The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 276 แต่ละคนก็มีข้อดีของตัวเอง

บทที่ 276 แต่ละคนก็มีข้อดีของตัวเอง

  วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์เซียวหยูซวนและถงเล่ยตัดสินใจที่จะไปชอปปิ้งและประกาศว่าพวกเธอจะไม่พาจี้เฟิงไปด้วย

  สิ่งนี้ทำให้จี้เฟิงได้แต่ส่ายหัวและพูดไม่ออกทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบชอปปิ้งกันนักนะ แม้แต่ผู้หญิงที่มักจะเย็นชาอย่างถงเล่ยก็ยังชอบที่จะไปเดินเลือกซื้อของ ราวกับว่าตามท้องถนนหรือตามร้านค้ามีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดพวกเธอเป็นพิเศษ

  แต่อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของแฟนสาวทั้งสองของเขาก็ทำให้จี้เฟิงรู้สึกพอใจมาก

  เนื่องจากเมื่อวานทั้งสองสาวได้ยอมรับซึ่งกันและกันความสัมพันธ์ระหว่างสองสาวจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เมื่อคืนหญิงสาวทั้งสองก็อาบน้ำด้วยกันและยังนอนบนเตียงเดียวกันอีก

  แต่ก่อนพวกเธอเรียกกันและกันว่าพี่สาวหยูซวนและน้องสาวเล่ยเล่ย แต่ในตอนเช้าหญิงสาวทั้งสองดูเหมือนจะมีความสนิทสนมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเธอต่างเรียกกันแค่ พี่สาวและน้องสาวราวกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ

  ในขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับจี้เฟิงซึ่งมันทำให้เขามีความสุขแต่ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย… พวกเธอพร้อมที่จะถีบหัวส่งเขาในขณะที่พวกเธอรักกันมากขึ้น

  แต่…เรื่องนี้ก็เป็นปรากฏการณ์ที่ดี!

  จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างน้อยก็หมายความว่าถงเล่ยไม่ได้โกรธเขาเกี่ยวกับเรื่องของเซียวหยูซวน แม้ว่าถงเล่ยเองอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าเธอนั้นไม่ได้คิดที่จะจากไป

  จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกซาบซึ้งใจเขารู้ว่าสิ่งที่ถงเล่ยทำใจยอมรับไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำกันได้ง่ายๆเลย ถ้าเป็นผู้หญิงอื่นคงจะโกรธและเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันไปแล้ว แต่ถ้าหากเป็นผู้หญิงที่เย็นชาและมีจิตใจเข้มแข็งมากพอ เธอจะแพ็คกระเป๋าแล้วจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย

  แต่ถงเล่ยนอกจากจะหน้าตาสวยงามแล้วเธอยังเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีช่างเป็นแฟนที่น่ารักจริงๆเลย

   จิ๊กโก๋น้อยฉันกับน้องสาวจะไปชอปปิ้งกัน นายเฝ้าบ้านดีๆนะ ห้ามออกไปเที่ยวไหน และห้ามไปจีบสาวคนอื่นโดยเด็ดขาด!  ดูเหมือนว่าเพราะการยอมรับซึ่งกันและกันของทั้งสองสาว แม้แต่ต่อหน้าถงเล่ยเซียวหยูซวนก็ยังกล้าพูดเรื่องผู้หญิงอื่นเพื่อหยอกล้อจี้เฟิง

  เมื่อมองไปที่รูปร่างหน้าที่มีเสน่ห์และซุนซนของเธอจี้เฟิงก็อยากจะจับเธอไว้และกดเธอลงบนโซฟาจากนั้นก็ตบก้นเธอให้สาแก่ใจ เมื่อคิดถึงบั้นท้ายที่อวบอั๋นของเธอที่เต็มไปด้วยความยืดหยุ่นสู้มืออย่างน่าอัศจรรย์ จี้เฟิงก็รู้สึกทนไม่ไหว ร่างกายของเขาเร่าร้อนจนแทบจะลุกเป็นไฟ หัวใจของเขาเต้นระรัว

  ถ้าต้นขาของเขากระทบกับบั้นท้ายอวบๆของเธอ…

   ปีศาจน้อยคิดเรื่องไม่ดีอีกแล้ว! เมื่อเซียวหยูซวนเห็นดวงตาของจี้เฟิง เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าผู้ชายคนนี้ต้องไม่ได้กำลังคิดอะไรดีๆอยู่แน่นอน เธอรีบหลบตาด้วยความเขินอาย

  ถ้าไม่ใช่เพราะถงเล่ยก็อยู่ตรงนี้เธอก็คงจะหนีไปแล้ว เซียวหยูซวนหญิงสาวที่เอ่อล้นไปด้วยเสน่ห์ทั้งรูปร่างและหน้าตา จริงๆแล้วเธอมีจุดแข็งเป็นเรื่องประเพณีที่ค่อนข้างหัวโบราณ ไม่เช่นนั้นผู้ชายมากมายที่ตามจีบเธอตอนที่เธอเรียนมหาวิทยาลัยและต่อมาก็เป็นเหอตงที่เธอยอมเปิดใจคบหาด้วย แต่เธอก็ยังคงสามารถเก็บจูบแรกของเธอเอาไว้ได้!

  แต่เมื่อมีถงเล่ยอยู่ที่นี่ด้วยเธอไม่ต้องการถูกจี้เฟิงรังแกโดยที่ไม่สามารถตอบโต้ได้เหมือนอย่างครั้งก่อนๆ ไม่เช่นนั้นคงได้ถูกถงเล่ยล้อเลียนจนตายแน่

  เซียวหยูซวนถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะกระซิบข้างๆหูของจี้เฟิง จิ๊กโก๋น้อย ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่ … คิกคิก เอาเป็นว่าถ้าได้รับความยินยอมจากหญิงใหญ่ ฉันสามารถให้คุณได้ตลอดเวลา! 

   ยะ..หญิงใหญ่  จี้เฟิงถึงกับอึ้งกิมกี่  หญิงใหญ่ไหน? 

   แน่นอนว่าต้องเป็นน้องเล่ย! เซียวหยูซวนกล่าวอย่างมีเหตุผล  น้องเล่ยเป็นคนแรกที่ติดตามนาย เธอก็ต้องเป็นภรรยาใหญ่อย่างแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนฉันก็เป็นแค่เมียรองหรือนางสนมเท่านั้น… 

  จี้เฟิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีแต่เขารู้สึกได้ถึงความเสียใจลึกๆที่อยู่ในหัวใจของเซียวหยูซวน เขาอดไม่ได้ที่จะคว้าตัวเซียวหยูซวนมากอดแน่นๆไว้ในอ้อมแขนของเขาแต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำตามหัวใจอันชั่วร้าย เขาตบก้นอวบๆของเซียวหยูซวนสองครั้ง

   อ๊ะ! เซียวหยูซวนหน้าแดงด้วยความเขินอายขึ้นมาทันที  จิ๊กโก๋น้อย ไม่ได้! น้องสาวก็อยู่ตรงนี้! 

  จี้เฟิงไม่สนใจคำพูดของเซียวหยูซวนเขากวักมือเรียกถงเล่ยที่กำลังหน้าแดงอยู่เหมือนกันและขอให้เธอเข้ามาหาเข้าใกล้ๆ

  ถงเล่ยอายมากและพูดทันที ไม่! ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น ตาคนโรคจิต! ถ้านายอยากจะแกล้ง นายก็แกล้งพี่สาวไปคนเดียวเลย ฉันจะไปรอพี่สาวที่รถ!  หลังจากพูดรวดเดียวจบเธอก็กำลังจะวิ่งหนีไป แต่หญิงสาวตัวเล็กๆอย่างเธอ มีหรือจะวิ่งหนีปีศาจร้ายอย่างจี้เฟิงพ้น

  มือข้างหนึ่งของจี้เฟิงกอดเซียวหยูซวนไว้แน่นและทันใดนั้นเขาก็ก้าวสองก้าวไปทางถงเล่ยและคว้าเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยมืออีกข้างหนึ่งทันที ทำให้เซียวหยูซวนและถงเล่ยต่างตกอยู่ในอ้อมแขนที่แข็งแรงของเขาและในขณะเดียวกันเขาก็ก้มลงจูบไปที่ใบหน้าของหญิงสาวทั้งสอง

   อ๊ะ! 

  ใบหน้าที่สวยงามของถงเล่ยแดงก่ำด้วยความเขินอายเธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า เธอได้แต่ก้มหน้าโดยใช้อ้อมแขนของจี้เฟิงเป็นที่กำบังราวกับลูกกวางตัวน้อยๆ 

  จี้เฟิงกอดเอวที่อ่อนนุ่มและเรียวบางของถงเล่ยด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบนวดสะโพกอวบๆของเซียวหยูซวนอย่างตะกละตะกลาม เขาพูดอย่างชั่วร้าย  ฟังฉันให้ดี ในใจของฉันพวกเธอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่มีความแตกต่างว่าใครมาก่อนหรือหลัง และพวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้คิดแบบนี้อีกได้ยินมั้ย! 

  หญิงสาวทั้งสองถูกจี้เฟิงกลั่นแกล้งจนร่างกายอ่อนยวบพวกเธอหอบหายใจแรงขึ้น ไร้เรี่ยวแรงจะต้านทาน หากไม่ใช่เพราะจี้เฟิงพยุงร่างของพวกเธอไว้เกรงว่าหญิงสาวทั้งสองคงจะล้มลงกับพื้นนานแล้ว ในตอนนี้พวกเธอทำได้เพียงพยักหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แม้มีความคิดที่อยากจะหนีแต่ใจของพวกเธอก็เต็มไปด้วยความลังเล อารมณ์ในตอนนี้ช่างซับซ้อนและยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

  เมื่อเห็นดวงตาที่สวยงามสองคู่ที่พร่ามัวริมฝีปากสีแดงที่น่าดึงดูดใจเปิดอ้าออกเล็กน้อยและผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ จี้เฟิงขยับนิ้วชี้ของเขาและแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะผลักสองสาวลงไปบนโซฟาพร้อมๆกัน…

  แต่เหตุผลยังคงเอาชนะความปรารถนาและความหวังจี้เฟิงรู้ว่าหากเขาต้องการหญิงสาวทั้งสองในตอนนี้ พวกเธออาจจะไม่คัดค้านแต่อาจจะทำให้พวกเธอรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วช่องว่างระหว่างพวกเขาเพิ่งจะหดสั้นลงไปเมื่อคืนนี้และเวลามันก็สั้นเกินไป จี้เฟิงต้องปล่อยให้พวกเธอได้มีเวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจบ้าง

  เมื่อคิดถึงเรื่องนี้จี้เฟิงก็บีบก้นของเซียวหยูซวนและถงเล่ยอีกครั้งอย่างแรงจนสองสาวรู้สึกท่วมท้นอยู่ภายในและอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาเขาจึงปล่อยมือจากก้นของพวกเธอ แต่มือทั้งสองข้างของเขากลับอดไม่ได้ที่จะถูไปมา

  เซียวหยูซวนและถงเล่ยแฟนสาวทั้งสองคนของเขาต่างมีจุดเด่นและข้อดีที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เซียวหยูซวนมีเสน่ห์และเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ร้อนแรง ร่างกายที่อวบอัดของเธอมันทำให้รู้สึกเต็มไม้เต็มมือเวลาสัมผัสแต่เธอไม่ได้ดูอ้วนและไม่มีส่วนเกินเลย แต่จะอวบอ้วนในเฉพาะจุดที่ควรจะอวบอ้วน โดยเฉพาะก้นที่ยืดหยุ่นของเธอมันดึงดูดใจผู้ชายอย่างมากทีเดียว

  สำหรับถงเล่ยแม้ว่าเธอจะมีรูปร่างที่ผอมบางกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเซียวหยูซวนแต่ความจริงแล้วถงเล่ยมีรูปร่างที่สมส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นขาที่เรียวขาวและก้นที่ได้รูปสวยงาม กล้ามเนื้อของเธอกระชับและแน่นมาก

  ชั่วขณะหนึ่งจี้เฟิงไม่อาจแยกแยะได้ว่าคนไหนที่สวยและมีเสน่ห์กว่ากันแต่ที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่ควรที่จะจัดอันดับพวกเธอ เพราะแม้แต่เขาเองยังไม่อยากให้พวกเธอสร้างความแตกต่างซึ่งกันและกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสาวงามทั้งสองคนนี้ก็เป็นแฟนของเขาทั้งคู่!   ในเวลานี้เซียวหยูซวนและถงเล่ยที่ดวงตาพร่ามัวไปด้วยอารมณ์ที่วาบหวามเดินโซเซทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาใบหน้าที่สวยงามแดงระเรื่ออย่างเลือดที่สูบฉีดและความเขินอาย พวกเธอแทบไม่กล้าที่จะหันไปมองจี้เฟิง

  ในตอนที่จี้เฟิงใช้มืออันหยาบกร้านและแข็งแรงของเขาลูบไล้มันเป็นความรู้สึกที่น่าละอายมากจริงๆ ดูเหมือนว่ามือของจี้เฟิงจะมีไฟฟ้าสถิตอยู่เบาๆมันทำให้ร่างกายของพวกเธออ่อนปวกเปียกและอดไม่ได้ที่จะร้องครางเสียงต่ำอยู่ในลำคอ ถ้าไม่บังคับฝืนตัวเองเอาไว้เกรงว่าพวกเธอคงจะร้องออกไปนานแล้ว

  โดยเฉพาะอย่างสิ่งมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองสาวรู้สึกละอายใจมากที่สุดก็คือ… ร่างกายของพวกเธอที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง โดยเฉพาะตรงจุดนั้น… มันเปียกแฉะเล็กน้อย และมันเป็นอะไรที่น่าละอายมาก!

  จี้เฟิงมีรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าแต่ความดีที่อยู่ในใจของเขายังคงสามารถยับยั้งไฟแห่งความชั่วร้ายในใจได้ เขาจึงตัดสินใจว่าเขาจะไปต่อแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว! ไม่เช่นนั้นเขาคงอดไม่ได้ที่จะแสดงความรักอย่างรุนแรงต่อหญิงสาวทั้งสองที่นี่!

  ดังนั้นจี้เฟิงจึงก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายและแกล้งทำใบหน้าให้ดูน่ากลัวขึ้นมาอีกหน่อยเซียวหยูซวนและถงเล่ยกรีดร้องพร้อมกับลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและวิ่งหนีออกไป

  จี้เฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกความรู้สึกที่สามารถสัมผัสได้แต่ไม่สามารถลงมือทำให้มันสุดได้นี่มันน่าอึดอัดทรมานมากจริงๆ เกรงว่าถ้าเป็นเช่นนี้นานๆเข้า เขาคงจะขาดอากาศหายใจเข้าสักวัน

   ในอนาคตถ้าไม่จำเป็นนายอย่าทำแบบนี้อีก!  จี้เฟิงบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ นี่เป็นการเล่นกับไฟชัดๆ และจะใครเสียอีกที่ไม่ใช่ตัวเขาเองที่จะต้องถูกไฟนั้นเผาไหม้ในที่สุด

  วึ่ม!

  มีเสียงสตาร์ทรถดังขึ้นจากทางด้านนอกเซียวหยูซวนและถงเล่ยไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไปและรีบขับรถออกไปทันที

  เมื่อเห็นผู้หญิงทั้งสองขับรถวอลโล่สีแดงออกไปจี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของเขาและพูดกับตัวเองว่า  ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใกล้โอกาสที่จะได้ยุติความซิงของฉันแล้วสินะ แต่จะให้ใครก่อนดีล่ะ… 

  หัวใจของจี้เฟิงกระตุกอีกครั้งในระยะหลังๆมานี้เขารู้สึกได้ว่าแรงกระตุ้นตรงจุดนั้นมันแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเขายังหนุ่มแน่นจนทำให้เลือดในกายมันพลุ่งพล่านหรือเป็นเพราะสาเหตุอื่นกันแน่

  จนกระทั่งวอลโว่สีแดงหายไปจากสายตาจี้เฟิงจึงได้แต่ส่ายหัวและยิ้ม เมื่อคิดได้เขาก็ตัดสินใจที่จะไปมหาวิทยาลัยอีกครั้ง การที่ถงเล่ยถูกสั่งให้เขียนคำสารภาพ เขารู้สึกว่ามันอาจจะมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล มีใครที่ต้องการจะทำร้ายถงเล่ยอีกงั้นหรือ จี้เฟิงต้องการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน

  แน่นอนว่าจี้เฟิงต้องการโทรหาฮั่นจงเพื่อให้ไปเป็นเพื่อนแต่เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในมหาวิทยาลัย นอกจากฮั่นจงแล้วจี้เฟิงก็คิดไม่ออกว่าจะมีใครเหมาะสมไปมากกว่านี้ อย่างแรกคือฮั่นจงเป็นคนเจียงโจวโดยกำเนิด เขาเกิดและโตที่นี่และอย่างที่สองเขารู้จักผู้คนมากมายไม่ว่าจะข้างนอกหรือข้างในมหาวิทยาลัยและคนในมหาวิทยาลัยต่างก็รู้จักเขา ในทางกลับกันฮั่นจงเคยพูดว่า เมื่อครั้งที่เขามาที่สหพันธ์มหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก ทางตระกูลได้เชิญผู้นำหลักของมหาวิทยาลัยไปทานอาหารเย็นร่วมกันและความสัมพันธ์ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี

  ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จี้เฟิงจึงจำเป็นต้องไปหาฮั่นจง

  อย่างไรก็ตามจี้เฟิงยังคงตั้งใจที่จะไปมหาวิทยาลัยด้วยตัวเองเดิมทีถ้าเขาโทรเรียกฮั่นจงให้มาที่นี่ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ครั้งสองครั้งก็คงจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรแต่ถ้ามันบ่อยครั้งเข้าไม่ว่าใครก็คงจะรู้สึกแย่หรือเบื่อหน่าย ท้ายที่สุดแล้วฮั่นจงไม่ใช่คนรับใช้ของเขา!

  แต่เมื่อฮั่นจงได้รับโทรศัพท์จากจี้เฟิงเขาก็ดูมีความสุขมากเขายิ้มและพูดว่า  ไม่มีปัญหาเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ นายไม่ต้องมาที่นี่ด้วยตัวเองก็ได้… อยู่บนถนนแล้วเหรอ งั้นฉันจะไปรอนายที่หน้าประตูมหาลัยแล้วกัน! 

  ทุกคนต้องการความเคารพโดยเฉพาะจากตระกูลพ่อค้าอย่างฮั่นจง พวกเขาเน้นการให้เกียรติและรักษาหน้ามากกว่าสิ่งใด สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับมิตรภาพของเพื่อนร่วมชั้น มันเป็นเรื่องความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนล้วนๆ และมันก็เป็นสิ่งสำคัญและคุ้มค่ามากพอที่จี้เฟิงจะใส่ใจกับมันอย่างมาก และแน่นอนว่ามันทำให้ฮั่นจงรู้สึกดีกับมันโดยธรรมชาติ

  การได้ช่วยเหลือเพื่อนและตัวเองยังเป็นที่เคารพไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็จะรู้สึกสบายใจมาก  ประมาณยี่สิบนาทีต่อมาจี้เฟิงก็ขับรถมาถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยฮั่นจงเปิดประตูรถและขึ้นมาทันที แต่ใบหน้าของเขาดูบึ้งตึงเล็กน้อย  จี้เฟิงดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะจัดการไม่ง่ายอย่างที่คิด! 

 

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

Status: Ongoing

       ตลอดชีวิตที่ถูกมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม จนถึงจุดต่ำสุดของชีวิต จี้เฟิงได้รับพลังมาจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าปัจจุบันมาก มันช่วยเพิ่มความสามารถในทุกๆด้านราวกับเวทมนตร์ ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเขาก็ไม่ธรรมดาอีกต่อไป! ด้วยระบบอัจฉริยะที่จี้เฟิงได้ฝึกฝนจนบรรลุทักษะพิเศษ ชีวิตของจี้เฟิงกลายเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท