บทที่ 48 ขอบใจนะซูหม่า!
ภายใต้การยืนกรานของซูหม่า เถ้าแก่ร่างอ้วนก็หยิบลอตเตอรี่ที่เหลือออกมาทั้งหมดอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
“โอ้! ฉันมั่นใจว่าฉันจะต้องโชคดีอย่างแน่นอน” ซูหม่ามองไปที่กองลอตเตอรี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม
ในความคิดของซูหม่านั้น ที่เถ้าแก่อ้วนไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่คุยกันไว้กับเขาในตอนแรก ในเรื่องที่จะทำให้จี้เฟิงเสียเงินค่าลอตเตอรี่ไปเปล่าๆโดยไม่ได้รางวัลอะไรเลย เพราะฉะนั้นมันต้องมีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าอย่างไรเถ้าแก่อ้วนคงไม่กล้าพอที่จะรับลอตเตอรี่ที่ไม่ทำกำไรให้กับตัวเองแล้วนำมาขายอย่างแน่นอน!
แต่ซูหม่าไม่ได้คาดหวังว่าเถ้าแก่อ้วนจะนำลอตเตอรี่ที่มีเงินรางวัลทั้งหมดมอบให้กับเขาในตอนแรก เพราะไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องยากที่เถ้าแก่อ้วนคนนี้จะทำธุรกิจด้านนี้ไปได้ตลอด
ดังนั้นเมื่อซูหม่าขูดลอตเตอรี่ใบแรกอย่างกระตือรือร้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายวับไปทันทีอย่างไรร่องรอย
ใบแรกไม่มีเงินรางวัล!
“แม่งเอ๊ย!” ซูหม่าก่นด่าในใจ จากนั้นเขาก็หยิบมาขูดอีกสองสามใบ แต่สุดท้ายก็ยังคงไม่มีเงินรางวัล!”
โหลถัดไปหรือมากกว่านั้นเป็นลอตเตอรี่ที่ว่างเปล่าโดยไม่มีรางวัลใดๆ เลย และใบหน้าของซูหม่าก็มืดมนขึ้นเรื่อยๆ เขามองไปที่เถ้าแก่อ้วนอย่างเย็นชาขนาดแม้แต่คนตาบอดยังสามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกจากสายตาของเขาได้!
“อ่า..น้องชาย พวกเธอยังคงเป็นนักเรียนกันอยู่ มันจะต้องใช้เงินหลายพันหยวนเลยทีเดียวหากต้องการที่จะซื้อลอตเตอรี่ทั้งหมด! ฉันคิดว่าเธอน่าจะพอแค่นี้ก่อนดีกว่า!” แม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะถูกเปิดอยู่ในร้าน แต่ใบหน้าอ้วนๆของเขาก็มีเหงื่อท่วมอยู่เต็มไปหมด มันเห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขารู้สึกประหม่าแค่ไหน!
โดยปกติซูหม่าไม่ใช่คนโง่ เมื่อมองไปที่ท่าทางที่ประหม่าสุดๆของเถ้าแก่เจ้าของร้าน เขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล เขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “เหอะ! เถ้าแก่เอาลอตเตอรี่ที่ไม่มีรางวัลมาให้ฉันเล่นแบบนี้ ฉันจะไม่เล่นมันอีกแล้ว และฉันก็จะแจ้งเรื่องให้เจ้าของที่ตรงนี้ทราบ และเป็นไปได้ว่าเถ้าแก่อาจจะต้องย้ายที่ทำมาหากินแล้วล่ะ!”
เถ้าแก่ร่างอ้วนสั่นกลัวไปทั้งตัวเขาพูดอย่างรีบร้อน “น้องชายคนนี้ อย่าพูดล้อเล่นกันแบบนี้เลย ลอตเตอรี่เหล่านี้ถูกปิดด้วยแผ่นสีเงินทั้งหมด ฉันจะสามารถมองทะลุเห็นมันได้อย่างไร!?”
เมื่อพูดจบเขามองไปที่จี้เฟิงโดยไม่รู้ตัวและคิดในใจว่า “เด็กคนนี้มันเลือกซื้อลอตเตอรี่เหมือนกับรู้ว่าใบไหนมีรางวัลใบไหนไม่มีรางวัล ทำอย่างกับมีความสามารถพิเศษมองทะลุได้อย่างงั้นแหละ!”
เมื่อความคิดนี้แวบขึ้นมาในใจ เขารู้สึกว่าตัวเองอาจจะเพี้ยนไปแล้ว ความสามารถพิเศษแบบในนิยายมันจะปรากฏในความเป็นจริงได้อย่างไร
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เถ้าแก่ร่างอ้วนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาคาดเดาโดยบังเอิญนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอย่างที่เขาคิด แต่เขาไม่มีทางรู้เลยว่า เขาอยู่ห่างจากความจริงนี้เพียงก้าวเดียว!
ใบหน้าของซูหม่ายังคงมืดมนอย่างเห็นได้ชัด เขาแอบตัดสินในใจแล้วว่า เรื่องนี้ต้องไม่จบง่ายๆ แน่ ไอ้เถ้าแก่อ้วนที่เป็นเจ้าของร้านลอตเตอรี่ได้ทุกวันนี้ก็เป็นเพราะมาพึ่งพาอำนาจของครอบครัวเขา แต่ตอนนี้มันกลับไม่ให้ความร่วมมือและลืมบุญคุณของครอบครัวเขา และยังกล้าให้ลอตเตอรี่ที่ไม่มีรางวัลใดๆ เลยกับเขา นี่มันไม่ต่างจากการท้าทาย!
ลอตเตอรี่ที่เถ้าแก่อ้วนได้รับคำสั่งจากซูหม่า ถูกมอบให้กับเขาในช่วงแรก และลอตเตอรี่เกือบทุกใบล้วนมีเงินรางวัล แต่ดูเหมือนซูหม่าจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เขาจำได้แค่เพียงว่าภายหลังที่เขาได้รับลอตเตอรี่มานั้นไม่มีเงินรางวัลใดๆ เลย และถึงแม้ว่าคนอย่างเขาจะจำได้ แต่ด้วยนิสัยที่เป็นคนไม่เคยยอมรับผิด เขาจะไม่คิดว่ามันเป็นความผิดพลาดของตัวเขาเอง แต่กลับจะยิ่งโยนความผิดให้กับเถ้าแก่อ้วนทั้งหมด!
………
เนื่องจากเหตุการณ์ในวันนี้… จึงทำให้เถ้าแก่ร่างอ้วนมีชีวิตที่น่าสังเวชในเวลาต่อมา และในที่สุดเขาก็ต้องออกจากเมืองไป แต่หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็ค่อยๆ ดีขึ้นและมีความเกี่ยวข้องกับจี้เฟิงเล็กน้อย แน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภายหลัง…
………
ในเวลานี้จี้เฟิงและจางเล่ยกำลังหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุขพร้อมกับคำนวณเงินรางวัลที่ได้รับจากการเล่นลอตเตอรี่แบบขูด แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถนับได้ทั้งหมด จึงได้ขอยืมเครื่องคิดเลขจากเถ้าแก่เจ้าของร้านและเริ่มนับใหม่ทีละใบ..
ซูหม่าเฝ้าดูจี้เฟิงและพวกที่เหลือทั้งหมด ที่กำลังยุ่งอยู่กับการนับเงินรางวัล ด้วยใบหน้าที่มืดมน รวมถึงเถ้าแก่อ้วนที่ยืนอยู่ข้างๆซูหม่าก็เช่นกัน เขามีสีหน้าที่ย่ำแย่จนเกือบจะมีหยดน้ำออกมาจากดวงตาแต่เขาก็ระมัดระวังและพยายามที่จะยิ้มให้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่หัวใจของเขายังคงเต้นเร็วอยู่ตลอดเวลา…!!
ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะทำให้ซูหม่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาต้องหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุด!
“คำนวณเสร็จแล้ว!!”
เสียงของถงเล่ยทำลายความเงียบในร้าน ใบหน้าที่สวยและตื่นเต้นของเธอแดงขึ้นเล็กน้อย เธอเขย่าเครื่องคิดเลขในมือและพูดด้วยความประหลาดใจ “จี้เฟิง นายน่าทึ่งจริงๆ นายรู้ไหมว่านายจะได้เงินเท่าไหร่?”
จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้มบางๆ หลังจากคิดในใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วเขาก็พูดว่า “น่าจะ..หมื่นหรือสองหมื่นหยวน?”
ทันทีที่ซูหม่าได้ยินตัวเลขนี้ สีหน้าของเขาดำมืดลงอีกครั้ง และวันนี้เขาก็กลายเป็นคนที่พ่ายแพ้ นอกจากจะทำอะไรจี้เฟิงไม่ได้แล้ว ยังทำให้จี้เฟิงได้เงินอีกต่างหาก!
“คิกคิก~”
ถงเล่ยหัวเราะคิกคักและเขย่าเครื่องคิดเลขที่ถืออยู่ในมือ เธอยิ้มและพูดว่า “ถ้ามากกว่าหนึ่งหรือสองหมื่นหยวน ส่วนที่เกินมาเป็นของฉันแล้วกันนะ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” จี้เฟิงหัวเราะแล้วตอบว่า “ไม่มีปัญหา ให้ได้อยู่แล้ว รวมถึงทุกคนเลย เพราะถ้าไม่ได้ทุกคนช่วยขูดลอตเตอรี่และนำโชคดีมาให้ ฉันก็อาจจะไม่ได้อะไรเลยก็เป็นได้!”
ใบหน้าที่สวยปนน่ารักของถงเล่ยแดงระเรื่อทันที เธอมองไปที่จี้เฟิงด้วยสายตาอันลึกซึ้งครู่หนึ่งแล้วเธอก็หันหน้าหนีไป
“หัวหน้าชั้น ทั้งหมดเท่าไหร่รีบบอกมา!” จางเล่ยพูดอย่างตื่นเต้นอยู่ข้างๆ เขา
ถงเล่ยหัวเราะคิกคักและพูดว่า “ฟังให้ดี… ทั้งหมดคือหกหมื่นสามพันสองร้อยยี่สิบสองหยวน!”
“เห้ยยยย!!!!”
เมื่อได้ยินตัวเลขทั้งหมด ทุกคนถึงกับอดไม่ได้ที่จะหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง
นี่มัน.. เป็นเงินมากกว่า 60,000 หยวน และแม้ที่บ้านของจางเล่ยและซูหม่าจะไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่จำนวนเงินที่มากกว่า 60,000 หยวนก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ เลย
สองพี่น้องจางเล่ยและถงเล่ย รู้สึกมีความสุขและยินดีกับจี้เฟิงอย่างจริงใจ พวกเขารู้ถึงสถานการณ์ของครอบครัวจี้เฟิงดี ด้วยเงินที่มากกว่า 60,000 หยวนนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของครอบครัวจี้เฟิงจะคลี่คลายลงอย่างมาก!
……จบบทที่ 48~