เมื่อจี้เฟิงเข้าไปในห้องพักของถงเล่ยได้แล้วเขาก็เห็นถงเล่ยยืนอยู่ที่ด้านในห้องตรงฝั่งของระเบียงด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงและมองไปที่ประตูห้องอย่างระแวดระวัง แต่ไม่ได้มีอาการตื่นตระหนก
ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องพักมีหญิงสาวสี่คนยืนอยู่ด้วยกันมีคนหนึ่งค่อยๆปิดประตูหอพักลงอย่างเงียบๆและในขณะเดียวกันพวกเธอก็จ้องมองมาที่ถงเล่ยด้วยความไม่หวังดี
จี้เฟิงเข้าไปข้างในระเบียงแต่ยังไม่ได้เผยตัวออกมา เขาซ่อนตัวอยู่ที่หลังม่าน
“จี้…”ถงเล่ยตกใจกำลังจะเอ่ยปากเรียกแต่ถูกจี้เฟิงห้ามไว้ได้ทัน”
“ชู่…”จี้เฟิงทำท่าบอกให้ถงเล่ยเงียบเอาไว้ก่อนและยิ้มอย่างมีความหมาย
ความรู้สึกบางอย่างก็ผุดขึ้นในจิตใจของถงเล่ยเมื่อเธอเห็นจี้เฟิงความวิตกกังวลและความตึงเครียดในหัวใจของเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยภายในพริบตาและมันก็ทำให้เธอรู้สึกสงบลงในทันที จากนั้นเธอก็หันไปจ้องมองหญิงสาวทั้งสี่ด้วยสายตาที่เย็นชา
ผ่านช่องว่างในม่านจี้เฟิงก็มองเห็นหญิงสาวทั้งสี่คนนี้เช่นกันและเมื่อเขาเห็นใบหน้าของพวกเธออย่างชัดเจนคิ้วของเขาก็ขมวดทันที แสงเย็นวาบปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาและมีความหนาวเย็นอยู่ในหัวใจของเขา จี้เฟิงจำหญิงสาวทั้งสี่คนนี้ได้ พวกเธอคือกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มที่อยู่กับหยุนปิงในตอนแรกที่เขาได้พบกับเธอ!
“พวกเธอมาทำอะไรที่ห้องของฉัน!”ใบหน้าสวยงามของถงเล่ยตึงเครียดขึ้นและถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “กรุณาออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้ ฉันในฐานะเจ้าของห้องไม่ต้อนรับพวกเธอ ถ้าไม่ยอมออกไปดีๆฉันจะโทรไปแจ้งคนเฝ้าหอพัก!”
“เหอะ!ทำไม จะกลัวอะไรนักหนา?!” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะเยาะ เธอเป็นหญิงสาวที่รูปร่างผอมแห้ง มีโหนกแก้มสูงจนทำให้เบ้าตาของเธอจมลึกมากกว่าปกติเล็กน้อย เมื่อมองแวบแรกคนประเภทนี้เป็นคนที่ไม่มีความรักและความเมตตามีหัวใจที่เย็นชาและทำให้คนที่อยู่ด้วยไม่รู้สึกอบอุ่น
“อย่าพูดไร้สาระทำไมฉันจะต้องกลัวด้วย แล้วไม่ว่าฉันจะเป็นอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงของถงเล่ยแข็งกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ เธอหน้าบึ้งและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอมาทำอะไรที่นี่ แต่พวกเธอต้องออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันจะโทรเรียกคนดูแลหอพักและรปภ!”
จี้เฟิงที่แอบอยู่หลังม่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มและยกนิ้วโป้งให้เธอผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ฉลาดเฉลียวมากจริงๆ เธอจงใจแสดงท่าทางหมดความอดทนเพื่อให้อีกฝ่ายยอมพูดจุดประสงค์ที่มาที่นี่!
เมื่อเห็นท่าทางของจี้เฟิงมุมปากของถงเล่ยก็โค้งงอขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหญิงสาวสี่คนนั้นยังคงมองมาที่เธออยู่ เธอจึงเม้มปากเพื่อกลั้นยิ้มจนทำให้มุมปากของเธอกระตุกเล็กน้อย แต่ก็เพราะเหตุนี้เองการกระทำของเธอจึงตกอยู่ในสายตาของเด็กสาวทั้งสี่ และมันทำให้ความเหนือกว่าไปตกอยู่ที่ถงเล่ยโดยอัตโนมัติ
ใบหน้าของทั้งสี่สาวจมลงหนึ่งในนั้นจึงตะโกนขึ้นมาว่า “ถงเล่ย เวลานี้ยังยิ้มได้อยู่อีกสินะ พวกเราสี่คนมาที่นี่เพื่อบอกให้เธอรู้ว่า รีบๆมีความสุขกับชีวิตในตอนนี้ซะก่อนที่จะไม่มีวันดีๆสำหรับเธออีกเลย!”
หญิงสาวอีกคนหัวเราะคิกคัก“ถงเล่ย หญิงสาวแสนสวยที่เป็นดอกไม้ประจำมหาลัยของเรา วันนี้เธอรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ ที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาตามหาเธอ คงไม่ได้กลัวจนแอบร้องไห้ใช่มั้ย คิกคิก~ แล้วถ้ามีคนมาหาเธอแบบนี้ทุกวันล่ะ เธอจะยังกล้าไปเรียนอยู่อีกหรือเปล่า?!”
“อย่าคิดว่าตัวเองสำคัญเพราะถ้าเธอไม่ไปเรียนนานๆเข้า เดี๋ยวผู้คนเขาก็ลืมเธอกันไปเองแหละ เผลอๆอาจจะไม่มีใครสนใจตั้งแต่เธอหยุดเรียนวันแรกเลยด้วยซ้ำมั้ง!” เด็กผู้หญิงอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เหยียดหยาม “ไม่ใช่ว่าสวยที่สุดในถิ่นทุรกันดารแล้วจะคิดว่าตัวเองสวยกว่าคนอื่นไปซะหมด แล้วความคิดที่จะจับลูกชายเศรษฐีมาทำผัวก็เลิกคิดได้เลยนะ ผู้ชายในเมืองใหญ่เขาไม่ได้โง่เหมือนพวกที่อยู่ในบ้านนอกนะยะ ฮ่าๆๆ~!”
ไม่ว่าคุณจะได้รับการฝึกฝนมารยาทและความอดทนมาอย่างดีขนาดไหนคุณจะไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอนเมื่อได้ยินคำพูดจาดูถูกถากถางเหล่านี้และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะโกรธ แต่ถงเล่ยนั้นแตกต่างออกไป เธอเกิดในตระกูลใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ได้รับการอบรมสั่งสอนในทุกๆด้านรวมถึงความมั่นใจในตัวเอง หญิงสาวที่มีบุคลิกสะดีดสะดิ้งเหล่านี้ก็ไม่อาจเทียบได้เลยกับเธอ
ลองนึกภาพดูเอาว่าถ้ามีคนคนหนึ่งเกิดมาร่ำรวยและมีบุคลิกที่เยือกเย็น คนคนนั้นจะมานั่งสนใจคำพูดจาล้อเลียนของคนที่สมองด้อยกว่าหรือไม่ คำตอบนั้นคือเป็นไปไม่ได้อย่างชัดเจน มันเหมือนกับคนที่มีทรัพย์สินหลายสิบล้านและได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดี บุคคลเช่นนี้เมื่อถูกเยาะเย้ยสิ่งที่เขาจะทำก็เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงเขาอาจจะดูหมิ่นและล้อเลียนอีกฝ่ายอยู่ในใจในความไม่รู้และไม่มีวิสัยทัศน์ของคนเหล่านั้น!
แม้ว่าถงเล่ยจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นแต่ในใจของเธอนั้นไม่ได้ล้อเลียนดูหมิ่นอีกฝ่ายเลยเธอไม่ได้รู้สึกสนใจเรื่องที่น่าขันเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ!
แน่นอนถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ใส่ใจแต่ถงเล่ยก็จะไม่มีวันปล่อยให้คนอื่นมาดูถูกเธอเหมือนกับเธอเป็นตัวตลก ใบหน้าที่สวยงามของเธอถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและเธอก็พูดอย่างเย็นชา “เลิกพูดจาไร้สาระแล้วออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
ถงเล่ยเริ่มกดหมายเลขอาคารหอพักทุกอาคารจะมีผู้ดูแลที่พักซึ่งจะมีนักศึกษาที่อยู่หน่วยรักษาความปลอดภัยทำงานพาร์ทไทม์อยู่ด้วย และพวกเขายังสามารถติดต่อกับยามที่อยู่ในแผนกรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยโดยตรงได้เลยทันที เพราะถ้าหากมีความขัดแย้งระหว่างนักศึกษาในหอพักและไม่สามารถแก้ไขได้ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในแผนกรักษาความปลอดภัยเข้ามาจัดการ
เมื่อเด็กสาวทั้งสี่เห็นว่าถงเล่ยกำลังจะโทรจริงๆท่าทีของพวกเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้ว่าพวกเธอจะถูกคนอื่นยุยงให้มาที่นี่เพื่อค้นหาจุดอ่อนและข่มขู่ถงเล่ย แต่ถ้าพวกเธอต้องมาถูกจับโดยผู้รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยพวกเธอก็อาจจะได้รับโทษหรืออาจถึงขั้นโดนไล่ออก
ในฐานะมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับประเทศสหพันธ์มหาวิทยาลัยเจียงโจวมีความเข้มงวดในการบริหารจัดการมาก
“ถงเล่ยไม่ต้องมาทำเป็นอวดเก่งปากดีให้มากนักเธอจะทำแบบนี้ได้อีกไม่กี่วัน!” หญิงสาวคนหนึ่งตะโกนเกรี้ยวกราดและเตรียมตัวที่จะจากไป
เมื่อจี้เฟิงเห็นว่าหญิงสาวทั้งสี่คนกำลังจะจากไปเขาก็ขยิบตาให้ถงเล่ยอย่างรวดเร็ว
ถงเล่ยเข้าใจในสิ่งที่จี้เฟิงจะสื่อเธอส่งเสียงออกไปทันที“อ้าวจะหนีไปแล้วเหรอ ที่มาหาฉันถึงที่นี่เพียงเพื่อจะมาพูดจาไร้สาระกับฉันแค่นี้เนี่ยนะ”
“ถงเล่ย!เธอต้องการอะไร!” หญิงสาวคนหนึ่งถามอย่างหมดความอดทน อย่างไรก็ตามน้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อยโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว
“บอกมา!ใครเป็นคนสั่งให้พวกเธอมาพูดจาข่มขู่ฉันถึงที่นี่!” ถงเล่ยถามอย่างเย็นชา
“นี่หล่อน!อย่าทำมาเป็นงง แกล้งทำเป็นใสซื่อหรือว่าโง่จริงๆกันแน่!” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดจาแดกดันเยาะเย้ย “เธอทำอะไรใครไว้ เธอก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจเธอดีที่สุด เธออยู่อย่างสบายในขณะที่ทำให้คนอื่นมาเรียนไม่ได้!”
“อ้อ..สรุปว่าเป็นเธอนี่เอง!” ถงเล่ยอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อย “เอาล่ะ ฉันหมดธุระกับพวกเธอแล้ว จะไปไหนก็ไปป่ะ!”
ถงเล่ยโบกมืออย่างไม่แยแสราวกับไล่แมลงวันมันทำให้หญิงสาวทั้งสี่คนโกรธจนหน้าดำหน้าแดงไปตามๆกัน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ พวกทำได้แค่แค่นเสียงและตะโกนอย่างเย็นชาก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป
จี้เฟิงรอจนกระทั่งหญิงสาวทั้งสี่คนเดินออกจากห้องของถงเล่ยไปและแน่ใจว่าพวกเธอจะไม่กลับเข้ามาเขาจึงออกมาจากหลังผ้าม่านและพูดด้วยสีหน้าถมึงทึง “ดูเหมือนว่าบทเรียนที่หยุนปิงได้รับมันจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอจดจำได้ในระยะยาวสินะ!”
จี้เฟิงรู้สึกหงุดหงิดอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้แม้ว่าลางสังหรณ์ของเขาจะผิดพลาด แต่มันก็ทำให้เขาต้องรอบคอบกับความปลอดภัยของถงเล่ยให้มากขึ้น รู้หรือไม่ว่าหากเหตุการณ์ในคืนนี้เป็นนักเลงเข้ามาจริงๆ หรือเป็นบุคคลอื่นที่มีเจตนาร้ายถงเล่ยจะตกอยู่ในอันตรายทันที!
ถงเล่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“ฉันไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะ…”Aileen-novel
จากคำพูดของหญิงสาวทั้งสี่คนเมื่อครู่นี้ทำให้ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับคนแปลกหน้าที่มาตามหาถงเล่ยในวันนี้ ว่าความจริงแล้วทั้งหมดนี้เป็นอุบายของหยุนปิงที่ตั้งใจจะใช้ขู่ถงเล่ย และเห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงคำเตือนเพื่อต้องการให้ถงเล่ยเห็นวิธีที่เธอจะถูกจัดการก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง!
จี้เฟิงกัดฟันและส่งเสียงในใจอย่างเย็นชา…ก่อนหน้าที่เธอจะได้ลงมือทำฉันจะทำให้เธอได้เห็นวิธีของฉันก่อน!
ครั้งนี้จี้เฟิงโกรธมากจริงๆเขาไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายคนของเขาอย่างเด็ดขาดและไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครเขาจะไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้แม้แต่น้อย!
ดูเหมือนว่าในมหาวิทยาลัยตอนนี้จะไม่ปลอดภัยสำหรับเล่ยเล่ย…จี้เฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่สุดท้ายก็ไม่ได้แสดงความคิดในใจออกมาและกล่าวอย่างจริงจังว่า “เล่ยเล่ย ทำไมเธอไม่ไปอยู่กับฉันที่วิลล่าล่ะ ยังไงฉันกับเธอก็ต้องมาเรียนด้วยกันทุกวันอยู่แล้ว แล้วมันก็สะดวกกว่ามากที่จะใช้รถส่วนตัวในการเดินทางไป-กลับ”
ถงเล่ยหน้าแดงทันทีและจ้องไปที่จี้เฟิง“นาย… ไม่ได้คิดที่จะทำอะไรไม่ดีกับฉันใช่มั้ย!”
จี้เฟิงตกตะลึงจากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเขาใช้นิ้วจิ้มไปที่จมูกน้อยๆของถงเล่ยและพูดด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว “คุณผู้หญิงครับ คุณกำลังคิดอะไรอยู่ ผมแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณ ทำไมถึงกลายเป็นว่าผมจะทำอะไรคุณไปได้ล่ะ!”
ใบหน้าของถงเล่ยแดงมากขึ้นกว่าเดิมและพูดเบาๆ“นั่นแหละ ไม่ว่ายังไงก็ตามนายก็ห้ามทำอะไรรุ่มร่ามเด็ดขาด!”
จี้เฟิงได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นและพยักหน้า“โอเค โอเค! ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรไม่ดีกับเธออย่างเด็ดขาด โอเค๊”
“อืม”ถงเล่ยพยักหน้าเล็กน้อยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
“เฮ้อ~”จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะบ่นในใจว่าเป็นแฟนกันแล้วทำไมถึงจะทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ และที่สำคัญเรื่องไหนดีหรือไม่ดีมันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย แต่อย่างน้อยก็ต้องพาถงเล่ยไปอยู่ที่วิลล่าให้ได้ก่อน… หึหึ~!
จู่ๆภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาในหัวของจี้เฟิงโดยไม่ได้ตั้งใจมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้คุยกับถงเล่ยระหว่างทางกลับจากโรงอาหารไปที่ห้องเรียน ฟังก์ชันมุมมองเริ่มมีบทบาทเป็นครั้งแรก และเขาก็ได้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของถงเล่ย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา เขายังคงจำความรู้สึกแบบนั้นได้และมันยังคงค้างคาอย่างไม่รู้ลืมเลยจริงๆ
“อ๊ะ!จี้เฟิงนายคิดอะไรอยู่ ทำไมนายทำหน้าทำตาแบบนั้น… มันแย่มาก!” ใบหน้าของถงเล่ยแดงระเรื่อเห็นได้ชัดว่าเธอรู้ว่าจี้เฟิงกำลังคิดอะไรบางอย่างที่ไม่ดี
“เราไปกันเถอะพี่รองกับเพื่อนรอพวกเราอยู่ข้างล่าง!” เมื่อเห็นท่าทางของถงเล่ยจี้เฟิงก็ได้แต่หัวเราะเก้อๆกลบเกลื่อนและรีบจับมือเล็กๆของถงเล่ย “ไปเก็บของกัน เราจะไปที่วิลล่าของฉันกันคืนนี้เลย… ฉันต้องโทรหาหยูซวน.. หมายถึงอาจารย์เซียวด้วย ฉันจะให้อาจารย์เซียวไปอยู่กับเธอก่อน ฉันมีบางอย่างที่จะต้องไปจัดการ ดังนั้นกว่าฉันจะกลับไปที่วิลล่ามันก็อาจจะดึกมาก”
ดวงตาของถงเล่ยฉายแววบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกราวกับว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากพยักหน้าเบาๆ
จี้เฟิงกล่าวว่า“ถ้าอย่างนั้นก็เก็บของของเธอเลย เอาแค่ที่สำคัญๆก็พอ ฉันจะโทรหาอาจารย์เซียว เราไปที่วิลล่าของฉันยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”
“โอเค!”ถงเล่ยพยักหน้าเล็กน้อยและหันไปรอบๆเพื่อเก็บเสื้อผ้าและหนังสือเรียนไว้ในกระเป๋าเดินทาง จี้เฟิงเริ่มโทรหาเซียวหยูซวนด้วยโทรศัพท์มือถือของถงเล่ยและอธิบายเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเซียวหยูซวนได้ยินว่าถงเล่ยอาจตกอยู่ในอันตรายเธอก็ไม่พูดอะไรให้มากความและตอบตกลงทันที
ในไม่ช้าจี้เฟิงก็หยิบกระเป๋าที่มีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของถงเล่ยจากนั้นก็รีบลงไปชั้นช่างพร้อมกันกับเธอเพื่อไปพบจี้ช่าวเหลยและต้วนเผิงที่รออยู่
“เล่ยซือนายขับออดี้ไปนะ…” แน่นอนว่าจี้เฟิงไม่ลืมที่จะบอกจางเล่ยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจความโกรธของจางเล่ยจากในโทรศัพท์ เขากดวางสายอย่างไม่ไยดี
คืนนี้เขายังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากและไม่มีเวลามากพอที่จะให้เสียเวลา
เขาจะต้องไปตามหาตัวการที่กล้าส่งคนมาทำให้ถงเล่ยต้องตกอยู่ในความหวาดกลัวจี้เฟิงจะต้องคิดบัญชีกับหยุนปิงและหยุนเฟยหยางพ่อของเธออย่างถึงที่สุด เขาไม่ใช่คนที่มีความอดทนมากพอเมื่อมีใครกล้ามาข่มขู่คนของเขา และคนที่กล้าทำแบบนี้จะต้องได้รับบทเรียนอันสาสมอย่างแน่นอน!
คืนนี้เขาจะต้องไปพบกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่ามาเฟียใต้ดินซักหน่อย!
��
The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 232 คำเตือน
บทที่ 232 คำเตือน
Posted by ? Views, Released on กันยายน 14, 2022
, The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ
Status: Ongoing
Action ดราม่า ต่อสู้ นิยายจีน นิยายแปล ฝึกฝน พลัง ระบบ รักวัยเรียน อัจฉริยะ ฮาเร็ม เทคโนโลยี แฟนตาซี โรแมนซ์