ในเขตชานเมืองทางทิศตะวันตกของเจียงโจวยังมีโรงงานเคมีที่ถูกทิ้งร้างอยู่
จี้เฟิงจอดรถไว้หน้าประตูโรงงานและมองไปที่กระจกมองหลังรอดูรถสีดำที่ขับตามมาข้างหลัง
ที่นี่ที่ไหน เฉินเจี้ยนที่กำลังขับรถอยู่มองไปรอบๆ เขาเห็นพุ่มหญ้าที่สูงพอๆกับตัวคนขึ้นเต็มไปหมด เขารู้สึกตงิดๆในใจ ที่แห่งนี้รกร้างเกินไปแถมยังเอื้อต่อการซุ่มโจมตีอีกด้วย ถ้าจี้เฟิงจัดวางกำลังคนไว้ที่นี่ อาจมีกระสุนปืนกระหน่ำมาทางพวกเขาทันทีที่พวกเขาลงจากรถ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริงแม้ว่าพวกเขาจะมีพลังที่สามารถบินได้ก็คงจะหนีไม่พ้นอย่างแน่นอน
เทียนกั๋วถงขมวดคิ้วเล็กน้อยตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของจี้เฟิง เขาไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญกับเกียรติของนักสู้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังอยู่ในตำแหน่งที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน คงไม่แปลกถ้าจี้เฟิงจะทำทุกสิ่งที่เขาทำได้
ไอ้ลูกหมาจี้เฟิงฉันจะฆ่ามัน! นายเทียนอย่าปล่อยให้มันรอดไปได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง! เฉียวหรงผู้ที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาจากอาการหมดสติ ที่แก้มซ้ายของเธอบวมเป่งจนทำให้เธอลืมตาแทบไม่ขึ้น ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ใบหน้ามันเหมือนกับงูพิษที่กัดกินเข้าไปถึงหัวใจของเธอ
ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้การจะฆ่าจี้เฟิงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังเป็นหลายชายคนโตของตระกูลจี้ ถ้าฆ่าเขาจริงๆละก็ มันคงเป็นปัญหาที่ไม่มีวันสิ้นสุด
เทียนกั๋วถงขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอย่างไรก็ตามสภาพของเฉียวหรงในตอนนี้ก็น่าเวทนาจริงๆ หากเธอจะพูดพร่ำด้วยความโกรธแค้นออกมาบ้างก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ขับตามไปเลย เทียนกั๋วถงพูดเสียงเรียบ เฉินเจี้ยนทำตามคำสั่งของเทียนกั๋วถงเขาขับตามเข้าไปในโรงงานเคมีร้างและจอดรถไว้ห่างจาก BMWx6 ของจี้เฟิงไม่ถึง 20 เมตร
จี้เฟิงคุณพาเรามาที่นี่ทำไม เทียนกั๋วถงถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึมทันทีเมื่อลงจากรถ
คุณไม่คิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะในการฝังศพเหรอ จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อย คืนนั้นเมื่อห้าวันก่อน หวังเหวินเหลียงหนึ่งในพรรคพวกของคุณมาที่นี่เพื่อวางกำลังคนคอยซุ่มโจมตีฉัน หรือว่าคุณลืมไปแล้ว?
สีหน้าของเทียนกั๋วถงและเฉินเจี้ยนเปลี่ยนไปทันทีพวกเขาได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับสถานที่ตั้งในการดักซุ่มโจมตีที่หวังเหวินเหลียงเลือก แต่พวกเขาไม่ได้มาด้วยตัวเอง ในตอนนั้นหวังเหวินเหลียงไม่ฟังคำห้ามปรามของเทียนกั๋วถง และหลังจากนั้นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น
แล้วในตอนนี้…จี้เฟิงนำพวกเขามาที่นี่มันหมายความว่าอะไร
อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ฉันจะให้โอกาสคุณได้ดิ้นรนเอาตัวรอด ถ้าคุณสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของฉันได้ ฉันจะไม่ไล่ตามพวกคุณอีกต่อไป! จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยและหันไปมองรอบๆ อันที่จริง ที่แห่งนี้เหมาะมากสำหรับการหลบหนี หญ้าที่ขึ้นโดยรอบก็สูงมาก คงเป็นเรื่องยากที่จะมองหาคนที่หลบหนีเข้าไปในพุ่มหญ้าแบบนี้ ฉันว่ามันเอื้อประโยชน์กับคุณมากทีเดียว
ความโกรธของเทียนกั๋วถงและเฉินเจี้ยนค่อยๆแสดงออกมามากขึ้นทุกทีคำพูดของจี้เฟิงเป็นคำดูหมิ่นอย่างร้ายกาจ แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นนักสู้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นปรมาจารย์ แต่ตอนนี้จี้เฟิงกลับทำเหมือนพวกเขาเป็นตัวตลก พวกเขาไม่สามารถทนได้!
เลิกพูดเรื่องไร้สาระ!แล้วบอกกติกาการต่อสู้มาได้เลย พวกเราให้คุณเป็นฝ่ายเลือก! เฉินเจี้ยนทนไม่ได้เขาจึงตะโกนออกมาเป็นคนแรก
จี้เฟิงหัวเราะและพูดว่า เริ่มหนีได้เลยนะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา!
อวดดีนัก!เอาชนะฉันให้ได้ก่อน! เฉินเจี้ยนคำรามพร้อมกับพุ่งทะยานเข้าไปหาจี้เฟิงทันทีอย่างรวดเร็ว ร่างทั้งร่างของเขาเหมือนกับเสือชีตาห์ที่กำลังกระโดดเข้าหาเหยื่อ และชกไปที่หน้าอกของจี้เฟิงอย่างดุดัน
ความเร็วของเขานั้นเร็วมากเพียงพริบตาเดียวหมัดของเขาก็มาถึงหน้าอกของจี้เฟิงแล้ว และหมัดของเขาก็กำลังจะกระแทกกับหน้าอกของจี้เฟิง
เฉียวหรงตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ดีมาก! ฆ่าไอ้ลูกหมานั่นซะ….!
แต่เธอยังพูดไม่ทันจบประโยคดีเสียงของเธอก็หยุดไปราวกับว่ามีคนมาบีบคอเธออย่างกะทันหัน ใบหน้าของเธอแดงก่ำ
จี้เฟิงขยับเท้าเพียงเล็กน้อยและทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เบี่ยงออกไปด้านข้างการหลบที่ไม่คาดคิดทำให้เฉินเจี้ยนที่พุ่งกระโจนเข้ามาอย่างรวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัวจนทำให้เขาเกือบจะล้มลงไปด้านหน้าและกำลังจะกระแทกพื้น
จี้เฟิงยกขาของเขาขึ้นมาอีกครั้งและเตะไปที่หน้าอกของเฉินเจี้ยนด้วยท่าทีสบายๆ
ตูม!
อั่ก!
เฉินเจี้ยนเปล่งเสียงแน่นๆออกมาโดยทันทีจากนั้นร่างทั้งร่างก็กระเด็นหงายหลังบินลอยไปกลางอากาศและกระแทกพื้นอย่างแรง
เฉินเจี้ยนกำลังจะลุกขึ้นแต่ร่างกายรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ร้าวไปทั้งตัวจนสั่นสะท้านเหมือนกับคนที่ไร้เรี่ยวแรง เขาพยายามฝืนลุกขึ้นยืนแต่สุดท้ายก็ล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง
เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้นเฉินเจี้ยนพ่ายแพ้!
ทั้งเฉียวหรงและเทียนกั๋วถงถึงกับตกตะลึงอย่างแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทียนกั๋วถงในใจของเขายิ่งตกใจ
ทั้งเฉียวหรงและเทียนกั๋วถงต่างพากันอึ้งโดยเฉพาะอย่างเทียนกั๋วถงถึงกับตกตะลึงอย่างแรง เขารู้ดีว่าทักษะของเฉินเจี้ยนอยู่ในระดับไหน แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบกับเขาได้แต่ความแตกต่างทางด้านฝีมือก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลกันนัก ปกติแล้วถ้าเขาต้องการที่จะเอาชนะเฉินเจี้ยนอย่างน้อยก็ต้องมีมากกว่า 10 กระบวนท่า เขาจะมาเอาชนะด้วยท่าทีสบายๆเช่นนี้ได้อย่างไร
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของจี้เฟิงไม่เพียงแต่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาเท่านั้นแต่มันแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก จนเรียกได้ว่ามากเกินไป!
ใบหน้าของเฉียวหรงบิดเบี้ยวจนดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมสัตว์ร้ายตัวนี้มันมีพลังมหาศาลขนาดนี้ได้อย่างไร เธอได้เห็นการต่อสู้ระหว่างยามรักษาความปลอดภัยของตระกูลเฉียวกับเฉินเจี้ยนด้วยตาของตัวเองมาแล้ว ยามเหล่านั้นเป็นคนมีฝีมือจากในกองทัพ แต่พวกเขาก็พ่ายแพ้ให้กับเฉินเจี้ยน แต่ตอนนี้เฉินเจี้ยนกลับไม่สามารถผ่านกระบวนท่าของจี้เฟิงได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว!
ความแตกต่างนี้มันมากเกินไป!
จี้เฟิงเพิกเฉยต่อปฏิกิริยาของทั้งสองคนเขาชี้นิ้วไปที่เทียนกั๋วถง ถึงตาคุณแล้ว
เทียนกั๋วถงหน้าแดงก่ำไปด้วยความโกรธทันทีคนอย่างเขาเคยโดนดูหมิ่นเช่นนี้งั้นหรือ แต่วันนี้จี้เฟิงได้ทำเช่นนั้น และมันเป็นการก้าวล้ำเส้นที่จะไม่ได้รับการอภัย!
ฉันจะสู้กับคุณ! เทียนกั๋วถงคำรามและก้าวไปข้างหน้าสองก้าว
ถ้าเลือกวิ่งหนีไปอย่างที่ฉันบอกน่าจะมีโอกาสรอดมากกว่านะ! จี้เฟิงหัวเราะเยาะเย้ย
เอาตัวคุณเองให้รอดก่อนค่อยมาห่วงเรื่องของคนอื่น! เทียนกั๋วถงทับถมกลับอย่างเย็นชา จี้เฟิงยิ้มจางๆ มาเลย!
ทันทีที่เสียงของจี้เฟิงลดลงเทียนกั๋วถงก็เหวี่ยงหมัดออกมาทันที จี้เฟิงไม่ได้คิดอะไรมาก เขาก็แค่ใช้หมัดของเขาตอบโต้การโจมตีของเทียนกั๋วถง
ตูม!
หมัดของทั้งสองคนกระแทกเข้าหันกันอย่างแรง
กร๊อบ! เสียงกระดูกหักดังขึ้น
เทียนกั๋วถงร้องอู้อี้อยู่ในลำคอหลังจากที่เดินเซถอยหลังไปสองสามก้าวเขาก็กลับมายืนได้อย่างมั่นคง
พลังของนักสู้โดยกำเนิดนี่น่าทึ่งจริงๆ! เทียนกั๋วถงกัดฟัน แต่มันจะไม่จบง่ายๆแค่นี้หรอกนะ!
ฟึ่บ~!
เทียนกั๋วถงเหวี่ยงหมัดอีกครั้งแต่ครั้งนี้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า และแม้แต่เฉียวหรงที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลยังมองเห็นเพียงแค่เงาที่เคลื่อนผ่านไปเท่านั้น เธอไม่สามารถมองเห็นร่างของเทียนกั๋วถงได้อย่างชัดเจน เพียงเท่านี้ก็น่าจะพอจินตนาการได้ว่าเขาเร็วมากแค่ไหน
ถึงแม้เทียนกั๋วถงจะเร็วมากแต่จี้เฟิงเร็วกว่า หมัดของทั้งสองพุ่งเข้ามากระแทกกันอีกครั้งอย่างแรง
ตูม!
ครั้งนี้เทียนกั๋วถงไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งที่แล้วไม่เพียงแต่แขนของเขาจะหักแต่กระดูกบนกำปั้นของเขาก็แตกเป็นเสี่ยงๆ และก็เหมือนกับเฉินเจี้ยนก่อนหน้านี้ ร่างของเขากระเด็นลอยไปกลางอากาศอย่างรวดเร็วและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง
เทียนกั๋วถงเองก็อยากจะลุกขึ้นมาสู้ต่อเช่นกันแต่เขารู้สึกว่าร่างกายของเขามันหนักและเจ็บปวดไปทั้งตัวจนแทบทนไม่ไหว กล้ามเนื้อทุกส่วนรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวราวกับมีเข็มหลายพันเล่มทิ่มแทงพร้อมๆกันเวลาที่เขาขยับ มันทำให้เขาไม่สามารถออกแรงได้เลย! ปราณที่แท้จริงโดยกำเนิดแทรกซึมเข้ามาทำลายภายในร่างกาย! เทียนกั๋วถงตกใจมาก มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นสำหรับสถานการณ์นี้ ในตอนที่หมัดของเขาและจี้เฟิงปะทะกัน จี้เฟิงได้ส่งพลังปราณแท้โดยกำเนิดเข้ามาสู่ร่างกายของเขาและมันก็ทำลายเส้นลมปราณของเขาอย่างหนักหน่วง ตอนนี้อย่าว่าแต่ใช้แรงเพื่อที่จะลุกขึ้นไปสู้ต่อเลย จะรักษาชีวิตไว้ได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ ไอรีนโนเวล
ก่อนหน้านี้จี้เฟิงไม่ได้รู้เลยว่าปราณโดยกำเนิดของเขามันจะรุนแรงได้ขนาดไหนและเขาเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าในตอนที่เขาเริ่มฝึกยิมนาสติกชุดแรก สมองหมายเลข 1 เคยลงโทษเขาด้วยกระแสไฟฟ้าชีวภาพ มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดแทบจะทุกอณูในร่างกาย
แต่จู่ๆก็มีความคิดแผลงๆขึ้นมาในหัวของเขาจี้เฟิงลองส่งกระแสไฟฟ้าชีวภาพเข้าไปในตัวเฉินเจี้ยนและเทียนกั๋วถงตอนที่พวกเขาปะทะกัน และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไม่เลวเลย!
ลองนึกภาพดูว่าการนำไฟฟ้าแรงสู้ใส่เข้าไปในแบตเตอรี่แห้งจะมีผลยังไง
สายตาของจี้เฟิงเหลือบมองไปที่เฉียวหรงที่กำลังอยู่ในอาการตกใจเขาก้าวเข้าไปหาเฉียวหรงทันที
อา!แก! แกจะทำอะไร! เฉียวหรงผวาตกใจและกรีดร้อง อย่าเข้ามานะ! ไสหัวไป ไอ้ปีศาจ อย่าเข้ามา!
จี้เฟิงตะโกนอย่างเย็นชา ถ้าคำพูดสกปรกหลุดออกมาจากปากเน่าๆของแกอีกแม้เพียงครึ่งคำ ฉันจะฝังแกทั้งเป็นในวันนี้!
…… เฉียวหรงตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัวและกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่าจะมีเสียงเล็ดลอดออกไป
มีความดูถูกเหยียดหยามอยู่ในดวงตาของจี้เฟิงและเขาพูดอย่างเย็นชาว่า เสียใจกับการกระทำของตัวเองงั้นเหรอ รวมหัวกับคนอื่นวางแผนแกล้งทำเป็นคนบ้า! เวลาดูถูกเหยียดหยามคนอื่น… เคยคิดมั้ยว่ามันจะจบลงแบบนี้?!
เฉียวหรงส่ายหัวอย่างสิ้นหวังเธอค่อยๆก้าวถอยหลังทีละก้าวทุกคำที่จี้เฟิงเอ่ยออกมามันทำให้หัวใจของเธอสั่นสะท้าน
บ้าไปแล้ว!ผู้ชายคนนี้มันบ้า! มันเป็นคนบ้า!
ความหวาดกลัวฉายชัดออกมาจากดวงตาของเฉียวหรงในสายตาของเธอจี้เฟิงได้กลายเป็นปีศาจร้ายที่บ้าคลั่งไปแล้วอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งความหวาดกลัวนั้นยังแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายและจิตใจของเธอ เฉียวหรงกลอกตาและเป็นลมล้มลงกับพื้น
คราวนี้ถึงตาจี้เฟิงที่ต้องตกตะลึงมันเป็นลมได้ไงวะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย!
จะทำยังไงดีล่ะทีนี้
จี้เฟิงขมวดคิ้วจะฆ่าพวกมันสามคนก็ไม่ได้ จะปล่อยไปเฉยๆแบบนี้ก็ไม่ได้ แม้ว่าในทีแรกที่เขาได้ยินว่าเฉียวหรงและพรรคพวกวางแผนที่จะโจมตีคนรอบข้างของเขา จิตใจของเขาก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า แต่ตอนนี้ความโกรธในใจของเขาได้เบาบางลงไปบ้างแล้ว และคงเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าคนด้วยอารมณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้
จี้เฟิงเหลือบมองไปที่เฉินเจี้ยนและเทียนกั๋วถงที่ตอนนี้สลบเหมือดไปเรียบร้อยแล้ว จะฆ่าสองคนนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจี้เฟิงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่สำนักซวนเหมินที่ว่านี้คืออะไรก็ไม่รู้ แต่เนื่องจากพวกเขาสามารถร่วมมือกับตระกูลเฉียวได้ ก็แสดงว่าพวกเขาก็ต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาอยู่เหมือนกัน หากคิดที่จะฆ่าพวกเขาในตอนนี้ เรื่องราวของการแก้แค้นมันอาจจะบานปลายมากขึ้นในอนาคต
แต่ถ้าไม่ฆ่าเสียตั้งแต่ตอนนี้….มันจะยิ่งเป็นปัญหาในภายหลังหรือไม่
ตี๊…ดี่ … ในตอนนั้นเองจู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น จี้เฟิงขมวดคิ้วทันที ก่อนหน้านี้จี้เฟิงได้ตั้งเสียงเรียกเข้าโดยเฉพาะถ้าเป็นสายมาจากหยานจิง
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและพบว่าเป็นสายของแม่
ครับแม่! จี้เฟิงยังไม่อยากจะคุยกับแม่ในสถานการณ์แบบนี้ เขารู้สึกว่ามันอาจจะทำให้เธอไม่สบายใจ
อย่างไรก็ตามเมื่อจี้เฟิงได้ยินเสียงที่พูดออกมาเขาก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย เสี่ยวเฟิง ถ้าเฉียวหรงและคนติดตามของเธอยังมีชีวิตอยู่ ปล่อยพวกเขาไปก่อน ไว้ชีวิตพวกเขา!
พ่อ! จี้เฟิงตกใจ ทำไมถึงกลายเป็นพ่อไปได้ แล้วพ่อรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่?
เสี่ยวเฟิงนี่ไม่ใช่การล่าถอย แต่เป็นกลยุทธ์ จี้เจิ้นหัวกลัวว่าจี้เฟิงจะไม่ยอมไว้ชีวิตพวกเฉียวหรงไป เขาจึงรีบอธิบาย ตอนนี้มีหลายอย่างที่ลูกยังไม่รู้ แต่ในอนาคตลูกจะเข้าใจทุกอย่าง!
ผมเข้าใจแล้ว! จี้เฟิงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำตามที่พ่อของเขาบอก ในเมื่อพ่อเขาพูดถึงขนาดนี้แล้วเขาคงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
เสียงของจี้เจิ้นหัวดูมีความสุขมาก เสี่ยวเฟิง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเจียงโจว ลูกทำได้ดีมาก พยายามต่อไป!
หลังจากนั้นจี้เจิ้นหัวก็วางสายไปจี้เฟิงได้แต่ยืนงง เขาทำอะไรได้ดี เรื่องที่เขาตบเฉียวหรงหรือเรื่องที่เขามีแฟนสองคน
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามในที่สุดจี้เฟิงก็มีวิธีจัดการกับเฉียวหรงแล้ว เป็นวิธีเดียวกับที่เขาจัดการเทียนกั๋วถงและเฉินเจี้ยนไปเมื่อครู่ เรื่องอะไรเขาจะต้องปล่อยเฉียวหรงไปง่ายๆแบบนี้ด้วย
แค่ไม่ฆ่าก็พอสินะได้! งั้นฉันจะทำให้ผู้หญิงคนนี้ได้รับบทเรียนอย่างที่ไม่มีวันลืม!
หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับมันจี้เฟิงก็เปิดใช้พลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพ เขาคว้าข้อมือของเฉียวหรงและปล่อยกระแสไฟฟ้าชีวภาพเข้าไปในร่างกายของเธออย่างบ้าคลั่ง กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังอย่างต่อเนื่องยาวนานในทุ่งหญ้าที่รกร้างของพื้นที่ที่ห่างไกล