ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1445 อ่าวน้ำเย็นอิลูลิสแซทลอยน้ำ

บทที่ 1445 อ่าวน้ำเย็นอิลูลิสแซทลอยน้ำ

ฉินสือโอวโปรยคำโกหกเล็กน้อย และบอกว่าเขาเคยเห็นในพิพิธภัณฑ์เรือ

เจ้าของเรือคนนั้นเข้าใจในทันที และพยักหน้า “ใช่ครับ ตอนนี้ชาลูพัสหายากมาก เรือลำนี้ของผมยังเป็นเรือที่พ่อของผมทิ้งไว้ให้ผมเลย มันไม่เหมาะกับการออกทะเลไปล่าวาฬ ดังนั้นผมจึงใช้มันเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว”

สีหน้าของแบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ สุขุมมากยิ่งขึ้น เรือเก่าขนาดนี้ ภูเขาน้ำแข็งกากๆ ก็สามารถชนแตกกลายเป็นชิ้นๆ ได้

ในความเป็นจริงพวกเขากำลังเดาผิด หลังจากเรือไม้แล่นออกไปก็รีบไปที่ภูเขาน้ำแข็งที่ใกล้ที่สุดในทันที เจ้าของเรือแนะนำพวกเขาว่า “ชาลูพัสเป็นเรือที่เกิดมาเพื่อล่าวาฬ ดังนั้นใต้ท้องเรือของมันจึงแคบ นี่ก็เพื่อลดแรงเสียดทาน และเพิ่มลิมิตความเร็วให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น พวกเราจะเข้าใกล้ภูเขาน้ำแข็งได้มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าท้องเรือที่สัมผัสกับส่วนที่เป็นภูเขาน้ำแข็งใต้น้ำจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ”

ภูเขาน้ำแข็งลูกนี้ที่เจ้าของเรือมองหาดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก ซึ่งมันเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ไม่ต้องกังวลว่าบริเวณรอบๆ จะมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาชนเรือหรือตกลงไปในน้ำและก่อให้เกิดคลื่น

หลังจากเข้าไปใกล้ๆ ฉินสือโอวก็เงยหน้ามองภูเขาน้ำแข็งที่มีความสูง 200 เมตรลูกนี้ และอุทานด้วยความชื่นชม “พ่อทูนหัวของลูก ส่วนที่ภูเขาน้ำแข็งลูกนี้ปรากฏขึ้นมาเหนือผิวน้ำยังใหญ่ขนาดนี้ แล้วใต้น้ำจะใหญ่ขนาดไหน?”

ความหนาแน่นของน้ำแข็งประมาณ 9 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ความหนาแน่นของน้ำทะเลประมาณ 1025 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามกฎทางวิทยาศาสตร์ของอาร์คิมิดีส ภูเขาน้ำแข็งที่ลอยได้อย่างอิสระต้องมีปริมาณน้ำแข็งประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์จมอยู่ใต้พื้นผิวของน้ำทะเล

ดังนั้น ถึงจะเห็นรูปร่างที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำก็เดารูปทรงกับขนาดที่อยู่ใต้น้ำไม่ออก คำว่าปลายของภูเขาน้ำแข็งนี้ไม่ใช่คำที่สร้างขึ้นมาใหม่เลย

สิ่งที่ชาวประมงกับกะลาสีในแอตแลนติกเหนือกลัวมากที่สุดก็คือการพบกับภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งนี่ยังน่ากลัวว่าพายุเสียอีก ภูเขาน้ำแข็งแข็งแรงมาก ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้สภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำความหนาแน่นของโลหะก็ลดลง เมื่อทั้งสองพบกัน โดยพื้นฐานเรือจะจมและภูเขาน้ำแข็งจะเดินต่อไป

ส่วนที่อยู่ใต้น้ำของภูเขาน้ำแข็งใหญ่เกินไป จนกระทั่งตอนที่พบพวกมัน แม้ว่าเรือกลไฟจะเปลี่ยนทิศทาง ก็สายเกินไปที่จะรอดพ้นจากมันได้

แต่กะลาสียุคเก่าในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือมีเคล็ดลับในการแยกขนาดกับรูปทรงพื้นฐานของภูเขาน้ำแข็งส่วนที่อยู่ใต้น้ำ เมื่อเห็นภูเขาน้ำแข็งลูกนี้ เจ้าของเรือก็พูดว่า “ภูเขาน้ำแข็งลูกนี้เป็นภูเขาน้ำแข็งที่นุ่มนวล ไม่ใช่บ้าคลั่ง ไม่อย่างนั้นถึงแม้ว่าจะขับชาลูพัสก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้เหมือนกัน”

ฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไป หลังจากนั้นเขาก็ได้เห็นภาพรวมของภูเขาน้ำแข็ง

ภาพรวมของภูเขาน้ำแข็งน่ากลัวมาก บนทะเลปรากฏแค่น้ำแข็งชิ้นหนึ่ง แต่ใต้น้ำกลัวเป็นภูเขาลูกหนึ่ง ไม่น่าแปลกที่จะเรียกว่าภูเขาน้ำแข็ง!

นอกจากนี้ ก็ตามที่เจ้าของเรือบอก ภูเขาน้ำแข็งลูกนี้เป็นภูเขาน้ำแข็งที่นุ่มนวล แม้ว่าจะใหญ่มาก แต่รูปทรงก็ค่อนข้างมาตรฐาน ภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้น้ำเป็นทรงเสาสามเหลี่ยมคว่ำที่ผิดปกติทั่วๆ ไป ดังนั้นส่วนโค้งของมันจึงเรียบ เรือลำเล็กจะไม่ชนมันแน่นอน

ส่วนที่อยู่ใต้น้ำของภูเขาน้ำแข็งบางส่วนของภูเขาเป็นหินที่แปลกประหลาดและขรุขระ ซึ่งก็เหมือนกับแนวหินโสโครกที่ตัวเองนำมา บ่งบอกว่าไม่ว่าในกรณีใดเรือก็ชนอยู่ดี นี่ก็คือภูเขาน้ำแข็งที่บ้าคลั่ง

ชาลูพัสแล่นไปในทะเลต่อ เจ้าของเรือยิ้มและถามว่า “พวกคุณชอบกินปลาไหม? ถ้าชอบ ผมจะได้เชิญพวกคุณไป”

ฉินสือโอวถามกลับว่า “พวกเราไม่ต้องรีบเหรอ? แล้วจะตกปลาได้อย่างไร?”

เจ้าของเรือยักไหล่ “ไม่จำเป็นต้องตกปลา พี่น้อง ไม่จำเป็นต้องใช้เบ็ดตกปลา เร็ว มาสิ จับตาดูน้ำแข็งลอยนั้นให้ดีๆ พวกเราจะไปจับปลากัน ที่นี่จับปลาไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรอก”

เรือลำเล็กผ่านไปได้อย่างคล่องแคล่วระหว่างคลังน้ำแข็ง ในไม่ช้าสีหน้าของเจ้าของเรือก็ดูมีความสุข เมื่อเข้าไปใกล้น้ำแข็งลอยที่มีขนาดเท่าโต๊ะกลม เขาก็ยื่นมือชี้ไปที่ก้อนน้ำแข็ง และยิ้ม “ดูสิ พวกเราจับปลาได้แล้ว”

ฉินสือโอวมองตามจุดที่เขาชี้และพบว่า บนก้อนน้ำแข็งปรากฏร่องรอยของปลาจำนวนมากอยู่จริงๆ ปลาสายพันธุ์นี้ตัวยาวและแบน ปากกลม ตาโต เหงือกบางและแหลมคม ด้านหลังของปลามีสีน้ำตาลอมม่วง ด้านข้างทั้งสองด้านสีจะจางกว่า ตำแหน่งที่ใกล้กับหัวปลาด้านบนมีจุดสีดำ ซึ่งลักษณะภายนอกดูไม่เลว

เจ้าของเรือมองดูสักพัก เขาค้นหาอวนจับปลาจากท้ายเรือและโยนมันออกไป เขาพูดว่า “ปลาสายพันธุ์นี้รสชาติไม่เลว ซึ่งก็ใช้มันมาทำอาหารกลางวันให้พวกคุณนั่นล่ะ”

“ปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือ รสชาติอร่อยและยังมีโภชนาการสมบูรณ์อีกด้วย” ฉินสือโอวพยักหน้า

เจ้าของเรือประหลาดใจนิดหน่อย “คุณเก่งจริงๆ ไม่เพียงแค่รู้จักชาลูพัส แต่ยังรู้จักปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนืออีกด้วย ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่กรีนแลนด์ครั้งนี้ คุณจะทำการบ้านมาเป็นอย่างดี งั้นผมเดาว่า ตอนที่คุณไปโรงเรียนคุณจะต้องเก่งมากแน่ๆ”

เมื่อได้ยินคำชมของเขา ใบหน้าของวินนี่ก็เต็มไปด้วยความสุข และพูดว่า “งั้นคุณคงจะเดาผิด คุณกัปตัน อันที่จริงสามีของฉันเป็นคนไม่ขยัน แต่เขาเป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่ยอดเยี่ยม งานวิจัยเกี่ยวกับเรือประมงและปลากับกุ้งทุกชนิดละเอียดถี่ถ้วนมาก”

ฉินสือโอวยักไหล่ “ที่รัก นี่คุณกำลังชมผมใช่ไหม?”

วินนี่ลูบแก้มของเขา และยิ้ม “แน่นอนสิ ฉันเป็นภรรยาของคุณ ฉันก็ต้องชมคุณแน่นอนอยู่แล้ว”

น้ำแข็งลอยเรียบเนียนมาก อวนจับปลาที่โยนออกไปไม่สามารถจับมันได้ เจ้าของเรือคุยกับพวกเขาไปด้วย และหยิบเสื้อผ้าที่เหมือนชุดดำน้ำหนาๆ ออกมาด้วย เขาพูดว่า “โอเคเพื่อนทั้งหลาย พวกเรามาพักทานอาหารกลางวันกัน ผมจะลงไปจับพวกมันขึ้นมา พวกคุณสามารถลองลอยตัวในทะเลน้ำแข็งได้นะ”

แบล็คไนฟ์ถามว่า “ลอยตัวในทะเลน้ำแข็ง? หมายความว่าอะไร?”

เจ้าของเรือยิ้มและถอดเสื้อโค้ตออก เขาเปลี่ยนเป็นชุดดำน้ำแบบหนาอย่างรวดเร็ว จากนั้นหลังจากที่ตกลงไปในน้ำ เขาก็เงยหน้าขึ้นและนอนหงายอยู่บนผิวน้ำ นอกจากนั้นด้านในก็เต็มไปด้วยอากาศ ดังนั้นจึงลอยตัวได้ดีมาก ซึ่งเหมือนกับเรือลำเล็กที่อยู่บนตัวคน

ฉินสือโอวแสดงอาการอยู่บ้าง และถามว่า “จะไม่หนาวเหรอ?”

ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าของเรือตอบ พนักงานเปิดประตูก็พูดว่า “แน่นอนว่าไม่หนาว น้ำทะเลเทียบกับสภาพอากาศแล้วอุ่นกว่าเยอะ พวกคุณลองได้นะ สนุกมากเลยล่ะ เกมที่พวกเราสามารถเล่นได้ที่นี่มีไม่เยอะจริงๆ ดังนั้น ถ้าไม่อยากมาเปล่าๆ งั้นก็สร้างความบันเทิงให้ตัวเองเถอะ”

ฉินสือโอวรู้สึกว่าสิ่งที่ชายตัวน้อยคนนี้พูดก็มีเหตุผล หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเขาก็นอนหงายและลงไปในน้ำเหมือนกัน

จริงอย่างที่พนักงานเปิดประตูพูด นอนแช่อยู่ในน้ำไม่หนาวเลย อุณหภูมิของน้ำทะเลอยู่ที่ประมาณ 0 องศาเซลเซียส เทียบกับสภาพอากาศก็สูงกว่า 10 กว่าองศาเซลเซียส หลังจากที่ชินกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นแล้ว ก็รู้สึกว่าอบอุ่นมากยิ่งขึ้นจริงๆ ในสถานการณ์แบบนี้

แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ เข้าใจเหตุผลนี้และอยากจะลงจากเรือ แต่ไม่มีโอกาสนี้ วินนี่ส่งลูกสาวให้เขา และพูดว่า “จับตาดูเจ้าหญิงน้อยของพวกเราให้ดีนะ พวกนายไม่ได้อยากเล่นน้ำใช่ไหม?”

แบล็คไนฟ์มองวินนี่เปลี่ยนเสื้อและลงน้ำไปอย่างไม่มีทางเลือก และพึมพำกับตัวเองว่า “อ๋อ ใช่ครับ พวกเราไม่ได้อยากเล่นน้ำ แต่พวกเราอยากลงไปเล่นน้ำ”

บีบีซวงพูดว่า “ไม่ใช่ ‘พวกเรา’ เพื่อน แค่ ‘ตัวนายเอง’ บาย ฉันก็อยากลงไปเหมือนกัน”

ขณะที่กำลังพูด เขาก็ถอดเสื้อโค้ตตัวใหญ่ออกและสวมชุดดำน้ำแบบหนา เขากระโดดลงไปในน้ำทันที ออสเปรกับทริกเกอร์ไม่ได้พูดอะไร และเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว พวกเขาโบกมือให้แบล็คไนฟ์หลังจากกระโดดลงไปในน้ำ

แอร์แบ็ควิ่งช้าไปนิดหน่อย แบล็คไนฟ์ดึงเขาเอาไว้ และพูดด้วยความโกรธ “ไม่ต้องมาจงรักภักดีเลย! นายก็อยากลงไปเหมือนกันเหรอ? ไม่ อยู่กับฉัน พวกเราต้องจับตาดูเจ้าหญิงน้อยด้วยกัน”

เด็กน้อยแขวนอยู่ตรงหน้าอกของแบล็คไนฟ์ที่ส่งเสียงดังและดวงตากลมโตก็มองไปรอบๆ ทั้งตัวปรากฏแค่ดวงตากลมโตคู่นี้การแขวนไว้ตรงหน้าอกของแบล็คไนฟ์เช่นนี้ ทำให้แอร์แบ็คหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างต่อเนื่อง “หัวหน้า คุณดูเหมือนคนที่แขวนกระเป๋าระเบิดเอาไว้เลย”

“ฟัค! หัวเราะขนาดนี้สนุกมากหรือไง” แบล็คไนฟ์พูดอย่างไม่พอใจ “ดีมาก แกมานี่สิ ฉันจะให้แกแขวนไว้!”

………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน