เมื่อได้ตกลงปากเปล่ากับนิโค ตู้แล้ว ฉินสือโอวก็จับมือกับเขา บอกว่าเขากลับไปแล้วจะรีบเตรียมลูกปลาค็อดให้ หลังเตรียมเสร็จแล้วจะส่งให้เขาทางเรือ
นิโค ตู้ดีใจมาก บอกว่ากลับไปจะรีบเตรียมลูกกุ้งให้ด้วยเหมือนกัน และจะเตรียมและส่งให้เขาให้เร็วที่สุดด้วย
ทางฝั่งคาร์เตอร์โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เขาดึงนิโค ตู้ไปหาแมทธิว จิน บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ฟังรอบหนึ่ง แล้วโวยวายออกมาว่า “นี่มันกลั่นแกล้งกันเกินไปแล้ว! ท่านประธาน พวกเขากำลังกลั่นแกล้งผม! ผมจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน! ไม่ยอมแน่นอน!”
หลังแมทธิว จินฟังอย่างละเอียดแล้ว บอกให้เขาหุบปากแล้วก็ถามความเป็นมาของเรื่องจากนิโค ตู้ หลังจากเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบว่า “เรื่องนี้เป็นปัญหาอย่างไร? ผมพูดไม่ชัดเจนเหรอครับ? การประมูลครั้งนี้ก็คืองานนำเสนอสินค้า ทุกคนสามารถทำการแลกเปลี่ยนกันได้อย่างอิสระหลังจบงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้ทรัพยากรมีการหมุนเวียนนะครับ”
คาร์เตอร์พูดอย่างหัวเสียว่า “แต่ว่าทำไมราคาลูกกุ้งที่ขายให้ผมถึงแพงขนาดนี้ แต่เจ้าหมอนี่กลับขายให้คนจีนคนนั้นในราคาที่ต่ำขนาดนั้นล่ะ? ถ้าหากว่าไม่มีความยุติธรรม งั้นงานประมูลจะมีประโยชน์อะไรครับ?”
แมทธิว จินอธิบายให้เขาฟังอย่างใจเย็นว่า “ผมบอกไปแล้ว จุดประสงค์ของงานประมูลคือการเพิ่มการหมุนเวียนของทรัพยากรทางทะเล ส่วนเรื่องยุติธรรมหรือไม่นั้น ผมเป็นคนจัดงานประมูลครั้งนี้ขึ้นมา ผมไม่คิดว่าจะมีใครบังคับให้ใครเคาะราคาซื้อขายกันนะครับ”
คาร์เตอร์จ้องมองแมทธิว จินด้วยความอึ้ง เขารู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ชอบมาพากล แต่ว่าหาทางตอบกลับไปไม่เจอ จึงทำได้แต่พูดว่า ‘ไม่ยุติธรรม’
แมทธิว จินยักไหล่อย่างเลือกไม่ได้ เขาถามนิโค ตู้ว่า “คุณตู้ คุณคิดว่างานประมูลครั้งนี้เป็นอย่างไรครับ?”
นิโค ตู้พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “สุดยอดที่สุดครับ ผมไม่ใช่คนที่ชอบพูดคำพูดสวยหรู แต่ตอนนี้ผมจำเป็นต้องพูดครับ คุณประธาน พวกคุณได้ทำเรื่องดีเรื่องหนึ่งให้กับประชาชนแล้วครับ พวกเราควรจะทำแบบนี้กันตั้งนานแล้ว ให้ทรัพยากรหมุนเวียน ให้ทุกคนสามารถได้ใช้เงินที่น้อยกว่าซื้อทรัพยากรที่ดีกว่า!”
คำพูดของเขาครั้งนี้เป็นคำที่มาจากใจจริงทั้งนั้น งานประมูลในครั้งนี้ นิโค ตู้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ไม่เพียงแต่เจอเจ้างั่งที่ให้ราคาลูกกุ้งที่สูงจนไม่คาดคิดเท่านั้น ยังสามารถได้ลูกปลาค็อดที่ขึ้นชื่อของฟาร์มปลาต้าฉินในราคาถูกอีกด้วย นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดมาก่อนทั้งนั้น!
เมื่อได้ยินคำพูดของนิโค ตู้แล้ว คาร์เตอร์ก็ลมจุกอกจนแทบจุกตายทันที สุดท้ายเมื่อเขาเห็นแมทธิว จินไม่สนใจตัวเอง จึงพูดออกมาอย่างขี้โกงว่า “ถ้าหากไม่สามารถหาความยุติธรรมให้ผมได้ งั้นคุณประธานครับ ผมขอปฏิเสธรายการซื้อของผมเมื่อกี้ครับ”
แมทธิว จินขยับแว่นไปมา แล้วพูดว่า “ตามกฎหมายแล้ว เรื่องนี้สามารถทำได้ แต่ว่าตามกฎของงานประมูลของพวกเราสภาประมูลแล้ว ต่อไปคุณจะเสียสิทธิ์การเข้าร่วมงานประมูลที่จัดขึ้นโดยกรมประมงนะครับ”
พูดจบ เขาส่งสายตาเป็นนัยว่าให้ไปคิดเอาเองให้กับคาร์เตอร์แล้วก็จากไป จากนั้นไม่นานก็มีการแถลงข่าววิเคราะห์งานประมูลครั้งนี้ออกมา เขาที่เป็นเจ้าของฟาร์มปลาก็ต้องเข้าร่วมด้วยเหมือนกัน
คาร์เตอร์ยืนอยู่ที่นั่นอย่างโดดเดี่ยว รู้สึกว่าทั้งโลกเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ใจจริงแล้วเขาเองก็ไม่อยากจ่ายเงินซื้อกุ้งขาวที่ไม่มีประโยชน์พวกนั้นเลย หากว่าเป็นเมนล็อบสเตอร์ก็ว่าไปอย่าง อย่างน้อยราคาของเมนล็อบสเตอร์ในตอนนี้ก็สูงมาก แต่กับกุ้งขาวนั้นจะทำประโยชน์ให้เขาอย่างไร?
แต่ความคิดที่จะไม่จ่ายเงินก็แค่คิดเท่านั้น งานประมูลของกรมประมงในครั้งนี้เป็นกิจกรรมสำคัญที่กรมประมงจัดขึ้นในปีนี้ ในงานประมูลไม่มีผลิตภัณฑ์ทางทะเลชิ้นไหนเลยที่ไม่มีคนประมูล หลังจบงานก็ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ผิดคำพูด หากว่าเขากลายเป็นจุดดำในนั้นแล้ว นั่นก็คือการหาเรื่องกับกรมประมงอย่างรุนแรง
เขาสามารถไม่เข้าร่วมงานประมูลของกรมประมงครั้งต่อไปได้ เขายังสามารถหาเรื่องกับแมทธิว จินได้ด้วย แต่เขาไม่สามารถทำผิดกับกรมประมงได้ ไม่อย่างนั้นต่อไปงานต่างๆ ในฟาร์มปลาของเขาจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เลย
เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับฉินสือโอว เขาเข้าร่วมงานประมูลแล้วก็เตรียมจะกลับฟาร์มปลา ก่อนจะกลับไปเขาได้ไปบอกลากับคาเมรอนก่อน คาเมรอนกำลังสั่งการให้ตากล้องทำการเก็บภาพท่าเรือบาสก์ไปวิเคราะห์อยู่ เมื่อเห็นฉินสือโอวมาแล้วก็ให้เขารอสักพัก
คาเมรอนยุ่งกับงานต่ออีกหนึ่งชั่วโมงกว่า จึงจะมาหาฉินสือโอวพร้อมกับความรู้สึกเสียใจ เขายิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อกี้เป็นการเก็บภาพที่ค่อนข้างสำคัญ ผมไม่สามารถปลีกตัวมาได้ มีเรื่องอะไรหรือครับ?”
ฉินสือโอวเห็นว่าเวลาไม่เช้าแล้ว จึงพูดเข้าประเด็นทันที บอกไปว่าเขาเตรียมจะกลับฟาร์มปลาแล้ว
คาเมรอนบอกว่าจะไปกับเขาด้วย “ทานมื้อกลางวันกันก่อนค่อยไปแล้วกันนะครับ? ผมรู้มาว่าที่นี่มีชาวฝรั่งเศสมาเปิดร้านอาหารที่ดีมากเลย ชิ้นปลาค็อดผัดขิงกรอบกับผัดผักสไตล์บาสก์ของพวกเขานั้นอร่อยมากเลย นอกจากนั้น ถ้าคุณชอบกินตับห่านแล้วล่ะก็ ต้องมาลองสลัดตับห่านเสิร์ฟพร้อมผลไม้ของร้านนี้นะครับ”
ผู้กำกับใหญ่เชิญทั้งที ฉินสือโอวจึงต้องให้เกียรติ
ร้านอาหารมีชื่อว่าร้านอาหารแซงปิแยร์ ชื่อดังมากในย่านนี้ เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสไตล์ของฝรั่งเศสในศตวรรษที่สิบแปด ตกแต่งร้านแบบเก่าแก่แต่อบอุ่น
ทั้งร้านมีโต๊ะอยู่แค่แปดตัวกับห้องพิเศษหนึ่งห้อง เมื่อเถ้าแก่เห็นคาเมรอนเดินเข้ามาแล้ว ก็รีบพาพวกเขาไปยังห้องพิเศษทันที พร้อมรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ผมได้เตรียมห้องนี้ไว้ให้คุณมาตลอดเลยครับ คุณคาเมรอน เป็นเกียรติมากที่ได้ต้อนรับคุณอีกครั้ง”
คนดังก็ดีแบบนี้ล่ะ ฉินสือโอวเดินเข้าไปในห้องพิเศษมองดูทีหนึ่ง ผนังรอบด้านล้วนเป็นกรอบรูปสภาพใหม่ มีทั้งรูปของคาเมรอน ภาพโปสเตอร์ของภาพยนตร์ที่เขาเป็นคนผู้กำกับ เป็นรูปที่ใหญ่ที่สุดเป็นรูปหมู่ของเขากับร้านอาหารนี้
คาเมรอนเริ่มจากสั่งกาแฟสองแก้วกับขนมหวานจำนวนหนึ่งก่อน เถ้าแก่ถามฉินสือโอวว่าต้องการสั่งอะไร พร้อมกับให้คำแนะนำว่า “หากว่าคุณมาครั้งแรก แนะนำให้คุณลองขนมม้วนนมกับขนมปังฝรั่งเศสของเรานะครับ เป็นขนมหวานขึ้นชื่อของร้านเราครับ”
ฉินสือโอวพยักหน้าตกลง เขาไม่เลือกกิน ขอแค่รสชาติอย่าแปลกมากเหมือนกิวิอักที่เป็นสูตรลึกลับของชาวเอสกิโม เขาก็กินได้หมด
ระหว่างดื่มกาแฟ คาเมรอนพูดออกมาด้วยเสียงทอดถอนใจประโยคหนึ่งว่า “นึกไม่ถึงว่ามื้อแรกที่ผมเลี้ยงอาหารคุณ จะเป็นที่นี่นะครับ”
ฉินสือโอวก็พูดด้วยเสียงทอดถอนใจยิ่งกว่า เขาพูดว่า “ไม่คิดว่าผมจะได้มาทานข้าวแบบใกล้ชิดขนาดนี้กับไอดอลนะครับ” ระหว่างพูดเขาก็หยิบมือถือออกมาแล้วเปิดกล้อง “มาครับ ผู้กำกับ ยิ้มทีหนึ่ง พวกเรามาถ่ายรูปคู่กันอีกสักรูป…”
คาเมรอน “…”
ระหว่างทานอาหารกัน คาเมรอนถามเขาเกี่ยวกับฟาร์มปลาและมหาสมุทร ฉินสือโอวพบว่าเขาถามได้มืออาชีพมาก จึงพูดออกไปด้วยความแปลกใจว่า “พูดจริงนะครับ คุณคาเมรอน การศึกษาด้านมหาสมุทรของคุณนั้นทำให้ผมทึ่งจริงๆ นะครับ คำถามที่คุณถามมาแต่ละอย่างมีความเป็นมืออาชีพสูงมากเลย”
คาเมรอนหัวเราะแล้วพูดว่า “แน่นอนครับ ความรู้เกี่ยวกับมหาสมุทรของผมต้องมากกว่าความรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ของคุณแน่นอน ไม่ใช่เหรอครับ?”
จุดนี้ฉินสือโอวจำเป็นต้องยอมรับ เขามีความรู้เรื่องภาพยนตร์อะไรบ้าง? แต่ทว่าเขาสงสัยมากว่าทำไมคาเมรอนถึงคิดอยากจะมาทำภาพยนตร์เกี่ยวกับภัยในมหาสมุทร ผลงานก่อนหน้าอย่างไททานิก ก็ถือว่าเป็นที่สุดของภาพยนตร์แนวนี้แล้ว คาเมรอนไม่น่ามีความจำเป็นที่จะมาถ่ายแนวนี้อีกนี่นา?
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาถือว่าค่อนข้างใกล้ชิดกันแล้ว คำถามแบบนี้เขาสามารถถามได้ ดังนั้น ฉินสือโอวจึงยกคำถามนี้ขึ้นมา
เมื่อได้ยินคำถามของเขา คาเมรอนนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีคุณอาจจะไม่เชื่อนะครับ ฉิน ภาพยนตร์เกี่ยวกับมหาสมุทรนั้น เป็นแนวที่ผมอยากถ่ายทำมาตลอดเลย”
…………………………………………………