คนพวกนั้นที่ชี้นิ้ววิจารณ์คนอื่นคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่า พนักงานที่ได้ยินคำวิจารณ์เหล่านั้น จึงเค้นรอยยิ้มออกมาอย่างได้ใจ กำลังคิดในใจ“แกน่ะ ไม่มีเงินก็ช่างเถอะ ยังมาแกล้งทำที่นี่อีก นี่เป็นสถานที่ที่แกสามารถมาได้เหรอ?นี่เป็นร้านอาหารฝรั่งนะ มีแค่คนมีฐานะ รู้จักมีความสุขกับชีวิตถึงกล้ามานะ คนรับจ้างแรงงานอย่างแก จะไปเข้าใจชีวิตแบบนี้ได้ยังไง!”
เทียนขุยไม่ได้สนใจเขา เพียงแต่ถลึงตามองเขาแวบหนึ่ง แล้วตะโกนไปว่า“อย่าหาเรื่องนะ ไม่งั้นจะเอาแกตายแน่!”
ประโยคนี้อาจฟังดูเหมือนประโยคโกรธสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเทียนขุย นี่คือเรื่องจริง!ถ้ายังเด้งกระโดดไปมาอีก เขาจะทำให้พนักงานคนนี้ตายจริงๆ คนที่อยู่ในกองทัพไม่เล่นสิ่งสมมุติ และพวกเขาจะทำจริง!
พนักงานค่อยๆเอาแขนกอดอกแล้วยืนอยู่ต่อหน้าเทียนขุย แล้วเงื้อมือขึ้นมาขวางเทียนขุยไว้ แล้วพูดไปว่า“หยุดนะ ข่มขู่ฉัน แล้วแกคิดจะเข้าไปงั้นเหรอ?แกไม่ส่องกระจก ดูว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหนล่ะ!หรือว่า……”
“ไสหัวไป!”เทียนขุยยกมือขึ้นมาโบกไปหนึ่งครั้ง ด้วยท่าทางทำลายล้างทหารมานับพัน แค่เพียงฝ่ามือเดียวก็สามารถผลักชายหนุ่มคนนั้นถอยไปได้ ถ้าหากจอมพลโผ้จวินไม่ได้พูดว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เขาได้ฆ่าคนคนที่มองดูถูกคนอื่นแบบนี้แล้ว!
เพียงการผลักแค่ครั้งเดียว พนักงานที่ถูกผลักออกไป ผลักจนเขาไม่ทันตั้งตัว
เทียนขุยก้าวเท้าไปทางชายผมทอง หลังจากที่ชายผมทองได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากทางนี้ แน่นอนว่าเขามองเห็นเทียนขุยแล้ว มองดูเท้าเทียนขุยที่สาวเข้าไปหาตนทีละก้าว เขากางมือออก แล้วพูดด้วยความหงุดหงิด“คนเมื่อกี้เข้ามาในนี้แล้ว เขาเป็นบ้าใช่ไหม?”
สาวผมยาวมองเห็นเทียนขุย เธอจึงพูดกับชายผมทองว่า“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไปขู่เขาหน่อย เดี๋ยวเขาก็กลัวเอง เนื่องจากที่นี่คือประเทศหวาของเรา ฐานะและตำแหน่งของคุณไม่เหมือนกับเขา ในประเทศหวา เขาไม่กล้าทำอะไรคุณหรอกค่ะ”
ชายผมทองกำหมัดแน่น แล้วทุบไปที่โต๊ะ แล้วด่ากราดไปหนึ่งคำ“ฟัค!”จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้
หลังจากที่เทียนขุยมองเห็นชายผมทองแล้ว เขาจึงบึ่งตรงเข้าไป อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย มาถึงข้างหน้าของเขา จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วด่ากราดไปที่ชายผมทอง“ตอนนี้ รีบไป ย้ายรถของแกออกไปเดี๋ยวนี้!”
นิ้วที่ชี้ออกมาแทบจะชี้ไปที่ศีรษะของชายผมทองอยู่แล้ว ชายผมทองโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนสี เขาด่าอย่างโกรธเคือง“ฟัค!ไอ้เวร กล้าตะโกนใส่ฉันงั้นเหรอ นายรู้ไหมว่าฉันคือใคร?ฉันเป็นอาจารย์ชาวต่างชาติที่ถูกจ้างมานะ ฉันได้รับการต้อนรับเป็นพิเศษ นายเป็นใครห้ะ!ถึงกล้าตะโกนใส่ฉันไม่หยุด”
พูดจบ ชายผมทองก็เงื้อมือขึ้นแล้วตบนิ้วที่เทียนขุยอยู่ตรงศีรษะของเขาออกไป แล้วพูดอย่างมีเหตุผลแบบมั่นใจ“ฉันเกลียดการชี้หัวแบบนี้ การกระทำของนายมันเรียกไม่เคารพคนอื่น นายรู้ไหม?”
“จริงด้วย นายหมายความว่าไง?ถึงกล้าตะโกนใส่คุณปีเตอร์แบบนี้ ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ ทางที่นี่มีเยอะมาก นายมีเวลานี้รอ ป่านนี้หาที่จอดรถได้แล้ว เดินเข้าไปเองได้แล้ว”ผู้หญิงคนนั้นรีบพูดเข้าข้างผู้ชายของตัวเอง ใบหน้ายังแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจ
“คุณหมายความว่าจะไม่ถอย ใช่ไหม?”สีหน้าของเทียนขุยขรึมลง แล้วถามอย่างเสียงเข้ม
ชายผมทองพยักหน้าแล้วพูด“ใช่ ฉันจอดอยู่ที่นี่ จะทานอาหารที่นี่ ฉันจะไม่ถอย นายมีปัญญาก็ย้ายรถฉันออกไปสิ ขอแค่นายแตะต้องรถของฉัน ฉันจะบอกนายไว้เลยนะ นายต้องคืนรถคันใหม่ให้ฉัน!”
ยโสจองหอง ชายผมทองหยิ่งจองหองไปแล้ว เมื่อกี้ยังพูดจาดีๆอยู่เลย บอกว่าเดี๋ยวจะขยับรถให้ ตอนนี้เปลี่ยนได้ขนาดนี้เชียวเหรอ ไม่ยอมถอยให้เด็ดขาด มันเหมือนกับการปัสสาวะรดหัวของเทียนขุยชัดๆ!ฉันจะรังแกนายแล้วยังไง นายจะทำอะไรฉันได้?มีปัญญาก็ทำฉันสิ นี่มันเหมือนกับสิ่งที่ชายผมทองพูดออกมาจากความคิด
เรื่องนี้ยากเกินกว่าที่จะอดทน เทียนขุยอยากจะซัดเขาจริงๆ เขากำหมัดแน่น ระหว่างกระดูกเริ่มมีเสียงดังกรอบแกรบดังขึ้น
เขากล้ารับประกันเลยว่า ขอแค่หมัดนี้ซัดลงไป หมอนี่ต้องพิการอย่างแน่นอน
พอเห็นเทียนขุยไม่พูดไม่จา ชายผมทองคิดว่าตัวเองเก๋ามาก ที่ข่มขู่เทียนขุยสำเร็จ จึงยกมือขึ้นมาแล้วชี้นิ้วไปที่เทียนขุยพลางพูดขึ้นมาว่า“ฉันเกลียดคนที่ใช้นิ้วแบบนี้ชี้ฉัน โดยเฉพาะคนอย่างนาย ยิ่งไม่คู่ควรที่จะใช้นิ้วชี้ฉัน”
ชายผมทองใช้นิ้วจิ้มไปบนจมูกของเทียนขุยอย่างหยิ่งผยอง ทั้งใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความได้ใจ ตอนนี้เขากำลังคิดว่า หมอนี่ เก๋ามากไม่ใช่เหรอ?ทำไมตอนนี้ถึงปอดแหกได้ล่ะ?ดูท่าจะกลัวตนเองจริงๆ
สาวผมยาวก็มีความคิดนี้เหมือนกัน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งคิดว่าตัวเองเก่งมาก
แต่พวกเขาคิดผิด วันนี้พวกเขาเจอเข้ากับคนที่แตะต้องไม่ได้ นี่คือวีรบุรุษแห่งกองทัพ นอกจากจอมพลโผ้จวินแล้ว จะมีใครกล้าปฏิบัติกับเขาอย่างจองหองเช่นนี้ เขาอยู่ในกองทัพ จัดการผู้บุกรุกจากต่างประเทศนับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไรที่คุกเข่าขอร้องอ้อนวอนเขา และไม่รู้ว่ามีคนเท่าไรที่ตายด้วยหมัดของเขา
มาวันนี้แม้แต่อาจารย์ต่างชาติเล็กๆคนหนึ่งกล้าปฏิบัติกับเขาอย่างจองหองเช่นนี้?นี่มันคือความอัปยศของวีรบุรุษชัดๆ
สีหน้าของเทียนขุยเคร่งขรึมลง จากนั้นก็จับนิ้วของชายผมทองหมับ ได้ยินเพียงเสียงดัง“กร๊อบ”เท่านั้น ร่างกายของชายผมทองโค้งงอลงมา ใบหน้าของเขาเหยเก ปากของเขาร้องเสียงโหยหวน
การเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก ยังไม่ทันได้ระวัง เขายังไม่ได้เตรียมตัวดี เทียนขุยก็ลงมือด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกแล้ว
หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กับที่หลายวินาทีอย่างตกตะลึง ถึงได้สติกลับมา เธอร้อนใจมาก รีบเขาไปทุบแขนของเทียนขุย แล้วร้องเรียก“นี่ๆๆ นายทำอะไรน่ะ?ทำไมนายถึงลงมือทำร้ายคนอื่นแบบนี้ นายคิดว่านายเป็นใครห้ะ?มีสิทธิ์อะไรทำร้ายคนอื่น?”
“ไสหัวไป!”เทียนขุยโกรธจนผลักสาวผมยาวออกไป ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวภายในชั่วพริบตา มองดูเส้นเลือดที่ปูดออกมา เทียนขุยที่เหมือนกับสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง ทำให้หญิงสาวตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ปอดแหกทันที เธอเป็นแค่ดอกไม้ที่ถูกปกป้องอยู่ในแจกัน จะไปรู้ได้อย่างไรว่าโลกภายนอกจะมีสัตว์ร้ายเช่นนี้
สายตาของเทียนขุยย้ายไปมองบนตัวของชายผมทอง แล้วพูดด้วยความโกรธ“ฉันไม่ชอบใครมาชี้นิ้วกับฉันแบบนี้เหมือนกัน โดยเฉพาะคนอย่างนาย!ฉันขอเตือนนายนะ ในผืนดีของประเทศหวาของฉัน แกไม่มีสิทธิ์มีทำกิริยาต่ำๆแบบนี้ มาถึงประเทศหวา ก็ต้องเรียนรู้กฎกติกาของการเป็นมนุษย์ ถ้าไม่เข้าใจระเบียบ ฉันจะสอนนายเอง”
เสียงไม่ได้ดังมาก แต่กลับทำให้คนที่อยู่ภายในร้านอาหารฝรั่งได้ยิน
พูดจบ นิ้วของชายผมทองคนนั้นก็โค้งงอจนเป็นเก้าสิบองศา มองด้วยตาเปล่ายังสามารถเห็นว่านิ้วหักแล้ว ชายผมทองคนนั้นคุกเข่าลงกับพื้น แล้วร้องเรียกอย่างทุกข์ทรมาน
มองดูหมอนั่นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด มันกลับกันจากท่าทางหยิ่งจองหองนั้น
สภาพของเขา ช่างเป็นภาพที่เสียดสีมาก!