Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1272 : ความรักของบิดา!

บทที่ 1272 : ความรักของบิดา!

   ไม่มีปัญหา! 

  หลิงหยุนรับทันที

  ตระกูลหลี่ยอมเสียเงินจำนวนมากมายมหาศาลและข้อเรียกร้องทั้งสองข้อของเขาก็ไม่มีอะไรมากมายไปกว่าการรักษาสถานภาพของตระกูลไว้ อีกทั้งตระกูลหลิงกับตระกูลหลี่ก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ข้อเรียกร้องทั้งสองข้อจึงนับว่าเล็กน้อยมากสำหรับหลิงหยุน

  อีกหนึ่งเหตุผลหลักที่หลิงหยุนยอมรับปากเพราะเขาชื่นชอบในทัศนคติ ความเฉลียวฉลาด และความกล้าหาญของหลี่จิ้นหัวนั่นเอง

  ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลหลิงเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องยากเลยหากจะบีบตระกูลหลี่ให้ยอมแบ่งธุรกิจของตนออกมาให้ตระกูลหลิงครึ่งหนึ่ง  แต่ในเมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจทำเช่นนี้ก่อนหลิงหยุนจึงถือว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด และสวยงาม

  หลี่จวิ้นหัวถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าหลิงหยุนยอมรับปากง่ายดายเช่นนี้ จึงได้เอ่ยออกไปว่า

   คิดไม่ถึงว่าคุณชายหลิงจะเป็นคนมีเหตุมีผลเช่นนี้ข้าชื่นชมยิ่งนัก! 

  หลังจากพูดออกไปแล้วหลี่จวิ้นหัวก็ยิ้มให้หลิงหยุนพร้อมกับยื่นมือออกไปด้านหน้า หลิงหยุนและหลี่จวิ้นหัวจับมือกันเป็นการกระชับไมตรีกันอีกครั้ง

  ในที่สุดตระกูลหลี่ก็สามารถทำได้บรรลุเป้าหมาย..

  หลิงเย่วยืนมองทั้งสองคนจับมือกันอยู่เช่นนั้นในที่สุดก็ยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยว่า  หลิงหยุน ในเมื่อเจ้าเห็นด้วยข้าก็จะเซ็นเอกสารพวกนี้เลยนะ 

  เมื่อหลิงหยุนพยักหน้าหลิงเย่วจึงเริ่มลงมือเซ็นเอกสารปึกใหญ่ที่วางอยู่ตรงหน้า นับจากนี้ไปตระกูลหลี่กับตระกูลหลิงก็จะเป็นพันธมิตรกันอย่างเป็นทางการแล้ว

  หลิงเสี่ยวเองก็พูดขึ้นว่า หลิงหยุน เรื่องบ้านหลังใหม่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยดูแลจัดการให้ตามที่เจ้าต้องการ 

  หลิงเสี่ยวเองก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็นเช่นนี้เพราะไม่เพียงตระกูลหลี่จะออกเงินซื้อที่ดินเองทั้งหมด แต่ยังจะจัดหาทีมงานที่ดีที่สุดมาลงมือก่อสร้างให้ด้วย จึงไม่มีสิ่งใดที่หลิงหยุนจะต้องกังวลใจอีก

   ขอบคุณท่านพ่อ 

  หลิงหยุนเอ่ยขอบคุณหลิงเสี่ยวแล้วจึงหันไปพูดกับหลี่จวิ้นหัวว่า  ท่านลุงหลี่ เรื่องพันธมิตรระหว่างเราสองตระกูล พรุ่งนี้ท่านลุงสองจะทำการประกาศออกไปอย่างเป็นทางการ 

   ส่วนเรื่องการรักษาอาวุโสหลี่นั้นข้าจะตามท่านไปตระกูลหลี่รักษาในคืนนี้เลย ไม่ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า!    หลี่จวิ้นหัวถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นด้วยความตกใจ  รวด.. รวดเร็วถึงเพียงนี้เชียวรึ! 

  หลิงหยุนยิ้มกว้าง ถูกต้อง! แต่ท่านลุงอยู่คุยกับท่านพ่อที่นี่ไปก่อน ข้าขอตัวไปทำธุระประเดี๋ยว เสร็จแล้วจะได้ออกไปได้เลย 

  จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปมองหน้าถังเมิ่งแล้วทั้งคู่ก็ตรงไปยังสวนชั้นที่แปดของตระกูลหลิงทันที

   มีเรื่องอะไร หลิงหยุนถามขึ้นอย่างไม่อ้อมค้อม

   เฮ้อ..ก็ลุงหลิงน่ะสิ! เมื่อครู่ตระกูลหลี่เสนอให้หุ้นเรา 50% แต่ลุงหลิงกลับยืนยันจะเอาแค่ 30% ฉันนี่เสียดายแทบตายพี่หยุน! 

  หลิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมตอบถังเมิ่งกลับไปว่า นายยังไม่เข้าใจ สถานการณ์ในปักกิ่งค่อนข้างอ่อนไหวและล่อแหลม หากตระกูลหลิงละโมบจนเกินไป จะทำให้ตระกูลหลงกับตระกูลเย่อิจฉาได้ พวกเขาอาจจะยื่นมือเข้ามาแทรกแซงสร้างปัญหาให้ หากเป็นเช่นนั้นเรื่องราวก็อาจจะไม่ง่ายเช่นนี้.. 

   งั้นเหรอพี่หยุน!ถ้าเป็นแบบนี้ก็พอจะเข้าใจได้.. 

   อ่อ..ที่ฉันมาหาพี่วันนี้ก็เพื่อจะมาบอกพี่ว่า ฉันสั่งให้บริษัทขนส่งไปจัดการับสมุนไพรจากเหออวี้ฉงมาแล้วนะ 

  หลังจากที่ถังเมิ่งติดต่อเหออวี้ฉงไปตามคำสั่งของหลิงหยุนเขาก็ได้จัดการให้บริษัทขนส่งไปทำการรับของเหมือนปกติทั่วไป และตั้งใจไม่ส่งคนไปรับเองเพื่อไม่ให้เป็นการเอิกเริกจนดึงดูดสายตาของผู้คน

   เยี่ยมมาก!ว่าแต่เหออวี้ฉงยังอยู่ปักกิ่งอีกเหรอ  หลิงหยุนเอ่ยถาม

  ถังเมิ่งขยิบตาให้หลิงหยุนก่อนจะพยักหน้าและตอบกลับไปว่า ใช่! แล้วรู้มั๊ยว่าตอนนี้เหออวี้ฉงอยู่กับใคร 

  สีหน้าของหลิงหยุนเปลี่ยนเป็นอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที ใครกัน! 

   เซิ่งหยิงหยิงฮ่า.. ฮ่า..  ถังเมิ่งตอบพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

  แต่หลิงหยุนกลับไม่รู้สึกประหลาดใจนักและเปลี่ยนมากำชับถังเมิ่งแทนว่า  เอาล่ะ ทันทีที่สมุนไพรมาถึง นายรีบนำมาเก็บที่นี่โดยเร็วที่สุด สมุนไพรพวกนั้นเป็นสมุนไพรชีวิตชั้นดี หากทิ้งไว้ข้างนอกนานเกินไป พลังชีวิตจะระเหยออกไปหมด.. 

  ถังเมิ่งพยักหน้ารับรู้แล้วจึงพูดธุระของตนเองต่อ ฉันจัดการยึดบริษัทชิงหยุนโปรดักชั่นมาแล้วนะ ใชเ้เงินไปพันกว่าล้าน ตอนนี้หวังเจิ้นจวินไม่มีสิทธิ์ในบริษัทชิงหยุนอีกแล้ว.. 

   พันกว่าล้าน!บทนายจะโหดก็ใช้เงินเป็นเบี้ยเหมือนกันนะ..  หลิงหยุนถึงกับบ่นอุบอิบ

  ถังเมิ่งตอบกลับด้วยความภาคภูมิใจ พี่หยุน ฉันจะเปลี่ยนจากชื่อชิงหยุนโปรดักชั่นเป็นหลิงหยุนโปรดักชั่นแล้วนะ ลุงสองก็เห็นด้วย.. 

   ตามใจนาย..แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนว่านายอย่าทำงานที่ปักกิ่งเพลินจนลืมสอดส่องบริษัทในจิงฉู อย่าปล่อยปละละเลยจนมีปัญหาขึ้นล่ะ!  หลิงหยุนไม่ลืมที่จะกำชับถังเมิ่ง

   พี่หยุนเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงฉันเข้าใจดี! ฉันมีประชุมกับทีมงานผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ทุกวัน วันละสองรอบ.. 

  เมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของถังเมิ่งเช่นนี้หลิงหยุนก็รู้สึกโล่งใจ ดูเหมือนถังเมิ่งจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ความคิดอย่างเห็นได้ชัด

   เอาล่ะถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเรารีบกลับเข้าไปกันดีกว่า ฉันต้องไปบ้านตระกูลหลี่ต่อ! 

  หลิงหยุนรู้ว่าเวลานี้ถังเมิ่งได้รับความไว้วางใจจากหลิงเย่วมากไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ได้เข้ามานั่งในห้องรับแขกในคืนนี้ด้วยแน่

  …………

  คืนนี้หลิงหยุนไม่ต้องใช้แม้แต่เข็มเงินในการรักษาผู้เฒ่าหลี่ด้วยซ้ำไปเขาใช้เพียงแค่ดัชนีห้าธาตุในการรักษาหลี่กวนผิง จากนั้นหลี่กวนผิงก็สามารถลุกขึ้นเดินเหินได้ดังเช่นคนปกติทันที

  คนตระกูลหลี่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ยืนตกตะลึง!

  หลี่กวนผิงป่วยเช่นนี้มานานหลายปีเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นแต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย จนทุกคนในครอบครัวต่างก็หมดหวัง

  แต่หลิงหยุนใช้เวลาเพียงแค่สองสามนาทีก็สามารถทำให้หลี่กวนผิงกลับมาเดินเหินได้ดังเช่นคนปกติ!

   หากท่านลุงคิดว่าการรักษาง่ายจนเกินไปไม่คุ้มค่ากับที่ตระกูลหลี่ลงทุนไป จะเปลี่ยนใจยกเลิกข้อเสนอก็ยังทัน.. 

  หลี่จวิ้นหัวได้ฟังหลิงหยุนพูดเช่นนั้นก็ถึงกับตกตะลึงแต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของเขาจึงรู้ได้ว่าหลิงหยุนกำลังล้อตนเล่น

   ไม่..ไม่.. คุณชายหลิงอย่าล้อเล่นเช่นนี้! นั่นเพราะคุณชายมีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศสมฉายาหมออมตะต่างหาก ท่านพ่อของข้าสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้.. 

  หลี่จวิ้นหัวระล่ำระลักบอกหลิงหยุนด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ..

   จวิ้นหัวเจ้าหลบไป! 

  หลี่กวนผิงซึ่งลุกลงจากเตียงครู่หนึ่งและเริ่มรู้สึกร่างกายมีเรียวแรงขึ้นมาแล้ว จึงร้องสั่งให้หลี่จวิ้นหัวหลีกทางให้ตน เขาก้าวเข้าไปหาหลิงหยุนพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ

   หลิงหยุนขอบคุณที่ช่วยเหลือ! 

  หลี่กวนผิงรู้อาการป่วยของตนเองดีว่าหากไม่ได้หลิงหยุนช่วยไว้เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี แต่ตอนนี้เขากลับมาแข็งแรงเป็นปกติเช่นนี้ จึงอดที่จะขอบคุณหลิงหยุนไม่ได้

   อาวุโสอย่างได้เกรงใจตระกูลหลี่จ่ายค่ารักษาให้กับข้ามากมาย ข้าย่อมต้องรักษาอาวุโสให้หายดี!  หลิงหยุนเอ่ยตอบ

   กล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูกนักหากสูญสิ้นชีวิต เงินทองยังจะมีประโยชน์อันใดเล่า  หลี่กวนผิงยิ้มให้หลิงหยุนพร้อมกล่าวต่อว่า

   ในเมื่อสองตระกูลผูกสัมพันธ์เป็นพันธมิตรกันเช่นนี้ต่อไปคงมีเรื่องที่ต้องร่วมมือกันอีกมาก ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเองก็ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวเรื่องธุรกิจ จากนี้ไปข้าจะให้จวิ้นหัวไปคุยกับกับหลิงเย่วเรื่องธุรกิจ และตระกูลหลี่จะขอดูแลตระกูลหลิงเอง.. 

   หากเป็นเช่นนั้นย่อมดีไม่น้อยข้าหวังว่าในวันข้างหน้าตระกูลหลี่จะไม่รู้สึกผิดหวังที่ตัดสินใจเช่นนี้! 

  ในข้อตกลงนั้นหลิงหยุนเพียงแค่ต้องรักษาอาการป่วยให้กับหลี่กวนผิงเท่านั้นแต่เขาต้องการดูท่าทีของหลี่กวนผิงและตระกูลหลี่เสียก่อน จึงยังไม่ได้นำโอสถเยาว์วัยออกมาใช้..

  ตราบใดที่มั่นใจว่าตระกูลหลี่จะจงรักภักดีและเชื่อฟังตระกูลหลิงจริงๆเขาจึงจะมอบโอสถเยาว์วัยให้กับหลี่กวนผิง

   ย่อมไม่ผิดหวังแน่!นับจากนี้ไปตระกูลหลี่จะอยู่ในการดูแลของตระกูลหลิง และเมื่อใดที่ตระกูลหลิงเอ่ยปากเรื่องเงิน ตระกูลหลี่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนทันที! 

  หลี่กวนผิงกล่าวไปเช่นนั้นและไม่รู้สึกว่าตนเองต้องเสียหน้า หรือทำให้ตระกูลหลี่ดูต้อยต่ำลงเลยแม้แต่น้อย

  ‘ผู้เฒ่าหลี่สายตาหลักแหลมยิ่งนัก!’

  หลิงหยุนยิ้มและได้แต่คิดในใจว่าในปักกิ่งมีตระกูลใหญ่ให้พึ่งพาอีกถึงสองตระกูลแต่ตระกูลหลี่กลับเลือกตระกูลหลิงเช่นนี้ มีหรือที่ตระกูลหลี่จะมีแต่เสีย มีแต่จะได้ต่างหากเล่า!

  เวลานี้ตระกูลเกามีอำนาจบารมีในวงการธุรกิจตระกูลหลี่มีทรัพย์สินเงินทอง ส่วนตระกูลหลิงมีความแข็งแกร่งที่ผู้คนยำเกรง จึงเสมือนมีทั้งดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ในคราวเดียว..

  สามพันธมิตรตระกูลหลิงตระกูลเกา และตระกูลหลี่ แม้แต่ตระกูลหลงกับตระกูลเย่เองยังต้องยำเกรง!   …..

  ในเช้วันใหม่เวลาเจ็ดโมงครึ่งหลิงหยุนเพิ่งจะฝึกซ้อมเสร็จพอดี

  หลังจากหลิงซวี่กลับมาถึงบ้านตระกูลหลิงนางก็ตรงเข้าไปหาหลิงหยุนในสวนชั้นที่หกทันที เพราะรู้ว่าช่วงเวลาตั้งแต่ตีห้าจนถึงแปดโมงเช้า หลิงหยุนจะต้องฝึกวิชาอยู่ที่นั่นทุกวัน

   พี่ใหญ่วันนี้ไม่ว่าพี่จะไปไหน ข้าจะไปกับท่านด้วยทุกที่! 

   เอ่อ.. 

  หลิงหยุนถึงกับปวดขมับขึ้นมาทันทีและนึกถึงคำเตือนของหลิงซิ่วเมื่อคืนนี้  เจ้าเตรียมตัวไว้เลย นับจากนี้ไปหลิงซวี่จะตามติดเจ้าเป็นตังเม! 

   วันนี้ข้าจะต้องไปเยี่ยมเยียนศิษย์ทั้ง72 คนที่พามาจากจิงฉูที่โรงฝึกซ้อม นานแล้วที่ไม่ได้ไปพบพวกเขาบ้างเลย.. 

  หลิงซวี่ได้ฟังถึงกับตาโต พี่ใหญ่ ข้าจะไปกับท่านด้วย! 

   ….. หลิงหยุนถึงกับพูดไม่ออก

   พี่ใหญ่คะ!พี่ใหญ่คนดี ให้ข้าไปด้วยคนนะ ได้โปรด!  หลิงซวี่เข้าไปกอดแขนหลิงหยุนไว้ พร้อมกับออดอ้อนและเริ่มเอาแต่ใจตัวเอง

   ได้ๆข้าพาเจ้าไปด้วยก็ได้!  หลิงหยุนได้แต่ยอมตามใจเพราะไม่อาจปฏิเสธได้

  อีกอย่างตัวเขาก็จะต้องออกเดินทางในอีกสามถึงสี่วันข้างหน้าเขาเองก็เพิ่งจะทำลายกำแพงกั้นของหลิงซวี่ลงได้ จึงอยากจะใช้เวลาที่มีอยู่ไม่กี่วันนี้ชดเชยให้กับนาง

  จากนั้นหลิงหยุนจึงเดินโอบไหล่หลิงซวี่ไปอย่างสนิทสนมพร้อมกับพูดขึ้นว่า ไปกินข้าวเช้ากันก่อน แล้วค่อยออกไปด้วยกัน! 

  หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วหลิงหยุนก็ได้เรียกตี้เสี่ยวอู๋ และโม่วู๋เตาไปด้วย ส่วนหลิงเฟิงนั้นให้นั่งทำหน้าที่เป็นผู้บอกเส้นทาง

   นี่น้องซวี่..วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกรึ! 

  หลิงเฟิงที่นั่งอยู่ข้างคนขับเห็นหลิงซวี่เกาะติดหลิงหยุนเป็นปลิงอย่างสนิทสนมเช่นนั้นจึงอดที่จะถามออกไปไม่ได้

   พี่หลิงเฟิงถ้าพี่ยังพูดมากอีก ต้องมีเรื่องกับข้าแน่!  หลิงซวี่ตอบกลับด้วยความไม่พอใจ

   จ้าๆข้ายอมแพ้เจ้าก็ได้!  หลิงเฟิงรีบยกมือสองข้างขึ้นทำท่าสิโรราบ

  ทุกคนในรถต่างพากันหัวเราะออกมาอย่างนึกขัน..

   หลิงเฟิง..นี่มันทางไปที่ดินที่ผืนนั้นไม่ใช่รึ  หลิงหยุนร้องถามหลิงเฟิงออกมาด้วยความสงสัย

   ใช่แล้วโรงฝึกวรยุทธอยู่ห่างจากที่ดินที่เจ้าเลือกไปสิบกิโลเมตร ท่านพ่อพบเข้าเมื่อครั้งมาดูที่ดินผืนนั้นให้กับท่าน จึงได้ตัดสินใจซื้อไว้.. 

   ครั้งนั้นข้าถามท่านพ่อว่าเหตุใดจึงได้ซื้อโรงฝึกวรยุทธในที่ห่างไกลเช่นนี้ท่านพ่อบอกข้าว่าต่อไปที่ดินผืนนั้นจะเป็นบ้านหลังใหม่ของตระกูลหลิง และในวันข้างหน้าบริเวณนี้จะกลายเป็นอาณาเขตของตระกูลหลิงเช่นกัน ส่วนโรงฝึกวรยุทธก็จะได้ใช้อย่างแน่นอนในวันข้างหน้า.. 

  หลิงหยุนฟังแล้วได้แต่นึกอัศจรรย์ในการการคาดเดาที่แม่นยำของหลิงเย่วจากนั้นก็ได้ยินเสียงของหลิงเฟิงเล่าต่อว่า

   เมื่อเข้าไปดูด้านในของโรงฝึกวรยุทธถึงได้รู้ว่าพื้นที่ด้านในนั้นกว้างใหญ่มากมีทั้งสระน้ำขนาดใหญ่ หอพัก อาคารสันทนาการต่างๆที่มีทั้งห้องสมุด ห้องอาหาร สนามกีฬา มิหนำซ้ำยังมีห้องฝึกวรยุทธแยกต่างหากด้วย เรียกได้ว่าครบวงจรเลยล่ะ.. 

  หลิงหยุนได้แต่ยิ้มและเอ่ยชมออกมา ลุงสองไม่เคยมองสิ่งใดพลาดเลยจริงๆ! 

  ไม่นานนักทั้งหมดก็มาถึงที่โรงฝึกวรยุทธปักกิ่ง..

  หลิงหยุนเปิดจิตหยั่งรู้ออกสำรวจดูโดยรอบทั้งภายในและภายนอกโรงฝึกและพบว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างที่หลิงเฟิงเล่ามาทั้งหมด โรงฝึกแห่งนี้รายล้อมด้วยเขาสูงมากมาย และด้านหน้ามีแม่น้ำไหลผ่าน ตัวอาคารใหญ่โตสามารถรับคนได้ถึงหนึ่งพันคนเลยทีเดียว

  นอกจากแม่น้ำที่ไหลผ่านแล้วรอบๆก็ยังมีทะเลสาบงดงามล้อมรอบ..

   ห๊ะ!ท่านพ่อก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นรึ? พี่หลิงหย่งกับหลิงสือชีก็อยู่ด้วยรึนี่?!  หลิงหยุนร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ..

  หลิงเฟิงกลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกับหลิงหยุน ตั้งแต่ศิษย์ทั้ง 72 ของเจ้ามาอยู่ที่โรงฝึกนี้ ท่านอาสามก็มาที่นี่แทบทุกวัน! 

   ส่วนหลิงหย่งก็ยังกระอักกระอ่วนใจที่จะกลับไปอยู่บ้านแต่ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอาสามไปพาตัวเขามาที่โรงฝึกนี่ได้อย่างไร! 

   ท่านอาสามไม่เพียงมาที่นี่ฝึกสอนวรยุทธให้กับศิษย์ทั้ง72 คนของเจ้า แต่ยังนำนักรักตระกูลหลิงมาฝึกวรยุทธที่นี่อยู่เป็นประจำ..    หลิงหยุนฟังแล้วได้แต่ตื้นตันใจและคิดไม่ถึงว่าพ่อของเขาจะทำเพื่อเขามากมายถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่เคยปริปากบอกเขาเลยแม้แต่คำเดียว

  ความรักของบิดาหนักแน่นดั่งภูผายิ่งใหญ่แต่ไร้เสียง..

  หลิงซวี่เองก็เช่นกันนับตั้งแต่กำแพงในใจได้ทลายลง นางก็ได้มองเห็นความรักที่หลิงเสี่ยวมีให้ตนตั้งแต่เล็กจนโต และเป็นสิ่งที่นางมองข้ามมันมาตลอด นางเริ่มมองเห็นว่าตั้งแต่เล็กจนโตมา ไม่ว่านางจะดื้อรั้นเอาแต่ใจมากเพียงใด แต่หลิงเสี่ยวกลับไม่เคยดุด่านางแม้แต่คำเดียว!

  แววตาของหลิงเสี่ยวเปี่ยมไปด้วยความสำนึกผิดและน้ำตาก็เริ่มไหลพร่างพรูออกมา..

  พ่อที่ต้องแบกรับความอัปยศอดสูไว้แต่เพียงผู้เดียวพ่อที่ต้องเก็บงำความแค้นไว้ภายในใจคนเดียว พ่อที่ยอมแบกรับความผิดทั้งหมดไว้ที่ตัวเองเพียงลำพัง แต่กลับไม่เคยปริปากบอกผู้ใดแม้แต่คำเดียว..   หลิงหยุนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มให้กับหลิงซวี่พร้อมกับพูดขึ้นว่า หลิงซวี่ น้องคงเข้าใจความรู้สึกของท่านพ่อแล้วสินะ 

  หลิงซวี่พยักหน้าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ..

   เฮ้อ..ท่านอาสามเป็นคนที่น่าทึ่งมากจริงๆ! 

  พูดจบหลิงเฟิงก็ก้าวลงจากรถทันที ลงรถกันได้แล้ว! 

  เมื่อหลิงซวี่สงบสติอารมณ์ลงมากแล้วหลิงหยุนจึงเดินลงจากรถพร้อมกับหันไปสั่งตี้เสี่ยวอู๋

   เสี่ยวอู๋เจ้าขับรถไปจอดแล้วไปเดินดูโรงฝึกกัน.. 

 

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท