ตอนที่ 639 สมรสพระราชทาน
คนที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม คงไม่มีท่าทีและจิตใจที่ดีถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังสามารถทำให้ผู้อื่นชอบได้ถึงเพียงนี้หรืออย่างไร หากเป็นเช่นนั้นนางจะกล้าที่ลงมือกับอนุรองอย่างมุทะลุได้หรือ?
จะต้องจับตามองอวี้จื้อให้มากกว่าเดิม เพื่อที่จะได้รู้ว่าเขานั้นเป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้หรือไม่
เมื่อถึงเวลานั้นคนที่ไม่คิดว่าไม่มีพิษสง ก็อาจที่จะแว้งกัดจนได้เลือดแน่
นางไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อยว่าคนที่เติบโตมาจากค่ายใหญ่เมืองซีซาน ทั้งยังทำให้ฉู่เกอมีใจให้ถึงเพียงนี้จะเป็นคนที่ไม่อะไร ดังนั้นนางจึงจำต้องตรวจทุกอย่างให้รอบคอบเสียก่อน
ภายหลังใบหน้าอ่อนเยาว์ของอวี้จื้อ เขาได้ซ่อนอะไรเอาไว้กันแน่…
ระหว่างทางที่เดินกลับเรือนพัก อวี้อาเหราก็คิดอย่างเคร่งเครียด
เมื่อมาถึงห้อง นางเพิ่งจะนั่งลงได้ นางกำนัลอาวุโสของหลิงอ๋องก็ก้าวเข้ามา บอกว่าฮ่องเต้ส่งราชโองการมาให้
ราชโองการ ราชโองการตอนนี้น่ะหรือ?
อวี้อาเหราจึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อรับราชโองการ
แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นราชโองการสมรสพระราชทาน
หลังจากที่อวี้อาเหราฟังหวังกงกงประกาศราชโองการแล้ว นางก็ก้มหน้าไม่ยอมเงยหน้าขึ้น ร่างของนางก็แข็งทื่อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลมหนาวเย็นหรือเป็นเพราะตกใจจากข่าวที่ได้ฟังกันแน่ ไม่ต้องบอกเลย ว่าคู่สมรสของนางในครั้งนี้จะต้องเป็นจวินฉางอวิ๋น นอกจากเขาแล้ว ใครจะกล้าแต่งงานกับพระชายารัชทายาทที่ไทเฮาเลือกเอาไว้แล้วเล่า
เกรงว่า คงจะไม่มีใครกล้ากระมัง?
“พี่รอง รีบรับราชโองการเถิด ท่านคงจะยินดีแย่เลยกระมัง”
ทุกคนเมื่อเห็นนางยังคงคุกเข่าอยู่เช่นเดิม เป็นนานก็ยังไม่รับราชโองการ จึงเคลื่อนสายตามาที่นางกันหมด ในยามนี้ยังใช้มือจับแขนของนาง อวี้อาเหราจึงค่อยดึงสติกลับมาได้ รีบรับราชโองการทันที “หม่อมฉัน…น้อมรับราชโองการ”
ประโยคนี้ น้ำเสียงสั่นเทาของนางก็ดังขึ้น
ที่มีมากกว่านั้นก็คือความตื่นตกใจ เพราะคิดว่าไทเฮานั้นคงจะไม่รีบร้อนกับเรื่องนี้แน่ แต่ไม่คิดว่าฮ่องเต้จะประทานราชโองการสมรสพระราชทานมาให้เร็วถึงเพียงนี้? ตอนนี้นางจะยังขัดราชโองการได้หรือ
“ข้าน้อยขอแสดงความยินดีกับคุณหนูรองด้วย อ้อ ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าไท่จื่อเฟย[1]แล้ว” หวังกงกงแสดงความยินดี จากนั้นก็ยื่นราชโองการให้หลิงอ๋อง “จวนหลิงอ๋องมีเรื่องยินดีทั้งนั้น และตอนนี้ฮ่องเต้และไทเฮายังพระราชทานตำแหน่งไท่จื่อเฟยให้ จวนหลิงอ๋องช่างโชคดียิ่งนัก!”
“ขอบคุณกงกง” รอยยิ้มของหลิงอ๋องดูฝืดฝืนเต็มที ปรายตามองอวี้อาเหราเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือบุตรสาวก็ล้วนแล้วแต่ไม่ชอบจวินฉางอวิ๋นผู้เป็นองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อย นางอยากเป็นพระชายารัชทายาทพอๆ กับอยากโดนฟ้าผ่าลงกลางศีรษะนั่นแหละ อยู่ที่เมืองเฟิ่งเฉิงมานาน จะมองไม่ออกเลยหรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ตอนนี้ รัชทายาททั้งไร้พรสวรรค์และไร้คุณธรรม และฮ่องเต้ก็ไม่ทรงโปรด
เพียงแค่มีไทเฮาและขุนนางของตระกูลฮองเฮาสนับสนุนเท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่พอใจรัชทายาทที่ไร้คุณธรรมเช่นนี้ อีกอย่างองค์ชายใหญ่จวินจื่อหร่านก็ยังจ้องตำแหน่งตาเป็นมัน แล้วจวินฉางอวิ๋นจะรักษาตำแหน่งรัชทายาทไปอีกนานเพียงใดกันเล่า?
เช่นนั้นไทเฮาซึ่งเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก จึงรีบให้รัชทายาทและจวนหลิงอ๋องรีบเกี่ยวดองกันเสียที
เพียงเพื่อต้องการที่จะยึดเอาอำนาจและกองทหารที่อยู่เบื้องหลังของจวนหลิงอ๋องเท่านั้น ดังนั้นจึงพูดได้ว่า หากมีความช่วยเหลือจากจวนหลิงอ๋อง ตำแหน่งรัชทายาทก็จะมั่นคงขึ้น แม้ว่าองค์ชายใหญ่จะได้ใจของปวงชนไป และพระมารดายังเป็นถึงพระชายาเริ่นกุ้ยเฟย มีศักดิ์ฐานะไม่ธรรมดา แต่อย่างไรก็ไม่ใช่ฮองเฮา อำนาจทางพระมารดาอย่างไรก็สู้ทางฝั่งฮองเฮาไม่ได้
ฮองเฮาและไทเฮาจะยอมให้โอรสของเริ่นกุ้ยเฟยขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หรือ?
ไม่มีทาง!
อวี้อาเหราค่อยๆ สงบจิตสงบใจลง จากนั้นก็ยิ้มให้กับหวังกงกง “กงกงอย่าเรียกขานเช่นนั้นเลย อาเหราทำตัวไม่ถูกไปหมดแล้ว เรียกว่าคุณนหนูรองเหมือนเดิมเถิด ตำแหน่งไท่จื่อเฟยนั้นต้องให้อภิเษกเสียก่อนถึงจะใช้ได้ มิเช่นนั้นต่อไปอาจจะเกิดเรื่องอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปก็เป็นได้”
คำพูดของนางนั้น แน่นอนว่าจะต้องหมายความถึงตำแหน่งชายารัชทายาทแน่
หวังกงกงติดตามฮ่องเต้มานานปี จะไม่รู้เชียวหรือว่าความหมายของนางคืออะไร?
——
[1] ไท่จื่อเฟย คือตำแหน่งชายาขององค์รัชทายาท
ตอนที่ 640 ขัดราชโองการ
แต่เขากลับไม่พูดอะไรออกมา เอาแต่ยิ้มเช่นนั้น ก่อนจะขอตัวลา
เมื่อเขาจากไปแล้ว หลิงอ๋องจึงหันไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง แล้วเอ่ยคำสั่งว่า “นอกจากอาเหราแล้วพวกเจ้าออกไปให้หมด เรามีเรื่องที่จะคุยกับนาง”
อนุรองมอง จากนั้นก็ก้มหน้าลง “หม่อมฉันทูลลาเพคะ”
อวี้จื่อเยียนจ้องมองอวี้อาเหราด้วยสายตาริษยา ผ้าเช็ดหน้าในมือถูกนางกำแน่นเสียจนแทบไม่เหลือทรง ไม่เคยคิดเลยว่าไทเฮาจะรอไม่ไหวจนถึงขนาดขอสมรสพระราชทานเช่นนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อวี้อาเหราก็จะต้องกลายเป็นพระชายารัชทายาทใช่หรือไม่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ระยะห่างระหว่างพวกนางก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อวี้อาเหราไม่รู้เลยว่าในใจของอวี้จื่อเยียนคิดอะไรอยู่ และไม่อยากจะสนใจด้วย หากรู้เข้าจริงๆ คงจะประเคนตำแหน่งไท่จื่อเฟยให้นางไปแล้ว นี่ก็ช่างโง่เง่านัก ทื่เอาแต่มองที่สถานะ หากคนฉลาดก็คงไม่กระวนกระวายเพราะเรื่องนี้หรอก
ตอนนี้รัชทายาทจะปกป้องตำแหน่งของตัวเองไว้ในนานเพียงใดก็ไม่รู้ ใครจะรู้ว่าหากไทเฮาตายไปเสียแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
ตำแหน่งพระชายารัชทายาทนี้เหมือนกับเป็นการเล่นพนันอย่างหนึ่ง เพราะหากโชคดี ก็จะชนะ กลายเป็นหญิงสาวที่หญิงทั่วหล้าต้องเคารพยำเกรง แต่หากเลือกข้างผิดก็คงจะพ่ายแพ้ตามรัชทายาท ดังนั้น เช่นนั้นจึงทำได้แต่เพียงคาดหวัง แล้วมองดูอยู่ด้านนอกเท่านั้น
จะต้องรอจนกว่าจะสามารถเลือกข้างพนันได้อย่างมั่นใจเต็มร้อยเท่านั้น
เมื่อคนต่างเดินไปหมดแล้ว อวี้อาเหราก็เดินนำนางไปยังห้องหนังสือ เมื่อปิดประตูแล้ว หลิงอ๋องก็นั่งลงตรงหน้า
“อาเหรา เจ้าคิดเห็นประการใด”
“เสด็จพ่อหมายถึงเรื่องสมรสพระราชทานใช่หรือไม่เพคะ”
อวี้อาเหราเอ่ยถาม
“อืม” หลิงอ๋องพยักหน้า เมื่อเห็นนางยังมีท่าทีนิ่งสงบจึงพูดต่อไปว่า “หากเจ้าไม่อยากแต่งงานกับรัชทายาทจริงๆ พ่อจะขัดราชโองการแล้วถอนหมั้นแทนเจ้าเอง…”
“เสด็จพ่อห้ามทำเช่นนั้นนะเพคะ” อวี้อาเหราเอ่ยปาก
“ทำไมเล่า” หลิงอ๋องตกใจ นับตั้งแต่นางตกหน้าผาในครั้งนั้น นางก็ไม่อยากแต่งงานกับจวินฉางอวิ๋นแล้วมิใช่หรือ?
อวี้อาเหราอธิบาย “เสด็จพ่อ การขัดราชโองการนั้นมีโทษถึงตาย หากท่านทำเช่นนี้ จวนหลิงอ๋องของพวกเราคงจบสิ้นกันแน่ อาเหราไม่อาจเห็นแก่ความชอบของตัวเองแล้วทำเรื่องเห็นแก่ตัวเช่นนี้ จนเป็นการทำลายจวนหลิงอ๋องได้…”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าอยากจะแต่งกับรัชทายาทหรือ เขานั้น…”
“เสด็จพ่อโปรดวางพระทัย” อาเหรายิ้มแย้มอย่างผ่อนคลาย “ทางฮ่องเต้และไทเฮายังไม่ได้บอกถึงกำหนดการแต่งงานอย่างเป็นทางการมิใช่หรือเพคะ ตอนนี้ยังสามารถค่อยๆ จัดการเรื่องถอนหมั้นได้ พวกเราก็รอไปก่อนเถิด ลูกจะต้องคิดหาวิธีถอนหมั้นแบบที่จะไม่ทำให้จวนหลิงอ๋องต้องตกอยู่ในอันตรายได้แน่”
“วิธีอะไรกัน” หลิงอ๋องถามอย่างแปลกใจ
“ตอนนี้ลูกยังคิดไม่ออก แต่สักวันหนึ่งจะต้องมิธีแน่ ขอให้เสด็จพ่อโปรดวางพระทัย”
สายตาของอวี้อาเหราแน่วแน่ หลิงอ๋องเห็นนางพูดเช่นนี้ก็ยิ่งวางใจ และยิ่งเห็นสายตาของนาง ก็ดูว่านางจะมั่นใจได้แน่ว่าตัวเองจะต้องแก้ปัญหานี้ได้
“เช่นนั้นก็ดี เจ้าคิดหาวิธีไป หากคิดไม่ออกจริงๆ พ่อก็ไม่มีทางยอมให้เจ้าแต่งกับรัชทายาทแน่” หลิงอ๋องพูดอย่างหนักแน่น จวินฉางอวิ๋นเป็นเพียงคนเจ้าชู้แสนเสเพลเท่านั้น จะให้บุตรสาวที่รักของตนแต่งงานกับคนเช่นนี้ได้อย่างนั้น นั่นก็เท่ากับส่งนางลงสู่นรกมิใช่หรือ? และยิ่งอวี้อาเหราเป็นธิดาของเขาและพระชายาอีกด้วย เขาจะนิ่งดูดายอยู่ได้อย่างไรกัน
ตอนนี้ไทเฮานั้นให้ความสำคัญกับจวนหลิงอ๋องเสียจนบีบบังคับให้แต่งงาน
ขุนนางเช่นเขาจะพูดอะไรได้?
หลิงอ๋องรู้สึกเป็นทุกข์นัก
ทว่าในใจของเขาก็รู้ดี หากไม่คิดหาวิธีให้เร็วกว่านี้ ไทเฮาก็ต้องทำให้อวี้อาเหรากลายเป็นพระชายารัชทายาทแน่ ตำแหน่งพระชายารัชทายาทนี้จะให้ดูเบาได้หรือ? หากไม่อาจขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ได้ จวินจื่อหร่านจะยอมปล่อยให้ตำแหน่งรัชทายาทหลุดลอยไปได้ง่ายๆ หรือ หากแต่งงานไปแล้วไม่ระวังให้ดี ก็เท่ากับส่งนางไปตาย!