My Vampire System – ตอนที่ 94

ตอนที่ 94

เมื่ออยู่ในประตูมิติ ตราบใดที่มีสถานที่ๆกําหนด มันจะทําการส่งคุณไปยังสถานที่ใดสักแห่งในรัศมีหนึ่งไมล์บนดาวเคราะห์ดวงนั้น โดยมีการตั้งค่าที่ปลายทางไว้อยู่แล้ว เหตุผลที่ทั้งกลุ่มจับมือกันไว้ ก็เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งห้าคนจะถูกวาร์ปมา ณ จุดๆเดียวกัน

ซึ่งแตกต่างจากควินน์และวอร์เด็น ตอนที่เข้ามาในประตูมิติ พวกเขาก็ต่างคนต่างมา แล้วถูกจับแยกกันไปคนละทาง

เดลกําลังสะพายกระเป๋าเป้ขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างหนัก ขณะที่เดินร่วมไปกับทีม แต่ละก้าวที่ย่ําเท้าลงพื้นทําให้หลังของเขาโค้งงอ

“แล้วทําไมผมต้องแบกเจ้านี่ด้วย?!” เดลบัน

“เพราะตอนนี้ คุณคือคนที่อ่อนแอที่สุดในพวกเราทั้งสี่คนไม่ใช่หรือไง?” เฟย์เอ่ย “ดังนั้นถ้าคุณอยากให้เราคุ้มครอง คุณก็ควรจะเป็นคนที่พกเครื่องวาร์ปแบบพกพาติดตัวเอาไว้”

เดลเหลือบมองไปยังเฮย์ลี่ย์ หญิงสาวที่อยู่ข้างๆเขา ซึ่งแม้แต่เขา ก็ต้องยอมรับว่าเธอดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่งในฐานะหมอ เธออยู่ในชุดอุปกรณ์ระดับสูงเต็มรูปแบบ ด้านหลังของเธอคือดาบยาวขนาดใหญ่ ที่มีไซส์ใกล้เคียงกับตัวเธอ

เธอค่อนข้างเหมือนนักเดินทางมืออาชีพ ที่ออกล่าสัตว์อสูรในสถานที่แบบนี้อยู่เป็นประจํา

“เหอะ พวกคนรวย มันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพราะพ่อของเธอเป็นถึงนายพลของกองทัพทหาร’ เดลคิด

“ก็ได้ ผมเข้าใจแล้ว แต่ทําไมเราต้องเอาเครื่องวาร์ปแบบพกพามาด้วยล่ะ?”

“ก็แค่สํารองไว้” ลีโอตอบ “มองไปรอบๆตัวนายและที่อยู่อาศัยนี่สิ เท่าที่เห็นมันมีขนาด ใหญ่ราวกับเมือง นายไม่คิดเหรอ ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีคนคุ้มครองมันอยู่ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าเรา เราอาจ จะเจอสัตว์อสูรที่ทรงพลังมาก จึงจําเป็นต้องหาทางหนีทีไล่ อาจจะมีสัตว์อสูรมาขวางประตูมิติที่อยู่ในตอนนี้ก็ได้ ปลอดภัยเอาไว้ก็ดีกว่าเสียใจทีหลัง”

“โอเค ตามนั้นเลยค่ะ รีบไปที่ศูนย์ฝึกซ้อมกันเถอะ นั่นเป็นสถานที่สุดท้ายที่เราทราบว่าประตูมิติติดตั้งอยู่ ซึ่งเราต้องไปตรวจสอบดูว่ามันปลอดภัยดีหรือเปล่า? อาจารย์ลีโอจะเป็นคนนําทางให้ กับเราบอกตามตรง ฉันไม่อยากอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้นานๆ และไม่อยากรู้เหมือ นกันว่าอะไรมันทําลายที่นี่จนพังพินาศแบบนี้”

สีโอเดินนําอยู่ข้างหน้า โดยใช้ความสามารถพิเศษของเขาเพื่อให้ทีมหลีกเลี่ยงซึ่งอันตราย แม้จะตาบอด แต่ประสาทสัมผัสในการรับรู้ของเขานั้นกว้างไกล ทักษะของเขาทําให้เขามองเห็นออร่ารอบๆได้ สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันก็จะมีสีออร่าที่ไม่เหมือนกัน

ออร่าของสัตว์อสูรคือสีแดงเสมอ ในขณะที่มนุษย์จะมีออร่าเป็นสีเหลืองเท่านั้น นอกจากนี้เขายังสามารถมองเห็นออร่าส่วนใหญ่ผ่านวัตถุต่างๆ เช่น ผนังกําแพงตามอาคารบ้านเรือน ช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรได้

อย่างไรก็ตาม หากทั้งกลุ่มเห็นหนูจอมตะปบเพียงไม่กี่ตัว พวกเขาสามารถจัดการมันได้อย่างทันทีทันใด แทนการเลือกเส้นทางในการเดินทางที่ยาวนานขึ้น สีโอกับเฟย์มักรุดหน้าเข้าไปจัดการด้วยความว่องไว เพราะทั้งสองคนเป็นนักดาบทั้งคู่

เมื่อเฟย์ใช้ดาบยาว และลีโอใช้ดาบคาตานะของเขา ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสให้เจ้าหนู ยักษ์พวกนั้นรอดชีวิต

ขณะที่พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ เฮย์ลี่ย์ก็เกิดคําถามขึ้นมาในใจ หลังจากที่เห็นทั้งคู่จัดการกับหนยักษ์พวกนั้น

“ฉันสงสัยอยู่เรื่อยเลย ว่าคุณสองคนใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”

ทันใดนั้น ทั้งสองคนเบื้องหน้าก็ชะงักงัน เดลจึงหันไปมองเฮย์ลี่ย์ เพราะดูเหมือนว่าเธอไม่ได้รับรู้ว่ามันเป็นคําถามที่ค่อนข้างส่วนตัว

“นี่ คุณจะถามเรื่องอะไรแบบนั้นไม่ได้นะ” เดลกระซิบ

แน่นอน ว่าตัวเขาเองก็สนใจเช่นกัน เพราะคําถามแบบนี้มักเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เฟย์และลีโอต่างก็อยู่ในระดับที่ทัดเทียมกัน เป็นจ่าทหาร 2 ใน 8 คนของโรงเรียนที่มีการพูดถึงอยู่เสมอท่ามกลางอาจารย์และเหล่าทหารคนอื่นๆ ว่าใครกันคือผู้แข็งแกร่งที่สุดระหว่างพวกเขาทั้งคู่

และเรื่องเช่นนี้ก็มักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งกับสามนายพล

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เฟย์ตอบ “คําถามของคุณ ฉันตอบได้ง่ายมาก เพราะคนที่แข็งแกร่งกว่าฉันคืออาจารย์ลีโอค่ะ ฉันไม่รู้นะคะ ว่าคุณทั้งสองคนทราบเรื่องนี้หรือเปล่า แต่เราขอร้องให้เขามารับตําแหน่งกับเราหลังจากสิ้นสุดสงครามครั้งแรก ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปเขาเป็นเพียงค นธรรมดาที่รักสันโดษ แต่เขากลับทําทุกอย่างสําเร็จได้ตั้งมากมายมันเหลือเชื่อมากเลยค่ะ แล้วเงื่อนไขของเขาที่อยากเข้าร่วมกับกองทัพนั่นก็คือ “ฉันอยากเป็นครู” เขาขอไว้แบบนั้น”

ลีโอไม่ได้พูดอะไรหลังจากที่ได้ยิน เพราะความจริง เขาไม่ได้เป็นคนพูดมากมาตั้งแต่ไหนแต่ไรทว่าเดลก็ยังคงสงสัยว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ? แม้ว่าทักษะของลีโอจะมีประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดและยังเป็นพลังพิเศษระดับสูง แต่นั่นเป็นเพียงเพราะต้องใช้ค่า MC ในปริมาณมากไม่ ใช่รึไง?

ไม่ใช่เพราะว่าใครทรงพลังมากกว่าใคร เฟย์เองก็มีทักษะด้านความเร็วสูงที่เหนือล้ํา ถ้าทั้งสองคนต่อสู้กันไม่มีทางเลยที่เขาจะเห็นเธอพ่ายแพ้

ท้ายที่สุด เดลก็คิดว่าที่เธอต้องพูดแบบนั้น ก็เพื่อแสดงเคารพต่อรุ่นพี่ของเธอ เฟย์ยังเด็กอยู่อายุของเธอก็เพิ่งจะยี่สิบปลายๆ

และแล้วทั้งกลุ่มก็มาถึงบริเวณรอบนอกของศูนย์ฝึกซ้อม

“เราควรจะเช็คให้แน่ใจก่อนว่าประตูมิติปลอดภัยดี หลังจากนั้นเราค่อยไปตามหาพวก เด็กๆกัน” เฟย์กล่าว

” ทางเข้า เคลียร์” ลิโอกล่าว

พวกเขาเดินต่อไป จนในที่สุดก็ได้เห็นหนูจอมตะปบจํานวนหนึ่งที่เป็นซากศพอยู่หน้าทางเข้าไม่ใช่แค่นั้น ประตูทางเข้ายังมีสภาพที่ยับเยินและบิดงอ แต่มันก็ยังถูกปิดตายเอาไว้

เฟย์เดินไปที่เครื่องกดรหัสผ่านและลองกดรหัสดู เกิดเสียงปืบขึ้นมาก่อนมันจะดับไป เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ารหัสผ่านถูกปลดล็อคแล้ว แต่ประตูกลับไม่ขยับเขยื้อน มันเสียหายมากกว่าที่คิด

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่?” เฮย์ลี่ย์ถามขึ้น “คุณคิดว่าเป็นพวกเด็กๆหรือเปล่า?”

“ผมคิดว่าคุณคงหมายถึงเด็กคนนั้น” เดลกล่าวเสริม “มีแค่เขาคนเดียวที่มีทักษะพิเศษ จําได้ไหม?”

“อา ถูกต้องแล้วค่ะ วอร์เด็นคือผู้มีทักษะโดยกําเนิด ทักษะของเขาคือการลอกเลียนแบบคนอื่น แม้ว่าเราจะไม่รู้จริงๆว่ามันทํางานยังไง แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ ถ้าเขาก็อบปี้ทักษะพิเศษที่แข็งแกร่งได้ ฉันคิดว่าเขาคงจัดการเจ้าหนูยักษ์พวกนี้ได้ไม่ยาก”เฟย์กล่าว

“ถ้าเราเจอวอร์เด็น เราพาเขากลับบ้านได้เลยใช่ไหม?” เดลถาม

“นายกําลังแนะนําให้เรากลับไป จะได้ไม่ต้องตามหาเด็กคนอื่นอีกใช่หรือเปล่า?” ลีโอย้อนสวน

“ภารกิจระบุให้เราตามหาแค่วอร์เด็นคนเดียว คนอื่นถือว่าเป็นสิทธิพิเศษรีไง คุณจะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยลูกศิษย์อีกคนงั้นเหรอ?”

“ตอนที่ฉันเข้าร่วมสงคราม นายคิดว่าฉันทําอะไรอยู่?” ลีโอตอกกลับ “ฉันยอมเสี่ยงชีวิตเพราะเห็นแก่คนทุกคน นั่นก็เพื่ออนาคตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ นายก็รู้นี้ อนาคตที่ว่าก็คือเด็กๆพวกนี้ไง”

“พอได้แล้วค่ะ พวกคุณทั้งสองคน” เฟย์ตะคอกเพื่อห้ามปราม “โดยหลักการแล้วอาจารย์เดลพูดถูก แต่ถ้าคุณยังค้างคาใจเรื่องนี้อยู่ เราจะสํารวจบริเวณใกล้เคียงด้วยพลังของคุณถ้าเราไม่ พบอะไรเลย เราค่อยกลับ ยุติธรรมดีไหมคะ?”

ลีโอไม่พูดอะไรอีกและเริ่มเดินไปที่ประตูทางเข้า พลางดึงดาบคาตานะออกมา และตั้งท่าเตรียมพร้อม

“ประตูนี้ทํามาจากกลาสเทรียม หนึ่งในวัสดุที่หายากที่สุดเท่าที่เรารู้จัก เป็นสาเหตุว่าทําไมศูนย์ฝึกซ้อมแห่งนี้ ถึงไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลยตั้งแต่แรก” เดลพูดแล้วหัวเราะขบขันกับความพยายามงี่เง่าที่ลีโอกําลังจะทํา

“คุณคงอยากจะรู้มากล่ะสิ ว่าทําไมอาจารย์ลีโอถึงแข็งแกร่งกว่าฉัน?” เฟย์กล่าว

ลีโอตวัดคาตานะไปที่ประตูหนึ่งครั้ง ไม่มีเสียงอะไรสักอย่างดังขึ้น และดูเหมือนว่าประตูจะไม่ถูกแตะต้องเลยด้วยซ้ํา แต่แล้วเพียงเสี้ยววินาที บานประตูก็ปรากฏรอยเฉือนในแนวตั้งและครงบนของประตูนั้นก็พังคลื่นลงสู่พื้น

“และนั่นคือเหตุผลว่าทําไม “ค่ะ” เฟย์กล่าว

My Vampire System

My Vampire System

Status: Ongoing

เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ ดัลกิที่ชั่วร้าย และเมื่อพวกเขานั้นต้องการความช่วยเหลือที่มากขึ้น มนุษย์กลุ่มหนึ่งจึงต้องออกโรง

พวกเขาเหล่านั้นซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาเป็นเวลาหลายร้อยปี และพวกเขาก็เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ

บางคนเลือกที่จะแบ่งปันความรู้ของพวกเขากับมนุษย์คนอื่นๆในโลก ด้วยความหวังว่าจะชนะสงครามครั้งนี้ ในขณะที่บางคน ยังคงเก็บซ่อนความสามารถไว้เพื่อตัวของเขาเอง

ควินน์สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปในสงคราม ทั้งบ้านและครอบครัวของเขา สิ่งเดียวที่เขาเหลือคือหนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เขาไม่สามารถจะเปิดมันได้

แต่เมื่อหนังสือเปิดออก ในที่สุดควินน์ก็ได้รับระบบซึ่งคอยมอบภารกิจต่างๆ ให้เขาทำ และสุดท้ายทั้งชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนไป

ยิ่งเขาทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็มีพลังมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งระบบได้มอบภารกิจหนึ่งให้แก่เขา และเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะทำมันได้สำเร็จ

“ถึงเวลากินอาหารแล้ว!”

“คุณต้องดื่มเลือดมนุษย์ภายใน 24 ชั่วโมง”

“HP ของคุณจะลดลงเรื่อย ๆ จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น”

Show less 

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท