จอมนักรบทรงเกียรติยศ – บทที่ 846 นักรบเกราะทอง

บทที่ 846 นักรบเกราะทอง

เพียงสามคำ ก็พลันกลายเป็นสถานการณ์เลวร้าย เสียงระเบิดดังกระหึ่มทั่วทั้งสำนักกุ่ยกู๋!

โดยเฉพาะชายชราทั้งห้าคนของสำนักกุ่ยกู๋ เหมือนถูกฟ้าผ่าลงมากลางหัว ฟาดลงกลางใจของพวกเขาอย่างแรง จนตื่นตระหนกกันไปทั่ว!

จากนั้นทั้งห้าคนก็นิ่งเงียบ สายตาเหม่อลอย แล้วในหัวก็มีความคิดที่น่ากลัวผุดขึ้นมาทันที!

ไม่มีทางที่จะเป็นเขา!

ตอนนั้นเขาอายุเกินห้าสิบปีแล้ว แต่หนุ่มคนนี้เพิ่งยี่สิบกว่าปีเอง ไม่มีทางที่จะเป็นเขาไปได้!

หรือว่าจะเป็นลูกหลานของเขา?

ทั้งห้าคนสบตากัน ต่างก็มีความประหลาดใจแฝงอยู่ในแววตาเหมือนกัน เหมือนยอมรับไปโดยปริยายแล้ว เพราะยังไงกลิ่นอายและกระบวนท่าก็หลอกกันไม่ได้หรอก

ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งห้าคนเหมือนจะรู้อยู่แก่ใจแล้ว!

แต่พวกเขายังคงหวังว่าจะโชคดี ถึงแม้คนคนนั้นจะดุร้ายจนถึงขั้นไม่มีเหตุผล ถึงจะเป็นลูกหลานของเขาแล้วยังไงล่ะ? ยังไงก็อายุน้อยเกินไป จะสามารถแสดงพลังที่น่ากลัวของวิชาเพลิงสวรรค์อย่างแท้จริงได้ยังไง? อีกทั้งมีนินจาระดับต้าชี่ชั้นยอดจำนวนมากขนาดนี้ด้วย!

เพราะฟางเหยียนอายุน้อย ทั้งห้าคนจึงเก็บอาการหวาดกลัวข่มเอาไว้ในใจ แล้วทำท่าเหมือนไม่เกรงกลัวกันแม้แต่น้อย สำหรับพวกเขา ไม่มีใครสามารถทำลายทหารเมล็ดถั่วของเจ้าสำนักได้อย่างง่ายดายหรอก!

ใกล้แล้ว!

แสงสีทองเรืองรอง ปรากฏภาพมังกรสีทองทะยานสู่ท้องฟ้า เสียงร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า มังกรทองค่อย ๆ กลายเป็นของจริง โบยบินสู่ท้องฟ้า ราวกับจะกลืนกินท้องฟ้าเข้าไป!

เห็นฉากนี้แล้ว ทุกคนต่างตกตะลึงกันหมด ท่าทางที่ไม่เกรงกลัวกันเมื่อครู่นี้ได้ค่อย ๆ สลายหายไป แล้วกลายเป็นความหวาดกลัวจนตัวสั่นมาแทนที่!

ดุร้ายเกินไปแล้ว!

คนรุ่นหลังเหนือกว่าคนรุ่นก่อน ฝีมือเก่งกาจยิ่งกว่าคนคนนั้นเสียอีก แรงกดดันดูเหมือนจะโหดร้ายไม่เบาเลย!

เขาเป็นใครกันแน่?

ไม่มีใครรู้ แม้แต่กู่ปิ่งผู้สงบนิ่งที่เป็นเจ้าสำนักแห่งสำนักกุ่ยกู๋ ตอนนี้ยังเริ่มไม่มั่นใจขึ้นมาแล้ว!

เมื่อแสงสีทองและความทรงพลังตกลงมา เสียงก็ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วพื้นดิน ราวกับถูกโทษนภาลงทัณฑ์!

ปัง!

แสงสีทองส่องสว่างไปทั่วทุกที่ เสียงทหารแตกสลายดังกระหึ่มไปทั่ว เหมือนแสงอาทิตย์สาดส่องในยามค่ำคืน ทำให้ทหารเหล่านั้นสลายหายไปทันที!

เทียนขุยมองดูด้วยความอึ้งและทึ่ง!

ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้แต่ทั้งห้าคนของสำนักกุ่ยกู๋ก็ตะลึงตาค้างเช่นกัน!

ดุร้ายเกินไปแล้ว!

เสียงร้องคำรามของมังกรดังขึ้น เลื้อยตัวคดเคี้ยวไปมา ทำให้เกิดลมพายุโหมกระหน่ำ พัดถล่มทหารที่แสนทรงพลังเหล่านั้น!

หนึ่งนาทีผ่านไป ทหารที่ถูกสร้างขึ้นทั้งหมด ได้สลายหายไปจนหมดสิ้น!

มันจบแล้ว!

พรืด……

กู่ปิ่งเลือดลมพลุ่งพล่าน จากนั้นก็กระอักเลือดออกมา!

เขาถูกโจมตีกลับ ทำให้ชายชราทั้งสี่ตกใจกันไม่น้อย

พลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ เขายังใช่คนอยู่หรือเปล่า?

หลังจากที่ทหารสลายหายไปหมด ความมืดที่ปกคลุมท้องฟ้าก็จางหายไป แสงสว่างสดใสเข้ามาแทนที่ ราวกับทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

ฟางเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ชายชราที่เป็นผู้นำถูกโจมตีกลับ ส่วนเขามีอาการเจ็บป่วยเดิมกำเริบ เขาเองก็ได้รับผลสะท้อนกลับเช่นกัน แต่ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงเหมือนอย่างกู่ปิ่ง ที่มุมปากมีเลือดสีแดงเข้มไหลออกมา แต่ถูกเขาเช็ดออกไปอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ถูกเทียนขุยเห็นเข้า เทียนขุยเดินเข้าไปเงียบ ๆ ดูเหมือนเป็นการกอดไหล่ปกติ แต่เทียนขุยตั้งใจประคองฟางเหยียนเอาไว้ เพื่อไม่ให้เขาดูมีท่าทีผิดปกติ

แล้วกระซิบเสียงเบา ๆ ว่า : “จอมพลโผ้จวินครับ คุณไหวหรือเปล่า?”

ฟางเหยียนส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยเสียงต่ำ : “วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ยของสำนักกุ่ยกู๋ร้ายกาจสมคำร่ำลือ ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ต้องระวังไว้ให้ดีอย่าประมาท”

เทียนขุยพยักหน้าด้วยความเข้าอกเข้าใจ “จอมพลโผ้จวินครับ ผมรู้สึกว่าชายชราพวกนี้ผิดปกติ เมื่อครู่ตอนที่คุณใช้วิชาเพลิงสวรรค์ คุณไม่ได้สังเกตเห็นถึงแววตาที่ดูคาดไม่ถึงและรู้สึกช็อก เหมือนมีความแค้นกับคุณ!

ฟางเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ฉันไม่ทันได้สังเกต ตอนนี้ดูท่าทาง เรื่องนี้จะเกินความคาดหมายของพวกเราไปหน่อย”

เทียนขุยครุ่นคิดแล้วตั้งใจข่มเสียงให้ต่ำลง : “จอมพลโผ้จวินครับ ผมคิดว่าสำนักกุ่ยกู๋ลึกลับมาก ทำให้ผมดูไม่ออกเลย ท่าทีที่มีต่อพวกเรา เหมือนอยากฆ่าพวกเราให้ตายตั้งแต่แรกเลย สิ่งที่ทำให้ผมเดาไม่ถูกก็คือ พวกเขารู้สถานะที่แท้จริงของพวกเราหรือเปล่า? ต้องเผยเจตนาที่พวกเรามาที่นี่ให้รู้ดีไหม?”

เงียบไปครู่หนึ่งเทียนขุยได้เอ่ยต่อไปว่า : “จอมพลโผ้จวินครับ ผมไม่ได้จะแสดงความอ่อนแอนะครับ แต่นี่มันชั่วร้ายเกินไปแล้ว สำนักกุ่ยกู๋อยากฆ่าพวกเราให้ตาย มันดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เหมือนที่โบราณกล่าวไว้ หากสองฝ่ายทะเลาะกัน มือที่สามก็จะได้ประโยชน์ไปฟรี ๆ ผมกังวลมากว่าเป็นเพราะเพลิงเสวนยืมมือสำนักกุ่ยกู๋หรือเปล่า!”

จะผิดหรือถูก ฟางเหยียนไม่อยากคิดอะไรมากแล้ว ในเมื่อสำนักกุ่ยกู๋ลงมือสู้ แสดงท่าทีของตัวเอง แสดงความเกลียดชังซึ่งกันและกัน!

แค่เรื่องนี้ ฟางเหยียนก็ไม่มีทางใจอ่อน!

“เทียนขุย เตรียมพร้อมเปิดศึกอย่างเต็มที่ดีกว่ามามัวเห็นใจศัตรู!”

“เปล่าครับ จอมพลโผ้จวิน ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ผมคงจะบุกเข้าไปแล้ว ต่อให้เป็นสถานที่ที่อันตรายแค่ไหนผมก็ไม่หวาดหวั่น เพราะความอวดดีของผมขึ้นอยู่กับคุณ แต่ตอนนี้คุณมีอาการบาดเจ็บเดิมกำเริบ ผมอดคิดแทนคิดไม่ได้ คุณเคยพูดไว้ว่า อาจมีโอกาสมากที่สุดก็ได้”

เห็นได้ชัดว่า เทียนขุยไม่ได้ยอมแพ้ แต่ทำเพื่อความปลอดภัยของฟางเหยียน เขาจะยอมแพ้ได้ยังไงกัน? เขาไม่กลัวตาย แต่เขาไม่อยากให้ฟางเหยียนพ่ายแพ้อยู่ที่นี่ นั่นไม่เท่ากับทำให้เพลิงเสวนได้สมปรารถนาหรอกเหรอ?

ฟางเหยียนเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยพูด : “ฉันเข้าใจความหมายของนาย ฉันไม่อยากได้ยินคำพูดที่ไม่เข้าท่าอีกแล้ว เข้าใจไหม?”

เทียนขุยพยักหน้าหงึกหงึก แล้วมองตรงไปที่ห้าคนที่อยู่ในลานกว้าง เส้นเลือดนูนปูดขึ้นบนหน้าผาก แทบอยากพุ่งเข้าไปฆ่าเพื่อระบายความโกรธแค้น!

กู่ปิ่งผ่อนลมหายใจออกมา สีหน้าดูซีดเซียว แล้วเอ่ยถาม : “แกเป็นใครกันแน่!”

“ถ้าพูดออกมากลัวแกจะตกใจตาย!”

เทียนขุยจงใจยั่วโมโหกู่ปิ่ง ทำเพื่อถ่วงเวลาให้ฟางเหยียน ให้เขารีบฟื้นตัวกลับมา

“คิดว่าทำลายทหารเมล็ดถั่วของฉันได้แล้วสามารถวางท่ายโสโอหังได้งั้นเหรอ? น่าขำสิ้นดี!”

“มีความสามารถอะไรก็แสดงออกมาเถอะ อย่าเก่งแต่ปาก สำนักกุ่ยกู๋ก็ได้แค่นี้ล่ะวะ!”

“ไอ้หนุ่ม ต้องบอกว่า แกทำให้ฉันรู้สึกชื่นชมจริง ๆ เรื่องปะทะฝีปาก ฉันไม่อยากเถียงกับแกแล้ว ในเมื่อพวกแกไม่อยากบอกว่าตัวเองเป็นใคร งั้นก็ต้องบอกแล้ว!” กู่ปิ่งพูดด้วยเสียงดุร้าย : “เบญจธาตุทั้งห้าแห่งสำนักกุ่ยกู๋ บุกฆ่าให้หมด!”

เมื่อกู่ปิ่งพูดจบ ชายชราทั้งสี่ก็เดินออกมาทันที แล้วมายืนตำแหน่งธาตุไม้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุดิน ส่วนเขายืนประจำตำแหน่งธาตุโลหะด้วยท่าทางไม่รีบร้อน เผชิญหน้ากับฟางเหยียนและเทียนขุย ทั้งห้าคนต่างขยับนิ้วมือไปมา ด้วยท่าทางช่ำชอง พึมพำกับตัวเอง ฟังไม่ชัดเจนว่าพูดอะไร เอ่ยเสียงยาว ๆ และรวดเร็ว

และเมื่อทั้งห้าคนขยับนิ้วมือเร็วขึ้น ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆในตอนแรก ถูกเมฆดำปกคลุมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แม้แต่ฟ้าดินก็เปลี่ยนสีตามไปด้วย!

วิชาลับเบญจธาตุ?

ผสานวรยุทธเข้าด้วยกัน?

ฟางเหยียนเห็นอย่างนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คราวก่อนที่ได้เห็นวิชาลับเบญจธาตุก็คือที่ตระกูลฟาง ตอนที่ตระกูลฟางถูกฆ่าล้างตระกูล ได้พบกับนักเบญจธาตุมาแย่งชิงขลุ่ยวิเศษไป เดาได้ไม่ยากเลยว่า นักเบญจธาตุนั่นอยู่ตรงหน้าห้าคนนี้ ดูไม่พอเลยสักนิด!

นักเบญจธาตุอยู่ตรงหน้าห้าคนนี้ ช่างดูต่างกันราวฟ้ากับดิน!

นักเบญจธาตุอาศัยคุณสมบัติห้าประการ เพื่อสร้างวิชาลับเฟิงหัว ประมาทไม่ได้เด็ดขาด แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าห้าคนนี้ เรียกได้ว่าแม้แต่หิ้วรองเท้าก็ยังไม่คู่ควรเลย ถ้าหากนักเบญจธาตุมีระดับต้าชี่ชั้นยอด วิชาลับเบญจธาตุของพวกเขาอาจจะทำให้ฟ้าถล่มดินทลายเลยก็ได้!

วิชาลับเบญจธาตุที่ชายชราทั้งห้าของสำนักกุ่ยกู๋แสดงออกมา ได้ยืมใช้พลังจากสวรรค์และโลก เมื่อเห็นกำลังเบญจธาตุ อานุภาพของมันสูงกว่านักเบญจธาตุตั้งไม่รู้กี่เท่า และตอนนี้ตำแหน่งที่ทั้งห้าคนยืนอยู่ ได้เริ่มซึมซับธาตุบางส่วนของตัวเอง ดูท่าทางเหมือนกับย้อมสี อย่างเช่นตำแหน่งธาตุโลหะที่กู่ปิ่งยืนอยู่ ตอนนี้เขาแสงสีทองปกคลุมทั่วตัว และด้านข้างเขา ก็คือผู้อาวุโสหลินที่อยู่ในตำแหน่งธาตุไม้ สีเขียว……

ทั้งห้าคนยืนครองห้าตำแหน่ง แบ่งออกเป็น สีทอง สีเขียว สีฟ้า สีแดง สีน้ำตาล แต่ละคนได้หลอมรวมกับธาตุของตัวเอง กลายเป็นค่ายกลเบญจธาตุที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ และระหว่างทั้งห้าคนนั้น ดูเหมือนมีนักรบเกราะทองที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ออกมาจากพื้นดินคนหนึ่งด้วย!

ฟางเหยียนเห็นอย่างนี้ ก็หน้านิ่วคิ้วขมวด เทียนขุยร้องออกมาด้วยความตกใจ : “จอมพลโผ้จวินครับ น่าประหลาดจริง ๆ ลมหายใจนักรบเกราะทองนั่นเหมือนจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ พุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่ง!”

เขาดูออกตั้งนานแล้ว ว่าวรยุทธที่ทั้งห้าคนนี่หลอมรวมกัน น่ากลัวขนาดไหน ก้าวข้ามนินจาระดับต้าชี่ชั้นยอดไปแล้ว และก้าวข้ามนินจาระดับปรมาจารย์ไปแล้วด้วย ลมหายใจยังคงพุ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ นักรบเกราะทองยังค่อย ๆ แข็งแรงขึ้นด้วย!

“จอมพลครับ ชายชราพวกนี้โกรธจริง ๆ แล้ว! นักรบเกราะทองนี่ เกรงว่าจงใจสร้างมาเพื่อฆ่าพวกเรา!”

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

Status: Ongoing

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท