ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล – ตอนที่ 202 เขาหาเรื่องแม้กระทั่งแฟนตัวเอง (1) / ตอนที่ 203 เขาหาเรื่องแม้กระทั่งแฟนตัวเอง (2)

ตอนที่ 202 เขาหาเรื่องแม้กระทั่งแฟนตัวเอง (1) / ตอนที่ 203 เขาหาเรื่องแม้กระทั่งแฟนตัวเอง (2)

ตอนที่ 202 เขาหาเรื่องแม้กระทั่งแฟนตัวเอง (1)

“แหะๆ …” อันซย่าซย่าฝืนยิ้ม เมื่อหันกลับมา เธอก็เห็นว่าเซิ่งอี่เจ๋อสวมหมวกและผ้าปิดปากเรียบร้อยแล้ว และบรรยากาศรอบๆ ตัวเขาก็บอกว่า เขาจะฆ่าทุกคนที่กล้าเข้ามาใกล้

เธอดึงฮู้ดของเสื้อโค้ตมาคลุมศีรษะไว้อย่างเงียบๆ และก้มหน้าก้มตาเดินตามเขาไป

เซิ่งอี่เจ๋อกำลังคิดหาหนทางเป็นร้อยเป็นพันที่จะทำให้เธอเจ็บปวดบ้าง ร่างจิ๋วๆ สองร่างดูเหมือนจะผุดขึ้นภายในหัวของเขา ฝ่ายหนึ่งมาพร้อมกับความคิดที่ร้ายกาจล้วนๆ และเป่าหูให้เขาทำตาม ระหว่างที่อีกฝ่ายหนึ่งว่ากล่าวเจ้าตัวแรกอย่างมีหลักการ และขอร้องให้เขาปฏิบัติต่ออันซย่าซย่าอย่างดี

ระหว่างที่เจ้าสองตัวนั้นกำลังโต้เถียงกันไปมา เขาก็ยิ่งปั่นป่วนใจมากขึ้น แล้วอยู่ๆ ทันใดนั้นเอง เขาก็หยุดเดิน

อันซย่าซย่าเองก็หยุดเช่นกัน

ชายหนุ่มหันกลับมาพลางตะโกนถาม “เธอไม่ชอบฉันแล้วตามฉันมาทำไม!”

อันซย่าซย่าน้ำเสียงน่าสงสาร “ฉัน…ฉันหลง…”

เซิ่งอี่เจ๋อไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี

สวนสนุกแห่งนี้ใหญ่โตที่สุดในเมืองอวี้ และอันซย่าซย่าเองก็ไม่มีเซนส์เรื่องทิศทางเอาเลยเสีย หลังจากหันซ้ายหันขวาไปมาสักพัก เธอก็เริ่มหลงทาง

เซิ่งอี่เจ๋อมองไปรอบๆ และเห็นว่าบ้านผีสิงอยู่ใกล้ๆ อารมณ์โกรธแบบเด็กๆ ของเขาเข้าครอบงำความคิด “ถ้าผ่านนั่นออกมาได้ ฉันจะพาเธอออกจากสวนสนุกเอง”

เขารู้แก่ใจดีว่าอันซย่าซย่าน่ะขี้แยขนาดไหน

เขาแค่อยากแกล้งเธอก็เท่านั้นเอง

ในขณะนั้น เจ้าปีศาจร้ายตัวจิ๋วก็สยบตัวฝ่ายดีได้สำเร็จ และสำหรับอันซย่าซย่าแล้ว เซิ่งอี่เจ๋อเพิ่งจะกลายร่างเป็นอสูร

อสูรที่เงียบๆ แต่ว่าชั่วร้าย!

“อะไร กลัวเหรอ อย่าเที่ยวมาเดินตามฉันต้อยๆ ไปหาทางออกเอาเองเถอะ ไม่ใช่หน้าที่ฉันที่จะนำทางให้คนโง่” เซิ่งอี่เจ๋อบอกเสียงเย็น แม้แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ

อันซย่าซย่ากัดเล็บตัวเองก่อนจะพยักหน้ารับโดยไม่ขัดขืน

เธอเป็นเด็กสาวที่เชื่อในหลักวิทยาศาสตร์! เรื่องรูปธรรม! เธอไม่ตกใจกลัวของพวกนั้นหรอกน่า!

ข้างในนั้นไม่มีอะไรหรอกนอกจากอุปกรณ์ประกอบฉากและนักแสดงรับจ้าง! ทำให้เธอกลัวไม่ได้หรอก!

อันซย่าซย่าให้กำลังใจตัวเอง กำมือน้อยๆ ของเธอแน่นแล้วก็เดินเข้าสู่บ้านผีสิงราวกับกำลังเดินไปสู่วาระสุดท้ายของชีวิต

เซิ่งอี่เจ๋อยืนพิงกำแพงอยู่ใกล้ๆ ความเป็นห่วงแวบผ่านไปบนใบหน้าของเขาก่อนที่จะสะกดกลั้นมันลงไป

ภายในบ้านผีสิง

อันซย่าซย่ารู้สึกเสียใจตั้งแต่วินาทีที่ก้าวเข้าไปข้างใน มีลมเย็นๆ พัดมาจากเบื้องหลัง จู่ๆ ประตูก็ปิดปังลงโดยไม่รู้สาเหตุ

ข้างในมืดสนิท เธอมองไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือตัวเองที่อยู่ตรงหน้า

หญิงสาวรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้น จากนั้นไฟสลัวๆ ตามกำแพงและเพดานก็สว่างขึ้น

“ว้ายยย—” อันซย่าซย่าอดกรี๊ดไม่ได้ ซึ่งเล่นเอา “ผี” สาวในชุดสีขาวซึ่งกำลังซ่อนตัวอยู่ภายในเงามืดและกำลังจะกระโดดใส่อันซย่าซย่าอยู่แล้วนั้นถึงกับเหวอไป

ให้ตายเถอะ เธอเคยเจอพวกลูกค้าใจเสาะมามากมาย แต่ไม่ได้ใจเสาะขนาดนี้!

ด้วยความพูดไม่ออก เธอมองหาของบนชั้นที่อยู่ใกล้ๆ แล้วในที่สุดก็เลือกของมาหนึ่งชิ้น— แขนปลอมเลือดสาด

แน่นอนว่าแขนนั้นทำมาจากยางและเลือดก็เป็นเลือดปลอมสีแดง

เธอโยนมันไปหล่นแทบเท้าอันซย่าซย่าอย่างชำนาญ เธอมองดูแล้วก็ร้องวี๊ดอีกครั้ง คราวนี้เธอแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

พระเจ้าช่วย… อะไรกันเนี่ย…

หลังจาก “ผีสาว” แล้ว ผีหมอหัวขาดในชุดกาวน์สีขาวก็เข้ามาร่วมวงด้วยและโยนหัวมนุษย์กับเท้าสองข้างออกมา อันซย่าซย่าสติหลุดไปเลย เสียงร้องไห้ของเธอนั้นบาดหูจนเจ้าหน้าที่ประจำบ้านผีสิงพากันตกใจ

“เฮ้ แบบนี้ไม่ได้การ ถ้าเธอเป็นแบบนี้ต่อไป อาจจะสติสตังเตลิดเปิดเปิงไปได้นะ” ผีสาวชุดขาวซึ่งเป็นห่วงจรรยาบรรณในวิชาชีพถามผีหมอหัวขาด

“ที่เธอพูดก็มีเหตุผล…” ผีหมอหัวขาดพยักหน้าตอบ

“พวกเราไปปลอบใจเธอหน่อยดีไหม” ซอมบี้ผมยาวเอ่ยแทรกขึ้นมาจากไกลๆ

ไม่นานหลังจากนั้น นักแสดงทุกคนภายในบ้านผีสิงก็เดินออกมาก และพากันล้อมอันซย่าซย่าไว้เพื่อปลอบโยนเธอ

พอเห็น “ผี” ในทุกรูปแบบและขนาดเคลื่อนเข้ามาหาเธอ อันซย่าซย่าก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป หญิงสาวร้องตะโกนให้ช่วย “เซิ่งอี่เจ๋อ! ช่วยด้วย! ฮือ…”

ตอนที่ 203 เขาหาเรื่องแม้กระทั่งแฟนตัวเอง (2)

ภายนอก เซิ่งอี่เจ๋อไม่อาจห้ามตัวเองได้อีกต่อไป เขาเตะประตูเปิดออก เขาก็รู้สึกโมโหกับสิ่งที่ได้เห็น

“อะไรกัน ผีทีละตัวไม่พอหรือไง นี่ถึงกับต้องยกกันมาทั้งบางเลยเหรอ เป็นมืออาชีพกันหน่อยสิพวกคุณน่ะ” ฝีปากคมๆ ของเซิ่งอี่เจ๋อทำเอา “พวกผี” ถึงกับละอายทันที

เดี๋ยวก่อนสิ…พวกเขาเพียงแค่จะปลอบเด็กสาวคนนี้เท่านั้นเองนะ!

อันซย่าซย่าร้องไห้จนลูกตาแทบจะกระเด็นออกจากเบ้า เมื่อเห็นแสงสว่างเล็ดลอดมาจากเบื้องหลัง เธอก็หันกลับไปและเห็นเซิ่งอี่เจ๋อเข้ามาในบ้านผีสิง ราวกับเขาเพิ่งลอยลงมาจากสรวงสวรรค์ เขายืนตระหง่านอยู่ที่นั่น ดูช่างหล่อเหลาเกินกว่าจะเป็นคนจริงๆ

เธอคลานขลุกขลักเข้าไปหาเขาระหว่างที่สะอื้นไปด้วย “เซิ่งอี่เจ๋อ… ช่วยฉันที… ฉัน-ฉันอยากกลับบ้าน…”

เซิ่งอี่เจ๋อเสียใจมากที่เห็นเธอในสภาพแบบนี้จนเขาต้องก้าวยาวๆ เข้ามาหาและอุ้มเธอขึ้น จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปรอบๆ ห้องซึ่งเต็มไปด้วย “ผี” ด้วยแววตาที่ทำให้พวกนั้นเย็นวาบไปถึงกระดูก

ด้วยความที่มีหมวกและผ้าปิดหน้า พวกนั้นไม่สามารถเดาใบหน้าเขาได้ แต่อย่างไรก็ตาม รังสีที่เขาแผ่ออกมานั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน!

พระเจ้า! พวกเขาต้องได้น่องไก่ใส่เพิ่มให้ในกล่องอาหารกลางวันแล้วล่ะ! ลูกค้าสุดสยองแบบนี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตงานเลย!

อันซย่าซย่าโอบแขนเกาะไหล่เขาไว้ราวกับจิงโจ้ หยุดร้องไห้ไม่ได้

เซิ่งอี่เจ๋อแบกเธอใส่หลังเดินออกจากสวนสนุกด้วยการก้าวยาวๆ ก่อนจะมาถึงรถ

เขาอยากจะปลอบเธอ แต่ก็ยอมให้ตัวเองทำอย่างนั้นไม่ได้เมื่อนึกถึงการสารภาพรักที่ล้มเหลวของเขา ดังนั้นเขาจึงโยนกล่องกระดาษทิชชูให้เธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่อ่อนโยนเอาเสียเลย “เช็ดน้ำตาซะ”

น้ำเสียงแบบนั้นยิ่งทำให้อันซย่าซย่ารู้สึกแย่ไปกันใหญ่

เธอเป็นคนแหยอยู่แล้ว แล้วเขายังใจดำส่งเธอเข้าไปในบ้านผีสิงอีก!

เธอกลัวแทบตายเพราะพวกอุปกรณ์แปลกประหลาดและพวกผีที่น่าสยองพวกนั้น+

คนบ้า!

“ฮือ…” อันซย่าซย่าถือกล่องทิชชูไว้ในมือและร้องไห้หนักขึ้นอีก

คิ้วเรียวสวยของเซิ่งอี่เจ๋อขมวดหากันอีกครั้ง คนขับรถลอบมองทั้งคู่ผ่านทางกระจกมองหลัง เซิ่งอี่เจ๋อคำรามด้วยความหงุดหงิด “ออกไป!”

คนขับรถตะลีตะลานออกจากรถทันที

อันซย่าซย่าคิดว่าเขากำลังพูดกับเธอ จึงหันไปหาเซิ่งอี่เจ๋อทั้งน้ำตา ภาพเตือนให้เขานึกถึงภรรยาสาวที่ทำความผิดไว้

สีหน้าของเธอทำให้เขาใจอ่อนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง “โอ๋ๆ อย่าร้องไห้นะ บ้านผีสิงมันไม่มีอะไรเป็นของจริงหรอก เธอก็แค่กลัวไปเองเท่านั้น”

อันซย่าซย่าสะอื้น “ฮือ…”

“เธอว่ายังไงนะ” เซิ่งอี่เจ๋อคิดว่าเขาได้ยินอะไรสักอย่าง แต่ก็จับใจความไม่ได้จากเสียงสะอื้นเป็นพักๆ ของเธอ

เขาขยับเข้าไปใกล้อย่างไม่เต็มใจ แล้วสีหน้าก็เครียดขึ้นมาทันที

“ฮือ…คนบ้า…ฮือ นายแกล้งฉันแล้วยังไล่ฉันอีก… ไอ้คนขี้แกล้ง…ฉันจะสาปแช่งนาย…”

“นี่เธอกล้าแช่งฉันเรอะ” เซิ่งอี่เจ๋อกัดฟันกรอด และกำลังจะอารมณ์ขึ้นอีกขณะที่อันซย่าซย่าสัมผัสได้และชิงขึ้นเสียงก่อนด้วยการร้องไห้สุดเสียง

คนขับได้แต่ถอนใจอยู่ข้างนอกรถ “แหม่ๆ นายน้อยนี่ช่าง…แกล้งได้แม้กระทั่งแฟนตัวเอง…”

“ขืนยังร้องต่อไป ฉันจะโยนเธอออกไป!” เซิ่งอี่เจ๋อขู่

“เซิ่งอี่เจ๋อ ไหนบอกว่าชอบฉันไงล่ะ คนขี้โกหก! ใครเขาแกล้งผู้หญิงที่ชอบกัน นายมันขี้แกล้ง! ขี้แกล้ง! ขี้แกล้ง!” อันซย่าซย่าเช็ดน้ำตาด้วยทิชชู คำพูดของเธอทำให้เขาคลั่ง ชายหนุ่มสูดหายใจลึกๆ พลางบอก “ก็ได้ ฉันจะไม่แกล้งเธออีกแล้ว เธออยู่ในนี้แหละ ฉันจะไปเอง!”

เมื่อพูดจบ เขาก็เปิดประตูรถและสั่งคนขับรถ “พาเธอกลับบ้าน”

“เอ่อ นายน้อยไม่กลับพร้อมกับคุณอันหรือครับ”

เซิ่งอี่เจ๋อหยัน “ฉันไม่อยากกลับพร้อมเธอ”

คนขับรถเหงื่อออกเต็มฝ่ามือ มันอาจจะไม่ใช่คำถามที่ว่า “อยาก” หรือไม่หรอก นายน้อยแค่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับคุณอันดี…

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

Status: Ongoing

อันซย่าซย่า แอนตี้แฟนของกลุ่มไอดอลวงสตาร์รี่ไนต์ชอบหาเรื่องมาฉะด่าว่าร้าย เซิ่งอี่เจ๋อ นักร้องนำของวงไม่เว้นวัน นี่จะนับว่าเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเธอเลยก็ว่าได้ ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลก พอเธอเข้าเรียนมัธยมวันแรก สามหนุ่มวงสตาร์รี่ไนต์ก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอเสียได้ ซ้ำร้ายยังมาเช่าบ้านเธออยู่อีก!

ถ้าเธอไม่เผลอไปเฉี่ยวชนรถคันหรูราคาแพงของเซิ่งอี่เจ๋อเข้าจนเป็นหนี้หัวโตก็คงจะมีข้อแม้มาไล่เขาออกจากบ้านได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยอมจำนน แถมยังตกปากรับคำเป็นผู้ช่วยศิลปินจำเป็น ทำงานใช้หนี้ทั้งที่เธอยังอยู่แค่มัธยมปลายแท้ๆ จะว่าไปแล้ว เจ้าหน้าหล่อนั่นดูท่าทางจะสนใจเธอเป็นพิเศษด้วยสิ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท