เงียบ!บรรยากาศภายในห้องโถงสำหรับรับแขกเงียบกริบ!
ทุกคนที่ได้ยินคำถามของจี้เฟิงถึงกับนิ่งอึ้งกันเป็นเวลานานแม้ว่าพวกเขาจะได้สติกลับมาแล้วก็ทำได้แค่เพียงมองหน้าจี้เฟิงที่มีรอยยิ้มจางๆประดับอยู่บนใบหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
ม่ะ..เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ
รอยยิ้มที่อ่อนโยนและสง่างามของจี้เส้าหงถึงกับหยุดนิ่งอยู่แบบนั้นแม้ว่าจี้เส้าหงจะได้รับการอบรมเกี่ยวกับการรับมือในเรื่องที่ไม่คาดคิดมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เมื่อได้ยินคำพูดของจี้เฟิงมันก็ทำให้เขาถึงกับนิ่งอึ้งและไม่รู้จะพูดอะไรออกไปอยู่พักใหญ่ๆ
จี้เส้าโหยวที่อยู่ข้างๆเขาก็ถึงกับอ้าปากค้างเขามองไปที่จี้เฟิงอย่างไม่เชื่อสายตา ราวกับว่าเขาเห็นผีตอนกลางแสกๆ เขา..เขากล้าถามแบบนั้นออกมาได้ยังไง
แม้ทุกคนจะรู้ว่าจี้เส้าหงเป็นเหมือนกับที่จี้เฟิงพูดรอยยิ้มอันอ่อนโยนปรากฏอยู่บนใบหน้าพร้อมกับแววตาอันเย็นยะเยือก มันช่างเป็นอารมณ์ที่ขัดแย้งกันคนละขั้วจริงๆ แต่ใครจะบ้าพอที่จะไปถามเรื่องแบบนี้ต่อหน้าเจ้าตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเหล่าผู้อาวุโสระดับสูงมากมายนั่งอยู่เต็มไปหมดแบบนี้อีก?
ไม่เพียงแค่จี้เส้าโหยวเท่านั้นที่ตกใจจนอ้าปากค้างเพราะแม้แต่จี้ช่าวเหลยที่พอจะรู้ฤทธิ์เดชฝีปากอันเฉียบคมของจี้เฟิงมาอยู่บ้างก็ตกใจจนแทบจะกัดลิ้นตัวเอง!
เขาอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่แต่ไม่กล้าผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆเขาได้แต่มองไปที่จี้เฟิงด้วยสายตาว่างเปล่า แต่ภายในใจของเขารู้สึกอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแทบตาย
จี้ช่าวเหลยกำหมัดของตัวเองแน่นจากนั้นก็ค่อยๆคลาย แล้วกำแน่นอีกครั้ง แล้วคลายออกแบบนี้อยู่หลายรอบ แม้เขาจะกลั้นหัวเราะไว้จนตัวสั่นแต่เพราะการทำแบบนี้มันเลยช่วยให้เขาอดทนและผ่านมันมาได้โดยที่ไม่ระเบิดเสียงหัวเราะออกไปกลางความเงียบสงัดนี้!
‘พอจะรู้อยู่หรอกว่าเป็นคนยังไง…แต่แบบนี้มันจะไม่ร้ายกาจเกินไปหน่อยเหรอ!’ จี้ช่าวเหลยตัวสั่นและหน้าแดงก่ำไปหมดเพราะพยายามกลั้นหัวเราะ เขาคิดกับตัวเองอยู่ในใจว่า หากเขาเป็นคนที่ถูกถามคำถามนี้ต่อหน้าผู้อาวุโสระดับสูงมากมายขนาดนี้ เขาคงจะชกจี้เฟิงไปตั้งนานแล้ว!
อย่างไรก็ตามจี้เส้าหงไม่ใช่จี้ช่าวเหลยเขาไม่กล้าทำแบบนั้นแน่นอน!
เพราะถ้าจี้เส้าหงกล้าลงมือที่นี่ก็เท่ากับว่าเขาทำลายอนาคตของตัวเองด้วยมือของเขาเอง และแน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสายตรงจะต้องพังครืนลงในพริบตา และอย่าหวังว่าจะซ่อมแซมมันได้ง่ายๆ!
แต่กับคำถามที่น่าโมโหแบบนี้ถ้าเขาไม่ทำอะไรเลย…. จี้ช่าวเหลยสูดลมหายใจเข้าลึกๆอยู่หลายครั้ง ถึงจะพอช่วยระงับรอยยิ้มอันแรงกล้าที่อยู่ภายในใจของเขาลงได้ เขาหันไปมองหน้าของจี้เส้าหงเพราะอยากจะรู้ว่าจี้เส้าหงจะตอบอย่างไร
ส่วนคนอื่นๆในตอนนี้ก็มองไปที่จี้เส้าหงเช่นกัน
มีเพียงจี้เจิ้นผิงที่นั่งตัวสั่นเทิ้มอยู่ตรงนั้นเขาวางถ้วยน้ำชาในมือลงทันทีเพราะกลัวว่าถ้าในขณะที่เขากำลังจิบน้ำชาอยู่นั้น จี้เฟิงจะถามคำถามอะไรออกมาอีก เขาเชื่อว่าเขาต้องสำลักและพ่นน้ำออกมาแน่ๆ!
ส่วนจี้เจิ้นหัวที่ได้ยินคำถามของลูกชายเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและส่ายหัวอยู่ในใจ เด็กคนนี้นี่จริงๆเลย…
ความโกรธที่รุนแรงพลุ่งพล่านอยู่ในตัวของจี้เส้าหงเขาบีบถ้วยน้ำชาที่อยู่ในมือจนเกินเสียงดังขึ้นมาเบาๆ สิ่งนี้ทำให้จี้ช่าวเหลยที่อยู่ข้างๆเขาแอบอมยิ้ม ถ้าถ้วยใบนี้เป็นพลาสติก ป่านนี้คงจะแหลกคามือจี้เส้าหงไปนานแล้วสินะเนี่ย!
คำถามนี้เป็นคำถามที่ไม่ไว้หน้าจี้เส้าหงเลยแม้แต่น้อยและเขาก็ไม่มีทางเลือกมากนัก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นทำให้จี้ช่าวเหลยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
จี้เส้าหงสูดลมหายใจเข้าลึกๆรอยยิ้มที่แข็งค้างอยู่บนใบหน้าค่อยๆผ่อนคลายลง
ฮ่าฮ่า… จี้เส้าหงยังคงหัวเราะได้ ใบหน้าของเขาปรากฏเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนขึ้นมาอีกครั้ง คำถามของเสี่ยวเฟิงอาจจะผิดที่ผิดเวลาไปสักหน่อย จะล้อเล่นก็ต้องดูโอกาสด้วย เรื่องนี้ฉันก็ต้องสอนนายเหมือนกัน!
จี้เฟิงยิ้มกว้างทันที ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับพี่เส้าหง!
จี้ช่าวเหลยพาจี้เฟิงเดินต่อไปอีกสองสามก้าวอย่างรวดเร็วพวกเขามาหยุดอยู่ใกล้ๆผู้อาวุโสเฒ่า จี้ช่าวเหลยยิ้มและกล่าวว่า น้องสาม ผู้อาวุโสที่ฉันกำลังจะแนะนำต่อไปนี้ ล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณปู่ และพวกเขาก็เคยช่วยชีวิตคุณปู่ไว้ ต่อหน้าผู้อาวุโสเหล่านี้นายอย่าทำตัวเสียมารยาทโดยเด็ดขาด!
‘เจ้าพี่บ้า!’ทันทีที่จี้ช่าวเหลยพูดจบ จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตาอย่างลับๆ พลางคิดในใจว่าพี่รองของเขาคนนี้ก็ร้ายไม่ใช่เล่น
มันหมายความว่าไรกันที่บอกว่า‘อย่าเสียมารยาทต่อหน้าผู้อาวุโสเหล่านี้’
ไม่ใช่ว่าจะบอกว่าถ้าไม่ใช่ผู้อาวุโสเหล่านี้ก็เสียมารยาทได้อย่างนั้นเหรอ!
ภายในห้องนี้ทั้งหมดมีผู้อาวุโสอยู่กันหลายคน และยกเว้นผู้อาวุโสที่อยู่เคียงข้างสายตรง ก็ไม่ต้องเกรงใจผู้อาวุโสของสาขารองอย่างนั้นเหรอ ตามคำพูดของจี้ช่าวเหลยเหมือนเขาจะหมายความแบบนั้นยังไงก็ไม่รู้!
และแบบนี้มันก็เหมือนกับการโรยเกลือบนแผลสดไม่ใช่เหรอ…
จี้ช่าวเหลยยิ้มและกล่าวต่อว่า ผู้อาวุโสท่านนี้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาและเป็นสหายเก่าร่วมรบกับคุณปู่ ท่านคือคุณปู่ถัง และลูกชายของเขา ลุงถัง!
จี้เฟิงก้มหัวเล็กน้อยและทักทายด้วยความสุภาพทันที
ผู้เฒ่าถังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี สหายน้อย เจ้าทำแบบนี้ข้าไม่ชอบใจเท่าไหร่เลยนะ กับข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องมีมารยาทที่เป็นทางการขนาดนั้นหรอก เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ ก็เท่ากับเป็นผู้มีบุญคุณ ตาแก่ถังผู้นี้จะไม่มีวันลืม ดังนั้นทำตัวตามสบายเถอะ!
ใช่แล้วสหายน้อยจี้เฟิง พ่อกับฉันยังติดหนี้บุญคุณสหายน้อยอยู่เลย เราพูดคุยกันแบบสบายๆเถอะ ฮ่าฮ่า! ถังเจี้ยนกั๋วหัวเราะอยู่ข้างๆผู้เฒ่าถัง
เมื่อได้ยินคำพูดของสองพ่อลูกตระกูลถังพวกเขาก็พากันตกตะลึง จี้เฟิงเคยช่วยชีวิตผู้เฒ่าถังไว้งั้นหรือ!
คราวนี้สายตาทุกคนที่มองจี้เฟิงก็เปลี่ยนไปโดยเฉพาะเอ้อเหย่ ดวงตาของเขาบ่งบอกได้ถึงความตกตะลึง จี้เฟิงช่วยชีวิตผู้เฒ่าถังไว้แถมเขายังยอมรับและพูดมันออกมาอย่างเปิดเผยว่าจี้เฟิงเป็นผู้มีพระคุณต่อเขา แบบนี้ไม่เท่ากับว่าผู้เฒ่าถังกำลังแสดงให้เห็นว่าเขานั้นสนับสนุนจี้เฟิงอย่างเปิดเผยโดยไม่คิดที่จะปิดบังหรือมีแผนสำรองอื่นๆเลย!
เดิมทีทุกคนคิดว่าจี้เฟิงเป็นแค่เด็กบ้านนอกเติบโตมาในชนบทชนชั้นรากหญ้าธรรมดาไม่มีที่พึ่งพาหรือเส้นสายดีๆคอยสนับสนุนอย่างแน่นอน และนี่คือสิ่งที่เอ้อเหย่สามารถเอามาพูดต่อรองกับผู้อาวุโสจี้ได้ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับลูกหลานของสาขารองแล้ว จี้เฟิงนั้นไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเลย
แต่ตอนนี้เขามีผู้เฒ่าถังที่เปิดตัวอย่างเต็มที่ว่าเขานั้นสนับสนุนจี้เฟิงแล้วต่อจากนี้ใครมันจะกล้าดูถูกจี้เฟิงอีก
แน่นอนว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างตกใจกับข่าวนี้
แววตาของจี้เส้าหงฉายแววไม่อยากจะเชื่อแม้แต่คนที่เก็บสีหน้าเก่งอย่างเขายังอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าที่ดูน่าเกลียดพิลึก!
จี้ช่าวเหลยเองก็ตกใจกับข่าวนี้เช่นกันเขามองไปที่จี้เฟิงด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มและพูดว่า น้องสาม ฉันจะแนะนำผู้อาวุโสท่านนี้ให้นายรู้จัก เขาคือผู้เฒ่าเถี่ย!
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงที่แท้ชายชราที่นั่งอยู่ข้างกายผู้เฒ่าที่มีใบหน้าเด็ดเดี่ยวและน่าเกรงขามกลับเป็นองครักษ์ส่วนตัวของคุณปู่ ผู้เฒ่าเถี่ยหลง!
สวัสดีครับคุณปู่เถี่ย!
จี้เฟิงรู้สึกชื่นชมผู้เฒ่าเถี่ยคนนี้มากเขาคือคนที่จงรักภักดีและคอยปกป้องคุณปู่มาทั้งชีวิต และจี้เฟิงก็รู้ดีว่า ด้วยความสามารถของผู้เฒ่าเถี่ย การที่เขาจะขึ้นเป็นผู้นำกองทัพได้นั้นไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน และความสำเร็จของเขาก็คงจะไม่ด้อยไปกว่าผู้เฒ่าถังอย่างแน่นอน
แต่ชายชราคนนี้กลับเลือกที่จะอยู่ข้างกายคุณปู่ของเขาด้วยความจงรักภักดีนี่คือสิ่งที่จี้เฟิงรู้สึกชื่นชม ดี!ดี!
ผู้เฒ่าเถี่ยพยักหน้าและตอบรับการทักทายของจี้เฟิงด้วยรอยยิ้ม เหล่าซาน ข้าได้ยินเถี่ยจุนพูดถึงคุณแล้ว มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ!
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาทุกคนก็ต้องตกใจอีกครั้ง!
ทุกคนที่คุ้นเคยกับผู้เฒ่าเถี่ยต่างรู้กันดีว่าเขาไม่ค่อยพูดชมเชยใครนักเขามักจะนั่งเงียบและสงบนิ่งอยู่แบบนั้น อย่าว่าแต่ชมเลย แค่พูดยังไม่ค่อยจะได้ยินเลยด้วยซ้ำ!
แต่ตอนนี้เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของเขามันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาให้คะแนนจี้เฟิงสูงมากแค่ไหน มันจึงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก!
สีหน้าของเอ้อเหย่ยิ่งดูน่าเกลียดเข้าไปอีกแต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีในตอนนี้
คนสำคัญหลายคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกที่โอ่อ่าแห่งนี้ต่างพูดสนับสนุนจี้เฟิงเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกะทันหันเกินไปจนพวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัวจนทำอะไรไม่ถูก!
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า คุณปู่เถี่ยพูดชมเกินไปแล้ว ผมแค่ทำในสิ่งที่ควรทำเท่านั้นครับ!
ดี!ดีมาก!
ผู้เฒ่าเถี่ยพยักหน้าอีกครั้ง รู้จักตัวเอง รู้ว่าหน้าที่ของตนเองคืออะไร รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ! ไม่เลว ไม่เลว! ท่านหัวหน้ามีหลานชายอย่างคุณ ตาแก่อย่างข้าก็วางใจแล้ว!
สีหน้าของเอ้อเหย่และจี้เส้าหงดูน่าเกลียดสุดๆไปแล้วตอนนี้
มีจี้เฟิงผู้เฒ่าเถี่ยก็วางใจแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าลูกหลานคนอื่นๆในตระกูลจี้ล้วนไม่เคยอยู่ในสายตาผู้เฒ่าเถี่ยเลยอย่างนั้นเหรอ?
เอาล่ะ!ในเมื่อทักทายผู้อาวุโสเรียบร้อยแล้ว ก็หาที่นั่งมารอทานข้าว! จี้เจิ้นหัวพูดเสียงเรียบ เขากังวลว่าจี้เฟิงกับจี้ช่าวเหลยจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก ถึงตอนนั้นคนจากสาขารองคงลงจากเวทีได้ยาก และคงจะทำให้บรรยากาศกระอักกระอ่วนจนเกินไป มันคงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่นัก
ไม่เป็นไรครับ จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้ม พ่อครับ ผมกับพี่รองขอออกไปข้างนอกก่อนดีกว่าครับ!
จี้เฟิงและจี้ช่าวเหลยมองหน้ากันจากนั้นก็หันหลังเดินออกจากประตูไป
ฮ่าฮ่าฮ่า!! ทันทีที่พวกเขาเดินพ้นประตู เสียงหัวเราะที่ร่าเริงและทรงพลังของผู้เฒ่าถังก็ดังขึ้น ครั้งนี้ผู้เฒ่าถังหัวเราะอย่างเบิกบานใจยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก เสียงหัวเราะนี้ดังกระหึ่มราวกับจะถล่มหลังคาให้หล่นลงมาได้
จี้เฟิงและจี้ช่าวเหลยที่ได้ยินก็ถึงกับมองหน้ากันและหัวเราะออกมาอย่างโง่เขลาผู้เฒ่าถังนี่สุดยอดจริงๆ… ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังหัวเราะเสียงดังขนาดนี้ออกมาได้ คงมีเพียงแค่ผู้เฒ่าถังเท่านั้นที่กล้าทำแบบนี้ ป่านนี้คนจากสาขารองที่ถูกทุบตีจนน่วมแถมถูกโรยเกลือเข้าไปอีกหนึ่งกำมือ คงได้แต่นั่งหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธที่อัดแน่นอยู่ในอกจนแทบจะลงไปชักดิ้นชักงอตายกันแล้วล่ะมั้ง!
น้องสามวันนี้เจ้าทำให้พวกสาขารองแทบจะช็อกตายคาที่กันอยู่แล้ว! ฮ่าฮ่า! เมื่อพวกเขาเดินออกมาจากห้องรับแขก ในที่สุดจี้ช่าวเหลยก็อดไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะออกมามีความสุข ฉันนี่โคตรสะใจอ่ะ! ฮ่าฮ่า~!
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อย ก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวเลยนี่นา คนจากสาขารองพวกนั้น!
จี้เส้าหงจริงจังเกินไปคนแบบนี้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่เหมาะที่จะทำงานใหญ่ อย่างเก่งก็คงจะเป็นการจัดการงานเล็กๆน้อยๆ
ส่วนจี้เอ้อเหย่ดูเป็นชายชราที่ไม่น่าเคารพ และเหมือนจะเป็นคนที่เดาทางได้ไม่ยาก ยิ่งไม่มีอะไรที่จี้เฟิงจะต้องกลัว
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้คือผู้อาวุโสจี้เขานิ่งเงียบมาโดยตลอด ดังนั้นคำพูดที่ออกมาจากปากของผู้เฒ่าถังและผู้เฒ่าเถี่ยก็มีความหมายแทนเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้อาวุโสจี้การที่เขานิ่งเงียบมาโดยตลอด ก็พอจะเดาได้ว่าสิ่งที่ผู้เฒ่าถังและผู้เฒ่าเถี่ยพูดออกมานั้น อยู่ในความเห็นดีเห็นชอบของผู้อาวุโสจี้!
ดังนั้นสิ่งที่ผู้อาวุโสจี้ต้องการจะพูดก็ชัดเจนมากพออยู่แล้วว่าเขาได้สนับสนุนจี้เฟิงอย่างเปิดเผย มีใครกล้าคัดค้านหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องไปดูก่อนว่าเบื้องหลังคนคนนั้นมีผู้สนับสนุนอย่างผู้เฒ่าถังและผู้เฒ่าเถี่ยหรือไม่!