ตอนที่ 312 ไม่ต้องการความเห็นใจจากเธอ (2)
“พ่อตาบอดหรือไง? ไม่ใช่สักหน่อย!” ฉีเหยียนซีปฏิเสธเสียงแข็ง
ริมฝีปากคุณพ่อฉีสั่นระริก ลู่เหอที่อยู่ข้างๆ รีบเข้ามาพยุงเขาไว้และพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณท่าน คุณท่านอย่าโมโหไปเลยค่ะ มันจะส่งผลต่อสุขภาพของคุณท่านได้นะคะ”
ในขณะที่พูดก็ชำเลืองมองฉีเหยียนซีด้วยแววตากระหยิ่มใจ
เมื่อฉีเหยียนซีมองไปยังนัยน์ตาเธอ เขาก็รู้สึกสะอิดสะเอียนจนแทบจะอ้วกออกมา แต่กลับจนใจ
แม่เลี้ยงของเขาคนนี้ทนเห็นเขามีชีวิตที่ดีนานๆ ไม่ได้
“ไม่ยอมอยู่บ้านดีๆ! ก่อเรื่องไม่พอแล้วยังหนีมาทำงานในที่แบบนี้อีก! แกไม่เพียงแค่ทำให้ตัวเองตกต่ำ แต่ยังทำให้คนตระกูลฉีอับอายขายขี้หน้า!” คุณพ่อฉีเอามือกุมที่หัวใจ เขานึกเสียใจที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้า อุตส่าห์ตั้งความหวังกับเขาไว้สูงแต่กลับไม่เป็นอย่างที่หวัง
ทางด้านป่าป๊าอัน พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าก็ไม่สู้ดีเล็กน้อย
หากดูจากสถานการณ์ คุณพ่อของฉีเหยียนซีท่านนี้ดูเหมือนจะดูถูกดูแคลนร้านเล็กๆ แบบนี้…
ป่าป๊าอันหัวเราะและพูดด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “คุณฉีใช่ไหมครับ? มานั่งดื่มกาแฟสงบสติอารมณ์กันก่อนดีกว่า…เหยียนฉีเขาเป็นเด็กดีมาก การที่เขาหาเงินด้วยสองมือของตัวเองจะเป็นการอับอายขายขี้หน้าได้อย่างไร?”
เขาดูเหมือนเป็นมิตร แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนอกผายไหล่พึง อีกทั้งยังพยายามปกป้องฉีเหยียนซี
ฉีเหยียนซีรู้สึกแสบขอบตา เนื่องจากฉากตรงหน้าเสียดแทงความรู้สึกที่อยู่ลึกๆ ของเขา
พ่อผู้ให้กำเนิดเขา…นอกจากจะต่อว่าเขาด้วยความเกลียดชัง…
ก็ยังดีสู้ป่าป๊าอันที่รู้จักกันโดยบังเอิญไม่ได้
ขนตายาวพับลงมาเพื่อสะกดอารมณ์
ลู่เหอหันไปกลอกตาใส่ป่าป๊าอัน “คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับคุณท่านของเรา? อย่าคิดนะว่าเป็นเพราะเหยียนซีทำงานกับคุณ แล้วคุณจะถือวิสาสะทำอะไรก็ได้ เขาเป็นผู้สืบทอดตระกูลฉี ไม่ใช่คนชนชั้นเดียวกันกับพวกคุณ!”
ไม่ว่าป่าป๊าอันจะเป็นคนอารมณ์ดีแค่ไหน แต่พออยู่ต่อหน้าลู่เหอก็แทบจะอันตรธานหายไป
เขายักคิ้ว “งั้นพวกคุณก็ตามสบาย”
พอพูดเสร็จ เขาก็ทำเหมือนคุณพ่อฉีเป็นอากาศธาตุ พลางเข้ามากระซิบถามถึงอาการบาดเจ็บของฉีเหยียนซี
สำหรับเขาแล้ว ฉีเหยียนซีเป็นเด็กที่ดีคนหนึ่ง
แต่กลับไม่คิดว่าพ่อของเขาจะเป็นคนแบบนี้ ในเมื่อไร้มารยาทเสียแบบนี้ เขาก็คร้านจะปรนนิบัติพวกเขา
คุณพ่อฉีโมโหสุดขีด ในขณะที่มองไปรอบๆ ด้วยความโมโห เขาก็เห็นเซิ่งอี่เจ๋อกำลังนั่งอยู่ในมุมมุมหนึ่งด้วยท่าทีไม่แยแส
“เซิ่งอี่เจ๋อ เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” น้ำเสียงของคุณพ่อฉีแฝงไปด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด
เซิ่งอี่เจ๋อพูด “ผมพักอยู่ที่นี่”
ก่อนจะสิ้นเสียง อันซย่าซย่าก็กำลังถือกล่องยาวิ่งลงมา เธอกะพริบตาที่เป็นประกาย ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างส่งสายตามองมาทางเธอ
จู่ๆ เสียงของลู่เหอก็เปลี่ยนเป็นเสียงแหลมขึ้นมาทันที “เหยียนซี เธอคงไม่ได้มาทำงานที่นี่เพราะเด็กผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม? สวรรค์…นี่เธอชอบเด็กผู้หญิงคนนี้ลงได้ยังไง หรือเธอไม่รู้ว่าผู้หญิงยิ่งราคาถูก ยิ่งสวย ก็ยิ่งมีพิษสง…เธออย่าลืมไปล่ะว่าตัวเองแซ่อะไร…”
ในคำพูดของเธอล้วนเป็นการเหน็บแนมฉีเหยียนซีและดูถูกอันซย่าซย่า
ใบหน้าอันซย่าซย่าเริ่มแดงขึ้น แม้จะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่ก็รู้ว่าสิ่งที่ลู่เหอพูดนัั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน!
ฉีเหยียนซีระเบิดอารมณ์และตบโต๊ะอย่างกะทันหัน เขาลุกขึ้น “เธอพูดพอหรือยัง? แม่งเอ้ย ต้องให้เธอมายุ่งเรื่องของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เธอจำไว้ด้วย เธอไม่ใช่แม่ฉัน! เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับฉัน! ถ้าคิดจะยุแยงอีกล่ะก็ ฉันจะฉีกปากเธอซะ!”
พอคุณพ่อฉีได้ยินดังนั้นก็เผยสีหน้าคับแค้นใจ เขาถือไม้เท้าเดินเข้ามาเพื่อจะตีฉีเหยียนซี แต่กลับโดนขัดจังหวะด้วยเสียงดังฟังชัดของอันซย่าซย่า
——
“คุณลุงฉีใช่ไหมคะ? หนูอยากถามคุณหน่อยว่าคุณเป็นพ่อแท้ๆ ของฉีเหยียนซีใช่หรือไม่?”
ตอนที่ 313 ไม่ต้องการความเห็นใจจากเธอ (3)
ทุกคนถึงกับผงะ
คุณพ่อฉีมีสีหน้าไม่พอใจ “เธอหมายความว่ายังไง?”
เขาเพ่งสายตามองเด็กผู้หญิงคนนี้อย่างละเอียด ดวงตาดำขลับใสสะอาด หน้าตาสะสวย ให้ความรู้สึกสบายๆ อยู่ในตัว
ฮึ ผู้หญิงที่เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะก็เป็นเสียแบบนี้
อันซย่าซย่าไม่ได้เกรงกลัวเขาเลย เธอยังพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “คุณลุงฉี? คุณลุงไม่เห็นหรือว่าฉีเหยียนซีกำลังบาดเจ็บ? ในฐานะคนเป็นพ่อ คุณควรจะเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของเขาเป็นอันดับแรกไม่ใช่หรือคะ? เขาได้รับบาดเจ็บ และสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการรักษาบาดแผล! แต่คุณทำได้อย่างไร? คิดไม่ถึงว่าพอคุยกันไม่เข้าหูก็จะลงไม้ลงมือ…คุณเป็นเสียแบบนี้ คิดบ้างไหมว่าฉีเหยียนซีจะรู้สึกอย่างไร?”
เด็กสาวอายุน้อยผู้มีเสน่ห์อยู่ในตัวพูดออกมาด้วยโทนเสียงที่นุ่มนวล แต่มันกลับทรงพลังอย่างน่าตกใจ
คุณพ่อฉีหรี่ตาและค่อยๆ วางไม้เท้าลง
ถ้าไม่เป็นเพราะอันซย่าซย่าพูดออกมา เขาเองก็ไม่รู้ว่าฉีเหยียนซีได้รับบาดเจ็บ…
ลู่เหอเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ข้างๆ พอเธอเห็นว่าคุณท่านเริ่มใจอ่อนลงแล้วจึงรีบพูดเติมเชื้อเพลิง “อุ๊ย แล้วนี่บาดเจ็บได้อย่างไร? คงไม่ได้เปิดศึกชิงรักหักสวาทกันจนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บมาหรอกนะ…เฮ้อ คุณท่าน ฉันบอกคุณแล้ว ฉีเหยียนซียังไม่รู้เรื่องรู้ราว คุณอย่าถือสาเขาเลย คุณอุตส่าห์มาที่นี่ เฮ้อ เป็นเพราะฉันไม่ได้สั่งสอนเขาให้ดี…”
เธอแสร้งทำเป็นเช็ดหางตา คุณพ่อฉีขมวดคิ้ว เขาโมโหขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับต่อว่าอย่างรุนแรง “เกิดอะไรขึ้น?”
ฉีเหยียนซียิ้มประชดประชัน “ใช่สิ ผมมันตัวปัญหา ที่บาดเจ็บก็เพราะเอาแต่ก่อเรื่องไปทั่ว ในใจพ่อไม่ได้ตัดสินผมไปนานแล้วหรือไง? มาสิ มาตีผมให้ตายเลยก็ได้ ชีวิตนี้ผมคืนให้พ่อ แล้วอย่ามาขวางหูขวางตาผมอีก!”
พอได้ยินลูกชายพูดเช่นนี้ คุณพ่อฉีแทบจะพูดไม่ออกสักคำ
ทำไมถึงเป็นลูกเนรคุณแบบนี้?! นี่ตั้งใจจะโมโหใส่เขาใช่ไหม!
“ฉีเหยียนซี นายเป็นบ้าหรือไง!” อันซย่าซย่าพึมพำเสียงต่ำ เธอพูดแก้ตัวเเทนเขา “คุณลุงคะ เขาได้รับบาดเจ็บมาเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง! หนู เซิ่งอี่เจ๋อ และยังมีเพื่อนอีกคนเป็นพยานได้!”
เซิ่งอี่เจ๋อที่ถูกเอ่ยชื่อแตะจมูก พร้อมกับพยักหน้า
เมื่อเรื่องกลับตาลปัตรแบบนี้ คุณพ่อฉีก็เงียบลง
ลู่เหอทำเสียงในลำคอแล้วพูดยุแยงอีกครั้ง แต่เขากลับไม่ได้ฟังเลยสักนิด
เขามองฉีเหยียนซีอย่างตกตะลึง ชายคนนี้อายุมากกว่าครึ่งร้อย มีรอยหมองคล้ำอยู่ระหว่างคิ้วของเขา
เขาเนรคุณจริงๆ หรือว่า…เกลียดพ่อคนนี้ของเขากันแน่?
เขาถอนหายใจเงียบๆ อยู่ในใจและยกมือขึ้น “ไปเถอะ”
ลู่เหอมองด้วยความงุนงง “คุณท่านคะ…นี่มัน…”
“ไม่ต้องพูด! กลับ!” คุณท่านตะคอกด้วยท่าทางแข็งกร้าว ลู่เหอจึงไม่พูดอะไรอีกและตามคุณท่านออกไปอย่างไม่พอใจ
หลังจากที่สามีภรรยาตัวประหลาดคู่นั้นออกไปสักพัก ฉีเหยียนซีก็สะบัดแขนเสื้อและจากไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
ป่าป๊าอันเรียกเขาจากทางด้านหลัง “เจ้าเด็กคนนี้นี่ กลับมาก่อน ยังไม่ได้ทำแผลเลย!”
อันซย่าซย่ามองไปที่แผ่นหลังอันโดดเดี่ยวก็ได้แต่ตำหนิตัวเองอยู่ในใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยเธอไว้ ฉีเหยียนซีก็คงไม่ต้องได้รับบาดเจ็บ…
และถ้าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ พ่อของเขาก็คงไม่พูดคำพูดที่ไม่น่าฟังมากมายเช่นนี้
พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็กัดฟันและถือกล่องยาเดินตามออกไป
“ฉีเหยียนซี รอฉันด้วย!”
พอเห็นอันซย่าซย่าเดินตามฉีเหยียนซีออกไป สีหน้าเซิ่งอี่เจ๋อก็เยือกเย็นเล็กน้อย
นิ้วของเขาค่อยๆ ออกแรงกำหมัด
ข้อความไม่ระบุตัวตนที่ปรากฏเมื่อไม่นานมานี้ก็โผล่ขึ้นมาในหัว
‘ใครคือมือที่สามที่แท้จริงกันแน่? นายคงคิดว่าฉีเหยียนซีดูรกหูรกตาสินะ แต่นายเคยคิดบ้างไหมว่า บางที…นายอาจเป็นตัวอุปสรรคระหว่างฉีเหยียนซีกับอันซย่าซย่าก็ได้?’