The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 142 อาไห่เซียนหยก~!

บทที่ 142 อาไห่เซียนหยก~!

แม้ว่าการสนทนาระหว่างฉินซูเจี๋ยกับชายวัยกลางคนจะเบามากแต่ความสามารถทางด้านการฟังของจี้เฟิงนั้นเหนือกว่าคนธรรมดา เขาจึงได้ยินมันทั้งหมด
จี้เฟิงหันศีรษะเล็กน้อยและมองไปที่ชายวัยกลางคนเขามีความรู้สึกว่าชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ธรรมดา และถ้าจี้เฟิงเดาไม่ผิดเขาน่าจะเป็น ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ที่ฉินซูเจี๋ยจ้างมา
การเดิมพันกับแร่หินหรือหินหยกหยาบมีความเสี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัยดังนั้นเมื่อพวกเขาไม่สามารถควบคุมโชคของตัวเองได้ สายตาอันเฉียบแหลมที่ผ่านประสบการณ์มากมายในการพนันหินจึงกลายเป็นสิ่งที่นักพนันหินหยกทุกคนใฝ่ฝันหา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหล่าบริษัทจิวเวลรี่รายใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจด้วยอัญมณีอย่างหยกเป็นหลัก หากมีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ในบริษัท ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถเข้าร่วมการพนันหินหยกได้โดยตรงเท่านั้นแต่ยังไม่ต้องติดต่อซื้อขายแร่หินหรือหินหยกหยาบจากนักพนันหรือผ่านพ่อค้าคนกลาง และยังช่วยลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็นต่อหยกที่อยู่ในหินอีกด้วย
คุณรู้ไหมว่าการพนันหินหยกนั้นไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างที่คิดมีผู้คนนับหมื่นนับแสนที่เสียเงินจากการพนันหินหยกหลายล้านหรืออาจจะหลายสิบล้านจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นสำหรับบริษัทจิวเวลรี่เหล่านั้นหากสามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการเดิมพันกับแร่หินได้นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะสามารถประหยัดเงินได้จำนวนหนึ่งและถึงแม้ว่าบริษัทจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นราคาแพงให้กับผู้เชี่ยวชาญแต่เม็ดเงินที่ใช้จ่ายในส่วนนั้นก็น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญ
เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆฉินซูเจี๋ยน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่บริษัทของเธอว่าจ้างหรืออาจเป็นคนรู้จักเก่าของเธอ
“ถ้าเป็นไปได้ฉันจะต้องเข้าไปพูดคุยสอบถามชายวัยกลางคนคนนี้เกี่ยวกับเรื่องของการพนันหินหยกให้ได้!”จี้เฟิงคิดกับตัวเองอยู่ในใจ ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถมองทะลุหินและเห็นหยกที่อยู่ข้างในได้โดยตรงแต่เขาก็วางแผนที่จะหาโอกาสเพื่อผูกมิตรกับชายวัยกลางคนผู้มีประสบการณ์คนนี้ เพราะนอกจากจะได้ความรู้เพิ่มเติมที่หาไม่ได้จากในอินเทอร์เน็ตแล้ว ในสายตาคนอื่นเขาอาจจะถูกมองเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากพอและมันจะทำให้เขาดูโง่จนถูกกดราคา แต่ถ้าเขาได้รู้จักสนิทสนมกับผู้เชี่ยวชาญในการพนันหินหยก มันก็จะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ได้ด้วย
“ตัดหิน!”
เสียงตะโกนจากหัวหน้าช่างแผนกตัดหินดังขึ้นทำให้ความคิดของจี้เฟิงหยุดลง เขาหันศีรษะไปทันทีแล้วพบว่ามีแร่หินหยาบขนาดพอๆกันกับของเขาถูกวางอยู่บนเครื่องตัดหินข้างๆเครื่องตัดหินของเขา และมีอู๋ฉางฉุนกำลังออกคำสั่งชี้ไม้ชี้มือไปที่ใครบางคนอยู่
ทันใดนั้นใบหน้าของจี้เฟิงก็ปรากฏรอยยิ้มที่มุมปากพลันนึกในใจว่าถ้าหากอู๋ฉางฉุนเห็นหยกที่อยู่ข้างในของแร่หินที่เขาซื้อมาในราคาที่มากกว่าหกล้านหยวนมีขนาดเล็กกว่ากำปั้นของเด็กทารกแถมยังพ่ายแพ้แร่หินของเขาที่ดูภายนอกไม่มีอะไรเลยใบหน้าของอู๋ฉางฉุนจะเป็นอย่างไร
“แอ่ดดดด…ดด! !”
เสียงของล้อเจียรตัดหินที่รุนแรงทำให้จี้เฟิงรู้สึกหนวกหูและขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่ามันเป็นขั้นตอนที่จำเป็น แต่เขาก็ยังไม่ชินกับเสียงบาดหูแบบนี้อยู่ดี อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันเขาก็เห็นแร่หินของอู๋ฉางฉุนที่ถูกตัดได้รับการเปิดเผยให้เห็นถึงภายในทีละน้อย
แต่แล้วจี้เฟิงก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างที่ทำให้เขามีความอดทนต่อเสียงตัดหินเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันเทียบกับการได้เห็นใบหน้าของอู๋ฉางฉุนที่ทำหน้าราวกับพ่อตายแล้ว การทนฟังเสียงหนวกหูของเครื่องตัดหินก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป
ในความเป็นจริงไม่เพียงแต่จี้เฟิงเท่านั้นที่มีปัญหากับเสียงที่ดังหนวกหูของการตัดหินเพราะแม้แต่ฉินซูเจี๋ยที่มักจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเป็นประจำรวมถึงคนขับรถหวังและชายวัยกลางคนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงมันดังเกินไปจริงๆ
แร่หินของอู๋ฉางฉุนถูกตัดออกเล็กน้อยโดยอู๋ฉางฉุนเป็นผู้ลงมือเองเนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวเขาจึงถอดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของเขาออกและสวมเพียงเสื้อกั๊กตัวเล็ก มันจึงทำให้เห็นถึงไขมันบนร่างกายของเขากระเพื่อมผ่านเสื้อกั๊กตัวเล็กราวกับว่าเขาสวมถุงน้ำอยู่รอบตัว
อู๋ฉางฉุนที่เหงื่อออกถือด้ามเครื่องตัดหินไว้ในมือและค่อยๆตัดหินทีละนิดอย่างต่อเนื่องตามประสบการณ์ของเขาเองอย่างไรก็ตามหลังจากที่ตัดชั้นแรกออกไปหมอกสีเขียวก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนับประสาอะไรกับหยก
อู๋ฉางฉุนเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีแต่เขาก็กัดฟันและยังคงตัดหินต่อไป
จนกระทั่งอู๋ฉางฉุนตัดหินออกมาจนแร่หินก้อนใหญ่กลายเป็นเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ยังไม่พบหยกในทุกเศษซากของแร่หินที่ถูกตัดออกมามีเพียงแค่หมอกสีเขียวจางๆ และในตอนนี้แร่หินที่ถูกตัดออกมามีขนาดเท่ากับเศษหินเล็กๆที่จี้เฟิงซื้อมาในตอนแรก
“มันจบแล้ว!”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเหนื่อยจากการตัดหินหรือเพราะความรู้สึกที่ต้องสูญเสียเงินมากกว่าหกล้านหยวนไปกับเศษหินอู๋ฉางฉุนนั่งลงไปบนพื้นด้วยท่าทีหมดอะไรตายอยากและมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
สองพี่น้องฮูซู่ฉินและฮูซู่ฮุ่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างก็มีใบหน้าที่ซีดเผือดไม่ต่างกันพวกเธอจ้องมองไปที่แร่หินที่ตอนนี้กลายเป็นเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยโดยไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นความจริง เงินมากกว่าหกล้านหยวนกลายเป็นเศษหินในพริบตา! ไม่มีใครยอมรับเรื่องนี้ได้ง่ายๆ แล้วนับประสาอะไรกับสองพี่น้องที่มาจากเขตเมืองเล็กๆ!
เมื่อมองไปที่อู๋ฉางฉุนที่นั่งอย่างหมดสภาพผู้สังเกตการณ์โดยรอบเหล่านั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว แต่ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจมากนัก
‘หนึ่งตัดในสวรรค์หนึ่งตัดในนรก!’สำนวนนี้มันชัดเจนและยังใช้ได้ตลอด หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจเพราะไม่เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้กับตัวเอง แต่สำหรับคนที่เคยพนันหินหยกแล้วพบกับความพ่ายแพ้ ทุกคนต่างเคยเจอเรื่องแบบนี้และส่วนใหญ่จะเสียหายมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่อู๋ฉางฉุนเจอเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ
จี้เฟิงเพียงแค่หัวเราะเยาะอยู่ในใจเขาไม่มีความเมตตาใดๆต่อคนอย่างอู๋ฉางฉุน ผู้ฝึกสอนในระบบฝึกอบรมสายลับระดับสูงเคยกล่าวไว้ว่า “การสงสารศัตรูคือการขุดหลุมฝังศพให้ตัวเอง!”
จี้เฟิงเชื่อมั่นในประโยคนี้อย่างจริงจังและจดจำมันไว้ในใจของเขาไม่เคยลืมมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ครั้งนี้ยังแค่เด็กๆต่อจากนี้ก็รอเจอของจริงได้เลย!” จี้เฟิงเหลือบมองไปที่อู๋ฉางฉุน จากนั้นสายตาของเขาก็เลื่อนไปที่ใบหน้าที่เคยสวยงามของฮูซู่ฮุ่ยที่ตอนนี้มีแต่ความหมองคล้ำ และทันใดนั้นจี้เฟิงก็ขมวดคิ้วพร้อมกับมีความรู้สึกขยะแขยง
“ทำตัวเองแท้ๆ!”จี้เฟิงพูดออกมาเบาๆ
“หยุด!”
ในขณะนั้นเองเจ้าของร้านที่เฝ้ามองการตัดหินอย่างระมัดระวังอยู่ตลอดเวลาก็ตะโกนขึ้นทันใดนั้นพนักงานก็หยุดและสายตาของคนอื่นๆก็ถูกดึงดูดและหันไปมองยังจุดเดียวกัน
หมอกสีเขียวหนาทึบปรากฏขึ้นบนหินหยาบที่ถูกตัดซึ่งน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของเนื้อหยก
“สุภาพบุรุษท่านนี้จะให้ผมดำเนินการต่อแบบไหนดี จะให้ตัดต่อไปหรือจะเปลี่ยนเป็นเจียร” เจ้าของร้านเครื่องตัดหินถาม
เนื่องจากมีแนวโน้มสูงมากที่จะมีเนื้อหยกต่อจากนี้และพนักงานได้ตัดจนถึงส่วนที่จี้เฟิงนั้นวาดชอล์กออกไปหมดแล้ว และแน่นอนว่าเพื่อความปลอดภัย เจ้าของร้านจึงต้องขอคำแนะนำจากจี้เฟิงซึ่งเป็นเจ้าของแร่หิน
จี้เฟิงคิดสักพักจากนั้นก็หันไปถามชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆฉินซูเจี๋ย“คุณอา คุณมีความคิดเห็นอย่างไรครับ”
ชายวัยกลางคนผงะไปชั่วขณะเขาไม่คาดคิดว่าจี้เฟิงจะมาขอคำปรึกษาจากเขาแต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทางอวดเก่งหรืออ่อนน้อมถ่อมตนมากจนเกินไป เขาครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะตอบไปว่า “ไม่ต้องตัดแล้ว เจียรมันแทน!”
จี้เฟิงแอบยกนิ้วให้กับชายวัยกลางคนอยู่ในใจจี้เฟิงที่สามารถมองทะลุจนเห็นเนื้อหยกข้างในได้เขาจึงรู้ดีว่าตอนนี้เหลือเพียงชั้นหินบางๆกั้นหยกอยู่เท่านั้น ถ้ายังตัดสินใจที่จะตัดมันต่อ มันจะส่งผลเสียกับเนื้อหยกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามชายวัยกลางคนคนนี้ที่ไม่สามารถมองเห็นได้เหมือนกับจี้เฟิงแต่เขากลับสามารถตัดสินได้อย่างแม่นยำเพียงแค่อาศัยประสบการณ์และวิสัยทัศน์เท่านั้น เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านประสบการณ์มามากมายอย่างไม่ต้องสงสัย!.Aileen-novel.
“เดี๋ยวก่อน!”ชายวัยกลางคนเหมือนเห็นอะไรบางอย่าง เขาหันหน้าไปทางจี้เฟิงและพูดว่า “คุณจี้ คุณเชื่อมือฉันหรือเปล่า จะเป็นอะไรมั้ยถ้าฉันจะลงมือเจียรมันเอง!”
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนที่กำลังคันไม้คันมือจี้เฟิงก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า“แน่นอนครับ แต่ก่อนอื่นคุณอาเรียกผมว่าจี้เฟิงดีกว่า เรียกคุณจี้มันแปลกๆยังไงไม่รู้!”
“ฮ่าๆ!ดีๆ!” ชายวัยกลางคนพยักหน้าเขาหัวเราะเล็กน้อยและตอบรับด้วยความยินดี “จี้เฟิงเธอเป็นชายหนุ่มที่ดี ถ้าอย่างนั้นเธอก็เรียกฉันว่าอาไห่ก็แล้วกัน!”
“อาไห่!”จี้เฟิงพูดทันที
อาไห่พยักหน้าอย่างมีความสุขและเดินไปทันทีเขารับเครื่องตัดหินที่ตอนนี้พนักงานได้เปลี่ยนเป็นหัวเจียรไว้เรียบร้อยแล้ว อาไห่สตาร์ทเครื่อง และลงมือขัดทันที
“หืม!อาไห่ เขาลงมือเองเลยงั้นเหรอ?!” เสียงอุทานอย่างประหลาดใจดังขึ้นจากกลุ่มฝูงชน
ในขณะนี้หลายคนจำได้ว่าอาไห่เป็นใครและเริ่มพูดคุยกัน
“อาไห่คนนั้นน่ะหรอเป็นเขานี่เอง แสดงว่าแร่หินก้อนนี้จะต้องมีเนื้อหยกอย่างแน่นอน สายตาของอาไห่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ!”
“ใช่! ในตอนแรกแร่หินก้อนนี้ไม่มีลักษณะบ่งบอกใดๆเลยแม้แต่น้อย!”
“ฉันเกรงว่าหยกข้างในนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนไม่อย่างนั้นอาไห่คงจะไม่ลงมือทำมันด้วยตัวเอง!”
………
ยิ่งการสนทนาดังขึ้นความประหลาดใจของจี้เฟิงก็รุนแรงขึ้นเขาไม่คาดคิดว่าอาไห่ที่อยู่ในวงการนี้จะเป็นที่รู้จักและเป็นที่เคารพนับถือราวกับเป็นผู้มีอำนาจในวงการแร่หินหยกขนาดนี้
ขณะที่อาไห่ใช้หัวเจียรค่อยๆขัดแร่หินสายตาของทุกคนก็จดจ่อไปที่แร่หินที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาอย่างไม่ละสายตา
แม้แต่นักธุรกิจหลายคนก็เริ่มหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรแล้วในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเตรียมระดมทุนจากบริษัทของตัวเองหรือบริษัทในเครือต่างๆ เพื่อรอซื้อหยกที่จะออกเร็วๆนี้ ครั้งนี้จี้เฟิงยิ่งประหลาดในมากขึ้นกว่าเดิม ดูเหมือนว่าอิทธิพลของอาไห่นั้นจะไม่น้อยเลยจริงๆ
ในเรื่องของแร่หินหยกนั้นจี้เฟิงไม่ได้ตื่นเต้นกับมันเท่าไหร่เพราะเขาสามารถมองเห็นหยกข้างในได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว แม้ว่าหัวใจเขาจะเต้นเร็วขึ้นบ้างเล็กน้อยในทุกครั้งที่มองดู แต่ยิ่งมองดูมันบ่อยมากขึ้นเท่าไหร่ ความเคยชินของเขาก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
“สีเขียว!ฉันเห็นสีเขียว!”
มีเสียงหนึ่งตะโกนดังขึ้นไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใคร แต่เสียงของเขาก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที พวกเขายิ่งเพ่งมองไปยังแร่หินที่ถูกขัดโดยฝีมือของอาไห่และเริ่มซุบซิบกัน
“เอาน้ำมา!”อาไห่ตะโกนเสียงดังลั่น พนักงานคนหนึ่งรีบวิ่งไปตักน้ำใสใส่ถังใบเล็กๆมาและส่งให้กับอาไห่อย่างรวดเร็ว อาไห่เทน้ำลงบนแร่หินโดยไม่รีรอ
ทันใดนั้นเนื้อหยกสีเขียวใสก็ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน
“ผลออกมาแล้ว!ผลออกมาแล้ว!”
“เขาชนะพนัน!”
ทุกคนต่างตื่นเต้นและพูดขึ้นทันที
“จี้เฟิงฉันบอกกับเธอได้เลยว่าหยกข้างในแร่หินก้อนนี้ไม่ใช่เล็กๆ!” ใบหน้าของอาไห่ตื่นเต้นมากเช่นกัน “ไม่ว่าเธอจะขัดเจียรมันต่อหรือจะขายมันทั้งแบบนี้ก็แล้วแต่เธอจะตัดสินใจ!”
“น้องชายสุดหล่อขายให้พี่ชายคนนี้เถอะ พี่จะให้ราคาดีสุดๆ!” นักธุรกิจคนหนึ่งเสนอขึ้นอย่างไม่รอช้า
“ใช่ๆมีอาไห่อยู่ที่นี่เราไม่มีทางให้ราคาไม่ดีอย่างแน่นอน!” นักธุรกิจอีกคนก็พูดขึ้นอย่างรีบร้อนเช่นกัน
………
หลายคนยังคงพูดเสนอราคาและสอบถามเพื่อขอซื้อแร่หยกจากจี้เฟิงอย่างรีบร้อนแต่จี้เฟิงทำเพียงแค่ส่ายหัวและยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น “ทุกๆท่าน ผมขอพูดอะไรสักหน่อย ผมจะยังไม่ขายแร่หินในตอนนี้!”
เหตุผลที่จี้เฟิงพูดออกมาเช่นนี้นั้นมีเหตุผลด้วยกันสองประการประการแรกคือเขารู้ดีว่าหยกที่อยู่ในแร่หินก้อนนี้นั้นมีขนาดใหญ่แค่ไหน ส่วนประการที่สองเขาเห็นสีหน้าและสายตาของอาไห่ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเขาอยากจะขัดแร่หินก้อนนี้ต่อไป
และทันทีที่อาไห่ได้ยินที่จี้เฟิงพูดเขาก็พยักหน้าทันทีและพูดขึ้นว่า “ขัดต่อไป!”
ด้วยเสียงล้อเจียรที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องมันทำให้ผู้คนที่สนใจในแร่หินก้อนนี้ต่างรู้สึกประหม่า จากมุมมองในปัจจุบัน จะต้องมีการแข่งขันที่สูงมากสำหรับแร่หินหยกก้อนนี้อย่างแน่นอน แต่ความประหม่าไม่ได้เกิดขึ้นกับอาไห่ผู้ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน เขามีเพียงความตื่นเต้นสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการแร่หินหยกที่กำลังจะได้เห็นหยกขนาดใหญ่ถูกขัดเจียรด้วยมือของเขาเอง ความสงสัยเกิดขึ้นในจิตใจของผู้สังเกตการณ์โดยรอบและอยากจะรู้ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น!

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

Status: Ongoing

       ตลอดชีวิตที่ถูกมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม จนถึงจุดต่ำสุดของชีวิต จี้เฟิงได้รับพลังมาจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าปัจจุบันมาก มันช่วยเพิ่มความสามารถในทุกๆด้านราวกับเวทมนตร์ ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเขาก็ไม่ธรรมดาอีกต่อไป! ด้วยระบบอัจฉริยะที่จี้เฟิงได้ฝึกฝนจนบรรลุทักษะพิเศษ ชีวิตของจี้เฟิงกลายเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน