“พ่อ!”
“พ่อ!”
“พ่อ!”
ลูกชายทั้งสามของตระกูลหม่าตะโกนออกมาพร้อมกัน จากนั้นก็วิ่งไปหาหม่าจงหัวพร้อมกัน
หัวเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกายมนุษย์ มันควบคุมระบบประสาทของร่างกายทั้งหมด ดังนั้นตั้งแต่เล็กคนแก่จึงสั่งเด็กๆนักหนา ว่าตอนต่อยคนอย่าต่อยที่หัว นอกจากต้องการฆ่าคนๆนี้
แม้หม่าจงหัวจะเป็นนักบู๊ แต่เมื่อถูกทุบลงไปที่หัวขนาดนั้น ก็ต้านทานไว้ไม่ไหวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ถึงกับจะตายในทันที เพียงแต่จะมีช่วงที่หายใจแผ่วเบาไป
ความอดทนของนักบู๊ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นหม่าจงหัวยังฝึกฝนวิทยายุทธมากว่าหลายสิบปี
การหายใจของเขายิ่งอยู่ยิ่งแผ่วลง นัยน์ตาแดงก่ำ อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับพูดไม่ออกสักคำ
“พ่อ ผมจะล้างแค้นให้พ่อเอง!” หม่ากวงชาวยืนอย่างเกรี้ยวกราด เงยหน้ามองสาวไร้หน้าคนนั้น
ใบหน้าของสาวไร้หน้าคนนั้นก็จ้องมาที่หม่ากวงชาวพอดี เมื่อเห็นแล้ว เกิดเป็นภาพลวงตาของสายตาที่ประสานกัน
จู่ๆใบหน้าของหญิงสาวขยับอย่างโค้งเว้าไม่เรียบ จากนั้นก็ส่งเสียงที่แปลกประหลาดออกมา “หม่ากวงชาว ไง? อยากจะต่อสู้กับฉันเหรอ? ฉันอยากสั่งสอนแก”
จู่ๆในหัวของหม่ากวงชาวก็ผุดเรื่องที่วันนั้นเธอหายไปจากรถอย่างไร้ร่องรอย คนนี้มันเป็นผีชัดๆ ถ้าตัวเองต่อสู้กับเธอ มีโอกาสที่จะชนะได้มั้ย? โอกาสชนะ! พ่อของตนยังสู้เธอไม่ได้ แล้วตนจะมีโอกาสชนะได้อย่างไรกัน?
ไม่สนใจล่ะ ตอนนี้ก็ไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากมายขนาดนั้น ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงกัดฟัน แล้วตะคอก “ไร้สาระ นึกไม่ถึงว่ามึงแม่งกล้าแตะต้องพ่อกู มึงคิดว่าคนของตระกูลหม่ารังแกง่ายขนาดนั้นหรือไง?”
ต่อให้ทำอะไรไม่ใช่สมอง วู่วาม โมโหง่าย แต่เขาก็มีสิทธิ์ในการเลือกทางเดิน อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าให้เกียรติผู้ใหญ่รักเด็กเป็นคุณธรรมสืบทอดกันมาของประเทศหวา ให้เกียรติพ่อแม่ของตัวเองเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนของตระกูลหม่าต้องปฏิบัติตาม
หม่ากวงชาวไม่ชนะคนนี้จริงๆ และยังมีความกลัวต่อคนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และตอนที่พ่อของตัวเองถูกทำร้าย เขาจะไปสนใจอะไรมากมายขนาดนั้น ความเป็นความตายเป็นเรื่องธรรมดา คิดจะทำอะไรก็ทำ!
พูดจบ เขาพุ่งเข้าไปอย่างเร็ว หม่ากวงชาวเป็นลูกชายหนึ่งในสามคนของตระกูลหม่าที่ศิลปะการต่อสู้ดีที่สุด ถ้าสู้กับคนธรรมดาเขาหนึ่งต่อร้อยได้อย่างสบาย แต่ในสายตาบรรดาผู้ที่ฝึกฝนชี่ ไม่สลักสำคัญอะไร!
สาวไร้หน้าดูแคลนออกมา แล้วกล่าวอย่างไม่สนใจว่า “ไร้ประสิทธิภาพ!”
เห็นเธอค่อยๆกางพัดที่อยู่ในมือออก แล้วสะบัดพัดที่อยู่ในมือ เหมือนกับพัดเหล็กของปีศาจกระทิง พัดพายุโหมกระหน่ำมา ฟิ่วมา พัดมาที่ตัวของหม่ากวงชาวอย่างรุนแรง หม่ากวงชาวยืนไม่มั่นคง จึงถูกพัดลอยไป ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง หม่ากวงชาวไม่กระอักเลือดออกมา แต่เขายืนขึ้นไม่ไหวแล้ว เจ็บปวดรวดร้าวที่หน้าอกเหลือเกิน ในพายุนั้นเหมือนมีเท้าอยู่ด้านใน เหยียบไปบนหน้าอกของตัวเองอย่างหนักหน่วง พัดจนหายใจไม่ออก
เขาถึงขั้นยังไม่ได้แตะต้องตัวของคนนั้นก็ต้องพ่ายแพ้แล้ว ตอนนี้ เขาเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองอ่อนแอมากขนาดไหน เขาเกลียดตัวเองที่ตอนนั้นไม่ฟังคำของพ่อ ที่ให้ตั้งใจฝึกฝนวิชาของตระกูลหม่า
“พี่รอง น้องรอง!” หม่าเหาและหม่ากวงหรงตะโกนออกมาพร้อมกัน จากนั้นก็จ้องไปที่สาวไร้หน้าอย่างเคียดแค้น
สาวไร้หน้าเก็บพัดในมือกลับไป แล้วดูแคลนด้วยเสียงเบาๆว่า “ไอ้อ่อนแอ!”
“หม่าจงหัว แกคิดว่าแค่วิชากระจอกๆตระกูลหม่าของแกจะต่อกรกับฉันได้งั้นหรือ? ที่ประเทศหวา ในสายตาของใครหลายคนพวกแกยิ่งใหญ่มากก็จริงอยู่ แต่ ในสายตาของยอดฝีมือที่เก่งกาจจริงๆ ตระกูลหม่าของแกก็เป็นแค่เศษขยะเท่านั้นแหละ ท่าทีของแกในตอนนี้ เหมือนกองขยะมาก ยังจะตระกูลที่มีมาพันกว่าปี มันช่างน่าจำเสียจริงๆ!” เธอพูดจบ เงยหน้า และหัวเราะอิๆๆฮ่าๆๆอีกครั้ง
เสียงหัวเราะนี้ปกคลุมไปทั่วสวนของตระกูลหม่า ทั้งหม่นหมองและน่ากลัว ทำให้คนของตระกูลหม่าทั้งหมดขนลุกซู่
ลมหายใจของหม่าจงหัวทรงตัว เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทำให้เขาฮึดขึ้นมาอีกครั้ง ความเกรี้ยวกราดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว คนนี้ไม่เพียงทำร้ายเขา แล้วยังเหยียดหยามตระกูลหม่าอีกด้วย ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ เกียรติยศของตระกูลหม่าไม่ใช่สิ่งที่หญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงจะเหยียดหยามได้ เขาจับแขนของหม่าเหาไว้แน่น กัดฟันแล้วพูดกับเขาว่า “พยุงพ่อขึ้นหน่อย”
“พ่อ พ่อ…” หม่าเหาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกหม่าจงหัวขัดจังหวะไว้ทันที “พยุงฉันขึ้นที!”
คำพูดของหม่าจงหัวยืนหยัดอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทำให้หม่าเหาไม่จัดแม้แต่น้อย เขากล้าพูดออกมาแม้แต่นิดเดียว
หลังจากที่หม่าจงหัวยืนขึ้นมาแล้ว ก็ได้ผลักมือของหม่าเหาที่พยุงเขาไว้ นัยน์ตายังคงแดงก่ำ ในหัวยังคงเจ็บปวดเป็นพักๆ แว็บๆจะมีความรู้สึกวูบๆ ครั้งนั้นตบลงมาที่จุดไป่ฮุ่ยพอดี จุดไป่ฮุ่ยเป็นจุดรวมชี่ที่หัวของมนุษย์ และเป็นจุดอ่อนของร่างกาย ที่รวมชี่ของเด็กอ่อนแอ ดังนั้นคนแก่จึงมักจะกำชับว่าอย่าใช้มือจับหัวของเด็ก
ผู้ใหญ่บางคนที่ถูกทุบหัว ดูเหมือนไม่มีบาดแผลอะไร ความจริงแล้วถูกทับเข้าไปที่จุดรวมชี่ จึงทำให้เขาตายคาที่ แต่สำหรับนักบู๊อย่างหม่าจงหัว แม้จะถูกตีไปที่จุดรวมชี่ แต่ ไม่ได้ตายง่ายๆอย่างนั้น
เขาค่อยๆยกมือสองข้างที่ถูกเข็มทิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นก็ใช้มือหนึ่งจับเข็มของอีกมือหนึ่ง กัดฟันร้องออกมา แล้วเอาเข็มที่ปักอยู่ในมือออกมาอย่างเร็ว
“พ่อ!” ลูกชายสองคนของเขาเห็นเหตุการณ์นี้แล้วหวาดกลัวขึ้นมา ใครก็รู้ว่าความเจ็บปวดแบบนี้ไม่ใช่คนธรรมดาจะรับได้ นี่มันทิ่มแทงทะลุมือไป เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงจิตใจ คนทั่วไปจะเจ็บจนเป็นลมไป
หม่าจงหัวเจ็ดสิบปีแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาจะเอาเข็มออกมาอย่างทันทีทันใด เป็นฉากที่ทำให้คนไม่กล้ามองโดยตรง เหล่าลูกชายของเขา เหงื่อไหลเต็มตัวแทนเขาเลยทีเดียว
หลังจากที่เอาออกมาแล้ว เลือดที่อยู่ในมือไหลออกมามากเข้าไปอีก แต่เขาไม่สนใจเลือดเล็กน้อยแค่นั้นแต่อย่างใด จากนั้นได้มองไปยังเข็มที่อยู่ในมืออีกด้าน ใช้วิธีเดียวกัน แล้วดึงเข็มที่อยู่ในมืออีกด้านออกมาอีกครั้ง
เข็มสองเข็มที่ทิ่มเข้าไปที่ฝ่ามือ ถูกเขาเอาออกมาแบบนี้ นอกจากเสียงคำรามที่เหมือนกับสัตว์เดียรัจฉานบ้าคลั่ง ไม่มีตะโกนว่าเจ็บว่าทรมานแต่อย่างใด นี่คือความพยายามของหม่าจงหัวผู้นำตระกูลของตระกูลหม่า
เลือดของหม่าจงหัวปะทุขึ้นมาแล้ว เขาจ้องสาวไร้หน้าไม่พูดไม่จาใดๆ แต่แววตากลับทักทายบรรพบุรุษเจ็ดชั่วโคตรของเธอ
เมื่อสาวไร้หน้าเห็นเหตุการณ์นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตบไม่ได้ จากนั้นก็ได้หัวเราะเสียงที่น่าขยะแขยงไม่น่าฟัง “อิๆๆฮ่าๆๆ” หลังจากหัวเราะแล้ว สาวไร้หน้าจ้องหม่าจงหัวแล้วกล่าว “หม่าจงหัว เห็นแก่การที่แกที่แกกล้าหาญอย่างภาคภูมิแบบนั้น ฉันตัดสินใจจะให้โอกาสแกอีกครั้ง เพียงแค่แกยอมเป็นไส้ศึกให้ฉัน ร่วมมือคนที่ชื่อกับจอมพลโผ้จวินนั่น แล้วพูดในสิ่งที่ฉันอยากให้พูด แล้วฉันจะให้แกเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลหม่าต่อไป และตระกูลหม่าจะยิ่งใหญ่ รุ่งเรืองยิ่งกว่าเมื่อก่อน และได้รับศิลปะการต่อสู้ครบทุกด้าน ฉันจะให้แกได้เห็น พลังของเพลิงเสวนของเรา แกจะต้องดีใจกับการตัดสินใจในวันนี้แน่นอน”