จอมนักรบทรงเกียรติยศ – บทที่ 623 แพ้หมดรูป

บทที่ 623 แพ้หมดรูป

เงียบ บรรยากาศในห้องประชุมเงียบขึ้นเรื่อยๆ เงียบจนเข็มตกสักเล่มคงได้ยิน

ส่วนฟางไห่เซิงพูดคำนี้จบ อารมณ์เขาตื่นเต้นถึงขีดสุด ใจเต้นเร็วแรง ร่างสั่นเทาเล็กน้อย นี่เขากำลังใช้ทุกสิ่งลงทุนเสี่ยง ขัดคำสั่งเจ้าตระกูลฟาง ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางไห่เซิงคัดค้านพ่อตัวเองแข็งกล้าขนาดนี้ เพียงพอที่จะเห็นได้ว่า การลำเอียงของฟางจินหยวนที่มีต่อฟางเหยียนมันทำให้เขาทนจนถึงขีดสุดแล้ว

ฟางไห่ถางเองก็ด้วย เขาเชิดหน้ายืนขึ้นมาพูดว่า “พ่อ ผมก็ไม่เห็นด้วย!”

หลังจากฟางไห่ถางพูดจบ ทุกคนในห้องประชุมพากันพยักพเยิดเห็นด้วย ทุกคนต่างยืนขึ้น แต่มีเพียงสองคนที่ยังก้มหน้านิ่งไม่ยืนขึ้นมา คือฟางเหมี่ยวกับฟางไห่อิง ส่วนตงฟางหยุนเอ๋อร์เมียของฟางเหมี่ยวพยายามดึงเขาลุกขึ้น แต่ก็โดนเขาสะบัดมือทิ้งไม่ไยดี

เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นการร้องขอของคนตระกูลฟางทั้งหมด! แต่มีเพียงฟางเหมี่ยวกับฟางไห่อิงที่ต่างออกไป ยังคงนั่งนิ่งอย่างไม่แคร์

พอบรรดาเครือญาติหลายสิบคนยืนขึ้น ทั่วทั้งห้องประชุมที่กว้างใหญ่พลันแคบเล็กลงทันที ดำมืดไปทั้งแถบบดบังแสงทั้งหมด

สายตาฟางจินหยวนกวาดมองไปทั่ว ทุกคนพากันก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาด้วย

ฟางไห่อิงไม่อยู่ในกลุ่มร้องขอ ซึ่งอยู่ในความคาดหมายของฟางจินหยวน แต่ที่เหนือความคาดหมายคือฟางเหมี่ยว สายตาฟางจินหยวนฉายแววประหลาดใจวูบหนึ่ง พูดถึงฟางไห่อิงก่อนเลยละกัน ถ้าบอกว่าทั่วทั้งตระกูลฟางใครรักใคร่ฟางเหยียนที่สุด นอกจากเธอแล้วไม่มีคนที่สองแล้ว เธอปฏิเสธที่จะทำแบบนี้ เพียงเพื่อปกป้องหลานชายตัวเอง มันสมเหตุสมผล

แต่ฟางเหมี่ยวทำเพื่อเป้าหมายอะไรอันนี้เขาเองก็ไม่รู้

ไม่ว่าฟางเหมี่ยวจะทำเพื่อเป้าหมายอะไร มันก็ทำให้ฟางจินหยวนรู้สึกตื้นตันใจอยู่บ้าง

บรรยากาศเริ่มแปลกและตึงเครียดขึ้น ฟางจินหยวนที่หนักแน่นราวภูเขายิ่งกดดันจนพวกเขาแทบหายใจไม่ออก

ไม่มีใครพูดอะไร ได้แต่นิ่งเงียบกันหมด

แต่ใครเลยจะรู้ว่า แบบนี้ไม่ได้ทำให้ฟางจินหยวนเปลี่ยนความคิด แต่โชคดีที่คนส่วนมากคิดแบบนั้น เขาเลยไม่สะดวกจะใช้กฎบ้าน

เรียกได้ว่าตอนนี้คือความเงียบชนะทุกเสียง ยิ่งมีอำนาจมากยิ่งกว่าหมื่นคำพูด

พวกเขาเงียบกันหมด แต่มันทำให้หลี่เยว่เมียของฟางไห่เซิงร้อนใจหนัก เธอไม่มีเวลาไปห่วงใยอนาคตตระกูลฟาง สิ่งที่เธอกังวลใจที่สุดเสมอคือชีวิตของตัวเอง เธอทนเก็บไม่ไหวเหมือนเครือญาติพวกนี้

แต่หลังจากหลี่เยว่เอ่ยปาก ฟางไห่เซิงอยากจะตบปิดปากเธอจริงๆ!

เธอทำลายบรรยากาศนิ่งเงียบนี้ ทำลายตระกูลฟางที่ยากจะรวมใจเป็นหนึ่งนี่ และทำลายการบีบคั้นที่ได้มาไม่ง่ายนี่

มันเหมือนคำพูดนั้นเลยที่ว่า นมโตสมองกลวง!

หลี่เยว่เมียของฟางไห่เซิงพูดขึ้นว่า “พ่อคะ พ่อทำไม่ถูกนะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรืออะไรพ่อไม่ได้ผิดต่อฟางเหยียน ตอนนี้ตระกูลฟางมาถึงช่วงเป็นตายเท่ากันแล้ว พ่อยังจะปกป้องเจ้าคนไม่สำนึกบุญคุณนั่นอีกหรอ? ฉันว่า ที่ควรทิ้งต้องทิ้งนะคะ จะได้ไม่ทำให้ตระกูลฟางเราเสียหายมากเกินไป เรื่องพวกนี้เป็นเพราะฟางเหยียนหาเรื่องมาทั้งนั้น ถือสิทธิ์อะไรให้ชีวิตคนมากมายต้องเสี่ยงเพราะเขาล่ะ”

พี่สะใภ้ใหญ่ออกปากก่อน เมียฟางไห่ถางเลยพยักพเยิดตาม “พ่อคะ ฉันก็ว่าพี่สะใภ้ใหญ่พูดถูก ฟางเหยียนน่ะเป็นคนไม่สำนึกบุญคุณชัดๆ ทุกครั้งที่ฟางเหยียนมาบ้านเรา ต้องทำให้อลหม่านกันไปหมด มาครั้งแรกก็ออกปากว่าจะล้มล้างบ้านฟาง แถมยังทำให้พ่อขายหน้าในงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ80ปีอีก เขาปรากฏตัวแต่ละทีทำให้บ้านเราลำบากตลอด ไม่มีการเคารพผู้อาวุโสกว่าสักนิดว่าแย่แล้ว ยังทำตัวเย่อหยิ่งไม่เห็นใครในสายตา เป็นคนไม่สำนึกบุญคุณ แบบนี้พ่อยังจะปกป้องอยู่อีก? ออกจะไม่ยุติธรรมไปหน่อยไหมคะ?”

ฟางไห่อิงแทบจะสวนกลับไปทันทีว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้สาม พูดแบบนี้น่าเกลียดไปนะคะ อะไรเรียกว่าไม่สำนึกบุญคุณ? อะไรเรียกว่าทำให้บ้านฟางเดือดร้อน? เสี่ยวเหยียนน่ะยังไงก็คนตระกูลฟาง พวกพี่พูดแบบนี้คือคิดจะกีดกันเขาออกไปใช่ไหม? เสี่ยวเหยียนออกจากบ้านไปกี่ปีแล้ว? เขาไปเจออะไรมาเท่าไหร่? เขาลำบากแค่ไหน พวกพี่รู้หรือเปล่า? ถ้าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวพวกพี่เอง พวกพี่จะไม่แค้นตระกูลฟางเลยหรือไง? อีกอย่าง เสี่ยวเหยียนแค่พูดว่าจะล้างแค้นล้มล้างตระกูลฟาง เขาเคยทำอะไรคนตระกูลฟางจริงๆหรือยัง? เขาเคยทำร้ายพวกพี่บ้างหรือยัง?”

พูดถึงตรงนี้ เสียงของฟางไห่อิงชะงักลง เธอรู้สึกตัวว่าตัวเองพูดไปมากมายขนาดนี้ ไม่เพียงไม่สามารถเรียกคืนความสำคัญของเสี่ยวเหยียนในหัวใจพวกเขาได้ แถมยังจะทำให้ฟางจินหยวนไม่พอใจด้วย แต่หลังจากที่เธอหันไปมองฟางจินหยวน กลับพบว่าเขายิ้มอย่างตื้นตันใจ ไม่มีทีท่าจะกล่าวโทษเธอ มันทำให้เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก

“อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องอื่น เสี่ยวเหยียนไปจากตระกูลฟาง16ปี เป็น16ปีที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ และไม่มีวันคืนที่สามารถมีความสุขกับครอบครัว ตอนพวกพี่ฉลองปีใหม่ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว มีความสุขกัน แล้วฟางเหยียนล่ะ? ทำได้แค่คอยดูสีหน้าคนอื่นในบ้านคนอื่น ตอนนั้นพวกพี่เคยคิดถึงความรู้สึกเขาบ้างไหม? เสี่ยวเหยียนผ่านความพยายามของตัวเองจนได้เป็นผู้ชายที่ยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง ดึงดูดสายตาจากทั่วโลกได้ บางทีสิ่งที่พวกคุณเห็นคงเป็นแค่ด้านมีเกียรติของเขา พวกคุณไม่เห็นตอนเขาหนีตายในสงคราม ไม่เห็นตอนเขาวิ่งฝ่ากระสุนปืน เขามีวันนี้ได้ ล้วนแต่ใช้ชีวิตฝ่าฟันมันมา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาดวงแข็ง บางทีคงตายในสงครามไปนานแล้ว ตั้งแต่เริ่มจนจบ เขาไม่ได้อาศัยตระกูลฟางเลยแม้แต่นิดเดียวจริงไหม? เขาบอกไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลฟาง มีความแค้นกับตระกูลฟาง มันผิดด้วยหรอ? พี่สะใภ้สาม ความยุติธรรมที่พี่พูด ฉันไม่รู้จะหาจากตรงไหนเหมือนกัน! โชคชะตาดูแลพวกพี่มานานขนาดนี้ ให้พวกพี่อยู่อย่างสงบสุขมานานขนาดนี้ พวกพี่ยังมีสิทธิ์อะไรมาเรียกร้องความยุติธรรมอีกล่ะ?”

ฟางไห่อิงยิ่งพูดยิ่งสงบ แต่ในความสงบนั่นกลับยิ่งโมโห ระหว่างที่เธอพูด น้ำตาก็ไหลพรากลงมา เป็นคนตระกูลฟางเหมือนกัน การปฏิบัติตัวที่ฟางเหมี่ยวและฟางฟังได้รับช่างต่างกับของฟางเหยียนราวฟ้ากับเหว

พอฟางไห่อิงพูดจบ เธอถอนหายใจยาวออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอเก็บกดมานาน จนวันนี้ระเบิดมันออกมา เลยผ่อนคลายลงไม่น้อย เธอปล่อยวางแล้วจริงหรอ? เปล่า ฟางเหยียนเป็นคนเพียงคนเดียวที่นอกจากฟางจินหยวนแล้ว ทำให้เธอรู้สึกพักพิงได้อย่างสบายใจเมื่ออยู่ตระกูลฟาง

คำพูดพวกนี้เธอเก็บไว้มานานมาก อยากพูดออกมาตั้งนานแล้ว แต่หาโอกาสเหมาะๆไม่ได้เลย ในที่สุดวันนี้เธอก็พูดมันออกมา ตระกูลฟาง มีแค่ฟางไห่อิงคนเดียวที่ครุ่นคิดปัญหาจากในมุมมองของฟางเหยียน

ส่วนการที่ฟางจินหยวนรู้สึกผิด บางทีก็อาจเป็นเพราะเห็นผลงานชื่อเสียงของฟางเหยียนก็ได้! ฟางเหยียนไม่เคยทำผิดต่อคนตระกูลฟาง เขาพูดปาวๆว่าจะทำลายตระกูลฟาง แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใครในตระกูลแม้เพียงปลายเล็บ! คนที่บุญคุณความแค้นแบ่งแยกกันชัดเจนขนาดนี้ คนตระกูลฟางไม่ช่วย ยังจะยืนมองตระกูลฟางถูกทำลายท่ามกลางเล่ห์กลอุบายยื้อแย่งกันไปมาอย่างนิ่งเฉยอีกหรอ?

ถึงเธอจะเป็นลูกสาวที่แต่งออก แต่เธอก็เป็นคนตระกูลฟาง!

เห็นได้ชัดว่า การที่ฟางไห่อิงจู่ๆระเบิดโพล่งความในใจออกมา ทำให้หลี่เยว่ และเมียฟางไห่ถางอึ้งตะลึงไปตามๆกัน ไม่เพียงแค่พวกเธอสองคน แม้แต่เครือญาติคนอื่นก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน แต่ละคนคิดในใจว่า นี่คือฟางไห่อิงที่จิตใจดีและไม่เคยแก่งแย่งใครคนนั้นจริงๆหรอ?

แต่หลี่เยว่กลับเหมือนแมวโดนเหยียบหางยังไงยังงั้น ขนพองในพริบตา ย้อนกลับด้วยความโกรธทันทีว่า “ฟางไห่อิง เธอมีสิทธิ์ออกความเห็นที่นี่หรือไง? เธออย่าลืมนะ เธอเป็นลูกสาวที่แต่งออกไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกจากบ้านแล้ว เธอมีสิทธิ์มาชี้หน้าสั่งสอนพวกเราที่นี่หรือไง? ที่นี่เป็นเวลาของคนตระกูลฟางพูด ไม่มีที่ให้เธอออกความเห็น!”

หลี่เยว่ร้องแผดเสียง ทีท่าแข็งกร้าวราวกับตนเป็นนายหญิงตระกูลฟาง!

เมียของฟางไห่ถางเองก็ร่วมย้อนด้วย “คิดว่าตัวเองเก่งมาก? ผุ้หญิงที่ควบคุมผู้ชายตัวเองไม่ได้ยังมีหน้ามากล่าวโทษ? ฉันว่าเธอน่ะเดือดร้อนแทนฟางเหยียนหรือเปล่า ทำอะไรก็ไม่ดี พอพูดถึงฟางเหยียนล่ะเก่งเชียว! ฟางไห่อิง ฉันจะบอกเธอชัดๆอีกครั้งนะ ตระกูลฟางเป็นแค่บ้านแม่ของเธอ ไม่ใช่บ้านสามีเธอ อยากจะทำเท่วางอำนาจ กลับไปวางอำนาจที่บ้านตัวเองโน่น!”

พอคำนี้ออกมา ทั้งสองพี่น้องฟางไห่เซิงและฟางไห่ถางรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าแสบร้อนเอามากๆ แทบจะไม่ยกเว้นเลย สองพี่น้องแค่อยากกลับไปสั่งสอนเมียตัวเองซักยก!

ขายหน้าแทบจะไปถึงบ้านยายแล้วเนี่ย!

นี่มันอะไรกัน ห้องประชุมเขาไว้ทำอะไรหะ?

โดนพวกหล่อนสองคนทำหยั่งกับตลาดสด!

แพ้แล้ว!

แพ้หมดรูป!

โดยเฉพาะสีหน้าฟางจินหยวนดำทะมึนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกสองพี่น้องฟางไห่เซิงใจเต้นไม่เป็นส่ำ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

Status: Ongoing

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท