The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 332 ทำตามเป้าหมายภายในระยะเวลา 10 ปี !

บทที่ 332 ทำตามเป้าหมายภายในระยะเวลา 10 ปี !

  เมื่อเห็นชายชราที่โกรธเกรี้ยวกำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างดุเดือดในที่สุดใบหน้าที่เย็นชาไร้อารมณ์ของเถี่ยจุนก็เผยรอยยิ้มอันขมขื่นออกมา

  เขาเหลือบมองชายวัยกลางคนที่อยู่ถัดจากชายชราอีกฝ่ายทำได้แค่เพียงยิ้มออกมาอย่างจนใจ

   เจ้าเด็กเหลือขอมัวมองอะไรอยู่! ยังไม่รีบหลบไปอีก  ชายชราพ่นลมฟึดฟัดด้วยความไม่พอใจ  ต้องโดนตาแก่อย่างข้าทุบด้วยไม้เท้าก่อนใช่ไหมถึงจะยอมหลีกไป! 

  มุมปากของเถี่ยจุนกระตุกเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น  คุณอาถัง… 

  เถี่ยจุนเพิ่งจะอ้าปากเรียกก็ถูกเสียงไม่พอใจของชายชราขัดจังหวะทันที เจ้าเด็กไร้มารยาท! แม้แต่ลำดับการเรียกผู้อาวุโสก็ลืมไปแล้วงั้นหรือ อาถังอะไรของเจ้าลืมไปแล้วรึไงว่าข้าแก่กว่าพ่อของเจ้าซะอีก จำใส่หัวเอาไว้ให้ดีต้องเรียกข้าว่าลุงถัง! 

  เถี่ยจุนพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว ครับ ลุงถังครับ จำได้แล้วครับ! 

  ท่าทีของชายชราดูสงบลงเล็กน้อยจากนั้นก็พูดด้วยเสียงอันดังอีกครั้งว่า ดี! ในเมื่อเจ้าจำได้แล้วก็ดี ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ลุงถังขอสั่งให้เจ้าหลีกไปให้พ้นทางเดี๋ยวนี้ ข้าต้องการเข้าพบท่านหัวหน้า! หรือเจ้าต้องการจะขัดขวางข้าอีกเป็นครั้งที่สอง ข้าจะได้วิ่งไปที่ปากกระบอกปืนของเจ้าให้รู้แล้วรู้รอดไป! 

  บนหน้าผากของเถี่ยจุนเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆที่ไหลออกมาเขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า  ลุงถังครับผมแค่ทำตามคำสั่งของท่านหัวหน้าเท่านั้น เอาอย่างนี้แล้วกัน อย่างน้อยก็ให้ผมได้ไปรายงานท่านหัวหน้าก่อนแล้วกันนะครับ 

  ชายชราผู้นี้เถี่ยจุนไม่อาจล่วงเกินได้จริงๆและเขาก็ไม่สามารถดูหมิ่นได้แม้แต่นิดเดียว เพราะไม่อย่างนั้น ถ้าพ่อของเขารู้เข้าแล้วเขาไม่ถูกหักขาก็คงจะแปลกแล้ว!

   ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปซะสิ! ชายชราก่นด่าสาปแช่งอีกครั้ง  ไอ้ลูกหมาน้อยสงสัยถ้าไม่โดนสักที คงจะไม่ดีขึ้นเลยจริงๆ!  ระหว่างที่พูดชายชราก็ถกแขนเสื้อขึ้นเตรียมจะเข้าไปทุบตีเถี่ยจุน

   พ่อครับ!พ่อ! ใจเย็นๆก่อนเถอะ!  ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆรีบดึงชายชราไว้และส่งสายตาให้เถี่ยจุนรีบไป

  เถี่ยจุนไม่กล้าพูดอะไรอีกเขารีบวิ่งไปยังห้องพยาบาลพิเศษของผู้อาวุโสจี้

  เมื่อเคาะประตูเถี่ยจุนไม่รอให้ใครตอบรับเขารีบผลักประตูเข้าไปในห้องของผู้อาวุโสจี้ทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่ออันเย็นเยียบและพูดขึ้นด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน  ท่านหัวหน้าครับ ผู้เฒ่าถังขอพบท่าน ท่านจะ… 

   เสี่ยวถังมางั้นหรือ ผู้อาวุโสจี้อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา  ข้าก็ว่าอยู่ ใครมันจะกล้าบุกเข้ามาแบบนี้ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง เจ้าไปพาเขาเข้ามาเถอะ! 

  เถี่ยจุนพยักหน้าทันที ครับท่านหัวหน้า! 

  เขาแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่ท่านหัวหน้าอนุญาต ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปบอกชายชราว่าอย่างไรดี ชายชราคนนี้อารมณ์ร้อนมาก แม้แต่พ่อของเขาเองก็ยังปวดหัว นับประสาอะไรกับเขา!

  หลังจากที่เถี่ยจุนเดินออกไปได้ไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นอีกครั้งและประตูห้องก็ถูกเคาะ

   เข้ามา! ผู้อาวุโสจี้ยิ้ม

  ประตูถูกผลักเปิดออกชายชราที่มีผมหงอกขาวและใบหน้าแดงก่ำก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

  พอเห็นผู้อาวุโสจี้นั่งอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลชายชราก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เข้าเดินเข้าไปไม่กี่ก้าวและหยุดอยู่ที่ระยะสองเมตรก่อนจะถึงเตียงของโรงพยาบาลที่ผู้อาวุโสจี้นั่งอยู่

  เขายืนตรงและโค้งคำนับ

   รายงานท่านหัวหน้าใหญ่ข้าองครักษ์ถังผู้จงรักภักดีมารายงานตัวครับ!  เสียงของชายชราดังมาก แม้ว่าท่าทางการยืนของเขาจะไม่สง่าผ่าเผยเหมือนก่อน แต่เขาก็พยายามยืดอกยืนตัวตรงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว การทักทายด้วยความเคารพก็เป็นมาตรฐานของชายชาติทหารอย่างหนึ่งเช่นกัน

  ชายชราคนนี้ดูเคร่งครัดในเรื่องพวกนี้มากจริงๆ

   ดี!ดี!  ผู้อาวุโสจี้ก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน เขาพยักหน้าอยู่สองสามครั้ง  เสี่ยวถัง ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าจะต้องมาแน่นอน! 

  หลังจากที่ผู้เฒ่าถังทำความเคารพเสร็จเขาก็รีบก้าวเข้าไปหาผู้อาวุโสจี้อย่างรวดเร็ว  ท่านหัวหน้า ร่างกายของท่าน… 

   ข้าไม่เป็นไรมันไม่สามารถเอาชนะข้าได้หรอกหน่าก็แค่สร้างปัญหาให้ข้านิดๆหน่อยๆ!  ผู้อาวุโสจี้พูดคุยและโบกมืออย่างภาคภูมิใจราวกับเขาได้กลับไปสู่สมัยสงคราม

   เฮ้อ!เดิมทีข้าคิดจะจับหมอเทวดาคนหนึ่งมา แม้หมอเทวดาคนนั้นจะยังอายุน้อยแต่ฝีมือการรักษาของเขาก็ไม่ธรรมดาเลย แต่ตอนนี้ดูท่าว่าคงไม่จำเป็นแล้ว!  ผู้เฒ่าถังหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง

   หมอเทวดา ผู้อาวุโสจี้อึ้งไปเล็กน้อย

   ใช่แล้วท่านหัวหน้าข้าได้พบกับหมอเทวดาบนรถไฟในตอนที่เดินทางมาที่หยานจิง…  ผู้เฒ่าถังรีบเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถไฟทันที รวมถึงบอกแผนการและข้อสันนิษฐานของเขาให้ผู้อาวุโสจี้รับรู้

  เมื่อฟังเรื่องราวจากผู้เฒ่าถังจบรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้อาวุโสจี้ก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าเขาเดาได้แล้วว่าหมอเทวดาตัวน้อยที่ผู้เฒ่าถังพูดถึงนั้นคือใคร เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าลิงน้อยกับเสี่ยวถังจะมีความสัมพันธ์กันเช่นนี้   ท่านหัวหน้าท่านคิดว่าสหายน้อยจี้เขา….  หลังจากที่ผู้เฒ่าถังพูดจบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะขอให้ผู้อาวุโสจี้ช่วยยืนยัน

  ผู้อาวุโสจี้อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า สหายน้อยที่เจ้าพูดถึงก็คือเจ้าลิงน้อยลูกชายของเจิ้นหัวและเป็นหลานชายของฉัน! 

   ข้าว่าแล้ว!จะมีความบังเอิญเช่นนั้นบนโลกนี้ได้อย่างไรท่านหัวหน้า แล้วตอนนี้เจ้าเด็กนั่นอยู่ที่ไหน ข้าขอพบเขาหน่อยได้ไหม?  ผู้เฒ่าถังหัวเราะด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อยและกล่าวว่า  ก่อนหน้านี้ข้าคิดที่จะจับตัวเขา ขอให้ข้าได้ขอโทษเขาเสียหน่อยเถอะ! 

   ไม่ได้ไม่ได้! เจ้าเด็กนั่นจะนิสัยเสียเอา!  ผู้อาวุโสจี้โบกมือเพื่อหยุดความคิดของผู้เฒ่าถัง แม้ว่าการที่เขามีหลานชายเช่นนี้จะทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสมควรที่จะให้ผู้เฒ่าถังไปขอโทษหลานชายของตนได้

  ในตอนนั้นเองจี้เฟิงที่ยืนหลบอยู่ในส่วนหนึ่งของห้องพยาบาลพิเศษก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอย่างหนักจนผ่านไปครู่ใหญ่เขาถึงได้เรียบเรียงเรื่องราวที่เพิ่งได้ยินเมื่อครู่

  ชายชราที่เขาบังเอิญช่วยไว้บนรถไฟในวันที่เดินทางมาหยานจิงกลับกลายเป็นผู้เฒ่าถังซึ่งเป็นลูกน้องของคุณปู่ และที่สำคัญผู้เฒ่าถังคนนี้ยังวางแผนที่จะจับตัวเขาอีกต่างหาก?!

  จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกด้วยความกลัวเขายังมีประสบการณ์ชีวิตน้อยเกินไป เกรงว่าถ้าไม่ใช่เพราะฮุ่ยอี้มารับเขาได้ทันเวลาล่ะก็ ตอนนี้เขาคงได้มาพบคุณปู่ด้วยวิธีอื่น

   ดูเหมือนว่าในอนาคตฉันจะต้องใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ให้มากขึ้นทักษะที่ดีไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้ทุกอย่างเรียบร้อย บางทีประสบการณ์ก็สำคัญกว่าความแข็งแกร่ง!  จี้เฟิงแอบเตือนตัวเองอยู่ในใจ

  ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าถังพูดขึ้นอีกครั้งว่า  ท่านหัวหน้าเมื่อไม่กี่เดือนก่อนพวกเรายังคุยโทรศัพท์กันอยู่เลย แล้วทำไมอยู่ดีๆท่านหัวหน้าถึงได้… 

  หัวใจของจี้เฟิงเต้นรัวความจริงแล้วเขาเองก็สงสัยเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

  เขาจำได้ว่าเมื่อสองเดือนก่อนพี่รองพูดเกี่ยวกับร่างกายคุณปู่แม้ว่าคุณปู่จะแก่มากแล้วแต่อาการป่วยของเขาก็ยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นนี้ แล้วทำไมภายในระยะเวลาแค่สองเดือนถึงได้ทรุดหนักลงจนมาเป็นแบบนี้ได้

  แม้ว่าคนเฒ่าคนแก่จะเจ็บจะป่วยบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่มีใครสามารถฝืนกฎแห่งกรรมได้ แต่คนเราก็ใช่ว่าจู่ๆจะป่วยหนักในทันที มันจะต้องมีอาการอะไรมาก่อนบ้าง เห็นได้ชัดว่าที่คุณปู่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในครั้งนี้จะต้องมีเบื้องหลังอะไรมากกว่านี้

  แววตาของจี้เฟิงส่องประกายเย็นยะเยือกหูตั้งตรงและตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง

  ผู้อาวุโสจี้ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวอย่างแผ่วเบา อายุปูนนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องมีอาการเจ็บป่วยกันบ้างเป็นธรรมดา! 

  ผู้เฒ่าถังพยักหน้าเขานิ่งเงียบไปด้วยความอดทน แต่สุดท้ายก็อดไม่ไหวที่พ่นลมหายใจออกมา ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจอย่างมาก

  จี้เฟิงสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าในน้ำเสียงปู่ของเขาคิ้วของเขายิ่งขมวดแน่นขึ้น ปู่ของเขาไม่อยากจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูด และถ้าเขาอยากรู้เขาคงต้องไปถามอาหรือพ่อของเขาโดยตรง

  แต่ตอนนี้ร่างกายของคุณปู่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่เวลานี้จึงไม่เหมาะที่จะจากไป

   ดูเหมือนว่าฉันคงต้องปล่อยมันไปก่อน จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ สิ่งที่ทำให้คุณปู่ไม่อยากพูดถึง เพราะมันจะทำให้เขาต้องลำบากใจหรือแค่ยังไม่อยากพูดถึงมันเฉยๆ

  แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้คุณปู่ต้องลำบากใจ…ก็ดูเหมือนจะมีไม่มาก!   ดังนั้นมีความเป็นไปได้อย่างสุดท้ายที่คุณปู่ไม่ต้องการจะคิดถึงมันอีกนั่นก็แสดงให้เห็นว่าคุณปู่กำลังลำบากใจ

  จี้เฟิงตัดสินใจที่จะวางเรื่องนี้เอาไว้ก่อนและฟังผู้เฒ่าถังที่อยู่ด้านนอกพูดขึ้นอีกครั้งว่า  ท่านหัวหน้าท่านรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ ทำไมเจ้าเถี่ยหลงถึงไม่โผล่หน้ามาเยี่ยมท่านบ้างล่ะ 

   เจ้าเสือเฒ่าถัง! ผู้อาวุโสจี้หัวเราะ  เสี่ยวเถี่ยมาเยี่ยมข้าแล้ว ทำไมเจ้าถึงคอยแต่จะหาเรื่องเสี่ยวเถี่ยอยู่อีกล่ะ 

   โธ่!ท่านหัวหน้าข้าไม่ได้หาเรื่องเจ้าเถี่ยหลงเสียหน่อย ข้าทำตามคำสอนของท่านทุกอย่าง ในแต่ละวันข้าก็มุ่งมั่นตั้งใจอยู่แต่กับเรื่องทางการทหาร ข้าไม่มีเวลาไปหาเรื่องเจ้าเถี่ยหลงนั่นหรอกหน่า เรื่องแบบนี้ข้าเลิกทำมาตั้งนานแล้ว!  ผู้เฒ่าถังรู้สึกเขินอายมาก มีเพียงหัวหน้าใหญ่คนนี้เท่านั้นที่เขาจะเปิดเผยด้านนี้ของตัวเองออกมาได้

  ผู้เฒ่าถังอยู่ในห้องพยาบาลพิเศษกับผู้อาวุโสจี้อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ลุกขึ้นและขอตัวกลับไปแม้ว่าเขาจะตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้เห็นหัวหน้าของเขาสุขภาพดีขึ้น แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะรบกวนเวลาพักผ่อนของหัวหน้า

  รอจนผู้เฒ่าถังจากไปจี้เฟิงถึงได้เดินออกมาผู้อาวุโสจี้ก็กล่าวชมเขาทันทีว่า  เจ้าลิงน้อย ทำดีกับคนอื่น ช่างเป็นการกระทำที่น่าชื่นชมนัก ดีมาก! ดีมาก! 

  จี้เฟิงหัวเราะออกมาทันที เป็นเรื่องบังเอิญที่ผมก็คิดไม่ถึงจริงๆ 

  ผู้อาวุโสจี้พยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ  แม้แต่เสี่ยวถังก็ยังนั่งไม่ติด เจ้าก็ลองคิดดูแล้วกันว่าสถานการณ์ที่บ้านจะเป็นอย่างไร… เจ้าลิงน้อยบอกกับปู่มาตามตรงเถอะ ว่ากระดูกแก่ๆอย่างปู่ถ้าหายดีแล้วจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน! 

  จี้เฟิงอึ้งไปทันทีเขามองไปที่ใบหน้าของชายชราที่กำลังเศร้าหมองอย่างลังเลและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดีแม้ว่ากระแสไฟฟ้าชีวภาพของเขาจะมีประสิทธิภาพอย่างน่าอัศจรรย์ แต่เรื่องที่ว่าคุณปู่แก่มากแล้วก็ยังคงเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้..

   เจ้าลิงน้อยมีอะไรก็พูดออกมาตามตรงเถอะปู่ของเจ้าถึงขนาดไปเดินวนอยู่ปากประตูผีจนกลับมาแล้ว ยังจะมีอะไรให้กลัวอีก  ผู้อาวุโสจี้กล่าว

  จี้เฟิงรู้สึกแน่นหน้าอกเล็กน้อยเขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆก่อนที่จะกล่าวว่า  คุณปู่ครับผมขอพูดตามตรง ถ้าหลังจากนี้ไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น ด้วยสภาพร่างกายของคุณปู่หลังจากที่หายดีแล้ว จะไม่เกิดปัญหาอะไรเกิดขึ้นแน่นอนภายในระยะเวลาสิบปี แต่หลังจากนั้น… 

   สิบปี! ดวงตาของผู้อาวุโสจี้เป็นประกายและพยักหน้าอย่างมีความสุข  สิบปีก็พอแล้ว เพียงพอแล้ว! 

  จี้เฟิงเข้าใจความหมายของคำว่าเพียงพอแล้วของคุณปู่ได้ไม่ชัดเจนนักแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาต้องการเห็นคือ ปู่ของเขาจะต้องได้ใช้ช่วงเวลาในบั้นปลายชีวิตอย่างสงบสุข ไม่ใช่จนถึงสิบปีสุดท้ายของชีวิตแล้วเขาก็ยังต้องปูทางและวางรากฐานให้ลูกหลานอยู่อีก นี่ไม่ใช่ชีวิตที่คนเฒ่าคนแก่ควรมี!

   คุณปู่ครับไม่ต้องห่วงคุณปู่ยังมีผมอยู่!  พอเห็นสีหน้าของปู่ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของจี้เฟิงก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีและเขาก็โพล่งออกมา  ภายในสิบปีผมจะขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ให้ปู่ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรอีก และได้ใช้ชีวิตในวัยชราอย่างมีสงบสุข! 

  เสียงของจี้เฟิงไม่ดังนักแต่คำพูดของเขากลับเต็มไปด้วยความมุมานะอุตสาหะพากเพียรไม่ย่อท้อ และความมั่นใจในตัวเองอย่างแรงกล้าว่าเขาจะไม่มีหันหลังกลับหากเขาไปไม่ถึงจุดหมาย

  เป้าหมายนี้เป็นสัญญาที่จี้เฟิงให้ไว้กับคุณปู่ของเขาที่ทำงานมาทั้งชีวิตและเป็นคำสาบานกับตัวเองในเวลาเดียวกัน!

  ภายในสิบปีสู่จุดสูงสุดของโลก!   ผู้อาวุโสจี้มองใบหน้าที่เด็ดเดี่ยวของหลานชายราวกับเห็นตัวเองตอนสมัยยังหนุ่ม เขาพยักหน้าและพึมพำกับตัวเอง  ตระกูลจี้มีอนาคต ข้าก็ตายตาหลับแล้ว… 

 

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

Status: Ongoing

       ตลอดชีวิตที่ถูกมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม จนถึงจุดต่ำสุดของชีวิต จี้เฟิงได้รับพลังมาจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าปัจจุบันมาก มันช่วยเพิ่มความสามารถในทุกๆด้านราวกับเวทมนตร์ ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเขาก็ไม่ธรรมดาอีกต่อไป! ด้วยระบบอัจฉริยะที่จี้เฟิงได้ฝึกฝนจนบรรลุทักษะพิเศษ ชีวิตของจี้เฟิงกลายเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน