง ประตูจึงจะเปิดออกได้สำเร็จ กรุณาแตะที่ปุ่ม ‘ล็อค’(Lock) เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม ]

ควินน์จึงทำตามที่สกิลตรวจสอบของเขาบอก และแตะปุ่ม ‘ล็อค’ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเลยใช้สกิลตรวจสอบดูอีกครั้ง

[ เครื่องป้อนรหัสที่เชื่อมโยงกันกับประตูเหล็ก เข้าถึงเลขชุดรหัสที่ถูกต้อง ประตูเปิดออกสำเร็จ รหัสผ่านของประตูคือ 2536725364 ]

ควินน์ทดสอบหมายเลยที่ระบบให้เขาทันที

ปี๊บ!

ครึก!

จากนั้นประตูก็ส่งเสียงปลดล็อคและเปิดออกได้สำเร็จ

My Vampire System

My Vampire System

Status: Ongoing

เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ ดัลกิที่ชั่วร้าย และเมื่อพวกเขานั้นต้องการความช่วยเหลือที่มากขึ้น มนุษย์กลุ่มหนึ่งจึงต้องออกโรง

พวกเขาเหล่านั้นซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาเป็นเวลาหลายร้อยปี และพวกเขาก็เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ

บางคนเลือกที่จะแบ่งปันความรู้ของพวกเขากับมนุษย์คนอื่นๆในโลก ด้วยความหวังว่าจะชนะสงครามครั้งนี้ ในขณะที่บางคน ยังคงเก็บซ่อนความสามารถไว้เพื่อตัวของเขาเอง

ควินน์สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปในสงคราม ทั้งบ้านและครอบครัวของเขา สิ่งเดียวที่เขาเหลือคือหนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เขาไม่สามารถจะเปิดมันได้

แต่เมื่อหนังสือเปิดออก ในที่สุดควินน์ก็ได้รับระบบซึ่งคอยมอบภารกิจต่างๆ ให้เขาทำ และสุดท้ายทั้งชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนไป

ยิ่งเขาทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็มีพลังมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งระบบได้มอบภารกิจหนึ่งให้แก่เขา และเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะทำมันได้สำเร็จ

“ถึงเวลากินอาหารแล้ว!”

“คุณต้องดื่มเลือดมนุษย์ภายใน 24 ชั่วโมง”

“HP ของคุณจะลดลงเรื่อย ๆ จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น”

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท