“คงต้องทำลายมันเท่านั้น!”
จี้เฟิงมองดูเวลาตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 15 นาทีก็จะตี 4 แล้ว ถ้าเขารอนานกว่านี้อาจจะมีคนอื่นเข้ามาในถ้ำนี่ได้
จี้เฟิงกัดฟันและตัดสินใจลงมือทำในสิ่งที่คิดไว้ทันที
เขาระดมพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพและกำหนดให้ไปรวมกันที่ดวงตาของเขาและภาพตรงหน้าของเขาก็ชัดเจนขึ้น
สายตาของเขาเพ่งมองไปยังตู้เซฟที่อยู่ตรงหน้าเขาจะได้พิสูจน์ว่าความสามารถในการมองทะลุของเขานี้จะสามารถมองทะลุผ่านโลหะผสมเหล็กกล้าที่แข็งแกร่งนี้ได้หรือไม่ และมันจะทำให้เขาดำเนินภารกิจนี้ต่อไปได้อย่างสะดวกปลอดภัยเปล่า!
จี้เฟิงหายใจเข้าลึกๆและเพ่งมองอย่างระมัดระวัง ฉากตรงหน้าของเขาค่อยๆเปลี่ยนไปและโครงสร้างของโลหะที่ซับซ้อนก็ค่อยๆปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา มันเป็นโลหะที่อัดแน่นและซับซ้อนมาก
มันได้ผล!
จี้เฟิงรู้สึกดีใจมากเขามองไปยังล็อกของตู้เซฟอย่างละเอียดและดูเหมือนว่ามันจะไม่มีการเชื่อมต่อระหว่างล็อกกับกระบอกสูบนั่นก็หมายความว่าล็อกได้ถูกเปิดแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทันใดนั้นเขาก็เห็นกระดาษสองสามแผ่นระหว่างประตูตู้เซฟกับผนังโลหะผสมเหล็กกล้าข้างๆ!
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น!”จี้เฟิงสบถออกมาโดยไม่รู้ตัว
ตู้เซฟที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเช่นนี้ไม่ควรมีสิ่งใดมาขวางกั้นและจี้เฟิงก็คิดไม่ออกจริงๆว่าหยุนเฟยหยางปิดมันอิท่าไหนถึงได้เป็นแบบนี้!
ตอนนี้จี้เฟิงรู้เหตุผลแล้วเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตราบใดที่มันไม่ได้เป็นเพราะรหัสผ่านไม่เช่นนั้นเขาก็คงทำได้แต่โทรหาพี่รองของเขาและบอกให้คนมายกไปตู้เซฟไปทั้งแบบนี้ เพราะถ้าเขาจะยกมันเพียงลำพัง… จี้เฟิงมองไปที่ตู้เซฟที่สูงมากกว่าตัวเขา แม้ว่ามันจะปลอดภัยแต่เขาก็คงไม่สามารถพกมันติดตัวไปได้จนตลอดรอดฝั่ง
จี้เฟิงจับที่จับแล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งยันไว้กับขอบตู้เซฟและดึงมันทันที
พร้อมกับเสียง“กึก!” ประตูของตู้เซฟก็เปิดออก
“เฮ้อ~!”จี้เฟิงถอนหายใจ สายตาของเขาตกไปที่สิ่งของที่อยู่ในตู้เซฟทันที “นี่… เอ่อพี่ชายช่วยหาห่วงชูชีพหรือชุดดำน้ำมาให้ผมหน่อยได้มั้ย… ที่นี่พอจะมีอะไรแบบนั้นอยู่บ้างมั้ย”
“ห๊ะ..ครับ!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยักหน้าอย่างรีบร้อน แต่อดไม่ได้ที่จะพึมพำในใจ “นายน้อยสามว่ายน้ำไม่เป็นเหรอ แล้วเขาแอบมาที่เกาะนี้ได้อย่างไร?”
แม้ว่าเขาจะงุนงงและยังไม่ได้รับคำตอบจากเรื่องนี้แต่เขาก็พบกับห่วงชูชีพอย่างรวดเร็ว “นายน้อยสามอันนี้เป็นอันที่ดีที่สุดที่หาได้ในตอนนี้และน่าจะเพียงพอช่วยให้นายน้อยสามกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย”
จี้เฟิงชำเลืองมองและหยิบห่วงชูชีพมาจากนั้นก็ดึงจุกลมออกและทันใดนั้นอากาศที่อยู่ภายในก็ออกมาจนทำให้ห่วงชูชีพแห้งอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงกับฉงนแต่จี้เฟิงยังไม่หยุดอยู่แค่เขาใช้มือทั้งสองข้างฉีกห่วงชูชีพจนขาดออกจากกัน
จี้เฟิงเอาเอกสารและสิ่งของทั้งหมดที่อยู่ในตู้เซฟยัดลงในห่วงชูชีพนอกจากนี้ยังมีกระเป๋าและแฟ้มด้วย แม้ว่าจี้เฟิงจะไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างในแต่เขาก็ยัดมันเข้าไปในห่วงชูชีพด้วย
เมื่อจี้เฟิงยัดของทั้งหมดลงในห่วงชูชีพเขาก็วางมันลงและผูกเป็นปมจับมันมาไขว้กันเป็นแนวทแยง ตอนนี้ห่วงชูชีพมีลักษณะคล้ายกระเป๋าเป้สะพายข้างเดียว
จี้เฟิงตบห่วงชูชีพเขารู้สึกว่ามันหนักขึ้นเล็กน้อยเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเอกสารที่ทำมาจากกระดาษ ถ้าพูดกันตามหลักเหตุผลมันก็ไม่น่าจะมีน้ำหนักมากขนาดนี้
แม้ว่าเขาจะสงสัยแต่นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาตรวจสอบของที่อยู่ข้างในอย่างละเอียด จี้เฟิงตรวจเช็กภายในตู้เซฟอีกครั้งจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกเขาก็ปิดตู้เซฟลงและหันกลับไปพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า “ไปกันเถอะ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยักหน้าอย่างว่างเปล่าจากนั้นก็รู้ว่าจี้เฟิงต้องการห่วงชูชีพเพื่อป้องกันไม่ให้เอกสารเหล่านี้เปียกน้ำ
แน่นอนว่าจี้เฟิงไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่และเขาก็ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้หลังจากที่ได้ของที่ต้องการแล้วจี้เฟิงก็กล่าวว่า“เรื่องที่ผมมาที่นี่…”
“ผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นผมนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนและผมก็ไม่เคยมาที่นี่มาก่อน” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอบด้วยหน้าตาซื่อๆ เขายังคงฉลาดในเรื่องนี้
จี้เฟิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจจากนั้นก็วิ่งหนีไป
“เอ่อ..แล้ว เอ๊ะ” เจ้าหน้าที่รู้สึกเพียงว่างมีอะไรแวบผ่านหน้าเขาและร่างของจี้เฟิงก็หายไป เขาอดไม่ได้ที่จะตกใจ “จะรวดเร็วอะไรขนาดนั้น เด็กหนุ่มคนนี้ที่นายน้อยส่งมาไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!”
ท้องฟ้าในเวลานี้ค่อยๆสว่างขึ้นและในที่สุดจี้เฟิงก็กลับมาถึงวิลล่าและเมื่อดูเวลาตอนนี้ก็เกือบจะหกโมงเช้าแล้ว
มันเป็นเวลาเพียง6 ชั่วโมงนับจากที่จี้เฟิงออกจากบ้านไปก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว จี้เฟิงได้กำจัดหยุนเฟยหยางผู้ได้ชื่อว่าเป็นมาเฟียและมีชื่อเสียงโด่งดังในเส้นทางของโลกใต้ดินแห่งเจียงโจว และต่อมาก็ได้รับหลักฐานที่มีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างหยุนเฟยหยางและคนใหญ่คนโตในเจียงโจว นี่คือผลกำไรที่ได้รับ มันไม่ใช่อะไรที่เล็กน้อยเลย
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจี้เฟิงได้กำจัดอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่สำหรับถงเล่ยนี่คือผลประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด
หยุนปิงเป็นผู้หญิงที่ผิดปกติทางจิตเธอมีความบ้าจริงๆ คนแบบนี้ยากที่จะคาดเดา เพียงแค่เปิดปากเธอก็สามารถพูดเรื่องการฆ่าคนได้อย่างง่ายดายแถมยังเป็นวิธีการที่เลวทรามทุกรูปแบบขอเพียงสนองความพอในของเธอ บุคคลเช่นนี้ช่างน่าสะพรึงจริงๆ
โชคดีที่กำจัดคนอย่างเธอไปได้!
ในที่สุดจี้เฟิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาย่องกลับเข้ามาในวิลล่าของตัวเองอย่างเงียบเชียบเขาแอบมองไปที่ห้องนอนของเซียวหยูซวนและถงเล่ยและพบว่าประตูถูกปิดอย่างแน่นหนานั่นหมายความว่าทั้งสองคนยังไม่ตื่นขึ้นมา
จี้เฟิงรีบเข้าไปในห้องนอนของตัวเองและวางสิ่งของทั้งหมดที่อยู่ในห่วงชูชีพไว้บนเตียงและจัดเรียงของที่อยู่ในนั้นแบบสุ่มๆ
เมื่อจี้เฟิงเปิดซองเอกสารซองแรกขึ้นมามันก็ทำให้เขาตกตะลึง
เอกสารที่อยู่ในซองนี้ทั้งหมดเป็นภาพถ่ายและมันก็เป็นภาพถ่ายที่…เปลือยเปล่าของบุคคลที่อยู่ในภาพ ชายและหญิงที่ถูกถ่ายอยู่ในภาพอยู่ในลักษณะที่พวกเขากำลังมีเพศสัมพันธ์กัน
จี้เฟิงมองไปที่ใบหน้าของผู้ชายในภาพถ่ายจี้เฟิงรู้สึกเพียงแค่คุ้นเคยเล็กน้อยแต่เขาจำไม่ได้ว่าเคยเห็นพวกเขาที่ไหน
“หยุนเฟยหยางนี่คืองานอดิเรกของแกงั้นเหรอ!” จี้เฟิงพึมพำจากนั้นก็เก็บรูปถ่ายเข้าซองเอกสารไว้ตามเดิมและหยิบเอกสารอีกฉบับขึ้นมา
หัวใจของจี้เฟิงกระตุกขึ้นอีกครั้งหัวข้อที่ถูกบันทึกไว้ด้านบนเป็นเรื่องเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมของหยุนเฟยหยางและผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด มันถูกระบุทั้งเวลาและสถานที่ทั้งหมดที่ถูกเขียนด้วยลายมือของหยุนเฟยหยางเอง
สิ่งที่ทำให้จี้เฟิงขมวดคิ้วคือเนื้อหาของเอกสารนี้พูดถึงการค้ายาเสพติดการลักพาตัว การลักลอบขนของหนีภาษีและการค้าของเถื่อน ดูเหมือนว่าทุกๆอย่างถ้าหยุนเฟยหยางสามารถทำได้เขาจะทำมันหมดทุกอย่างโดยไม่เกี่ยงว่ามันจะผิดกฎหมายหรือไร้มนุษยธรรมมากแค่ไหน!
เอกสารฉบับที่สองเป็นบัญชีแยกประเภทโดยมีการบันทึกวันและเวลาตรงกับเอกสารฉบับแรกทุกครั้งที่เกิดอาชญากรรมมันคือการฟอกเงิน….
“ตุ้บ!”
จี้เฟิงเขวี้ยงของเหล่านี้ลงบนเตียงอย่างรุนแรง
“มีการลักพาตัวมันคือการค้ามนุษย์!” จี้เฟิงกัดกันกรอด.. ตามบันทึกของหยุนเฟยหยางพวกเขามักจะล่อลวงหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาในเจียงโจวให้ไปทำงานที่สถานบันเทิงและบังคับให้พวกเธอขายตัว!
“ใช้กุญแจฆ่าพวกมันก็เหมาะสมแล้วจริงๆไอ้พวกสัตว์นรกพวกนี้!” ใบหน้าของจี้เฟิงมืดมนอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานจี้เฟิงก็ค่อยๆสงบสติอารมณ์ของเขาลงและจ้องมองไปยังกระเป๋าใบหนึ่งที่ปูดนูนซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีเพียงแค่เอกสาร ไอรีนโนเวล
หลังจากเปิดกระเป๋าออกมาจี้เฟิงก็พบว่ามันมีปืนพกอยู่ในนั้นและมี… ทองคำแท่ง!
“ยังมีถุงดำใบเล็ก”สายตาของจี้เฟิงไม่ได้หยุดอยู่ที่ปืนพกและทองคำแท่ง เขาหยิบถุงผ้าสีดำขนาดเล็กขึ้นมา และเมื่อเปิดมันออกก็มีแสงสะท้อนวิบวับเข้ามาในตาของจี้เฟิงทันที
มันคือเพชร!
ปรากฏว่าสิ่งที่อยู่ในถุงผ้าสีดำใบเล็กนี้มันคือเพชร!แถมยังมีเป็นร้อยๆเม็ด!
“เหอๆการทำความดีแล้วได้ดีสงสัยจะเป็นเรื่องจริง แต่มันจะตอบสนองไวไปหน่อยรึเปล่า” จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง “เพชรและทองคำแท่งเหล่านี้คงจะเป็นทรัพย์สมบัติที่หยุนเฟยหยางเตรียมการเอาไว้เผื่อเกิดเรื่องฉุกเฉินสินะ!… แต่มันกลายเป็นว่าเตรียมเอาไว้ให้ฉันไปซะได้..!”
ปืนพก..เป็นสิ่งที่จี้เฟิงกำลังต้องการอยู่พอดี เดิมทีเขาต้องการมีปืนพกติดตัวไว้เพื่อป้องกันตัวแต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนให้หมอนเมื่อเขาหลับและแน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่หยุนเฟยหยางเตรียมไว้เพื่อหลบหนีก็ตกมาอยู่ในมือของจี้เฟิง
ไม่ว่าจะเพชรทองคำแท่งหรือปืนพกล้วนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับจี้เฟิงและแน่นอนว่าเขาจะเก็บมันไว้กับตัวเอง
อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเอกสารและบัญชีพวกนี้จี้เฟิงตั้งใจจะมอบให้กับอาคนที่สองของเขาทั้งหมดไม่ว่าจะจัดการอย่างไรก็ให้เป็นหน้าที่ของอาสองพิจารณาด้วยตัวเอง เพราะจี้เฟิงเชื่อว่าอาสองจะไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง อย่างน้อยจะต้องมีใครบางคนที่ชีวิตพังกันบ้างล่ะ!
ขณะที่จี้เฟิงกำลังดูเพชรหลายร้อยเม็ดที่อยู่ในถุงดำเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังกึกๆอยู่ด้านนอก
จี้เฟิงรีบกวาดทุกอย่างออกไปและเอาไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
เสียงฝีเท้าค่อยๆดังใกล้เข้ามาราวกับว่ากำลังตรงมาที่ห้องนอนของเขาจากฝีเท้าที่ได้ยินจี้เฟิงคาดว่าน่าจะเป็นเสียงฝีเท้าของเซียวหยูซวน
จี้เฟิงอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงตื่นเช้าขนาดนี้ท้องฟ้ายังไม่สว่างดีเลย แม้ว่าเธอจะมีสอนในตอนเช้าแต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าขนาดนี้ ถ้าให้คำนวณเวลาในการขับรถจากวิลล่าไปยังมหาวิทยาลัยน่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วในกรณีที่รถไม่ติดเวลาเพียง 15 นาทีก็เพียงพอแล้ว
แต่ในไม่ช้าจี้เฟิงก็รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหนเขามองไปที่แสงไฟสว่างจ้าในห้องของตัวเองและอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น เขาประมาทเกินไป เซียวหยูซวนคงเห็นว่าห้องของเขายังสว่างอยู่จากช่องว่างใต้ประตู เธอคงคิดว่าจี้เฟิงตื่นแล้วถึงได้เปิดไฟ
“ถ้ารู้แบบนี้คงจะเปิดแค่โคมไฟ!”จี้เฟิงพึมพำพร้อมกับถอดเสื้อผ้าออกอย่างรีบร้อนแล้วหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมลวกๆ แค่นี้ก็พอจะกลบเกลื่อนไปได้บ้าง
เพราะก่อนหน้านี้จี้เฟิงได้ว่ายน้ำทะเลมาดังนั้นผมและเสื้อผ้าของเขาจึงเปียกโชกไปหมดถ้าเซียวหยูซวนเห็นเธอคงจะสงสัยและคิดว่าจี้เฟิงออกไปข้างนอกตอนกลางคืน
“ก๊อก!ก๊อก!”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นเซียวหยูซวนยังคงเคาะประตู ผู้หญิงที่ฉลาดหลักแหลมเช่นนี้จะต้องไม่ไว้วางใจจี้เฟิงอย่างแน่นอน
จี้เฟิงหยิบกางเกงขาสั้นตัวใหญ่ที่เขาเตรียมไว้เมื่อนานมาแล้วสวมมันอย่างรวดเร็วและเดินไปเปิดประตู
จากนั้นจี้เฟิงก็รู้สึกตาพร่าไปเล็กน้อย
นั่นเพราะภาพที่อยู่ตรงหน้าคือเซียวหยูซวนที่ยืนสะลึมสะลืออยู่ตรงประตูแต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เซียวหยูซวนในตอนนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ มันทำให้จี้เฟิงแทบจะละสายตาออกไปไม่ได้
เซียวหยูซวนที่สะลึมสะลือยังไม่ตื่นเต็มตาไม่ได้รู้เลยว่าสายเดี่ยวเส้นบางๆของชุดนอนผ้าไหมของเธอมันได้เลื่อนหล่นลงมาจนเผยให้เห็นเนินอกอันอวบอัดขาวเนียนของเธอ แถมกระโปรงส่วนล่างยังถูกยกขึ้นสูงจนทำให้เห็นต้นขาขาวๆของเธออย่างเต็มตา
จี้เฟิงกำหมัดแน่นเขากลัวว่าเขาจะอดใจไว้ไม่ไหวที่จะคว้าสาวงามที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดคนนี้ด้วยความรุนแรง
“ทำไมนายยังไม่นอน”เซียวหยูซวนหาวและยกมือขึ้นมาปิดปาก การขยับตัวเพียงเล็กน้อยของเธอมันทำให้หน้าอกของเธอสั่น
“อ้อ!มันใกล้สว่างแล้วผมเลยว่าจะลุกไปซื้ออาหารเช้ามาเตรียมไว้ให้คุณไง” จี้เฟิงตอบทันทีพร้อมกับจังหวะการหายใจที่เร็วขึ้น
“อ่า..ดีเลย งั้นก็ซื้อของเผื่อไว้ทำในวันพรุ่งนี้ด้วยเลยนะเราจะได้นั่งทานอาหารเช้ากันที่บ้านเลย!” เซียวหยูซวนกล่าว
จี้เฟิงพยักหน้าอย่างว่างเปล่าแต่ไม่สามารถละสายตาไปจากหน้าอกของเธอได้
“ฉันจะไปนอนต่ออีกหน่อยการอดนอนเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของผู้หญิง!” ก่อนที่จี้เฟิงจะทันได้ตอบอะไร เซียวหยูซวนก็หันหลังและจากไป
“บึ้ม~!”
เมื่อจี้เฟิงเห็นด้านหลังของเซียวหยูซวนเขารู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าร่างกายทั้งร่างแข็งทื่อ แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ด้านหลังของเซียวหยูซวน
ดูเหมือนว่าเซียวหยูซวนเพิ่งออกมาจากห้องน้ำและยังคงงัวเงียอยู่เพราะที่ด้านหลังชุดนอนของเซียวหยูซวนมันถูกทับอยู่ภายใต้กางเกงชั้นในสีชมพูตัวเล็กๆ ก้นอันอวบอิ่มและกลมมนของเธอถูกรัดแน่นด้วยกางเกงชั้นในสีชมพูตัวเล็กๆที่ห่อหุ้มไว้เกือบไม่มิด บั้นท้ายที่เหมือนถูกปั้นโดยพระเจ้าเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและเพียงพอที่จะทำให้ผู้ชายรู้สึกบ้าคลั่ง!
The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 240 ทำดีได้ดี
บทที่ 240 ทำดีได้ดี
Posted by ? Views, Released on กันยายน 22, 2022
, The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ
Status: Ongoing
Action ดราม่า ต่อสู้ นิยายจีน นิยายแปล ฝึกฝน พลัง ระบบ รักวัยเรียน อัจฉริยะ ฮาเร็ม เทคโนโลยี แฟนตาซี โรแมนซ์