หลังจากเตรียมงานแต่งงานมาหนึ่งเดือน พิธีแต่งงานเพียงวันเดียวก็เสร็จสิ้น ฉินสือโอวรู้สึกว่าเขายังไม่มีสติกลับมา เขาและวินนี่เข้าร่วมพิธีแต่งงานไปเรียบร้อย กินเค้ก เลี้ยงแขก ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก
แต่ถึงอย่างนั้นฉินสือโอวก็รู้สึกเหนื่อยไม่น้อย คนที่มาร่วมงานเยอะเกินไป ผู้ทรงอิทธิพลจากทั่วทุกมุมโลก ยังมีเจ้าชาย รัฐมนตรี ผู้มีตำแหน่งระดับสูงเช่นนี้อีก ความปลอดภัยของพวกเขาทำให้ฉินสือโอวรู้สึกตึงเครียด
หลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จ เจ้าชายน้อยทั้งสองก็ขอตัวกลับก่อน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มาแค่งานของฉินสือโอวเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องที่ต้องปรึกษาหารือกันอีก จึงกลับไปที่ห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทที่เมืองเซนต์จอห์นเพื่อเล่าเรื่องราวเก่าๆ และพูดคุยธุระกัน
ทั้งสองนำของขวัญมาให้มากที่สุดแล้ว โดยเฉพาะเจ้าชายมหาเศรษฐี มีทั้งถุงเล็ก ถุงใหญ่ไม่รู้ว่าคืออะไรบ้าง มากมายจนห้องเก็บของขวัญของฉินสือโอวเต็มล้น
เจ้าชายฮามานแดนทิ้งเจ้าหญิงซาลามาห์ไว้ที่นี่ เขาไม่ได้กลับประเทศแต่ไปคุยธุระต่อเลย ตารางงานของเขายังยืดหยุ่นได้มากกว่าของเจ้าชายเฮนรี
แน่นอนว่าเจ้าหญิงโลลิต้าเที่ยวเล่นด้วยกันกับเชอร์ลี่ย์ ความสัมพันธ์ของทั้งสองพัฒนาจนจะกลายเป็นเพื่อนสนิทแล้ว โลลิต้าพาเจ้าหญิงโลลิต้าไปดูม้าด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้ม้าตัวน้อยสองตัวคือม้าที่เธอโปรดปรานมากที่สุดแล้ว
น่าเสียดายที่เจ้าหญิงโลลิต้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้ หลังจากที่เธอมองผ่านๆ ก็ถามขึ้น “เธอชอบม้าเหรอ เชอร์ลี่ย์? ที่ดูไบเรามีม้าพันธุ์เธอร์รัพเบรตอยู่หลายตัว แล้วพอดีว่ามีตัวหนึ่งเป็นม้าเหงื่อโลหิต คุณลุงให้ฉันมา ฉันยกให้เธอได้นะ”
เชอร์ลี่ย์ส่ายหัวไปมา กอดคอตี้หลูแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ ฉันชอบเพียงตี้หลูของบ้านเราเท่านั้น…”
หัวสีถ่านดำที่อยู่ด้านข้างพอได้ฟังคำพูดนี้ก็ยื่นหัวออกมาอย่างไม่พอใจร้องเสียง ‘ฮี่ฮี่’ ขึ้นมา พอเห็นแบบนี้เชอร์ลี่ย์ก็ยิ้มออกมา แล้วรีบวิ่งไปกอดมันพร้อมพูดว่า “แน่นอนว่ายังมีเปากงลูกน้อยของพวกเราด้วย”
จากนั้นเปากงก็ส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยความพึงพอใจ ตี้หลูที่อยู่ด้านข้างก็มองด้วยสายตาเย็นชา คิดว่า ไอ้ตัวเล็กนี่เรียนรู้ที่จะแย่งความรักเป็นแล้วเหรอ? ดี วันหลังก็คงเป็นเพื่อนกันอย่างสบายใจไม่ได้แล้ว
ปฏิสัมพันธ์ที่รักใคร่ระหว่างม้าตัวน้องสองตัวและเชอร์ลี่ย์ทำให้เจ้าหญิงโลลิต้ารู้สึกอิจฉา เธอยื่นมือไปลูบคอของตี้หลูเพื่อปลอบประโลมอย่างเบามือ ซึ่งตี้หลูก็ให้เธอลูบ แต่ไม่ได้เขยิบเข้าใกล้เหมือนกับที่ทำกับเชอร์ลี่ย์
เจ้าหญิงโลลิต้าแอบสาบานอยู่ในใจเงียบๆ ว่าพอกลับไปบ้านเธอจะต้องไปเล่นกับพวกม้าตัวน้อยสักหน่อยแล้ว และต้องมีความรู้สึกรักใคร่แบบนี้ด้วย
งานเลี้ยงอาหารค่ำในงานแต่งงานสิ้นสุดลงในช่วงสายยามบ่าย พนักงานบริกรที่บริษัทจัดงานแต่งงานจ้างมาเริ่มเข้ามาเก็บหน้างาน ทำความสะอาด เพื่อนสมัยเรียนที่ดื่มจนหน้าแดงคอแดงไปหมดหาฉินสือโอวจนเจอ วินนี่จึงชงชาเขียวให้พวกเขาเพื่อแก้เมาค้าง
งานเลี้ยงงานแต่งงานทางตะวันตกจะไม่มีการมอมเจ้าบ่าว ดังนั้นทางฉินสือโอวจึงยังมีสติครบถ้วน ซึ่งทำให้คนทั้งกลุ่มอิจฉา เหมาเหว่ยหลงพูด “ไม่ได้ คืนนี้ต้องดื่มให้เต็มที่ ต้องล้มไอ้ฉินให้ได้สักครั้ง”
ฉินสือโอวไม่กลัวเพราะอยู่ในถิ่นตัวเอง เขามองไปที่กลุ่มคนแล้วเผยรอยยิ้มแอบแฝงอะไรไม่ดีอยู่ถามขึ้นว่า “นี่พูดเรื่องจริงเหรอ?”
เหมาเหว่ยหลงคุ้นเคยกับนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาดี พอเห็นสีหน้าที่เขาแสดงออกมา ในใจก็บ่นพึมพำ แต่เฉินเหลยใจร้อนรีบชิงตอบก่อน “แน่นอนสิ ครั้งนี้ที่พวกเรามา จะต้องให้นายได้ชดใช้แน่”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา ดี ถ้าอย่างนั้นก็ชดใช้เลย เขาส่งสัญญาณโดยการทำเสียงดังร้องเรียกพวกชาวประมงและเหล่าทหารที่กำลังสนุกสนาน ถามขึ้นว่า “เพื่อนผอง กลางวันดื่มพอไหม?”
ชาร์คพูดอย่างเสียดายว่า “ไม่ครับบอส พูดจริงๆ เลยครับ พวกเรายังดื่มไม่ได้เต็มที่ เพราะกลัวอะไรผิดพลาดแล้วทำให้บอสขายขี้หน้า”
ฉินสือโอวตบไปที่แขนของเขาแล้วพูดขึ้นว่า “ดีใจจริงๆ ที่มีลูกน้องที่ดีแบบนายอย่างนี้ ชาร์ค บอกเพื่อนๆ เลยว่า ใครที่ยังดื่มไม่เต็มที่คืนนี้อยู่ก่อน พี่น้องของฉันไม่พอใจกับปริมาณเหล้าที่พวกเขาดื่มไป บอกว่าอยากจะเทียบขั้นกันสักหน่อย”
ทันใดนั้นดวงตาของชาร์คพลันสว่างขึ้นทันใด ประเมินคนกลุ่มนั้นโดยกวาดไล่ทีละคนราวกับหมีที่ประเมินกระต่าย แล้วก็รีบวิ่งกลับไปอย่างร่าเริงพร้อมตะโกนว่า “รีบมาทางนี้ รีบมาทางนี้เร็ว คืนนี้มีสงครามระดับชาติ เตรียมปกป้องศักดิ์ศรีของชาวไวกิ้ง”
“เชี่ย! ใครมันช่างกล้านัก?”
“ฉันชอบการท้าทายแบบนี้ แต่ฉันสงสัยความจริงเรื่องนี้ เพื่อนชาวจีนกล้าขนาดนี้เลยเหรอ?”
หลังจากนั้นเฉินเหลยและคนอื่นๆ เห็นพวกชาวประมงยกนิ้วโป้งให้พวกเขา บทสนทนาระหว่างชาร์คกับฉินสือโอวดำเนินเร็วเกินไป ภาษาอังกฤษของพวกเขาธรรมดา จึงไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่ตอนนี้พอได้ยินพวกชาวประมงตะโกนคำพูดประมาณว่า ‘คือคนจีน’ ‘คืนนี้เจอกัน’ ‘จะต้องนอนแผ่กลับบ้านให้ได้’ จึงเดาได้เลยว่าฉินสือโอวกำลังเล่นตลกอะไรกับพวกเขาอยู่
เหมาเหว่ยหลงลูบจมูกแล้วเหล่มองเพื่อนๆ สมัยเรียน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบสนอง เขาจึงเดินจากไปอย่างเงียบๆ เขาเดินไปหาพวกชาวประมงและพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “เฮ้ พี่น้องชาวไวกิ้ง พวกเราก็อยู่ฝั่งเดียวกัน ทุกคนก็รู้จักหน้าค่าตากันดี คืนนี้พวกเรามาดื่มกันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง พวกพี่ๆ น้องๆ พร้อมไหม?”
บูลมองไปที่เหมาเหว่ยหลงด้วยความสงสัย พูดขึ้น “เหมา พวกเราไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกันนะ”
เหมาเหว่ยหลงตบไปที่หน้าอกตัวเองแล้วพูดขึ้น “ใช่ พวกเราเป็นฝั่งเดียวกัน ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ได้เปลี่ยนสัญชาติ แต่ฉันมีบัตรกรีนการ์ดของแคนาดาแล้ว และที่สำคัญ ฉันโหยหาวัฒนธรรมของชาวไวกิ้งมาตลอด โจรสลัดในใต้หล้านี้ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันหรอกเหรอ?”
คำพูดนี้ของเขาทำให้พวกชาวประมงรู้สึกยินดี แต่สุดท้ายชาร์คก็ยังคงผลักเขาออกไปอย่างโหดร้าย “เหมา นายคือพี่น้องของพวกเราแล้ว แต่จำนวนคนฝั่งนั้นมีน้อยเกินไป ถ้านายจะมาฝั่งเราอีก ก็คงไม่สนุกแล้วล่ะ คืนนี้พวกเราอยากดื่มให้สนุกเต็มที่ไปเลย”
เหมาเหว่ยหลงตกตะลึงในทันใด ซีมอนสเตอร์ลูบเคราที่ถักไว้ใต้คางเขาแล้วพูดขึ้น “อย่าทำแบบนี้เลยเพื่อนผอง ไว้คราวหน้าเถอะ คราวหน้าเมื่อพวกเราจัดกิจกรรมไวกิ้ง พวกเราจะเรียกนายละกัน”
บูลพูดอย่างมีความสุข “ไม่เลวเลย ครั้งที่แล้วที่เราดื่มกับพวกเอธิโอเปียที่เมืองเซนต์จอห์น ตอนนั้นคนเราน้อยจึงดื่มชนะพวกเขาไม่ได้ แต่ครั้งนี้รวมเหมาไปด้วย รับรองต้องจัดการได้สาสมแน่!”
เหมาเหว่ยหลงฝืนยิ้ม “พวกนายคุยกันไปก่อน ฉันไปก่อนละ”
หลังจากกลับไป สายตาเย็นชาของเฉินเหลย เฉินเจี้ยนหนาน หม่าจินและคนอื่นๆ จ้องไปที่เขา เหมาเหว่ยหลงถามอย่างไม่พอใจว่า “มองแบบนี้คืออะไร?”
“คนทรยศ!” “คนขี้โกง!” “สารเลว!” “เดรัจฉาน!” “ฉินโซ่ว!”
“ใครเรียกฉัน?” ฉินสือโอวถามขึ้นด้วยความตกใจ
เรื่องนี้ก็จบลงแบบนี้ ตอนเย็นฉินสือโอวและวินนี่จึงมองคนสองกลุ่มที่แข่งกันดื่มเหล้าด้วยรอยยิ้ม เนื่องด้วยเหมาเหว่ยหลงมีพฤติกรรมกบฏในตอนบ่าย เขาจึงถูกผลักไสให้ออกมาเป็นผู้นำตลอด
เมื่อมองเห็นเหมาเหว่ยหลงเดินออกมา บูลพูดด้วยความชื่นชมว่า “เหมาเป็นชายหนุ่มที่ดีจริงๆ! เพื่อแสดงความเคารพของพวกเราที่มีต่อเขา เพื่อนผอง พวกเราทุกคนจงอย่าออมมือ ทำให้เต็มที่ไปเลย!”
เหมาเหว่ยหลงเอ่ยขึ้น “คนดีต้องไว้ชีวิตสิ…”
ฉินสือโอวทางด้านนี้ยังมีธุระให้ทำอีกมากในช่วงเย็น เรื่องแรกเลย แมทธิว จินยังไม่ได้กลับไป บอกว่ามีธุระจะคุยกับเขาสักหน่อย สามีและภรรยาบรูซพาผู้นำด้านธุรกิจมากลุ่มหนึ่ง และยังอยากกินข้าวอย่างเป็นทางการกับเขาด้วย ท้ายสุดพิธีแต่งงานของเขาและวินนี่ยังมีสิ่งสุดท้ายที่ต้องจัดการด้วย
มิแรนดาเอาชุดแต่งงานชุดหนึ่งมอบให้กับวินนี่ ลักษณะของชุดแต่งงานชุดนี้เป็นแบบเรียบง่าย เป็นชุดสมัยที่เธอใช้ในงานแต่งงาน
โดยปกติแล้วชาวแคนาดาเวลาแต่งงานจะซื้อชุดแต่งงานมากกว่าเช่าชุด คนที่มีลูกสาวจะต้องส่งต่อให้ลูกสาวเมื่อพวกเขาแต่งงาน เช่นเดียวกับชาวจีนที่พ่อแม่จะมอบแหวนที่เป็นมรดกตกทอดให้กับลูกๆ ต่อไป
หลังจากที่ฉินสือโอวยุ่งกับงานของแม่ยายเสร็จ เขาก็ถูกแมทธิว จินเรียกไปหา บอกว่าอยากคุยธุระสักหน่อย
……………………………………….