เมื่อกลับไปถึงคฤหาสน์ตระกูลเซียวก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว
เซียวมู่แม่ของเซียวหยูซวนยังไม่หลับพักผ่อนเธอกำลังนั่งรอเซียวฉางเหอและคนอื่นๆกลับมา
เสี่ยวเฟิงคืนนี้ค้างที่นี่เถอะ ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วขับรถขับราตอนกลางคืนมันอันตราย! แม่ของเซียวหยูซวนกล่าวอย่างกระตือรือร้น สำหรับจี้เฟิงลูกเขยในอนาคตคนนี้เธอรู้สึกพึงพอใจมาก แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าที่บริษัทยาฉางเหอได้รับการจัดการอย่างไร แต่เพียงแค่ดูจากสีหน้าท่าทางของสามีเธอก็เดาได้ว่าปัญหาที่บริษัทต้องได้รับการจัดการแก้ไขอย่างราบรื่น
และเธอก็มั่นใจมากด้วยว่าจี้เฟิงจะต้องมีส่วนช่วยในเรื่องนี้
จี้เฟิงลังเลเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดขัดอะไรหากต้องอยู่ค้างคืนที่บ้านของตระกูลเซียว แต่เขาก็อดเป็นห่วงถงเล่ยที่ต้องอยู่ในวิลล่าคนเดียวไม่ได้
แม่คะให้จี้เฟิงกลับเถอะค่ะ ตอนนี้รถไม่น่าจะเยอะ ขับไปแป็บเดียวก็น่าจะถึงแล้วล่ะ เซียวหยูซวนรู้ดีถึงสิ่งที่จี้เฟิงเป็นกังวล แม้ว่าใจของเธอก็ต้องการให้จี้เฟิงค้างคืนที่นี่ในคืนนี้เช่นกัน แต่ยังไงก็ตามเธอไม่สามารถปล่อยให้ถงเล่ยอยู่ที่วิลล่าคนเดียวได้
ยัยลูกคนนี้!ดึกดื่นป่านนี้ยิ่งขับรถเร็วมันก็ยิ่งอันตรายน่ะสิ แล้วมารยาทเล็กๆน้อยๆก็ยังไม่เข้าใจ! เซียวมู่แค่นเสียงดุลูกสาวและหันไปพูดกับจี้เฟิงด้วยรอยยิ้มว่า เสี่ยวเฟิง อย่าได้ถือสาเลยนะ บางครั้งซวนซวนก็ไม่รู้ความ ฉันคงเลี้ยงแกมาแบบตามใจมากเกินไปถึงได้นิสัยเสียแบบนี้! ดังนั้นเสี่ยวเฟิงก็อย่าตามใจเธอให้มากนักล่ะ
จี้เฟิงยิ้มทันที คุณป้าไม่ต้องกังวล ผมรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร!
เซียวหยูซวนหน้าแดงทันทีเธอได้แต่คร่ำครวญ แม่พูดอะไรของแม่เนี่ย! ใครนิสัยเสียกัน!
ต่อหน้าจี้เฟิงเธอมักจะมีภาพลักษณ์ที่มีเสน่ห์และดูดีอยู่เสมอแต่ตอนนี้เธอได้รับการปฏิบัติเหมือนเด็กๆจากแม่ของเธอ จึงทำให้เธอรู้สึกเขินอายอย่างช่วยไม่ได้
เซียวมู่ทำหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยินคำประท้วงของลูกสาวแม้ว่าจี้เฟิงจะดูเป็นคนดี แต่ยังไงซะเขาก็เป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ อีกทั้งต่อไปถ้าเซียวหยูซวนและจี้เฟิงได้อยู่กินกันฉันสามีภรรยาย่อมต้องมีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างและมันจะทำให้ลูกสาวของเธอต้องเสียเปรียบ
เสี่ยวเฟิงคราวนี้ถือว่าป้าขอก็แล้วกัน ค้างคืนที่นี่ซะ! เซียวมู่พูดขอร้องแกมบังคับ จากนั้นเธอก็หันหลังกลับเดินขึ้นไปชั้นบน ป้าเตรียมน้ำไว้ให้แล้ว ไปอาบน้ำก่อนเถอะ!
ทั้งจี้เฟิงและเซียวหยูซวนได้แต่มองเซียวมู่ที่เต็มไปด้วยท่าทางกระตือรือร้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและพวกเขาทั้งคู่ก็หันมามองหน้ากันอย่างเงียบๆ จิ๊กโก๋ตัวน้อย… เซียวหยูซวนกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อย ทำไมล่ะ เธอไม่อยากให้ฉันนอนกับเธอเหรอ?
ไม่!ไม่ใช่แบบนั้น! เซียวหยูซวนหน้าแดง คำพูดของจี้เฟิงคลุมเครือเกินไป แต่… เล่ยเล่ย…
จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม ฉันจะโทรบอกเธอเอง ในเมื่อแม่ของเซียวหยูซวนคะยั้นคะยอให้เขาค้างคืนที่นี่ซะขนาดนี้เขาจะเสียมารยาทและกลับไปทั้งแบบนี้ได้อย่างไร
แต่ทันทีที่จี้เฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาเขาก็เห็นข้อความที่ยังไม่ได้อ่านบนโทรศัพท์ เป็นถงเล่ยที่ส่งข้อความมาว่า
[[ จี้เฟิงฉันล็อกประตูและหน้าต่างหมดแล้ว ไม่ได้เปิดประตูทิ้งไว้ให้พวกนาย วันนี้ก็อยู่กับพี่สาวฉันดีๆล่ะ! ]]
จี้เฟิงมองเวลาที่ส่งมาปรากฏว่าเธอส่งมาตั้งแต่สองทุ่มแล้วช่วงเวลานั้นเขาอยู่ในห้องอาหารกับคนอื่นๆ จี้เฟิงเก็บโทรศัพท์ไว้ในเสื้อแจ็กเก็ตของเขา เสียงในห้องอาหารคงดังเกินไปจนเขาไม่ได้ยินมัน
เมื่อเห็นข้อความนี้หัวใจของจี้เฟิงก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันทีเขารู้ว่าถงเล่ยคิดถึงเขามาก่อนเป็นอันดับแรก กับแฟนสาวที่น่ารักแบบนี้ เขายังจะต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีก
จี้เฟิงยื่นโทรศัพท์ให้เซียวหยูซวนดูถงเล่ยน่ารักและดีกับพวกเขามากขนาดนี้เขาจึงต้องการให้เซียวหยูซวนได้รับรู้ด้วยเช่นกัน
ดวงตาของเซียวหยูซวนแดงก่ำเธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆและจงใจยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จิ๊กโก๋น้อย ตอนนี้ก็เท่ากับว่านายเป็นคนไร้บ้านแล้วสินะ~!
งั้นก็ต้องนอนกับเธอสินะคืนนี้! จี้เฟิงยิ้มอย่างชั่วร้าย
จู่ๆเซียวหยูซวนก็นึกถึงฉากที่วาบหวามกับจี้เฟิงก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ใบหน้าของเธอแดงก่ำ เธอรีบพูดว่า รีบไปอาบน้ำเถอะ ฉันจะไปหยิบชุดนอนมาให้! พูดจบเธอก็รีบผลักจี้เฟิงขึ้นไปข้างบน
คฤหาสน์บ้านตระกูลเซียวสูง2 ชั้นครึ่ง ครึ่งบนเป็นโครงสร้างแบบดูเพล็กซ์ ประกอบด้วยห้องใต้หลังคาขนาดเล็ก 2 ห้อง ชั้น 2 เป็นห้องนอน ส่วนชั้น 1 เป็นห้องพักของแขก
จี้เฟิงอาศัยอยู่ที่ห้องพักของแขกในชั้น1 เขากำลังนอนอยู่บนเตียงและดูรายการทีวีไปเรื่อยเปื่อย แม้เขาจะรู้สึกเบื่อๆ แต่เขายังไม่อยากนอน
ครืดดดด~~!!
จู่ๆเสียงสั่นของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจี้เฟิงหยิบมาดูและพบว่าเป็นข้อความจากเซียวหยูซวน
[[จิ๊กโก๋น้อยนายหลับอยู่หรือเปล่า]]
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยและพิมพ์ตอบกลับไปว่า
[[ฉันนอนไม่หลับถ้าไม่มีเธอ^_^]]
หลังจากนั้นไม่นานก็มีข้อความเด้งขึ้นมาอีกครั้ง
[[แม้ว่าตัวฉันจะไม่ได้ไปนอนกับนายแต่ฉันได้มอบของพิเศษเอาไว้นอนเป็นเพื่อนนายแล้ว]]
[[อะไรเหรอ]]
จี้เฟิงพิมพ์สองสามคำและส่งกลับไปอย่างรวดเร็ว
เซียวหยูซวนตอบกลับมาว่า
[[มันอยู่ใต้หมอนของนาย ถ้าอยากรู้ก็ดูเอาเอง(≧▽≦)]]
จี้เฟิงตกใจเล็กน้อยอะไรอยู่ใต้หมอน
เขาลุกขึ้นไปเปิดไฟทันทีและรีบเปิดหมอนดูและเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ใต้หมอนอย่างชัดเจน ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเหมือนกัน
…..ใต้หมอนมีกางเกงชั้นในลูกไม้สีดำอยู่ตัวหนึ่ง!
ครืดดดด~~!!
เสียงโทรศัพท์สั่นอีกครั้งและข้อความที่เซียวหยูซวนส่งมามีใจความว่า [[จิ๊กโก๋น้อย~!แม้ว่าฉันจะไม่สามารถไปอยู่เป็นเพื่อนนายได้ แต่ฉันทิ้งของส่วนตัวของฉันไว้ให้นายแล้ว~! คิกคิก จิ๊กโก๋น้อย ไม่ว่านายจะทำอะไรกับมันนั่นก็หมายความว่านายได้ทำกับฉันด้วย!]]
พรึ่บ!
ไฟชั่วร้ายที่อยู่ในใจของจี้เฟิงพลุ่งพล่านขึ้นอย่างกะทันหันปีศาจสาวคนนี้!
เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นอยู่ในใจแต่แรงกระตุ้นที่เกิดขึ้นในเวลานี้เขาไม่สามารถทำให้มันสงบลงได้ง่ายๆ เขามองไปที่กางเกงชั้นในลูกไม้สีดำอย่างลังเล และอดไม่ได้ที่จะหายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย
ในที่สุดเขาก็หยิบมันขึ้นมากางเกงในตัวนี้ดูเหมือนจะยังไม่ได้ซัก… แถมยังมีเส้นขนอยู่สองสามเส้นอยู่ตรงเป้า…
จี้เฟิงกัดฟันเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพิมพ์ข้อความตอบไปว่า อาจารย์เซียว ผมต้องขอโทษด้วย ผมไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น แต่ถ้าคุณอยากร่วมด้วย ก็เชิญคุณลงมาที่นี่ด้วยตัวคุณเอง! แต่ในความเป็นจริงจี้เฟิงก็แอบมีความคิดที่ผิดปกติกางเกงในของเซียวหยูซวนนั้นมีกลิ่นหอมของตัวเธอติดอยู่ มันเป็นกลิ่นหอมที่พิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก และไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนไหนถ้าตกอยู่ในสถานการณ์นี้ก็คงจะทนแรงกระตุ้นแบบนี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะช่วงวัยอย่างจี้เฟิง เป็นวัยที่เลือดมักพลุ่งพล่านแม้จะถูกยั่วยวนเพียงเล็กน้อยก็ตาม
แต่จี้เฟิงเป็นคนที่มีความอดทนสูงเขาพยายามข่มอารมณ์ตัวเองและยับยั้งความรู้สึกเช่นนั้นไว้
ปีศาจสาวคนนี้ถ้าวันหนึ่งถูกฉันจับได้… ดูซิว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง! จี้เฟิงกัดฟันพูด แต่แรงกระตุ้นของเขากลับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
ครืดดดด~~!!
ข้อความจากเซียวหยูซวนถูกส่งมาอีกครั้ง
[[จะบ้าเหรอ!ถ้าออกไปตอนนี้แล้วถูกจับได้จะทำยังไง? รีบนอนพักผ่อนเถอะ แต่ถ้าทนไม่ไหวก็เอากางเกงในตัวน้อยของฉันมาจัดการไปก่อนก็แล้วกัน~~! ]]
จี้เฟิงพูดเสียงอู้อี้กับตัวเองและนอนลงด้วยสีหน้าหดหู่กางเกงชั้นในลูกไม้สีดำของเซียวหยูซวนถูกวางไว้บนหมอนอีกใบ เขาพยายามยับยั้งใจไม่ให้มองไปที่มัน
เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจี้เฟิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเกมง่ายๆเกมหนึ่งขึ้นมาเล่นอย่างเหม่อลอย เขากำลังคิดอยู่ว่าเขาจะเข้าสู่จิตใต้สำนึกและฝึกฝนให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลยดีหรือไม่ แต่คิดๆดูแล้วภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขาคงไม่มีสมาธิที่ดีพอในการฝึก เขาจึงเลือกที่จะลืมมันไป
จี้เฟิงเล่นเกมตัวต่อแต่เป็นเพราะเขาเล่นแบบขาดสติ จึงทำให้เขาพ่ายแพ้ไปสามครั้งติดต่อกัน จนเขารู้สึกเบื่อเขาจึงวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ เขาได้แต่นอนบนเตียงนิ่งๆจ้องมองเพดานอย่างว่างเปล่าโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนสติของจี้เฟิงค่อยๆเลือนรางลงเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็เริ่มรู้สึกง่วง เขาจึงคิดจะปิดโทรศัพท์และเข้านอน
แต่ทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเขาก็ต้องหยุดชะงักและรวบรวมพลังไฟฟ้าชีวภาพไปที่หูของเขาทันทีเพื่อฟัง
เสียงฝีเท้า!
แม้ว่าจะเบามากแต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นเสียงฝีเท้าของคนจริงๆ มันเป็นเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินลงบันไดเพื่อลงมายังชั้นล่าง
ใครกัน
หัวใจของจี้เฟิงเต้นแรงขึ้นทันทีหรือว่าคนที่ลงมาจะเป็นเซียวหยูซวน
จี้เฟิงดูเวลาที่โทรศัพท์ทันทีและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว และเขาก็เชื่อในทันทีว่าคนที่ลงมาจะต้องเป็นเซียวหยูซวนอย่างแน่นอน เพราะในเวลานี้เซียวฉางเหอและภรรยาของเขาน่าจะหลับไปแล้ว ในที่สุดปีศาจน้อยคนนี้ก็อดใจไม่ไหวสินะ…จี้เฟิงยิ้มอย่างชั่วร้าย เขาลุกจากเตียงอย่างเงียบๆเพื่อไปปลดล็อกประตู จากนั้นก็เดินอย่างแผ่วเบากลับมานอนลงบนเตียงและแกล้งทำเป็นหลับ
จี้เฟิงเดาถูก!คนที่ลงมาคือเซียวหยูซวนจริงๆ!
ก่อนหน้านี้เซียวหยูซวนนอนอยู่บนเตียงเธอได้แต่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับ เธอจึงส่งข้อความหาจี้เฟิง แต่หลังจากที่เธอส่งข้อความไปไม่กี่ข้อความ เธอก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวและมีไฟบางอย่างอยู่ในใจที่เธอไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ใบหน้าที่สวยงามของเธอแดงก่ำ ร่างกายของเธอก็ร้อนขึ้นและรู้สึกอ่อนไหวแปลกๆ
แม้แต่ส่วนที่บอบบางของเธอก็รู้สึกได้ถึงความลื่นไหลที่ร้อนผ่าวขาทั้งสองข้างของเธอหนีบแน่นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
บางทีอาจจะเป็นเพราะเธออยู่ที่บ้านแถมพ่อแม่ของเธอก็อยู่ใกล้ๆมันเลยยิ่งทำให้เซียวหยูซวนรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถระงับไฟที่อยู่ในใจได้จนต้องแอบย่องเดินลงมา
เซียวหยูซวนเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของจี้เฟิงเธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอทั้งรู้สึกอายและตื่นเต้น เธอยื่นมือออกไปหลายครั้งเพื่อที่จะเคาะประตู แต่ความละอายใจของเธอก็ทำให้เธอต้องหดมือกลับเข้ามาอีกครั้ง
เพราะตาบ้านั่นคนเดียว! เซียวหยูซวนบ่นพึมพำและเผลอเอามือไปผลักประตูโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่าประตูจะเปิด!
ประตูไม่ได้ล็อก
เซียวหยูซวนตกใจหรือว่าจิ๊กโก๋น้อยยังไม่ได้หลับ…
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆและก้าวเข้าไปในห้องพักของแขกที่จี้เฟิงกำลังนอนหลับอย่างเงียบๆ เธอได้ยินเสียงลมหายใจอย่างสม่ำเสมอของจี้เฟิง
เจ้าหมอนี่หลับไปแล้วจริงๆเหรอเนี่ย เซียวหยูซวนประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ชอบสิ่งที่ฉันทิ้งไว้ให้จริงๆงั้นเหรอ?
เซียวหยูซวนรู้สึกสับสนเล็กน้อยอันที่จริงเธอไม่รู้ประสีประสาอะไรนักเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง สมัยที่เธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัย มีเพื่อนสาวร่วมหอพักคนหนึ่งมักจะพูดถึงหัวข้อที่ทำให้เธอหน้าแดงและใจสั่นอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มที่จะเข้าใจมันบ้างเล็กน้อย แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เธอจำได้แม่นเลยนั่นก็คือสิ่งที่เพื่อนสาวของเธอเล่าให้ฟังว่าผู้ชายมักจะชอบอะไรที่อีโรติก มีผู้ชายหลายคนชอบกางเกงในของผู้หญิงและที่สำคัญมันต้องยังไม่ได้ซัก!
ดังนั้นเซียวหยูซวนจึงละทิ้งความอับอายและวางกางเกงชั้นในของเธอไว้ใต้หมอนในห้องพักแขกก่อนที่จี้เฟิงจะเข้ามาแต่เธอก็ไม่คิดว่าจี้เฟิงจะผล็อยหลับไปง่ายๆเช่นนี้
เขาไม่สนใจเรื่องนี้จริงๆหรือเป็นเพราะฉันไม่มีเสน่ห์พอกันแน่! เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยแต่ก็รู้สึกหมดความมั่นใจไปไม่น้อย
บีบคอให้ตายคามือไปเลยดีมั้ยเจ้าจิ๊กโก๋น้อยคนนี้! ความเขินอายความท้อแท้กลับกลายเป็นความโกรธ แถมยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงเดินไปที่เตียงของจี้เฟิงสองก้าวและบีบแขนของจี้เฟิง
ในขณะนั้นดวงตาของจี้เฟิงก็เปิดขึ้นและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ฉายชัดอยู่ในแววตาของเขา
กว่าจะรู้ตัวเซียวหยูซวนก็ถูกอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของจี้เฟิงกอดรัดตัวเธอเอาไว้เธอคิดอยากจะตะโกนแต่ปากของเธอถูกปิดไว้โดยไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย