วันรุ่งขึ้น วันเกิดของถังเสี่ยนจง ตระกูลถังในวันนี้ครึกครื้นกว่าปกติ วันเกิดของตระกูลใหญ่ล้วนจัดงานอย่างอลังการ ถังเสี่ยนจงผู้นำตระกูลของตระกูลอันดับหนึ่งแห่งหนานหลิง วันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของเขาต้องจัดอย่างอลังการเป็นธรรมดา อายุครบเจ็ดสิบปี เป็นรอบวันเกิดที่สำคัญอย่างหนึ่ง ถังเสี่ยนจงได้ปลดระวางจากวงการธุรกิจอีกทั้งวงการต่างๆ แทบจะไม่สนใจโลกภายนอกแต่อย่างใด ใช้เวลาไปกับการทำสิ่งที่ตัวเองชอบ
วันเกิดในช่วงหลายปีมานี้ล้วนจัดงานที่บ้าน งานวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีก็ไม่ต่างกัน
เมื่อห้องรับแขกทั้งห้องของตระกูลถังได้ตกแต่งขึ้นมา หรูหรากว่าการตกแต่งในโรงแรมไม่รู้กี่เท่าตัว เมื่อตระกูลอันดับหนึ่งของหนานหลิง เทียบกับตระกูลเซียวของเมืองจินโจวเมืองเล็กๆนั้น ต่างกันราวกับฟ้าและดิน
วันนี้ถังเสี่ยนจงสวมผ้าด้ายดิบที่ตัดขึ้นเป็นพิเศษ ไม่ใช่ผ้าด้ายดิบที่คนตายใส่ แต่เป็นผ้าด้ายดิบที่ใส่ในงานวันเกิด ในวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ประเทศหวา ตระกูลที่มีอำนาจในยุคโบราณจะให้ความสำคัญกับการใส่เสื้อผ้า เมื่ออายุครบหกสิบปี เรียกว่าปีเกิดต้นฟ้ากิ่งดิน ก็หมายความว่าบุคคลผู้นี้ได้ไปสู่วัยชราแล้ว เริ่มเสวยสุขได้แล้ว ในช่วงอายุนี้พวกเขาจะค่อยๆปล่อยวางทุกๆอย่าง เมื่อจัดงานวันเกิดจะใส่ผ้าด้ายดิบสีเขียวที่ตัดเป็นพิเศษ สีเขียวหมายถึงมีความสุข หวังว่าหลังจากหกสิบปีไปแล้วจะราบรื่นในทุกๆเรื่อง
และตอนอายุครบเจ็ดสิบปี จะถูกเรียกว่าปีที่เจ็ดสิบ งานวันเกิดใหญ่แห่งปี จะสวมผ้าด้ายดิบสีแดง หมายถึงมีลูกหลานมากมาย แล้วตอนแปดสิบปีล่ะ ต้องสวมผ้าด้ายดิบสีขาว สีขาวไม่ได้หมายถึงสิ่งไม่ดี แต่เพื่อให้พรกับคนรุ่นหลัง ในโบราณมีคนพูดว่าหลังจากตายไปแล้วจะเป็นผี หลังจากที่เป็นผีแล้วจะใส่ชุดขาว ดังนั้นตอนที่คนจำนวนมากพูดว่าเห็นผี จะใช่คำว่ามีคนที่สวมชุดขาวคนหนึ่งผ่านไปมาอธิบาย คนที่อายุแปดสิบปีเข้าใกล้กับความตายเป็นอย่างมาก ชุดสีขาวที่พวกเขาสวมใส่จะสามารถสื่อสารกับบรรพบุรุษได้ อธิษฐานให้บรรพบุรุษคุ้มครองลูกหลานรุ่นหลัง
ถังเสี่ยนจงในวันนี้ใส่ผ้าด้ายดิบสีแดงเดินเข้ามาในห้องโถง เขามองห้องโถงที่ตกแต่งไว้ ก็รู้สึกพอใจมาก ขณะนี้ ถังเสี่ยนจงเห็นเหล่าเห้อพ่อบ้านของตระกูลถัง
จึงได้กล่าว “เหล่าเห้อ คุณหนูล่ะ? ทำไมไม่เห็นคุณหนูเลย!”
คุณหนูที่ถังเสี่ยจงพูดถึงก็คือถังยู่ ถังยู่คือหลานสาวที่ถังเสี่ยนจงรักมากที่สุด เป็นลูกสาวของลูกชายคนสุดท้องของเขา หลังจากที่ลูกชายคนสุดท้องของเขามีถังยู่ได้ไม่นานก็เกิดอุบัติเหตุแล้วเสียชีวิตไป ถังเสี่ยนจงทนที่จะมอบเธอให้คนอื่นไม่ได้ จึงได้เลี้ยงเธอมาจนโตด้วยฝีมือของตัวเอง
ดังนั้นในใจของถังเสี่ยนจง ถังยู่สำคัญอย่างหาที่เปรียบมิได้!
เมื่อยังไม่เห็นถังยู่ในงานวันเกิดของตัวเอง ถังเสี่ยนจงจึงรู้สึกไม่สบายใจ
“เหมือนจะยังไม่ออกมาจากห้องนะครับ เมื่อวานหลังจากที่กลับมาจากด้านนอกแล้วก็ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก มิทราบเหมือนกันว่าพบเจอเรื่องอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจหรือเปล่า ตั้งแต่เธอกลับมาจนกระทั่งตอนนี้ ก็อยู่แต่ในห้อง” เหล่าเห้อขมวดคิ้วแล้วกล่าว
“อ๋อ?” ถังเสี่ยนจงขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ฉันล่ะอยากจะรู้ว่าใครมันบังอาจทำให้หลานรักตัวน้อยของฉันเป็นทุกข์ได้!”
“เหล่าเห้อ ไปเรียกเธอมาให้ฉัน”
“ครับ คุณท่าน!” เหล่าเห้อหันหลังแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป
ในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ ห้องนี้ยาวประมาณยี่สิบเมตร กว้างกว่าสิบเมตร ด้านในมีโซฟา เก้าอี้แขวน และยังมีระเบียง แต่ด้านในนี้มันพิเศษ สิ่งที่พิเศษคือทั้งห้องเป็นสีชมพู รูปแบบการตกแต่งทั้งห้องล้วนตกแต่งด้วยสีชมพูทั้งหมด ใช้สีชมพูทากำแพง พื้นสีชมพูติดตั้งไว้กับพื้น เบาะบนเก้าอี้แขวน เบาะบนโซฟาอีกทั้งตัวโซฟา ล้วนเป็นสีชมพู แม้แต่โต๊ะ กล่องปากกาที่เธอใช้ก็เป็นสีชมพู
ด้านในมีเตียงรูปหัวใจวางอยู่ ชุดเครื่องนอนบนเตียงล้วนเป็นสีชมพู นี่เป็นผู้หญิงที่ชอบสีชมพูที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา หญิงสาวคนนี้ก็คือหลานสาวที่ถังเสี่ยนจงรักมากที่สุด ถังยู่!
ถังยู่ในขณะนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสบาย ในมือถือหมีหน้าโง่ แล้วด่าพึมพำออกมา “แกนั่นแหละ แกนั่นแหละ แกนั่นแหละไอ้บ้าลูบหน้าฉัน นึกไม่ถึงว่าแกจะลูบหน้าชั้น ไอ้บ้า ไอ้บ้า!”
เธอพลางด่า พลางต่อยหมีหน้าโง่นั่น ต่อยรัวๆ!
ต่อยไปต่อยมา เธอค่อยๆต่อยช้าลง จากนั้นก็หยุดสักพัก จู่ๆในหัวของเธอก็ผุดภาพนั้นขึ้นมา ที่คนนั้นใช้มือไปลูบที่หน้าเธอ ตนหลบแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขายังเอามือไปดมอีก
มันหอมขนาดนั้นเลยเหรอ? เขาได้กลิ่นรองพื้นที่เธอใช้มั้ย?
รองพื้นบางขนาดนั้น น่าจะไม่ได้กลิ่นนะ? ถ้าไม่ได้กลิ่นของรองพื้นที่เธอทา แล้วได้กลิ่นอะไรล่ะ? กลิ่นกายของตน?
แปลกจัง ทำไมตนต้องคิดถึงเขาด้วยนะ? เพราะเขาช่วยตนงั้นหรือ?ถ้าไม่พูดเรื่องไร้ยางอายนี่ คนนั้นก็มีความชอบธรรมอยู่เหมือนกันนะ รู้ว่าตนกำลังถูกรังแกอยู่ ก็ออกโรงมาช่วย
“เฮ้อ!” เธอต่อยหมีหน้าโง่นั่นอีกหลายหมัด ต่อยพลางด่าพลาง “เพราะแกไอ้บ้า เล่นเอาฉันนอนไม่หลับเลยเมื่อคืน คอยดูถ้าฉันเจอแก จะหั่น.ให้เป็นชิ้นๆเลยล่ะ!”
ไอ้บ้า น่าเกลียดขนาดนั้น ทำไมตนต้องนึกถึงเขาด้วยนะ!
แปลก แปลกจริงๆ คนที่ตนต้องคิดถึงควรจะเป็นพี่เย่เทียนของตนสิ แล้วทำไมในหัวของตนต้องมีแต่ผู้ชายที่ไม่เห็นหัวคนอื่น ไม่มีความคิด หลงตัวเอง หยิ่งยโสนั่นละ
“เกลียด! ใช่ ไอ้นั่นลูบหน้าตน จะต้องเป็นเพราะเกลียดเขาจึงได้นึกถึงเขาแน่นอน!” ถังยู่ปลอบตัวเองอย่างพูดเองเออเอง แล้วนั่งขึ้นบนเตียง
“ก๊อกๆๆ!” ขณะนี้ด้านหน้ามีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ใครอะ?” ถังยู่ถามไปที่ประตู
เสียงของเหล่าเห้อดังขึ้นจากที่ประตู “ผมเองครับ คุณหนู คุณท่านให้คุณหนูลงไปครับ!”
“อ๋อ!” ถังยู่ตอบ “ลุงเห้อลุงลงไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะตามไปเดี๋ยวนี้”
เหล่าเห้อตอบรับ จากนั้นก็ลงไป ถังยู่มาที่หน้ากระจก มองตัวเองในกระจก ในกระจกเป็นหญิงสาวที่ตัวกระจิริด ขาวใสคนหนึ่ง
ความจริงตัวเองก็สวยนะ ยังไงก็เป็นคุณหนูของตระกูลถัง!
นึกไปนึกมา เธอได้ลูบหน้าตัวเอง ในจุดที่ถูกคนนั้นลูบไปอย่างไม่รู้ตัว ตรงนี้ เขาลูบตรงนี้ของฉัน ถ้าตัวเองไม่หลบ แล้วเขาจะจูบหรือเปล่านะ?
“เฮ้อ!” ถังยู่ส่งเสียงเบื่อออกมา จากนั้นก็ลุกขึ้น เธอหันไปมองหมีหน้าโง่ แล้วพูดว่า “ฉันไปร่วมงานวันเกิดของคุณปู่ก่อนนะ แล้วค่อยมาดูกันว่าฉันกลับมาแล้วจะจัดการกับแกยังไง!”
พูดจบถังยู่ก็วิ่งลงไป!
เมื่อมาถึงห้องรับแขก ไม่นานเธอก็เห็นถังเสี่ยนจง อยู่ไกลๆ แล้วเรียก “คุณปู่!”
เมื่อเรียกแล้ว เธอก็ได้เดินมาข้างๆถังเสี่ยนจง เอื้อมมือไปเกาะแขนของเขาไว้ แล้วยิ้มอย่างมีความสุข “คุณปู่ค่ะ สุขสันต์วันเกิดค่ะ! ขอให้คุณปู่มีความสุขและอายุมั่นขวัญยืนค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะ มีวันนี้ไปทุกๆปี…”
เมื่อเห็นถังเสี่ยงจง เธอจึงได้ร้องเพลงเฉลิมวันเกิดทันใด ทำให้ถังเสี่ยนจงดีจนหุบยิ้มไม่อยู่ ในครอบครัวคนที่ทำให้ถังเสี่ยนจงมีความสุขที่สุด ไม่มีใครนอกจากถังยู่แล้ว
ถังยู่เหมือนกุมเคล็บลับการที่ทำให้ถังเสี่ยนจงสนุกสนานอยากได้อย่างนั้น เพียงแค่เห็นถังยู่ ถังเสี่ยนจงก็ยุบไม่หุบ
เห็นถังยู่อัญมณีในชีวิต ถังเสี่ยนจงก็หัวเราะฮ่าฮ่าออกมา “ไอ้หยา!เสี่ยวยู่ของฉันเชื่อฟังจริงๆ แค่เห็นแกปู่ก็มีความสุขแล้ว”
ถังเสี่ยนจงพูดพลาง เอื้อมมือไปหยิกบนใบหน้าของถังยู่เบาๆ การกระทำนี้ทำให้ถังยู่หน้าแดงขึ้นมา
“เสี่ยวยู่ ฉันได้ยินลุงเห้อของแกบอกว่าข้างนอกมีคนทำให้แกไม่สบายใจ ใช่มั้ย?” ถังเสี่ยนจงถามอย่างเย้ยหยัน
ถังยู่บึนปาก แล้วกล่าว “เหอะ ใช่ค่ะ ไอ้บ้าคนหนึ่งมันยั่วโมโหหนู คุณปู่ เขาลูบหน้าของหนู คุณปู่ต้องจัดการให้หนูนะคะ!”