“หลิงหยุน..ผู้ที่จับตัวข้ามาที่นี่ก็คือซือกงถู เขาก็คือโอรสพรรคมารในครั้งนั้น แล้วก็เป็นศัตรูอันดับหนึ่งที่น่ากลัวของตระกูลหลิงเรา!”
“ผ่านมาสิบแปดปี..ซือกงถูมันคงต้องเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-9 ได้แล้วอย่างแน่นอน! เจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มาก!”
“แล้วมันก็คือผู้ที่ทรมานข้าจนมีสภาพอย่างที่เจ้าเห็นแต่เวลานี้ดูเหมือนจะมีศัตรูคู่แค้นตั้งแต่อดีตของมันบุกรุกเข้ามา มันจึงได้รีบร้อนออกไปจัดการเช่นนั้น แต่หลังจากที่มีการจุดพลุส่งสัญญาณเมื่อครู่ คาดว่ามันจะต้องรีบกลับมาที่นี่อย่างแน่นอน!”
หลิงเสี่ยวเห็นหลิงหยุนทั้งเก่งกาจและแข็งแกร่งเช่นนั้นก็ดีใจอย่างมาก แต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ จึงรีบร้องเตือนหลิงหยุนให้ระมัดระวังศัตรูที่เก่งกาจของตนเอง..
‘ซือกงถูงั้นรึ!’ ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้..หลิงหยุนก็ถึงกับใจสั่น และนึกไปถึงเรื่องราวในคืนหนึ่งเมื่อสิบแปดปีก่อนทันที!
จากที่หลวงจีนเฉวียนจื้อแห่งวัดหลิงเจี๋วยเล่าให้หลิงหยุนฟังนั้น..
ในคืนหนึ่งเมื่อสิบแปดปีก่อนสาวใช้ของหยิงชิงเฉวียนซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของหลิงหยุน ได้ถูกซือกงถูไล่ล่าไปจนถึงวัดหลิงเจี๋วยในเมืองจิงฉู และเป็นเพราะจินเหยียวต้องการปกป้องรักษาชีวิตของหลิงหยุนไว้ นางจึงได้ต่อสู้กับซือกงถูโดยไม่สนใจชีวิตของตนเอง..
และซือกงถูผู้นี้ก็คือคนที่ทำลายเส้นลมปราณหยางเจี๋วยของหลิงหยุนตั้งแต่เด็กและเป็นผู้ที่ไล่ล่าจินเหยียวเมื่อสิบแปดปีก่อน หนำซ้ำยังเป็นผู้ที่จับตัวพ่อของเขามาทรมานเช่นนี้อีกด้วย!
‘นี่ซือกงถูมันยังไม่ตายงั้นรึ!’
หลิงหยุนไม่ได้รู้สึกตกใจกลัวเลยเมื่อได้ยินชื่อซือกงถูแต่เขากลับดีใจที่สุดท้ายเขาก็ได้พบกับศัตรูที่เฝ้ารอจนได้! ‘ถ้าซือกงถูยังไม่ตาย..แล้วท่านป้าจินเหยียวเล่า’
‘หรือศัตรูเก่าแก่ที่กำลังประมือกับซือกงถูที่ท่านพ่อพูดถึงเมื่อครู่นี้จะเป็นท่านป้าจินเหยียว..ไม่ได้การแล้ว!’
หลิงหยุนฉุกคิดขึ้นมาในใจทันที!
ในเมื่อซือกงถูยังไม่ตายก็เป็นไปได้ที่จินเหยียวจะยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน และน่าจะเป็นศัตรูที่บุกรุกเข้ามา และกำลังต่อสู้กับซือกงถูอยู่ในเวลานี้!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น..หลิงหยุนก็ไม่ลังเล และรีบใช้มังกรคำรามร้องตะโกนออกไปทันที “ซือกงถู.. ข้า – หลิงหยุนแห่งตระกูลหลิงได้มาถึงที่นี่แล้ว และลูกชายไร้ฝีมือของเจ้า – ซือกงวู่จี๋ก็อยู่ในเงื้อมือของข้าแล้ว!”
ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดสนิทและเงียบสงัดเช่นนี้ เสียงร้องตะโกนด้วยมังกรคำรามของหลิงหยุนนั้น ก็ไม่ต่างจากเสียงฟ้าร้องคำรามที่ดังสนั่นหวั่นไหวผ่านม่านเมฆอันหนาทึบ! “ซือกงถู..ซือกงถู..”
เสียงร้องคำรามของหลิงหยุนดังลั่นไปทั่วทั้งหุบเขาและเกิดเป็นเสียงสะท้อนดังกลับไปกลับมาอยู่ท่ามกลางป่าเขา..
หลิงหยุนรู้ดีกว่าเสียงร้องตะโกนของตนเองนั้นจะต้องดังไปเข้าหูของซือกงถูอย่างแน่นอน!
ความจริงแล้ว..ระหว่างที่หลิงหยุนสังหารเหล่านักฆ่าอยู่ภายในคฤหาสน์นั้น เขาเองก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ และเสียงร้องตะโกนอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน แต่เพราะที่นี่คือองค์กรนักฆ่า การจะมีเหล่ายอดฝีมือจากสำนักต่างๆ หรือตระกูลเก่าแก่ต่างๆ มาแก้แค้นนั้นจึงนับเป็นเรื่องปกติธรรมดา..
แต่เมื่อได้ฟังคำพูดจากปากของหลิงเสี่ยว..หลิงหยุนก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าศัตรูที่บุกเข้ามาในคืนนี้ และดึงซือกงถูออกไปนั้น น่าจะต้องเป็นจินเหยียวอย่างแน่นอน!
และหากไม่มีจินเหยียวในวันนั้นก็จะไม่มีหลิงหยุนในวันนี้เช่นกัน! หลิงหยุนนั้นมีคติประจำใจอยู่ว่า..แค้นต้องชำระ บุญคุณต้องทดแทน!
เช่นนั้นแล้ว..หลิงหยุนจะปล่อยให้จินเหยียวได้รับอันตรายได้อย่างไรกัน
ด้วยเหตุนี้..เขาจึงจงใจใช้มังกรคำรามร้องตะโกนแจ้งชื่อเสียงเรียงนามของตนเองออกไปเช่นนั้น อีกทั้งยังจงใจบอกกับซือกงถูว่าซือกงวู่จี๋ลูกชายของเขานั้น ได้ตกอยู่ในเงื้อมือของตนเองแล้ว..
หลิงหยุนเชื่อว่าหลังจากที่ซือกงถูได้ยินคำพูดของเขาซือกงถูจะต้องละทิ้งทุกอย่าง และรีบกลับมาที่นี่โดยเร็ว!
เพราะคนที่ซือกงถูต้องการสังหารมากที่สุดนั้นไม่ใช่จินเหยียว..แต่เเป็นหลิงหยุน!
–เอ็ดเวิร์ด..มีการเปลี่ยนแผนนิดหน่อย!-
–เจ้าฟังคำสั่งของข้าให้ดี..จากนี้ไปหน้าที่ของเจ้าไม่ใช่การสังหารศัตรู แต่เป็นการคุ้มครองชีวิตของท่านพ่อ!-
–หากสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้มีอันตรายถึงชีวิตหน้าที่ของเจ้าคือรีบพาพ่อของข้าหนีออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เข้าใจหรือไม่-
หลังจากที่ร้องตะโกนบอกซือกงถูแล้วหลิงหยุนก็รีบส่งกระแสจิตบอกเอ็ดเวิร์ดทันที..
“ขอรับเจ้านาย..ข้าเอ็ดเวิร์ดจะปกป้องเขาด้วยชีวิต!”
มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดนั้นรู้ดีว่าตนเองมาที่นี่ในคืนนี้ด้วยจุดประสงค์อันใดมันจึงรีบตอบรับคำสั่งของหลิงหยุนทันที!
“ท่านพ่อ..ท่านกับเอ็ดเวิร์ดรอข้าอยู่ที่นี่ก่อน!”
ทันทีที่พูดจบ..ร่างของหลิงหยุนก็พุ่งเข้าใส่กลุ่มนักฆ่าที่อยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว!
“พวกเจ้าตายได้แล้ว!”
มือทั้งสองข้างของหลิงหยุนกำกระบี่โลหิตแดนใต้ไว้พร้อมกับชูขึ้นและกระโดดหมุนตัวเข้าไปในกลุ่มนักฆ่า จากนั้นจึงฟาดกระบี่ลงท่ามกลางเหล่ามือสังหาร และพลังปราณสีดำที่พวยพุ่งออกจากตัวกระบี่กว่ายี่สิบเมตรนั้น ก็ได้ฟันเข้ากับร่างของนักฆ่าเจ็ดแปดคนขาดออกเป็นสองท่อนทันที!
ผืนดินใต้ฝ่าเท้าของหลิงหยุนนั้นกลายเป็นรอยแยกยาวถึงยี่สิบเมตร ราวกับว่าถูกใครสักคนดึงให้แยกออกจากกัน..
จากนั้นกระบี่ในมือของหลิงหยุนก็ตวัดไปทางซ้ายทีขวาทีและจากการตวัดกระบี่ทั้งสองครั้งนั้น เขาก็ได้สังหารนักฆ่าไปอีกถึงสิบกว่าคน
“เงาธนู..สังหารพวกมันให้หมด!”
สิ้นคำสั่งของหลิงหยุน..กระบี่เหินเงาธนูก็พุ่งไปด้านหน้า ถอยกลับมาด้านหลัง แล้วตรงเข้าเข่นฆ่ามือสังหารที่เหลือทันที นักฆ่าบางคนที่เห็นเช่นนั้น ก็รีบกระโดดถอยหนีทันที!
ตูม!ตูม! ตูม!
เสียงยันต์เตโชระดับหกระเบิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าและเวลานี้ก็มีไฟลุกโชนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เสียงระเบิดดังขึ้นทั่วทุกหัวระแหง ชิ้นส่วนร่างกายทั้งแขนและขาที่ขาดกระเด็นจากแรงระเบิด ปลิวว่อนกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดที่ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า!
แต่หลิงหยุนยังคงไม่หยุดการเข่มฆ่า..ก่อนที่ซือกงถูจะมาถึง เขาตั้งใจที่จะสังหารเหล่านักฆ่าที่อยู่ในบริเวณนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลิงหยุนสังหารนักฆ่าไปอีกกว่ายี่สิบคนที่เหลือนั้นต่างก็รู้ตัวว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงหยุน พวกมันจึงพากันล่าถอยออกไปให้ห่างจากรัศมีกระบี่ และหนีแตกแยกกันไปคนละทิศคนละทาง..
แต่มีหรือที่หลิงหยุนจะปล่อยให้มือสังหารขององค์กรนักฆ่าหนีรอดไปได้!
“คิดจะหนีงั้นรึ”
หลิงหยุนยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นและจัดการใช้กระแสวนหยิน–หยางที่หมุนกลับนี้ดูดเอาเหล่านักฆ่าขั้นเซียงเทียน-6 กลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นหลิงหยุนก็ได้ใช้วิชาเงาลวงตาแยกร่างออกถึงสิบสองร่าง และตรงเข้าสังหารเหล่านักฆ่าพร้อมกันในคราวเดียว!
เหล่านักฆ่าที่พากันวิ่งหนีกรูออกไปนั้นเวลานี้ร่างของพวกมันได้แยกออกเป็นสองท่อน และร่วงลงไปกองกับพื้นสิ้นใจตายในทันที! Aileen-novel
และเพียงแค่พริบตาเดียวหลิงหยุนก็สังหารนักฆ่าไปได้อีกถึงสามสิบสามคน!
มาถึงตอนนี้..มือสังหารระดับสวรรค์ขององค์กรนักฆ่าสาขาปักกิ่ง ก็ได้ถูกหลิงหยุนสังหารตายไปมากกว่าเก้าสิบคนแล้ว และเวลานี้ก็เหลือราชันย์นักฆ่าอยู่เพียงแค่สี่คน และนักฆ่าระดับสวรรค์อีกยี่สิบคนเท่านั้น
นักฆ่าระดับสวรรค์ที่เหลือนั้นล้วนไม่เกินขั้นเซียงเทียน-6ส่วนราชันย์นักฆ่าก็ต่ำกว่าระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-8 ในสายตาของหลิงหยุนพวกมันจึงไม่ต่างจากมด หรือแมลงสาบตัวหนึ่งเท่านั้น
ระหว่างที่รอการมาของซือกงถูหลิงหยุนก็พุ่งไปทางซ้ายทีขวาที และพยายามที่จะสังหารนักฆ่าที่เหลืออยู่ให้ได้มากที่สุดก่อนที่ซือกงถูจะมาถึง.. ……..
บนหน้าผาที่สูงจากพื้นกว่าสองร้อยเมตรลึกเข้าไปในป่าทึงนั้น..
ซือกงวู่ฉิงและซือกงวู่เปิ่นซึ่งได้เปรียบในเรื่องของความคุ้นเคยกับภูมิประเทศที่มีมากกว่าได้ทำการโอบล้อมจินเหยียวที่กำลังยืนอยู่บนหน้าผาไว้..
มีเพียงสิ่งเดียวที่ซือกงถูไม่สามารถสู้จินเหยียวได้นั่นก็คือวิชาตัวเบา!
แต่ตอนนี้นางถูกล้อมไว้บนหน้าผาสูงลูกชายทั้งสองคนของซือกงถู.. คนหนึ่งดักทางซ้าย อีกคนดักทางขวา ส่วนซือกงถูผู้เป็นพ่อดักทางด้านหน้า ทำให้จินเหยียวยากที่จะหนีรอดไปได้!
“หึ..ข้าปล่อยให้เจ้าหลอกหลอนข้ามานานนับสิบแปดปี ตอนนี้ดูสิว่าเจ้าจะหนีไปใหนได้!”
วรยุทธและกำลังภายในของซือกงถูนั้นเหนือกว่าจินเหยียวและเวลานี้มันก็กำลังจู่โจมจินเหยียวจนแทบไม่มีแม้แต่เวลาจะหายใจ.. ร่างของซือกงถูมีไอดำพวยพุ่งออกมาล้อมรอบสีหน้าของมันบ่งบอกถึงความเย้ยหยันที่มีต่อจินเหยียว และพุ่งเข้าจู่โจมนางทางด้านซ้ายทีขวาทีก่อนจะถอยกลับ..
ร่างของซือกงถูเคลื่อนไปทางซ้ายอีกครั้งพร้อมกับซัดฝ่ามือเข้ากับไหล่ซ้ายของจินเหยียวจนนางได้รับบาดเจ็บจินเหยียวจึงรีบเรียกหนอนกู่ออกมาจู่โจมใส่ร่างของซือกงวู่ฉิง และซือกงวู่เปิ่น ทำให้ทั้งคู่ระล้าระลัง และไม่กล้าบุกเข้าจู่โจมจินเหยียวเต็มที่ จินเหยียวจึงอาศัยจังหวะนี้ใช้วิชาตัวเบาที่ล้ำเลิศของตนเองหลบหนีออกไป..
“เจ้ายังคิดที่จะหนีอีกงั้นรึ!เจ้าทำให้ข้าต้องทรมานมานานหลายปี ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานกว่าข้านับพันเท่า!”
ซือกงถูร้องตะโกนออกไปอย่างเคียดแค้นแต่ในจังหวะนั้น.. เสียงคำรามกระหึ่มก็ดังก้องเข้ามาในหูของเขา..
ความจริงแล้วเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวนั้นทั้งซือกงถูและลูกๆทั้งสองของเขาต่างก็ได้ยินกันหมด และรู้ว่าเวลานี้ศูนย์บัญชาการใหญ่คงต้องเกิดเรื่องอย่างแน่นอน แต่เพราะจิตใจของซือกงถูจดจ่ออยู่กับการต้องการสังหารจินเหยียวให้ได้ เขาจึงไม่สนใจที่จะรีบกลับไป..
นั่นเพราะตลอดสิบแปดปีมานี้..จินเหยียวได้ทำให้ซือกงถูมีชีวิตอยู่ราวกับคนเสียสติ!
“อะไรนะ!หลิงหยุนแห่งตระกูลหลิงงั้นรึ? ตลกสิ้นดี.. ข้าหามันแทบพลิกแผ่นดิน แต่กลับได้พบมันอย่างง่ายดาย!”
ร่างของซือกงถูชะงักทันทีและรีบหันไปทางคฤหาสน์หลังใหญ่พร้อมกับพึมพำออกมา “หึ.. เจ้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆด้วย!”
ซือกงวู่เปิ่นที่ได้ยินเสียงคำรามของหลิงหยุนเช่นกันจึงร้องถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ.. พวกเราจะทำเช่นไรดี”
“รีบกลับไปที่ศูนย์บัญชาการก่อนหากเทียบกับจินเหยียวแล้ว หลิงหยุนสำคัญกับข้ามากกว่านัก!”
“ในเมื่อมันกล้าบุกมาถึงที่นี่ข้าก็จะไม่ให้มันได้กลับออกไปอีก!” ซือกงถูไม่สนใจจินเหยียวอีกและรีบหันหลังกระโดดกลับไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ทันที!
และนับว่าหลิงหยุนสามารถคาดเดาใจของซือกงถูได้อย่างถูกต้องแม่นยำนักเพราะเสียงร้องคำรามของหลิงหยุนเมื่อครู่ ได้ดึงดูดความสนใจของสามพ่อลูกจนถึงกับยอมปล่อยจินเหยียวไป..
….
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง..หลังจากที่เย่ซิงเฉินได้แยกตัวออกมาจากเสี่ยวเม่ยเม่ยแล้ว นางก็มุ่งหน้าไปยังศูนย์บัญชาการใหญ่ขององค์กรนักฆ่าสาขาปักกิ่งทันที ร่างบอบบางของนางวิ่งผ่านยอดเขาสูงอันตรายมากมาย และในที่สุดด้วยวิชาตัวเบาที่ล้ำเลิศ เย่ซิงเฉินก็มาถึงภูเขาแห่งหนึ่ง และได้ยินเสียงร้องคำรามของหลิงหยุนพอดีเช่นกัน!
“หลิงหยุนเป็นทายาทตระกูลหลิงจริงๆงั้นรึ”
และทันทีที่ได้ยินเสียงประกาศก้องของหลิงหยุนจิตใจของเย่ซิงเฉินก็ถึงกับสั่นสะท้านขึ้นทันที
“หลิงหยุนก็คือทายาทตระกูลหลิงจริงๆ!” “ซือกงถูงั้นรึ”
“ซือกงถูก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นรึ”
เย่ซิงเฉินถึงกับตกใจนางไม่รอช้า และรีบใช้วิชาตัวเบาขั้นสุดกระโดดไปตามยอดไม้ และได้เห็นทะเลเพลิงที่กำลังลุกโชนอยู่ในระยะไกลๆ!
……….
“หลิงหยุนงั้นรึเหตุใดข้าจึงรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้นัก?”
ในที่สุดจินเหยียวก็สามารถหนีออกจากวงล้อมของซือกงถูไปได้และเวลานี้ร่างบอบบางของนางก็กระโดดหายเข้าไปในป่าลึก แต่เมื่อได้ยินชื่อ ‘หลิงหยุน’ ร่างของนางก็ถึงกับหยุดชะงักไปทันที!
จากนั้น..จินเหยียวก็รีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางของเสียงนั้น!
Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1079 : บุญคุณ – ความแค้น!
บทที่ 1079 : บุญคุณ - ความแค้น!
Posted by ? Views, Released on กุมภาพันธ์ 3, 2022
, Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..