เทียนขุยเพิ่งลงจากรถ ก็เห็นฟางเหยียนและฟางไห่อิงเดินออกมาจากที่พัก “จอมพลโผ้จวิน คงจะไม่ใช่ฟางฟังโทรมาอีกแล้วนะ? ยัยนี่นี่จริงๆเลย พวกเราแนะนำช่วยเหลือปัญหาทางบ้านตระกูลฟางของพวกเขา แล้วยังจะโทรมาอีกทำไม? จริงๆเลย จริง…..”
เธอยังพูดไม่จบ ก็เห็นว่าสายตาของทั้งสองคนไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะฟางเหยียน เต็มไปด้วยความน่ากลัว ดูแล้วจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่เลย!
ฟางเหยียนน้ำเสียงเย็นชา แม้ว่าจะพยายามเก็บกดไว้แล้ว แต่ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความโกรธของเขาในตอนนี้อยู่ดี!
“แกไม่ใช่ชิงหยู่ แกเป็นใคร?”
ทางปลายสายก็ยังเงียบกริบ
ฟางเหยียนส่งสายตาให้เทียนขุย เทียนขุยเข้าใจได้ในทันที ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ข้อความแล้วส่งออกไป
ในบางที ความเข้าใจระหว่างเพื่อนกัน ใช้เพียงแค่สายตาเดียวก็เพียงพอแล้ว
เทียนขุยเข้าใจดี ฟางเหยียนให้เขาสืบตำแหน่งที่ตั้งของปลายสาย
“แกเป็นใครกันแน่?”
ทุกครั้งที่ถาม น้ำเสียงของฟางเหยียนก็จะเย็นชามากขึ้น บรรยากาศรอบตัวก็หนาวเย็นตามไปด้วย!
ฟางไห่อิงม้วนตัว ตัวสั่นอย่างกล้าๆกลัวๆ รีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว จงใจเว้นระยะห่างออกมา ตอนนี้เธอมีเพียงความรู้สึกเดียว ก็คือออกห่างจากหลานชายคนนี้ของตัวเอง เขาในตอนนี้อันตรายมาก ถึงแม้จะรู้ว่าฟางเหยียนไม่มีทางทำร้ายเธอ แต่เธอก็ยังกลัว เหมือนกับว่าความหวาดกลัวที่มาจากก้นลึกหัวใจ
เย่ชิงหยู่มีอันตราย เขาไม่สามารถไม่สนใจได้อยู่แล้ว ท่าทางที่โมโหนี้น่ากลัวจริงๆ
ถ้าแม้แต่ฟางเหยียนยังทำอะไรไม่ถูก งั้นฟางไห่อิงเธอเองก็ยิ่งช่วยไม่ได้อยู่แล้ว ทำได้เพียงอยู่เฉยๆ ไม่ก่อปัญหาเพิ่มขึ้นถึงจะดีที่สุด
เพื่อยื้อเวลาไว้ ฟางเหยียนจึงตามขึ้นอีกครั้ง “แกเป็นใครกันแน่?”
ปลายสายก็ยังเงียบกริบเหมือนเดิม!
“ฉันรู้ว่าเย่ชิงหยู่อยู่ในกำมือแก แต่ฉันหวังว่าเธอจะอยู่อย่างปลอดภัยดี ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ถ้าหากว่าเธอบาดเจ็บแม้แต่ขนเส้นเดียว ฉันก็จะทำให้แกตายทั้งเป็น!”
ข่มขู่ก็ใช้ไม่ได้ ปลายสายก็เงียบเหมือนเดิม!
ไม่พูดไม่ได้ว่า จางไห่เฟิงนี่มีความอดทนสูงจริงๆ ทนได้มากขนาดนี้!
คิดๆไปก็ใช่ เย่ชิงหยู่อยู่ในกำมือเขา เรียกได้ว่าถือไพ่เหนือกว่า มีไพ่เหนือกว่า เขาจะกลัวอะไร? กลับกันในขณะที่เงียบอยู่นี้ จางไห่เฟิงเขาเพลิดเพลินสนุกมาก เพราะได้เห็นเย่ชิงหยู่อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออกและก็ไม่สามารถส่งเสียงออกมาอีกด้วย สะใจจริงๆ!
เขาเพลิดเพลินกับขั้นตอนนี้มาก เขาเพิ่งได้รู้ในตอนนี้ว่า การสร้างความเจ็บปวดให้กับคนอื่น ถึงจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุข!
และในตอนนี้ เขาค้นพบความสุขของการแก้แค้นแล้ว!
นี่ถึงจะเป็นการเริ่มต้นการแก้แค้นที่ดีที่สุด!
บงการทุกอย่าง ควบคุมชีวิตและการตายของผู้อื่น สะใจมากจริงๆเลย!
เขารู้ดีว่าฟางเหยียนไม่กล้าวางสาย เพราะถ้าวางสาย ผลลัพธ์จะคาดไม่ถึง เขาจะค้างไว้แบบนี้แหละ ให้ฟางเหยียนได้รู้ ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนที่บงการทุกอย่าง!
ฟางเหยียนมองเทียนขุยด้วยสายตาเย็นชา เทียนขุยส่ายหัวเบาๆ พูดเสียงเบาว่า “ยมราชยังสืบค้นอยู่ครับ รบกวนจอมพลโผ้จวินใจเย็นด้วยครับ”
ฟางเหยียนพยักหน้าเบาๆ ถามอีกครั้งว่า “ฉันเชื่อว่าแกมุ่งมาที่ฉัน เพราะงั้นพวกเราคุยกันได้ ทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้อง แกก็จะลดหมากที่ไว้ใช้เจรจา ดังนั้นฉันเชื่อว่าแกรู้ว่าควรจะเลือกยังไง?”
พูดจบ ฟางเหยียนก็มองไปยังเทียนขุย เทียนขุยส่ายหัวเบาๆ “จอมพลโผ้เจวินครับ ไม่สามารถยืนยันตำแหน่งของมันได้ครับ ยมราชบอกว่า ไอ้นี่มันใช้เทคนิคการปกปิดเครือข่ายแบบพิเศษครับ แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของคุณนาย ก็ไม่สามารถสืบหาตำแหน่งที่ชัดเจนของมันได้ ยมราชยังบอกอีกว่า สามารถยืนยันทิศทางได้ นั่นก็คือ IP ของเบอร์โทรนี้อยู่ที่จินโจวครับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฟางเหยียนก็พยักหน้า อยู่ที่จินโจวก็จัดการง่าย!
เงียบไปนาน ในที่สุดปลายสายก็ส่งเสียงดังขึ้น แต่ว่าน้ำเสียงฟังดูเย็นชามาก แต่ในความเย็นชานั้นกลับมีความดูถูกแฝงอยู่ด้วย
“นายพูดถูก ฉันมุ่งมาที่นาย แต่ว่ามีประโยคหนึ่งที่นายพูดผิด อะไรที่เรียกว่าทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้อง? แล้วจะลดหมากที่ใช้เจรจาของฉัน? นายคิดว่าเย่ชิงหยู่เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องจริงๆงั้นหรอ?”
แม้จะมีโทรศัพท์กั้นอยู่ ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงท่าทางที่วางตัวอยู่เหนือกว่าของจางไห่เฟิง
ฟางเหยียนคิ้ววขมวดแน่น ไม่เพียงแต่มุ่งมาที่เขา แต่ยังมีเย่ชิงหยู่ด้วย นี่ก็ยุ่งยากขึ้นแล้ว
“นายเป็นใคร?”
“ฉันเป็นใคร? นายคิดว่านายมีสิทธิ์ที่จะรับรู้? ฟังให้ดี ตอนนี้ฉันอดทนรอไม่ไหวที่จะเล่นเกมซ่อนหาแล้ว นายเป็นคุณชายตระกูลฟางไม่ใช่รึไง? นายมีฉายานามว่าเทพแห่งสงครามผู้ไม่พ่ายแพ้ของประเทศหวาไม่ใช่รึไง?ฉันอยากจะดูสักหน่อยว่านายมีอำนาจทั่วฟ้าจริงๆรึเปล่า จำไว้ ฉันจะให้คำใบ้กับนายเล็กน้อย โรงพยาบาล อ้อ ใช่สิ นายพรานในเกมซ่อนหาความอดทนมีขีดจำกัด เพราะยังไงซะก็ฆ่าไปคนหนึ่งแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเดี๋ยวฉันจะฆ่าเย่ชิงหยู่ทิ้งมั้ย”
“ดังนั้น ฟางเหยียน นายแคร์เย่ชิงหยู่มากไม่ใช่รึไง? อ้อ ลืมบอกไป เย่ชิงหยู่บอกมาว่าเธอนอกใจละ จิ๊ๆ ถ้าปล่อยข่าวนี้ออกไป อาจจะทำให้ทุกคนตกใจก็ได้ คุณนายของเทพสงครามผู้รุ่งโรจน์แห่งประเทศหวา สวมเขาให้กับเทพสงครามผู้รุ่งโรจน์ จิ๊ๆๆ ถ้าให้พวกสื่อข่าวพวกนั้นรู้ จะไม่ทำให้เกิดกระแสหนักในสังคมออนไลน์รึไง? แก้แค้นแล้วสามารถฆ่าคนๆหนึ่งทิ้งได้มันดีอยู่แล้ว แต่ทำให้มันทรมานทั้งเป็น ทำลายสิ่งที่มันมีอยู่ทั้งหมด มันดีกว่าฆ่ามันทิ้งใช่มั้ยละ? คุณว่ายังไงละครับ? จอมพลโผ้จวิน!”
“เอาละ เกมซ่อนหาเริ่มต้น ผมก็จะตั้งตารอต้อนรับจอมพลโผ้จวินนะครับ! อ้อ ไม่สิ ลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดไป นายสามารถใช้อำนาจภายนอกหรือแม้กระทั่งลูกน้องของนายสืบหาตำแหน่งที่อยู่ของฉัน แต่ว่าฉันอยากจะบอกนายไว้ว่า นายสามารถมาได้เพียงคนเดียเท่านั้น แม้แต่หมาข้างตัวนายตัวนั้นก็ห้าม เข้าใจมั้ย?”
ไม่รอให้ฟางเหยียนเอ่ยปาก เขาก็วางสายไปแล้ว
หลังจากที่วางสายไป ความคิดของฟางเหยียนก็หมุนอย่างว่องไว ภายในคำพูดของเขา เขาได้ข้อมูลสำคัญบางอย่างมา
อย่างแรกก็คือคนที่จับตัวเย่ชิงหยู่ไว้ไม่เพียงแค่มุ่งมาที่เธอ แต่ยังมีฟางเหยียนตัวเขาเองด้วย อย่างที่สอง คนๆนี้รู้ตัวตนของเขา นอกจากตระกูลฟางแล้ว ยังรู้อีกด้วยว่าเขามีตัวตนที่เป็นเทพสงครามผู้รุ่งโรจน์แห่งประเทศหวา อย่างที่สามก็คือในตอนที่จับตัวเย่ชิงหยู่ เขาว่าคนๆหนึ่งไป คนๆนั้นเป็นใคร? จะเป็นจางเจียวเจียวแม่ของเธอรึเปล่า? อย่างที่สี่ ข่าวที่เย่ชิงหยู่นอกใจ เขาไม่เชื่อด้วยซ้ำ เย่ชิงหยู่ไม่ใช่คนอย่างนั้น จากที่ดูแล้ว นี่เป็นการกระทำที่เย่ชิงหยู่ต้องการจะปกป้องเขา ดูท่าแล้ว คนที่จับตัวเธอมีที่มาที่ไปไม่น้อย อย่างน้อยก็เกินกว่าที่เย่ชิงหยู่รู้
ส่วนอย่างสุดท้าย นั่นก็คือเบาะแสที่คนๆนั้นพูดออกมา โรงพยาบาล!
โรงพยาบาลที่เขาบอก น่าจะไม่ใช่โรงพยาบาลตามที่ถูกกำหนดไว้ บางทีอาจจะเพราะอยากใช้โรงพยาบาลมาทำให้เขานึกคิดถึงบางสิ่ง เพราะยังไงซะเมื่อกี้ที่โทรศัพท์มา รอบด้านนั้นเงียบสงบมาก ไม่ใช่โรงพยาบาลที่มีความวุ่นวาย อีกอย่าง คนๆนั้นคงไม่โง่ขนาดนั้น รู้ตัวตนของฟางเหยียน แล้วยังบอกตำแหน่งที่อยู่ นี่มันหาเรื่องตายไม่ใช่รึไง?
แต่เขาอวดเก่งมากขนาดนี้ จะต้องมีที่พึ่งแน่นอน
ฟางเหยียนไม่ได้วิเคราะห์ต่อไป แต่หันหน้าไปหาเทียนขุย พูดเสียงทุ้มว่า “แม้จะพลิกแผ่นดินจินโจว ก็จะต้องหาตัวออกมาให้ได้!”
เทียนขุยพยักหน้า รีบจัดเตรียมผู้คนออกตามหา
ฟางเหยียนรีบกดโทรออก เขาจะต้องยืนยันเรื่องหนึ่ง ว่าคนที่ไอ้นั่นมันฆ่า ใช่แม่ของเย่ชิงหยู่รึเปล่า!
เพิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไว้ในมือ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น นี่คือเบอร์แปลกเบอร์หนึ่ง
เขาไม่ลังเล กดรับสาย ปลายสายก็ส่งเสียงร้องไห้ของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น
“คุณชายฟางครับ ผมขอโทษครับ ผมดูแลคุณนายไม่ดี ขอโทษครับ มีเพียงแค่ผมตายไปถึงจะทำให้คุณระบายความโกรธได้ ตอนนี้ผมยืนอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเทียนเยว่แล้วครับ ที่ผมโทรหาคุณ ไม่ใช่เพราะว่าผมจะขอให้คุณให้อภัย ผมแค่อยากจะบอกกับคุณว่าผมมันไร้ประโยชน์เอง ที่ถูกคนหลอก คุณนายถูกพาตัวไปจากโรงแรมเทียนเยว่ของผมแล้ว คืนนั้นผมไปคุยธุรกิจที่เจียงตู แล้วถูกคนลอบทำร้าย ผมขอโทษครับคุณชายฟาง”
“หลัวเทียนเยว่?” ฟางเหยียนนึกคิดสักพักแล้วก็ถามออกไป
“คุณชายฟาง ผมเป็นคนผิดคนหนึ่ง ผมขอโทษครับ”
ที่แท้ เย่ชิงหยู่ก็ถูพาตัวไปจากโรงแรมเทียนเยว่นี่เอง ฟางเหยียนพูดเสียงทุ้มว่า “นอกจากเย่ชิงหยู่แล้ว ยังพาตัวใครไปอีก?”
หลัวเทียนเยว่ที่อยู่ปลายสายชะงักไป แล้วก็รีบตอบกลับว่า “เหมือนว่าจะเป็นเลขาของเธอครับ ชื่อหยางเซินเซินอะไรเนี่ยแหละครับ”
เมื่อฟังถึงนี่ ฟางเหยียนก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง คนๆนั้นไม่ใช่จางเจียวเจียว