ฉินสือโอวและแมทธิว จินคุยธุระกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เวลานี้ในฟาร์มปลาไม่มีสถานที่ที่สะอาดเหลืออยู่แล้ว โดยเฉพาะหลังจากสงครามดื่มหนักผ่านไป เดิมทีเป็นการสงครามระหว่างพวกชาวประมงและเพื่อนสมัยเรียนของเขา แต่เพื่อนของเขาจะไปสู้พวกชาวประมงที่โจมตีราวกับเครื่องบินทิ้งระเบิด ทั้งเบียร์ทั้งเหล้าขาวได้อย่างไรกัน?
ต่อมาเรื่องราวก็เพิ่มความเข้มข้นจนกลายเป็นศักดิ์ศรีระดับเชื้อชาติ ญาติส่วนหนึ่งของฉินสือโอวจึงเข้าร่วมด้วย ฟาร์มปลาพลันเปลี่ยนเป็นครึกครื้นขึ้นมาทันที
ในร้านกาแฟไม่ได้มีแค่แมทธิว จิน แต่ยังมีเจ้าของฟาร์มปลาที่เป็นเพื่อนที่ดีกับเขาอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง อย่าง โดนัลด์ บราวน์ และแอนดรูว์ ทัคเกอร์ ซึ่งก็เป็นแขกในงานแต่งงานครั้งนี้เช่นกัน
หลังจากที่เห็นฉินสือโอว แมทธิว จินก็เชิญให้เขานั่งลง แล้วพูดขึ้น “ต้องมารบกวนคุณเวลานี้ ขอโทษด้วยจริงๆ นะครับ ตามวัฒนธรรมของคนจีน คืนนี้เป็นคืนเข้าหอของคุณใช่ไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่ “ใช่ครับ เป็นเรื่องมงคล 4 เรื่องในชีวิตของคนจีน สอบติดข้าราชการ เจอเพื่อนรู้ใจที่บ้านเกิด ฝนตกในยามแล้ง และคืนเข้าหอ”
ไม่ต้องเกรงใจอะไร ณ ที่นี้ เพราะแมทธิว จิน ก็ไม่สมควรรบกวนเขาในเวลายามนี้จริงๆ
รัฐมนตรีกล่าวขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ว่าไม่มีหนทางอื่นครับเพราะว่าพรุ่งนี้ผมก็ต้องบินกลับจากเมืองเซนต์จอห์นไปโทรอนโตแต่เช้าตรู่ จำเป็นต้องเข้าร่วมประชุมสำคัญ”
ฉินสือโอวยิ้ม “ผมแค่ล้อเล่นครับ อย่าเก็บเอามาคิดมากท่านรัฐมนตรี เชิญพูดได้เลยครับ มีอะไรต้องให้ผมช่วยเหรอครับ?”
แมทธิว จินพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ ฉิน ครั้งนี้มีเรื่องที่ต้องรบกวนคุณให้ช่วยออกหน้าจัดการ เท่าที่ผมรู้ คุณยื่นเรื่องสมัครการจัดตั้งสมาคมอิสระใช่ไหม?”
ฉินสือโอวนายใหญ่ไม่เข้าใจว่าอยู่ดีๆ เขาจะเปลี่ยนเรื่องพูดทำไม จึงทำได้เพียงคล้อยตาม “ใช่ครับ สมาคมอิสระจริงๆ อันนั้นก็เล่นๆ ไม่มีอะไร ทำไมเหรอครับ”
แมทธิว จินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณตั้งใจจะจัดตั้งสมาคมคล้ายๆ แบบนี้จริงจังไหม ผมหมายถึงการจัดสมาคมอิสระแนวนี้ เช่น พันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์”
โดนัลด์และแอนดรูว์และคนอื่นๆ มองไปที่ฉินสือโอวอย่างมีความหวัง แสดงให้เห็นแน่ชัดว่าเขาได้คุยกับแมทธิว จินมาก่อนหน้านี้แล้ว
ฉินสือโอวลังเลและสงสัย เขาจึงถามอย่างระมัดระวัง “พันธมิตรนี้มีลักษณะเป็นอย่างไรครับ? จุดประสงค์คืออะไร? สไตล์เป็นแบบไหน? สมาชิกที่จะรับคือเป็นแบบไหนครับ?”
แมทธิว จินตอบว่า “ลักษณะของพันธมิตรคือเป็นการรวมตัวกันของเจ้าของฟาร์มปลา พวกคุณก็จะช่วยแชร์ในเรื่องข้อมูลข่าวสาร ทรัพยากร แบบนี้ก็จะสามารถพัฒนากิจการฟาร์มปลาได้ดีกว่าเดิมไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากผ่านงานแต่งงานครั้งนี้ไป ฉินสือโอวก็รับรู้ถึงความสำคัญของคอนเนคชั่นได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่อยากเข้าร่วมสมาคมแบบนี้ ถ้าจะให้เขามาจัดตั้งด้วยยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะอย่างไรเขาก็เป็นคนจีน ไม่รู้ว่าอุตสาหกรรมการประมงมีคนแอบหาโอกาสทำร้ายเขาแบบลับๆ มากเท่าไร
ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างอ้อมๆ ว่า “ผมจะต้องพิจารณาอีกทีครับ คุณก็รู้รัฐมนตรีแมทธิวว่ามันไม่ได้ง่าย การจัดตั้งสมาคมที่มีประโยชน์เป็นเรื่องที่วุ่นวายมากเรื่องหนึ่งทีเดียว ผมจึงต้องคิดให้ละเอียด ว่าจะสามารถรับภาระตรงนี้ไหวไหม”
โดนัลด์พูดอย่างร้อนใจ “ฉิน เรื่องงานจัดตั้งพวกเราสามารถช่วยได้ รัฐมนตรีแมทธิวก็สามารถที่จะจัดหาคนที่มีประสบการณ์จากกรมประมงมาช่วยในด้านงานหลักๆ ได้ แต่สิ่งที่เราต้องการเลยคือผู้นำที่มีเกียรติซึ่งแน่นอนว่าคุณก็คือคนที่เราต้องการ”
ฉินสือโอวแอบคิดในใจว่าเขาเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? ที่แท้หัวใจโพไซดอนให้พลังอำนาจแบบนี้ได้เหรอ? ไม่เช่นนั้นจะมีเอี๋ยนตงเหล่ยมาชมว่าเขาเป็นผู้นำคนจีนในนิวฟันด์แลนด์ได้อย่างไร แล้วตอนนี้จะยังมีแมทธิว จินให้เขาออกหน้าเป็นผู้นำในการจัดสมาคมแบบนี้อีก?
แน่นอนเขาเข้าใจว่า แมทธิว จินและเจ้าของฟาร์มปลาคนอื่นๆ สนใจไม่ใช่ตัวเขา แต่เป็นชื่อเสียงของฟาร์มปลาต้าฉินต่างหาก
เนื่องด้วยแผนการขยายกิจการทางทหารอย่างดุเดือดของบัตเลอร์ และความสามารถในการผลิตที่น่ากลัวของฟาร์มปลาต้าฉิน อาหารทะเลต้าฉินจึงสามารถก่อตั้งสาขาในอเมริกาไปมากกว่า 12 สาขา โดยครองตลาดอาหารทะเลระดับไฮเอนด์ในสิบเมืองชั้นนำในสหรัฐอเมริกาได้
ตอนนี้ถ้าพึ่งแค่การส่งออก เจ้าของฟาร์มปลาในแคนาดาหลายคนไม่มีรายได้ แต่ถ้าพวกเขาสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ต้าฉินอาหารทะเลโดยผ่านทางฉินสือโอว กลายเป็นคนจัดหาสินค้าให้ ถ้าเช่นนั้นโอกาสในการพัฒนาก็มากอยู่ทีเดียว
แมทธิว จินไม่ได้บีบบังคับฉินสือโอว หลังจากที่เขาบอกว่าจะขอพิจารณาก่อน ท่านรัฐมนตรีก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่องที่จะคุย มาคุยถึงแผนการพัฒนาครึ่งปีหลังของกรมประมงกับเขาและเจ้าของฟาร์มปลา ถามความคิดเห็นของพวกเขา
พอคุยได้สักพัก ฉินสือโอวก็ขอตัวกลับก่อน การดวลเหล้าด้านนอกยังไม่จบลง พวกทหารก็เข้าร่วมด้วย เพราะคืนนี้ไม่ต้องให้พวกเขาเฝ้าเวรกะกลางคืน พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทจัดงานแต่งงานเป็นคนสอดส่องดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่องทั่วทั้งเกาะ
หลังจากที่ฉินสือโอวกลับไปถึงฟาร์มปลาก็ถูกครอบครัวบรูซเรียกเข้าไปหา สกอตต์ สเตราส์โบกมือทักทายเขา ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ฉิน ครั้งนี้ผมต้องขอบคุณคุณแล้ว งานแต่งงานของคุณทำให้ร้านค้าของเรามีรายได้เข้ามา”
แคนาดาจะมีความคล้ายคลึงกับอเมริกาอยู่ในเรื่องของขวัญวันแต่งงาน คู่บ่าวสาวที่แต่งงานที่นี่ แขกจะไม่ได้ออกเงินช่วยในการจัดงานแต่ง แต่จะเป็นการมอบของขวัญให้แทน แล้วตอนนี้ก็ไม่ได้มอบเป็นสิ่งของ แต่ให้เป็นบัตรกำนัล ซึ่งมักจะเป็นบัตรกำนัลจากห้างสรรพสินค้าเมย์ซี
แม้ว่าขนาดของห้างสรรพสินค้าเมย์ซีจะไม่ใหญ่เท่าวอลมาร์ท แต่ก็มีระดับเป้าหมายของลูกค้าที่ระดับกลางไปจนถึงระดับสูง จึงเป็นตัวเลือกที่จะมอบเป็นของขวัญมากที่สุด ซึ่งกิจการงานของห้างสรรพสินค้าเมย์ซีก็เป็นของครอบครัวสเตราส์
ฉินสือโอวกำลังคุยเล่นอยู่กับพวกมีอิทธิพลทั้งหลาย แล้วท้ายสุดก็คุยกันถึงเรื่องเครื่องบินหรูส่วนตัว
เขาจำได้ว่าชากูนิสเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโบอิ้ง ตำแหน่งจำได้ไม่ชัดเจน รู้แต่ว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เพราะไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถมาคุยกับสเตราส์หรือบรูซและคนอื่นๆ ได้หรอก
ดังนั้นเขาจึงถามชากูนิสขึ้นว่า “ผมอยากซื้อเครื่องบินลำใหญ่ เพื่อนคุณมีอะไรแนะนำไหม?”
โมล ฟริตซ์ผู้ประกอบการบริษัทบริษัทยูเนียน แปซิฟิก เรลโรดพูดขึ้นว่า “ครั้งนี้คุณถามถูกคนละฉิน ชากูนิสเพิ่งเข้ารับตำแหน่งซีอีโอที่บอมบาร์เดียร์ เพราะฉะนั้นเขาให้คำแนะนำที่ดีกับคุณได้แน่นอน”
สกอตต์ สเตราส์พูดขึ้น “ฉินเป็นชายที่อบอุ่นจริงๆ เพิ่งสนับสนุนธุรกิจของร้านค้าเรา ตอนนี้จะมาสนับสนุนธุรกิจของชากูนิสอีก มา ให้ผมดื่มขอบคุณชายหนุ่มผู้ใจดีคนนี้ด้วยเถอะ”
เมื่อฟังคนสองคนพูดแล้ว ฉินสือโอวรู้สึกตกใจเล็กน้อย ชากูนิสไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโบอิ้งหรอกเหรอ? เมื่อไรที่ไปเป็นซีอีโอที่บอมบาร์เดียร์แล้ว? ตอนนี้ตำแหน่งก็สูงและยังมีอำนาจมากด้วย
ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งกับคนเหล่านี้เลย ฉินสือโอวมีข้อสงสัยก็ถามขึ้นมาตรงๆ เพียงแต่เขาเปลี่ยนวิธีพูดเล็กน้อย “ยินดีด้วย ชากูนิส ผมไม่รู้เลยจริงๆ ว่าคุณออกจากบริษัทโบอิ้งไปอยู่ที่บอมบาร์เดียร์แล้ว ผมนี่เสียมารยาทจริงๆ ให้ผมดื่มให้อีกแก้วหนึ่งเถอะ”
ชากูนิสยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดขึ้น “อย่าเพิ่งรีบยินดีไป สถานการณ์มันไม่ได้ดีขนาดนั้น ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทไม่ค่อยดีเท่าไร บางทีผมอาจจะรับช่วงต่อวิกฤตมาพอดี”
คำพูดของเขาทำให้เกิดหัวข้อใหม่ในการสนทนา พวกเขาก็เริ่มถกประเด็นนี้กันขึ้นมา
หลังจากฟังที่พวกเขาคุยกัน ฉินสือโอวถึงเพิ่งจะรู้ว่า ตอนนี้สถานการณ์ของบอมบาร์เดียร์เข้าสู่ช่วงลำบาก จนถึงขณะนี้การขาดดุลของงบบริษัทสูงถึง 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถ้ามากกว่านี้ไปอีกนิดก็จะเข้าสู่การล้มละลายแล้ว
ในขณะที่คุยกัน สกอตต์ สเตราส์จู่ๆ ก็ถามฉินสือโอวว่า “ฉิน ตอนนี้ในบัญชีของคุณน่าจะมีเงินทุนไม่น้อยใช่ไหม สนใจมาร่วมลงทุนเสี่ยงดูสักตั้งไหม?”
……………………………………….