ปาร์ตี้สละโสดถือได้ว่าเป็นปาร์ตี้ที่มีความสุขที่สุดของคนหนุ่มสาวในอเมริกาและยุโรปเกือบทุกคน ก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงาน โดยปกติเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวจะออกหน้าจัดกิจกรรมแบบนี้ให้
หลังจากที่เข้าใจแล้ว ฉินสือโอวก็ทำได้เพียงฝืนยิ้มและยอมรับในชะตากรรม เขาจะไม่สนุกไม่ได้ และก็ไม่สามารถโทษทุกคนที่ทำให้เขาตกใจ เพราะจุดประสงค์ของงานนี้ก็คือฉลองค่ำคืนหนึ่งที่ยากจะลืมเลือนอย่างบ้าคลั่ง และคนที่มาร่วมงานก็ต้องเก็บความลับของเจ้าของงานไว้
ชาวต่างชาติไม่มีธรรมเนียมปลุกห้องเจ้าสาว แต่พวกเขาก็จะไม่ปล่อยเจ้าบ่าวและเจ้าสาวไปง่ายๆ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาเล่นกันก็คือปาร์ตี้สละโสด
โดยทั่วไปแล้ว ลักษณะการจัดงานประเภทนี้มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งโดยพื้นฐานเพื่อนสนิทก็จะมารวมตัวกัน อยากทำอะไรก็ทำ
ฉินสือโอวเงยหน้ามองไปบรรยากาศรอบๆ ที่นี่น่าจะเป็นไนต์คลับแห่งหนึ่ง สุดท้ายก็ถูกพวกเหมาเหว่ยหลงเหมาร้านจัดปาร์ตี้ ทุ่มทุนจริงๆ
ไนต์คลับเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการจัดงานพวกนี้ที่สุดแล้ว แสงไฟมืดสลัว เหล้าทุกรูปแบบ เสียงเพลงอึกทึก ทุกคนคือความบ้าคลั่ง
ทันทีที่เขาถือขวดเบียร์ แบรนดอนก็ขึ้นมาดื่มกะเขา ฉินสือโอวพูดว่า “อย่าเลยเพื่อน ปล่อยฉันคนนี้ไปเถอะ พรุ่งนี้ฉันยังต้องเข้าร่วมงานแต่งงาน เมาไม่ได้”
แบรนดอนยักไหล่แล้วพูดขึ้น “ฉันรู้ ฉิน ฉันแค่ดื่มกะนายขวดเดียวเท่านั้น ไม่ทำให้นายเมาหรอก”
ในเมื่อเขารับปากแล้ว ฉินสือโอวก็ไม่พูดอะไรมากอีก ยกขวดเบียร์ขึ้นเตรียมกรอกเข้าปาก
แบรนดอนบีบข้อมือเขาแล้วพูดขึ้น “แต่พวกเราต้องตกลงกันให้ดีก่อน นายต้องดื่มขวดนี้ให้หมดในคราวเดียว ไม่อย่างนั้นคืนนี้ฉันไม่ปล่อยนายแน่ แล้วนายก็จะเลิกไม่ได้ด้วย”
ฉินสือโอวพูด “ถ้าฉันดื่มหมดขวดนี้ในคราวเดียว นายจะมาตอแยให้ฉันดื่มไม่ได้ละนะ? คำพูดลูกผู้ชาย ห้ามคืนคำ?!”
“ใช่ สาบานต่อพระเจ้า!” แบรนดอนพูดอย่างจริงจัง
พอได้ยินคำพูดนี้ ฉินสือโอวก็หัวเราะหึหึขึ้นมา เบียร์ขวดนี้ก็เป็นเบียร์บัดไวเซอร์ธรรมดาทั่วไป ขวดหนึ่งแค่ 280 มิลลิลิตร ดื่มให้หมดนั้นง่ายนิดเดียว
แต่ทว่าเมื่อเขาลิ้มรสเบียร์เข้าไปในปากแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันใด แม่งเอ๊ย เขาโดนหลอกแล้ว ในขวดไม่ใช่เบียร์ ใครจะรู้ว่านี่จะมาไม้ไหน? ใช่มันคือเหล้า แต่รสชาติแปลกมาก!
ตอนที่เขาจะยกขวดออกจากปาก คนกลุ่มหนึ่งก็ห้อมล้อมกันเข้ามา บิลลี่ล้วงปากกาบันทึกเสียงออกมาแท่งหนึ่ง หลังจากที่เปิดแล้วก็เป็นบทสนทนาระหว่างเขากับแบรนดอน
ฉินสือโอวแอบร้องไห้อยู่ในใจ ครั้งนี้เขาพ่ายแพ้แล้ว ทำได้แค่ซดขวดนี้เข้าไปอึกใหญ่ๆ ยังดีว่าปริมาณมันน้อย เหล้าก็ไม่ได้แรงมาก ไม่กี่อึกใหญ่ก็หมดแล้ว
โยนขวดเหล้าทิ้ง ฉินสือโอวชี้ไปที่แบรนดอนแล้วพูดว่า “เพื่อน นายหลอกฉันเหรอ?!”
แบรนดอนยักไหล่แล้วพูดว่า “ฉันหลอกอะไรนาย? คำสัญญาของเราทำขึ้นโดยมีพระเจ้าเป็นพยาน ไม่ใช่เหรอ?”
โอวหยางไห่ที่มาถึงฟาร์มปลาตอนบ่ายก็มาเข้าร่วมปาร์ตี้สละโสดนี้ด้วย เขาเดินขึ้นตบไปที่ไหล่ฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “ช่างมันเถอะ พี่ฉิน นายก็ถูกละลาบละล้วงแล้ว นายรู้ไหมว่าปาร์ตี้สละโสดของฉันเป็นยังไง?”
ฉินสือโอวถามด้วยความเศร้าใจว่า “คงไม่แย่ไปกว่าฉันแล้วหรอก? ฉันถูกคนลักพาตัวมาเลยนะ”
โอวหยางไห่แสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะย้อนคิดเรื่องในอดีตที่ไม่ดีสักเท่าไร โบกไม้โบกมือแล้วพูดขึ้น “แม่ง ตอนนั้นฉันอนาถกว่า ฉันถูกคนหลอกโดยใช้คิวคิวของแฟนเก่าฉัน! อีกอย่างตอนนั้นที่ฉันเล่นสนุกกันคือปาร์ตี้แบบกอล์ฟที่บาร์!”
กอล์ฟที่บาร์ก็เป็นสไตล์ปาร์ตี้รูปแบบหนึ่ง ความหมายก็ตามชื่อเลย เหมือนกับแข่งขันในกีฬากอล์ฟที่ต้องตีให้ลงหลุม 10 หลุม ผู้เข้าร่วมจะต้องดื่มเหล้าให้ครบ 10 บาร์โดยมีเพื่อนๆ ยืนล้อมวงไว้
การดื่มแบบนี้ไม่ใช่การดื่มธรรมดา เพราะแต่ละบาร์จะมีกำหนด ‘พาร์’ เอาไว้ก่อน เมื่อทำได้ตามกำหนดถึงจะผ่านด่านไปได้
ชาร์คแสยะยิ้ม “นี่ไม่ถือว่าเท่าไร? คืนก่อนวันแต่งงานของฉัน ของฉันเล่นท้าทาย 100!”
ท้าทาย 100 ง่ายนิดเดียวแต่กลับบ้าดีเดือดมาก ซึ่งก็คือการเทเบียร์ 100 มิลลิลิตรลงในแก้วเบียร์ แล้วเจ้าบ่าวต้องใช้ความเร็วในการดื่ม 1 แก้วภายใน 1 นาที ติดต่อกัน 100 นาที ก็เท่ากับดื่มเบียร์ 10,000 มิลลิลิตร ติดต่อกัน ตอนนี้เบียร์ขวดใหญ่ 1 ขวดมีปริมาณ 500 มิลลิลิตร ก็เท่ากับว่าต้องดื่มติดต่อกัน 20 ขวดให้หมดเกลี้ยง
เมื่อได้ยินที่เขาพูด ฉินสือโอวรู้สึกว่าเรื่องที่ตัวเองเจอวันนี้ไม่น่าอนาถจนเกินไป ดังนั้นเขาถึงรู้สึกสุขใจขึ้นมา รีบกวักมือเรียก ตะโกนว่า “เหล้าล่ะ? เอามาเหล้ามาให้ฉัน? คืนนี้ฉันจะจัดการพวกนายให้หมด! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
เอ๋ นี้แผ่นดินไหวเหรอ? ทำไมพื้นถึงโยกไปโยกมา?”
เฉินเหลยถามเหมาเหว่ยหลง “แม่ง ทำไมฉินถึงคออ่อนขนาดนี้วะ? ต่อให้ซัดเหล้าขาวปริมาณ 280 มิลลิลิตรเข้าไป ก็ไม่น่าจะเป็นได้ขนาดนี้มั้ง?”
เหมาเหว่ยหลงยิ้มเยาะ “นั่นไม่ใช่เหล้าขาว แต่มีทั้งเหล้าขาว ไวน์แดง เบียร์ขาว เหล้าเหลือง ผสมอยู่ด้วย ฉันก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกัน”
ฉินสือโอวนับว่ายังมีสติอยู่ เพียงแต่หัวจะหนักๆ เท้าลอยๆ มีคนประคองเขาไปนั่งบนโซฟา มีคนยื่นเบียร์ให้เขาขวดหนึ่งแล้วพูดว่า “มา พี่น้อง มาล้างปากสักหน่อย จะได้ไม่มึน”
ฉินสือโอวซดเข้าไปเกลี้ยงอย่างสำราญใจ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกว่าสติยิ่งเลือนรางเข้าไปทุกที ราวกับว่าหลังจากนั้นก็มีคนมายื่นเบียร์ให้เขาอีก มีคนถามว่าเล่นเกมอะไรดี แล้วเขาก็เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างมีความสุข…
วันที่สองเมื่อตื่นขึ้นมา ฉินสือโอวรู้สึกสมองหนักๆ แต่ก็ยังทนไหว เพียงแต่ว่ามันไม่สดชื่นเท่าตอนที่เขาตื่นนอนยามปกติ
เขาลุกขึ้นมามองไปรอบๆ เขาอยู่บนเตียงใหญ่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง บนเตียงยังมีอีกสองคน คือบิลลี่และเฉินเหลย เขามองลงไปที่พื้น ยังมีเฉินเจี้ยนหนาน เยียนเฟย และคนอื่นๆ นอนสลับเรียงรายกันบนพื้น
แบบนี้เขาก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย ไอ้พวกนี้เล่นกันอย่างสนุกสนานมากเมื่อคืน ไม่ได้มอมเขาคนเดียว ยังมอมกันเองด้วย แต่เนื่องด้วยพวกเขาไม่มีสมรรถภาพทางร่างกายที่เหลือเชื่อเหมือนฉินสือโอว พวกเขาตอนนี้ถึงยังสลบไสลกันอยู่
ฉินสือโอวมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วหัวเราะ “ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดก็ถึงตาฉันแก้แค้นแล้ว!”
ก่อนอื่นให้เขาอาบน้ำร้อนให้ทั่วทุกส่วนก่อน รอเขาออกมาจากห้องอาบน้ำเมื่อไร สติก็จะกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ หัวใจโพไซดอนเก่งฉกาจไม่มีอะไรมาเทียบได้ มักจะทำให้ร่างกายคงไว้ซึ่งความแข็งแรงอยู่เสมอ
มองเวลาไปแค่ตอนเช้า 7.30 น. ยังห่างจากเวลางานแต่งงานอีกมาก ฉินสือโอวเดินออกไปและเริ่มตามแผน เขาใส่รองเท้าแตะแล้วเดินเหยียบไปมาบนคนที่นอนอยู่ แล้วตะโกนว่า “เชี่ย นอนบ้าอะไร! ลุกขึ้นมาสนุกสิ ลุกขึ้นมา! เฮ้ๆๆๆ! ขึ้นมาสนุกกัน ขึ้นมาสิ!”
พอเขาร้องเสียงดัง คนอื่นๆ ก็เริ่มตื่นขึ้นมาแบบมึนๆ งงๆ เว้นแต่บูลที่ยังนอนกรนอยู่
บิลลี่พึมพำ “หุบปาก! เชี่ย ออกไปเลย ให้ฉันนอนสบายๆ หน่อย…”
ฉินสือโอวเข้าไปดึงเขา ลากเขาไปทิ้งในห้องน้ำ ร้องขึ้นว่า “นอนๆๆ! นอนแข็งทื่อบ้าอะไร ลุกขึ้นมาสนุกกันสิ! หมดแก้ว! ดื่มต่อกัน! พี่น้องไม่เมาไม่กลับ!”
บิลลี่ดื่มน้ำที่ฉินสือโอวอาบไปสองอึก ในที่สุดก็ตื่นจนได้ เขาก่นด่า “ฉิน ไอ้หมาบ้า…”
“โอ้ พูดคำด่าของประเทศเราได้แล้วเหรอ?”
ฉินสือโอวลอบยิ้ม เขาหยิบฝักบัวขึ้นมา ปรับอุณหภูมิไปที่เย็นที่สุด เปิดน้ำแล้วก็ฉีดพ่นไปที่ตัวบิลลี่
บิลลี่กรีดร้องพร้อมกับวิ่งออกมา แล้วเขาก็ลากเฉินเหลยเข้าไปทันที พูดว่า “ฉีดน้ำใส่เขา ฉีดใส่เขา! อย่าให้ฉันเปียกคนเดียว!”
แล้วก็เป็นแบบนี้ พอเฉินเหลยตื่น เขากับบิลลี่ก็แบกเหมาเหว่ยหลงเข้ามา ไม่ต้องให้ฉินสือโอวลงมือเองเลย ทุกคนก็เปียกปอนไปหมด
สุดท้ายเหลือแค่บูล คนทั้งกลุ่มช่วยกันพยุงตัวเขาขึ้นมา ฉินสือโอวฉีดน้ำใส่เขาอย่างมีความสุข
ฉีดไปสักพัก บูลก็ยังคงนอนกรน น้ำเย็นๆ ถูกกรอกเข้าไปในปาก ในที่สุดเขาก็มีปฏิกิริยาโต้กลับ พึมพำว่า “เบียร์เย็นๆ เนี่ย สุดยอดโว้ย!”
……………………………………….