ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 657 เหตุใดจะไม่กล้า / ตอนที่ 658 กราบเรียน

ตอนที่ 657 เหตุใดจะไม่กล้า / ตอนที่ 658 กราบเรียน

ตอนที่ 657 เหตุใดจะไม่กล้า

“เจ้ากล้ามาวุ่นวายที่นี่ แล้วเหตุใดข้าจะไม่กล้าเรียกหนานหยางอ๋อง?” น้ำเสียงเบาของฉู่ป๋ายถามกลับ คิ้วเลิกขึ้นสูง

สีหน้าของฉู่ป๋ายเปลี่ยนไปในทันที ในที่สุดก็กำหมัดแน่นพล่างว่า “เราคร้านจะพูดกับเจ้าให้มากความ”

ฉู่ป๋ายมองเขานิ่งๆ ท่าทีนิ่งเฉยของเขาช่างแตกต่างจากท่าทีกระวนกระวายใจของจวินอู๋เหินอย่างชัดเจน

เมื่อเห็นว่าเขานิ่งไป อวี้อาเหราก็ก้มหน้าลง เป็นเชนนี้ก็ดี หากเรื่องที่นางอยากจะไปพระอารามจีซูถูกคนมากมายรู้เห็นเช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้นนางจะแอบย่องไปได้อย่างไร เมื่อคิดว่าตอนนี้ใกล้จะถึงช่วงปีใหม่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมที่สุดในการออกไปค้นหาพระรามจีซู

ในช่วงเวลาแสนทุกข์ยาก นางก้มหน้าลงคิดวิเคราะห์อย่างทุกข์ใจ

“พี่เหราเอ๋อร์กำลังคิดอะไรอยู่หรือ” ฉู่เกอเห็นนางมีท่าทีนิ่งเงียบอย่างใช้ความคิด ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น

อวี้อาเหราส่ายหน้า “ไม่ได้คิดอะไรหรอก ตอนนี้ก็สายแล้ว ข้าขอตัวกลับจวนหลิงอ๋องก่อนก็แล้วกัน”

“หา จะรีบกลับไปเช่นนี้เลยหรือ ยังไม่ได้…” ฉู่เกอมองอวี้จื้อด้วยสายตาแสนเสียดาย

อวี้อาเหราเก็บท่าทีของนางเอาไว้ในใจ มุมปากของนางโค้งขึ้น แล้วพูดกับอวี้จื้อ “น้องสาม เจ้าเป็นสหายเก่าของท่านหญิงน้อย เช่นนั้นก็อยู่คุยเล่นกับนางก่อนจะกลับได้หรือไม่”

“พี่รอง ข้านึกขึ้นมาได้ว่ายังมีธุระที่จวน ข้าขอกลับกับท่านเถิด” อวี้จื้อปฏิเสธข้อเสนอของอวี้อาเหราด้วยสีหน้าเรียบเฉย และไม่รู้ว่าเขาไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือตั้งใจทำทีไม่รู้เรื่องกันแน่ ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจความหมายในคำพูดของอวี้อาเหราหรือไม่ เขาก็ไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่จริงๆ

อวี้อาเหราเห็นว่าเขาพูดเช่นนั้น ก็ไม่อยากจะพูดอะไรอีก จึงจำต้องพยักหน้ายอมรับ

จวินอู๋เหินได้ยินว่าพวกนางกำลังจะกลับจวน ทันใดนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “อาเหรา เจ้านี่ก็กระไรนัก? ข้าเพิ่งมาถึงแต่เจ้าจะกลับเสียแล้ว ในเมื่อเจ้าจะกลับจวนจริงๆ ข้าก็จะกลับด้วย ไม่ได้พบหลิงอ๋องมานาน จะได้ไปถวายพระพรหลิงอ๋องด้วยเลย”

“…” อวี้อาเหราตีสีหน้าเรียบเฉย เจ้าจวินอู๋เหินผู้นี้ช่างเหลือเกิน กล้าพูดว่าจะไปถวายพระพรหลิงอ๋อง ทั้งๆ ที่จริงแล้วเพียงต้องการที่จะกลับไปพร้อมกับนางเท่านั้นเอง

ไม่รอให้นางเอ่ยอะไรขึ้นมา ฉู่ป๋ายก็เลิกคิ้ว แล้วแย้มริมฝีปากพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องน้อยจวิน ไม่ง่ายเลยที่จะมาถึงจวนเซิ่นอ๋อง หากจะกลับออกไปเร็วเพียงนี้ หรือว่าท่านก็ไม่เห็นเราอยู่ในสายตาเลย เอาเช่นนี้เถิด อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อน จ่ายเงินเสียหน่อยก็ได้แล้ว”

“จะกินข้าวก็ต้องจ่ายเงินด้วยหรือ?” จวินอู๋เหินแคะหู แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีตกอกตกใจ

เขาไม่ใช่คนโง่ แต่จะให้เขาเสียเงินให้สองคนพี่น้องนี่อีกแล้วหรือ? ยังมีเงินค่าข้าวอีก อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นจวนเซิ่นอ๋อง ยังจะต้องการเงินค่าข้าวอีกหรือ!

“แน่นอนสิ” ฉู่ป๋ายตอบพลางยิ้มอ่อน “ก็เห็นท่านอ๋องน้อยจวินชอบจ่ายเงินเลี้ยงข้าวผู้อื่นอยู่บ่อยๆ มิใช่หรือ?”

“เหอะ” จวินอู๋เหินฟังออกว่าเขานั้นกำลังเย้ยหยันตน แล้วว่าเสียงเย็น “เราไม่อยากจะเสวนากับเจ้าให้เปลืองแรงแล้ว ไปกินข้าวที่จวนหลิงอ๋องดีกว่า”

อวี้อาเหรายิ้มเยือน “ใครบอกว่ากินข้าวที่จวนหลิงอ๋องไม่ต้องจ่ายเงินกัน? ข้าจะเก็บมากกว่าที่นี่สองเท่าเสียด้วยซ้ำไป”

“อาเหรา เจ้า!” จวินอู๋เหินชะงัก จากนั้นก็มองสีหน้าทุกคน แล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ “สองเท่าก็สองเท่า มีคนงามกินข้าวด้วย เราก็เบิกบานใจแล้ว ไป พวกเราไปจวนหลิงอ๋องกันเถิด”

อวี้อาเหราไม่คิดว่าเขาจะไปด้วย ชั่วขณะนั้นนางก็ยืนนิ่งไม่ขยับ

“อาเหรา ยืนนิ่งอยู่ทำไม ไปสิ!” จวินอู๋เหินกันมา เมื่อเห็นนางนิ่งไม่ไหวติง จึงเอ่ยเร่งรัด ก้าวเท้าขึ้นแล้วเดินออกไป ราวกับตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะต้องไปกินข้าวที่จวนหลิงอ๋องให้ได้

แปลกนัก โกงเขาไปรอบหนึ่ง ทำไมวันนี้ยังยอมที่จะไปทั้งๆ ที่รู้ว่านางหลอกเอาเงิน

ตอนที่ 658 กราบเรียน

มีคนพูดว่าหากมีเงินก็เท่ากับมีทุกอย่าง ตอนนี้เมื่อเห็นจวินอู๋เหินนางก็เข้าใจแล้ว

จวนหนานหยางอ๋องนั้นแน่นอนว่ามีเงินจริง ในรุ่นนี้ยังมีจวินอู๋เหินเป็นทายาทชายเพียงคนเดียว แน่นอนว่าสมบัติทั้งหมดก็ต้องตกเป็นของเขา แน่นอนว่าด้วยนิสัยของเขานั้น ไม่นานก็คงจะเอาเงินในคลังออกมาใช้เสียจนหมดแน่ อวี้อาเหราเองก็ค่อนข้างกังวลในเรื่องนี้เหมือนกัน

หากหนานอ๋องรู้ว่าอีกร้อยปีหลังจากนี้ สมบัติของตระกูลตัวเองถูกใช้ไปจนหมดแล้ว คงจะโกรธเสียจนลุกออกมาจากโลกศพแล้วตีจวินอู๋เหินเสียจนตายเป็นแน่

เมื่อจวินอู๋เหินเดินออกนอกประตูไปแล้ว อวี้อาเหราจึงค่อยเงยหน้าขึ้นมามองฉู่ป๋ายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ จากนั้นก็ถอนสายตากลับมา ก่อนจะเดินตามไป มีเงินจ่อมาถึงที่แต่ไม่เก็บ นั่นไม่ใช่นิสัยของนางเลย

อวี้อาเหราตามไปติดๆ พวกนางค่อยๆ เดินจากไป จนเงาร่างเลือนราง

ฉู่เกอเอาแต่จ้องมองเงาร่างของพวกเขาที่กำลังเดินออกไป จนเมื่อเงาร่างของอวี้จื้อจะลับหายไปจึงค่อยถอนสายตากลับมา นางกำผ้าเช็ดหน้าในมือเสียจนแน่น เมื่อครู่นี้อวี้อาเหราเองก็พูดเอาไว้ชัดเจนแล้ว แต่นางก็ยังไม่อยากจะยอมรับ…

ฉู่ป๋ายมองใบหน้าด้านข้างของนางอย่างเย็นชา “ไม่ต้องมองแล้ว”

ฉู่เกอมองเขา แล้วหมุนตัวเพื่อเดินจากไป

คิ้วของฉู่ป๋ายขมวดแน่น จนราวกับคิ้วและรอยย่นบนหน้าผากเกิดเป็นรอยย่นสามขีด

“ซื่อจื่อ”

ในยามนั้นเอง หานสือก็เดินเข้ามา “คุณหนูรองไปแล้วหรือขอรับ”

ฉู่ป๋ายสาดสายตาเหนื่อยหน่ายไปทางเขา “อืม ไปแล้ว”

“ถ้าเช่นนั้น ข้าน้อย…” หานสือพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง ทว่ากลับถูกฉู่ป๋ายตัดบท “เจ้าไปจับตามองจวินอู๋เหินที่จวนหลิงอ๋องไป”

“…ขอรับ!” ผิวหน้าของหานสือกระตุก ซื่อจื่อ นี่มันจะไม่เกินไปหรือ…

อีกด้านหนึ่ง คนที่กำลังเดินทางไปจวนหลิงอ๋องนั้น ทว่าระหว่างทางหนานหยางอ๋องก็ส่งคนมาเรียกตัวจวินอู๋เหินกลับไป เขาจำต้องกลับไปอย่างไม่ค่อยจะยินดีเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นจึงเหลือเพียงอวี้อาเหราและอวื้จื้อสองพี่น้อง ที่เดินทางร่วมกับเจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้สาวใช้เท่านั้น

หลังจากมาถึงจวนแล้ว อวี้จื้อก็ไปหาอนุรอง ส่วนอวี้อาเหราก็เดินทางไปยังเรือนพักของตนเอง จึงได้เห็นว่ามีกลุ่มคนกำลังประดับประดาเรือนพักของนาง บนผนังและหน้าต่างนั้นมีตัวอักษรมงคลติดเอาไว้ นางชะงักในทันที แล้วหันไปหาเจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้อย่างสงสัย “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?”

เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ต่างพากันส่ายหน้าอย่างอับจนหนทาง

อวี้อาเหราก้าวยาวๆ เข้าไป สีหน้าแข็งกร้าว ตรงเข้าไปถามสาวใช้คนหนึ่ง “พวกเจ้ากำลังทำอะไร?”

ยังไม่ทันที่สาวใช้คนนั้นจะตอบ ก็มีนางกำนัลอาวุโสคนหนึ่งเดินยิ้มแย้มขึ้นมา แล้วทำความเคารพต่ออวี้อาเหรา “ข้าน้อยถวายความเคารพคุณหนูรอง ข้าน้อยเป็นคนของอนุรอง วันนี้ได้รับคำสั่งของอนุรอง เพราะเห็นว่าคุณหนูรองกำลังจะสมรสกับองค์ชายรัชทายาท ดังนั้นจึงได้เข้ามาช่วยตกแต่งที่อยู่อาศัยเจ้าค่ะ”

นางกำนัลอาวุโสยิ้มอย่างยินดี ทว่าเมื่ออวี้อาเหราได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา

อนุรองคนนี้ ไม่จดจำที่นางสั่งสอนไปเมื่อวานนี้เลย เป็นสุนัขอย่างไรก็ยังต้องกินอุจจาระสินะ

รู้อยู่แล้วว่ารัชทายาทเป็นคนอย่างไร ยังสนับสนุนในการประดับประดาตกแต่งที่อยู่อาศัย จะไม่ทำให้นางรับไม่ได้ได้อย่างไรกัน

เมื่อนางกำนัลอาวุโสเห็นว่านางไม่พูดไม่จา ก็ตกใจกับท่าทีเคร่งเครียดของนาง แต่ก็ยังพูดต่อไปโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวว่า “คุณหนูรอง หากท่านยังไม่มีรับสั่งใด ข้าน้อยก็ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ จะได้ไปกราบเรียนอนุรองถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าค่ะ”

“กราบเรียนหรือ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปกราบเรียนดีๆ แล้วกัน!” ลูกตาของอวี้อาเหรากลอกกลิ้ง แล้วก้าวไปข้างหน้า ดึงตัวอักษรมงคลที่แปะเอาไว้ลงมา

น่าตกใจเสียจนทำให้ผู้คนที่มองยู่ตาค้าง ไม่มีโอกาสให้พวกนางได้คิดเลย นางก็เดินไปฉีกตัวอักษรมงคลในมือของสาวใช้คนหนึ่งที่เพิ่งแปะลงไปบนผนัง แล้วจึงพูดขึ้นมาอย่างโกรธเคืองว่า…

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ลิขิตฟ้าชะตารัก

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 100 อ่านนิยาย ตอนที่ 101 – 200 อ่านนิยาย

วิญญาณของ อวี้อาเหรา หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องที่มีร่างกายอ่อนแอ ซ้ำยังถูกองค์รัชทายาทที่นางรักมานานหลายปีผลักตกเหวจนตายอย่างไร้เยื่อใย! หลังจากที่อวี้อาเหราได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว ด้วยสภาพร่างกายของร่างเดิมทำให้นางต้องทนรับกับอาการป่วยไข้หลังจากที่ถูกน้ำซัดไปเป็นเวลานาน แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตานัก ที่ทำให้นางรอดชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ ฉู่ป๋าย ซื่อจื่อผู้โดดเด่นแห่งจวนเซิ่นอ๋อง

ต่อหน้าบุรุษผู้โดดเด่นเช่นเขา นางไหนเลยจะกระโจนเข้าหาเฉกเช่นสตรีนางอื่น สิ่งที่นางทำนั้นคือการหลีกเลี่ยงเขาให้ไกลที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว…

“คุณหนู ท่าน…ท่านตั้งครรภ์แล้ว!” เสียงสาวใช้เอ่ยบอกด้วยความตกใจ

“เหลวไหล! ข้ายังไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุรุษใด แล้วจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!” อวี้อาเหราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ฉับพลันนั้นเซิ่นซื่อจื่อที่นั่งอยู่ข้างกายจึงเอ่ยขึ้น

“หากว่าเจ้าลำบากใจนัก เช่นนั้นข้าจะรับเป็นพ่อของเด็กให้เอง”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท