ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 215-216

ตอนที่ 215-216

ตอนที่ 215 มีเรื่องขอความช่วยเหลือ

นั่งลงไปบนเก้าอี้ไม่ทันร้อน เจาเอ๋อร์ที่อยู่ด้านนอกก็วิ่งเข้ามาในห้องด้วยความร้อนรนเสียแล้ว “คะ…คุณหนู ท่านอ๋องเสด็จมาเจ้าค่ะ…”

“เสด็จพ่อเสด็จมาแล้วเหตุใดเจ้าต้องตกอกตกใจด้วยเล่า” อวี้อาเหรากลอกตามองคราหนึ่ง

“มิได้เจ้าค่ะ อนุรองอีกทั้งคุณหนูใหญ่ก็ตามท่านอ๋องมาด้วยเจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์ละล่ำละลักกว่าที่นางจะพูดจบ นี่ก็น่าแปลกยิ่งนัก สองแม่ลูกนั่นแต่ไหนแต่ไรก็ไม่ถูกกับคุณหนูของนาง แล้วเหตุใดถึงมาเยือนถึงที่นี่ด้วยตัวเองเช่นนี้เล่า?

อวี้อาเหรานิ่งอึ้งไป ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ก่อนจะโยนเตาอุ่นมือไปบนโต๊ะด้านข้าง หันไปสอบถามกับเจาเอ๋อร์อย่างละเอียด “เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ได้มองผิดไป”

“ไม่ผิดเจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์รีบส่ายหน้าในทันที

“ท่านอ๋องเสด็จ!” ไม่ทันให้นางได้ถามอะไรต่อ ก็บังเกิดเสียงรายงานดังขึ้นจากทางด้านนอก เมื่อมองไปอีกทีก็เห็นว่าหลิงอ๋องเดินเข้ามาพร้อมทั้งอนุรองและลูกสาว อวี้อาเหราปรับสีหน้าและแววตาให้เป็นปกติ แม้ว่านางจะไม่ได้ลนลานเหมือนเช่นเจาเอ๋อร์ แต่ในใจก็รู้สึกแปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย

“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อเพคะ”

“อืม ลุกขึ้นเถิด” หลิออ๋องเข้ามาประคองนางเอาไว้

อนุรองและอวี้จื่อเยียนจึงแย้มยิ้มตาม “คารวะคุณหนูรองเจ้าค่ะ”

“อ๊ะ เหตุใดอนุรองและพี่สาวต้องคารวะข้าด้วยเล่า” อวี้อาเหรารู้สึกแปลกใจ หากเพียงมาเยือนถึงหน้าประตูก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่อวี้จื่อเยียนที่แสนหยิ่งทระนงและไม่ชอบนางถึงกับคารวะให้นาง นี่ก็ช่างน่าแปลกยิ่งนัก นางรู้สึกไม่วางใจเลย

“คุณหนูรองกล่าววาจาน่าขันยิ่งนักเจ้าค่ะ หากพวกเราไม่คารวะให้ท่านแล้วจะคารวะใครกัน” อนุรองยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นป้องปากหัวเราะอย่างงดงามสดใส ตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าตนเองท้องได้สองวัน ใบหน้าของนางก็แดงระเรื่ออย่างคนกินดีอยู่ดี เมื่อแย้มยิ้ม ใบหน้าของนางก็ดูงดงามขึ้นหลายส่วน

อวี้อาเหรานิ่งอึ้งไป ฝืนยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับไปหาหลิงอ๋อง “ไม่ทราบว่าเสด็จพ่อเสด็จมาดึกดื่นถึงเพียงนี้มีเรื่องอะไรหรือเพคะ”

“ไม่มีอะไรหรอก พ่อเพียงมาดูเจ้าเท่านั้น อีกอย่างเป็นเพราะอนุรองและเยียนเอ๋อร์มีเรื่องอยากจะมาขอความช่วยเหลือเจ้าน่ะ” หลิงอ๋องตอบกลับ

“มีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือหรือเจ้าคะ” อวี้อาเหรามองไปทางอนุรองและอวี้จื่อเยียนอย่างตกตะลึง นางคิดว่าดวงตะวันจะขึ้นทางทิศตะวันตกเสียแล้ว ไหนเลยพวกนางจะเข้ามาขอความช่วยเหลือด้วยตัวเองทั้งที่มีใบหน้าแย้มยิ้มเช่นนี้ได้ เมื่อคิดดังนั้น นางก็ลอบสบถในใจ

หากนางปล่อยให้สองแม่ลูกผู้นี้สมหวังก็แปลกแล้ว!

อวี้จื่อเยียนลอบดึงชายเสื้อของอนุรอง เพื่อให้นางออกปาก

อนุรองอ้าปากขึ้น แต่กลับพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงมองหน้าหลิงอ๋องเท่านั้น

เช่นนั้นหลิงอ๋องจึงจำต้องเปิดปากขึ้นว่า “ก็เรื่องที่ฝ่าบาททรงประสงค์ที่จะจัดงานเลี้ยงเลือกคู่ให้องค์ชายแห่งเป่ยเจียงนั่นละ วันนี้หวังกงกงมาส่งเทียบเชิญให้กับเจ้ามิใช่หรือ เช่นนั้นอนุรองจึงอยากจะไปชมความคึกคักในวังหลวงด้วย แม้ว่าพ่อจะสามารถไปงานนี้ได้ แต่กลับไม่มีเทียบเชิญที่ฮ่องเต้พระราชทานให้จึงก็ไม่อาจพาผู้อื่นไปได้ อีกทั้งสถานะของพวกนางก็ไม่ค่อยสะดวกใจนัก ในจวนหลิงอ๋องนี้มีเพียงเจ้าที่มีเทียบเชิญอยู่ในมือ จึงสามารถพานางเข้าไปได้ ไม่รู้ว่าเจ้าจะยินยอมหรือไม่”

“ใช่แล้วๆ” อนุรองแย้มยิ้มออกมาอย่างงดงาม “หากพวกเราสามคนแม่ลูกเข้าวังพร้อมกันก็ได้ช่วยดูแลกันได้”

“แม่ลูก? อนุรองคงเข้าใจผิดแล้วกระมัง เสด็จแม่ของข้าเป็นพระชายาแห่งจวนหลิงอ๋อง หากท่านคิดจะนับข้าเป็นลูกสาวก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมัง…” ริมฝีปากของอวี้อาเหราเผยรอยยิ้มเย็น เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าอนุรองและอวี้จื่อเยียนนั้นกำลังวางแผนอะไรกันอยู่ คิดจะใช้โอกาสนี้เข้าไปเชิดหน้าชูตาในหมู่บุปผางาม แต่มีนางเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ คาดว่าอนุรองคงเป่าหูหลิงอ๋องให้พามาถึงที่นี่ แน่นอนว่าหากเป็นต่อหน้าหลิงอ๋องแล้ว นางคงยากที่จะปฏิเสธแน่

ตอนที่ 216 ปิดประตูตีแมว

เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น ใบหน้าของอนุรองและอวี้จื่อเยียนก็เผือดสี มองมาทางนางด้วยสีหน้าไม่น่าดูนัก

วาจาเมื่อครู่นี้ก็เท่ากับว่านางกำลังตีแสกหน้าพวกนางสองแม่ลูกมิใช่หรือ

เมื่อหลิงอ๋องได้ยินเช่นนั้นแล้วก็รู้สึกไม่สู้ดีนัก “แม้ว่าพวกนางจะเป็นอนุ แต่ก็นับว่าได้ทำเพื่อจวนของเราไว้มาก มิสู้ลูกเห็นแก่สถานะของพ่อ ยอมให้พวกนางไปด้วยเถิด”

“ไม่ใช่เพราะว่าลูกไม่ยินดีที่จะให้พวกนางไปนะเพคะ” สีหน้าของอวี้อาเหรายังคงเผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม ค่อยๆ อธิบายอย่างช้าๆ “แต่ว่าอนุรองนั้นกำลังตั้งครรภ์ สมควรที่จะรักษาตัวอยู่ในจวน ในวังมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ถ้าหากไม่ระวังแล้วถูกชนล้มกระแทกขึ้นมา โทษทั้งหมดคงจะมาตกอยู่ที่ลูกเหมือนเช่นเมื่อเช้านี้ แม้จะมีหลายปากพูดก็อาจจะแก้ต่างไม่ได้ เช่นนี้แล้วลูกไหนเลยจะกล้าพสนางพวกนางเข้าวังด้วยเพคะ”

“เรื่องนี้…” ในใจของหลิงอ๋องเกิดความสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย

ที่อวี้อาเหรากล่าวมานั้นก็ไม่ผิด เช้าวันนี้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น นี่ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะไม่มีครั้งต่อไป

เมื่อเห็นหลิงอ๋องทำท่าจะโอนเอียงไปตามคำพูดของอวี้อาเหราแล้ว อนุรองก็ร่ำไห้น้ำตานองหน้า “คุณหนูรองกล่าวอะไรกัน ก่อนหน้านี้เป็นเพราะพวกเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ โทษแต่เพียงเยียนเอ๋อร์ที่เป็นกังวลเกินเหตุจนกล่าวโทษท่าน ในจวนก็น่าจะเข้าใจอารมณ์ของนางดี แต่ไหนแต่ไรมานางก็มักใจร้อนหุนหันพลันแล่น พวกเราสองแม่ลูกก็พึ่งพาอาศัยกันมาตลอด หากไม่เป็นห่วงกันก็คงน่าแปลกนัก เพราะเช่นนั้นหากคุณหนูรองยังไม่หายโกรธ ข้าน้อยจะยอมคุกเข่าขอโทษท่านก็ได้!”

“คุกเข่า? ท่านแม่!” อวี้จื่อเยียนตกอกตกใจ เหตุใดนางจะต้องคุกเข่าให้อวี้อาเหราด้วย? เช่นนั้นก็ก็ไม่เท่ากับยอมแพ้หรอกหรือ!

อนุรองตะคอกด้วยเสียงเคร่งเครียด “ยังไม่รีบคุกเข่าลงอีกหรือ!”

หลิงอ๋องไม่สบายใจ “เจ้าตั้งครรภ์อยู่จะมาคุกเข่าอะไรกัน นี่ก็เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น ช่างมันเถิด”

“ใช่แล้ว หากอนุรองยังคงคุกเข่าต่อหน้าข้า หากคนนอกมาเห็นเข้าก็คงคิดว่าข้าใช้สถานะตัวเองรังแกท่าน เมื่อถึงเวลานั้นคนที่เสียชื่อเพราะเรื่องนี้ก็คงจะเป็นข้า ที่ท่านทำเช่นนี้เพราะตั้งใจจะให้ข้าดูเป็นคนไร้ความเมตตาใช่หรือไม่” อวี้อาเหรากล่าววาจาเชือดเฉือน พลิกกลับง่ายๆ เพียงชั่วขณะเดียวปัญหาของเรื่องนี้ก็ตกลงไปสู่อนุรองเสียแล้ว

สีหน้าของอนุรองเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันในทันที ไม่กล้าที่จะคุกเข่าต่อไปอีก

การคุกเข่านั้นเดิมทีเป็นเพียงการแสดงที่นางต้องการให้หลิงอ๋องได้เห็นเท่านั้น แต่เมื่ออวี้อาเหรากล่าวออกมาเช่นนี้แล้ว ผลลัพธ์ก็กลับกลายเป็นตรงกันข้าม ไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้หลิงอ๋องบังเกิดความเห็นอกเห็นใจได้ ทว่ากลับรู้สึกได้ว่านางนั้นกำลังแสดงละคร แต่เรื่องการเข้าวังนั้นอย่างไรเสียก็ต้องทำให้ได้! ในยามที่นางกำลังลำบากหาทางออกไม่พบนั้น อวี้อาเหราก็พยักหน้า แล้วยอมรับปากตกลง

“เพื่อไม่ให้เสด็จพ่อต้องลำบากพระทัย ข้าก็จะพาพวกท่านเข้าวัง แต่อย่างไรก็ต้องขอกล่าวเสียก่อนว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ก็อย่าได้มาโทษข้า มิเช่นนั้นก็คงไม่ผิดไปจากที่ข้าพูดไว้แล้ว!”

หากไม่ใช่เพราะต้องการสร้างความประทับใจต่อหน้าหลิงอ๋อง นางก็คงจะไม่พาพวกตีสองหน้าเช่นนี้ไปด้วยแน่ เดิมทีในวังหลวงนั้นก็มีคนมากมายนักที่เห็นนางขัดหูขัดตา เมื่อถึงตอนนั้นหากพวกนางร่วมมือกันแล้วนางก็คงเหมือนตกลงไปในรังมดแดง ที่ไม่ว่าอย่างไรก็คงถูกกัดจนเจ็บไปเสียหมด

เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงหญิงสาวที่ทำร้ายนางที่ยังคงหาตัวไม่พบ ก็ไม่รู้เลยว่าครั้งนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง

ถ้าหากไม่ใช่เพราะได้รับเทียบเชิญโดยตรงจากฝ่าบาท นางก็คร้านที่จะไปเข้าร่วมงานเลี้ยงที่น่าคึกคักจะตายเช่นนี้!

แม้จะบอกว่าเป็นการเข้าวังเพื่อเข้าร่วมงานคัดเลือกพระชายาให้องค์ชายเป่ยเจียง แต่สำหรับพวกนางที่เป็นเพียงหญิงธรรมดาเดินดินนั้น จะไม่เท่ากับเอาชีวิตเสี่ยงเล่นๆ หรอกหรือ? โชคดีที่รัชทายาทถูกกักไว้ในวังตะวันออก มิเช่นนั้นคงต้องพบเจอกับความยุ่งยากมากกว่าเดิมเป็นแน่

เมื่อเห็นนางตอบรับ อนุรองและอวี้จื่อเยียนก็ยิ้มแย้มอย่างเบิกบาน “ขอบพระคุณคุณหนูรอง!”

“เอาเถิด” อวี้อาเหราโบกมืออย่างรำคาญ หากไม่มีหลิงอ๋องอยู่ด้วย นางก็คงสั่งเจาเอ๋อร์ปิดประตูตีแมวไปแล้ว

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ลิขิตฟ้าชะตารัก

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 100 อ่านนิยาย ตอนที่ 101 – 200 อ่านนิยาย

วิญญาณของ อวี้อาเหรา หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องที่มีร่างกายอ่อนแอ ซ้ำยังถูกองค์รัชทายาทที่นางรักมานานหลายปีผลักตกเหวจนตายอย่างไร้เยื่อใย! หลังจากที่อวี้อาเหราได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว ด้วยสภาพร่างกายของร่างเดิมทำให้นางต้องทนรับกับอาการป่วยไข้หลังจากที่ถูกน้ำซัดไปเป็นเวลานาน แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตานัก ที่ทำให้นางรอดชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ ฉู่ป๋าย ซื่อจื่อผู้โดดเด่นแห่งจวนเซิ่นอ๋อง

ต่อหน้าบุรุษผู้โดดเด่นเช่นเขา นางไหนเลยจะกระโจนเข้าหาเฉกเช่นสตรีนางอื่น สิ่งที่นางทำนั้นคือการหลีกเลี่ยงเขาให้ไกลที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว…

“คุณหนู ท่าน…ท่านตั้งครรภ์แล้ว!” เสียงสาวใช้เอ่ยบอกด้วยความตกใจ

“เหลวไหล! ข้ายังไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุรุษใด แล้วจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!” อวี้อาเหราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ฉับพลันนั้นเซิ่นซื่อจื่อที่นั่งอยู่ข้างกายจึงเอ่ยขึ้น

“หากว่าเจ้าลำบากใจนัก เช่นนั้นข้าจะรับเป็นพ่อของเด็กให้เอง”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท