เมื่อบอกลาลีฟเสร็จแล้ว ฉินสือโอวก็โทรศัพท์ไปหาฮิลตันคนน้อง เพื่อบอกเธอว่าตอนนี้เขาอยู่ที่นิวยอร์กแล้ว ถ้าเธอจะคุยเรื่องการซื้อขายปะการังน้ำลึก ก็ให้เธอมาคุยกันวันนี้เลย
แต่จริงๆ แล้วในใจของเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องปะการังน้ำลึกเท่าไร เรื่องที่เขาอยากคุยกับฮิลตันคนน้องคือเรื่องการขยายกำลังการค้าของอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินในต่างประเทศต่างหาก
หลังจากฮิลตันคนน้องได้รับสายโทรศัพท์จากเขา เธอก็รีบมาที่นี่ด้วยความเร่งร้อน ในฐานะที่เป็นสาวสังคมผู้มีชื่อเสียงกว้างขวางของอเมริกา เสื้อผ้าหน้าผมของฮิลตันคนน้องย่อมต้องใช้ของที่ดีที่สุด เธอเป็นผู้หญิงสูงหุ่นบอบบางแต่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ทั้งยังมีใบหน้างดงามและบุคลิกที่โดดเด่น หลังจากได้เจอเธอฉินสือโอวก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่เชิญเธอมาที่ร้านกาแฟ
ทีแรกมันยังเป็นร้านกาแฟเงียบๆ แต่หลังจากฮิลตันคนน้องเดินเข้ามาเสียงของผู้คนที่กระซิบกระซาบกันก็เริ่มดังขึ้น พวกผู้ชายส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ในร้านต่างก็วางสายตาไว้ที่เธอกันทั้งนั้น
“ถ้ามีที่นั่งส่วนตัวก็คงจะดีใช่ไหมล่ะครับ?” ฉินสือโอวพูดด้วยรอยยิ้ม
ฮิลตันคนน้องถอดแว่นกันแดดที่ปิดบังใบหน้าของเธอเอาไว้ถึงครึ่งหนึ่งออก แล้วพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเอง “ที่นี่ก็ไม่เลวนะคะ ฉันไม่ได้นั่งจิบกาแฟคุยกันกับเพื่อนมานานแล้ว”
ฉินสือโอวเห็นว่ามีคนสองคนที่ยกโทรศัพท์มือถือหันมาทางพวกเขาทั้งสองคน คาดว่าน่าจะรู้แล้วว่าฮิลตันคนน้องเป็นใคร ดังนั้นเขาจึงรีบตัดเข้าประเด็นที่จะคุยกันทันที “คุณต้องการปะการังสีแดงชิ้นใหญ่ขนาดไหนเหรอครับ?”
หลังจากไตร่ตรองอยู่สักพัก หลังจากนั้นฮิลตันคนน้องก็พูดพร้อมกับทำท่าทางประกอบให้เขาดู “ฉันอยากทำเครื่องประดับศีรษะให้เพื่อนสนิทของฉันสักชุด มีต่างหู กิ๊บติดผมแล้วก็ปิ่นปักผม ดังนั้นอาจจะต้องใช้ปะการังขนาดใหญ่หน่อย ฉันเคยเห็นปะการังสีแดงชิ้นนั้นที่คุณฝากไว้ที่ทิฟฟานี่แอนด์โค อาจจะต้องใช้ประมาณครึ่งหนึ่งของก้อนนั้นนะคะ”
ฉินสือโอวพยักหน้ารับแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ง่ายเลย ผมกังวลว่าปะการังของผมชิ้นนั้นจะไม่เพียงพอสำหรับคุณเสียอีก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะโทรไปบอกลีฟ แล้วคุณค่อยไปหาเธอ เธอจะขายให้คุณเอง”
ฮิลตันคนน้องใช้มือจับผมที่ร่วงลงมาปรกกรอบหน้าของเธอไปทัดไว้ที่หู แล้วก็หันมามองเขาด้วยใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เธอจ้องเขาตาแป๋วพูดแล้วเขาอย่างสบายๆ “แล้วเรื่องราคาละคะ? พวกเราต้องตกลงเรื่องราคาด้วยใช่ไหมล่ะ”
เขามองภาพนี้ด้วยสายตาชื่นชม ฉินสือโอวพูดกับเธอว่า “ผมคิดว่าบริษัททิฟฟานี่แอนด์โคน่าจะตั้งราคาให้มันแล้วไม่ใช่เหรอครับ? แล้วผมก็เชื่อว่าทิฟฟานี่แอนด์โคคงไม่ตั้งราคาที่สูงเกินไปหรอก น่าจะไม่ต่างกับราคาในตลาดค้าขายสักเท่าไร”
“โน!” ฮิลตันคนน้อง เบะปากขึ้นมาทันที เธอยื่นมือออกไปจับข้อมือของฉินสือโอวพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ “พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะคะ คุณขายมันในราคามิตรภาพไม่ได้จริงๆ เหรอ? คุณก็รู้ว่าปะการังสีแดงมันแพงมากๆ”
ฉินสือโอวลองคิดๆ ดูหลังจากนั้นก็บอกกับเธอว่า “โอเค ให้ราคามิตรภาพก็ได้ครับ ถึงยังไงคุณก็ช่วยผมจองโรงแรม ผมก็ต้องทำอะไรเพื่อตอบแทนคุณบ้างใช่ไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้นก็ลดราคาให้ห้าเปอร์เซ็นต์ดีไหมครับ?”
ราคาของปะการังแดงอากะค่อนข้างสูง อีกทั้งปะการังของฉินสือโอวชิ้นนี้ยังมีคุณภาพดีที่สุดของที่สุดสินค้าคุณภาพยอดเยี่ยม ราคาที่บริษัททิฟฟานี่แอนด์โคช่วยเขาตั้งอยู่ที่กรัมละ 6,200 ดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าราคาจะแตกต่างกับเพชรอยู่มาก แต่มันก็นับว่าเป็นอัญมณีที่มีราคาสูงชนิดหนึ่ง
อย่าคิดแค่ว่าปะการังสีแดงที่ฉินสือโอวขายมีขนาดใหญ่แค่ประมาณฝ่ามือ แค่ครึ่งหนึ่งของมันก็หนักราวๆ สองร้อยกรัมแล้ว อีกทั้งราคายังสูงถึงล้านดอลลาร์สหรัฐ!
นี่คือราคาของอัญมณีชั้นหนึ่ง แต่แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าการที่มีปะการังสีแดงผืนนั้นจะทำให้เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับหนึ่งของโลก ราคาของอัญมณีพวกนี้ขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรเท่านั้น ต้องเก็งกำไรให้ได้ราคา หากทำไม่ได้ก็ไม่มีทางที่จะได้ราคาสูงขนาดนั้น
และถ้าต้องการเก็งกำไร ก็ต้องเป็นของหายาก ถ้าฉินสือโอวนำปะการังแดงอากะกี่สิบกี่ร้อยตันที่อยู่ใต้ทะเลขึ้นมาขายทั้งหมด ราคาของอัญมณีชนิดนี้ก็จะตกต่ำลงอย่างรุนแรงทันที
รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถอ้างอิงได้จากราคาของหยกเขียวบริสุทธิ์ในปัจจุบันที่นับวันก็ยิ่งต่ำลงไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าเพชรก็เป็นตัวอย่างที่ตรงกันข้ามได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าราคาของเพชรจะไม่ได้ตกต่ำลง แต่ก็ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว และด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน จึงเท่ากับว่ามันเสื่อมราคาลงนั่นเอง
ปะการังสีแดงใต้ก้นทะเลผืนนั้น ถูกกำหนดให้เป็นความมั่งคั่งอันล้ำค่าให้กับครอบครัวของเขา ตลอดชีวิตนี้เขาจะขุดขึ้นมาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
ฮิลตันคนน้องเบะปากเล็กๆ ของเธอพร้อมกับเขย่าข้อมือของฉินสือโอวอย่างแรง เธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่ใสแจ๋ว ท่าทางของเธอทั้งดูอ้อนวอนและเขินอาย ทำให้หัวใจของคนเหล็กละลายได้เลย
ฉินสือโอวรีบดึงข้อมือกลับมา เขาไม่ใช่นักบวชทั้งยังรู้จักอาการหวั่นไหว และวิธีที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับสิ่งดึงดูดใจ ก็ต้องไม่ไปเผชิญหน้ากับมัน
ดังนั้นเขาจึงตั้งหน้าตรงแล้วพูดว่า “อย่าทำท่าทางที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายๆ อย่างนี้สิครับ คุณก็รู้ว่าผมกำลังจะแต่งงานแล้ว แต่เกรงว่าคุณจะไม่รู้ว่าภรรยาของผมเป็นคนขี้หึงมาก”
ฮิลตันคนน้องหัวเราะคิกคัก “แล้วยังไงละคะ? เป็นเพื่อนกันจะใกล้ชิดสนิทสนมกันสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอคะ?”
ฉินสือโอวไหวไหล่พูดว่า “จริงจังหน่อยเถอะครับ คุณอยากให้ผมขายปะการังสีแดงให้คุณเท่าไร?”
ฮิลตันคนน้องรีบยื่นมือขวาออกไป เธอทำมือชูห้านิ้วพร้อมกับพูดว่า “ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ!”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาแล้วยื่นมือออกไปบีบคางของเธอ “คนสวย ผมชอบท่าทางของคุณตอนล้อเล่นแต่ทำเหมือนจริงจังจริงๆ ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เหรอ? ผมให้คุณฟรีๆ ไม่ดีกว่าเหรอครับ?”
ตอนนี้ถึงคราวของฮิลตันคนน้องต้องถอยบ้างแล้ว เธอปัดมือของฉินสือโอวที่ยื่นเข้ามาทิ้งแล้วพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า “คราวนี้คุณไม่กลัวว่าว่าที่ภรรยาจะหึงคุณแล้วเหรอคะ?”
ฉินสือโอวพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “ผมถูกคุณแกล้งจนอดเอาคืนไม่ไหวแล้วน่ะ จริงจังหน่อยครับ ห้าสิบเปอร์เซ็นต์อะไรกัน คุณคิดว่านี่คือตลาดขายผักหรือไง? เห็นแก่ที่คุณช่วยผมจองโรงแรมผมจะลดให้คุณยี่สิบเปอร์เซ็นต์แล้วกันนะครับ”
ลดราคายี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็จะเท่ากับห้าพันดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งกรัม ถือว่าใกล้เคียงกับปะการังน้ำลึกอากะเลย ราคาที่ฉินสือโอวเสนอให้เป็นราคาพิเศษแล้วจริงๆ
ฮิลตันคนน้องยังอยากจะพูดอะไรสักอย่าง ฉินสือโอวจึงยกกาแฟขึ้นดื่มทันที หลังจากนั้นเขาก็ลุกยืนขึ้นสวมเสื้อโค้ตแล้วพูดว่า “นี่คือราคาต่ำสุดแล้ว ถ้าคุณยอมรับได้ก็ไปหาลีฟได้เลย แต่ถ้ารับไม่ได้ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วละครับ”
พอเห็นแบบนี้ ฮิลตันคนน้องก็จ้องมองเขาแบบคนที่ไม่ทุกข์ไม่ร้อน พร้อมกับพูดเสียงเบาว่า “ฉิน คุณเป็นเหมือนไอรอนแมนจริงๆ ด้วย”
“แต่ไอรอนแมนเป็นคนเจ้าชู้มากไม่ใช่เหรอครับ?” ฉินสือโอวย้อนถามเธอกลับ
ฮิลตันคนน้องชี้ไปที่หน้าท้องของเขา “ฉันหมายถึงตรงนี้ของคุณต่างหากล่ะที่เหมือน”
ฉินสือโอวหัวเราะฮ่าๆ แล้วนั่งลงอีกครั้ง “คุณคิดว่าราคาเท่านี้ยังแพงไปอีกเหรอครับ?”
ฮิลตันคนน้องพูดว่า “แน่นอนสิ แค่หินก้อนเดียวแต่ราคาแพงเป็นล้านเลยเหรอ? พระเจ้า ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
ฉินสือโอวจึงตอบกลับไปว่า “ที่จริง มันก็ไม่ใช่ว่าผมจะลดราคาให้คุณสักห้าสิบเปอร์เซ็นต์ไม่ได้หรอกนะ จริงๆ แล้วผมจะให้คุณฟรีๆ เลยก็ยังได้”
พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ ฮิลตันคนน้องก็ตาเป็นประกาย มือสองประสานกันแล้วค้ำไว้ที่ใต้คางพร้อมกับพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “หมายความว่ายังไงคะ? คุณคงไม่ใช้เรื่องนี้เพื่อขอเดตกับฉันหรอกใช่ไหม? โอ้ อย่าทำอย่างนั้นเลยค่ะ ฉิน ฉันคิดแค่ว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดี แต่คุณกลับคิดที่จะ คิดที่จะ…”
พอพูดจบ สีหน้าท่าทางของเธอก็เริ่มเปลี่ยน แล้วเผยท่าทางเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา
ฉินสือโอวแอบด่าในใจว่าผู้หญิงตัวแสบแสดงละครเก่งจริงๆ หลังจากนั้นเขาก็กระแอมไอแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ครับ วางใจเถอะ รสนิยมความชอบของผมยังปกติดีครับ ผมหมายถึงว่า ถ้าคุณยอมโน้มน้าวคนในตระกูลของคุณ เพื่อให้โรงแรมฮิลตันของพวกคุณร่วมมือกับอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินของผมด้วยการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการสร้างแบรนด์ ถึงตอนนั้นผมจะมอบปะการังสีแดงให้คุณทั้งชิ้นก็ไม่มีปัญหา”
รอยยิ้มซุกซนบนใบหน้าของฮิลตันคนน้องถูกดึงกลับไปทันที เธอพูดกับเขาว่า “คุณว่ายังไงนะ?”
ฉินสือโอวไหวไหล่แล้วพูดว่า “ถ้าร่วมมือกันไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ แต่ก็ไม่เห็นกับต้องโมโหเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันหมายถึงประโยคแรกที่คุณพูด คุณว่ายังไงนะ? รสนิยมของคุณยังปกติดีอยู่อย่างนั้นน่ะเหรอ? พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?” ฮิลตันคนน้องยกแก้วกาแฟไว้ในมือขึ้นมา แต่ฉินสือโอวคิดว่าเธอไม่ได้อยากดื่มมันเข้าไปหรอก คงอยากจะสาดใส่เขามากว่า
“ผมแค่ล้อเล่นน่ะ” ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง “แล้วข้อเสนอของผมเป็นยังไงบ้างครับ?”
…………………………………………………