ฉินสือโอวเดินออกมาจากโรงแรมก็เห็นพวกปีเตอร์สันกำลังยืนเสวนาอยู่กับชาวประมง เขาแปลกใจจึงเอ่ยถามไปว่า “พวกนายคุยอะไรกันอยู่? ดูสภาพอากาศเร็วเข้าสิ ถ้าพรุ่งนี้อากาศเป็นใจล่ะก็เริ่มออกทะเลได้เลย ไหนจับปูจักรพรรดิสักล็อตให้ฉันดูสิ”
ชาร์คเลยพูดขึ้น “ได้เลยบอส เนี่ยพวกโชคดีมากเลยนะ หนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้คลื่นลมทะเลนิ่งสงบ โอเคผมรับปากเลย หรือถ้าหากมีคลื่นลม แต่ก็ไม่สะเทือนเรือปริ้นเซสเมล่อนได้ ตอนนี้พวกเรากำลังคุยกันเรื่องการว่ายน้ำในทะเลในช่วงฤดูหนาว”
พระอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นมาแขวนอยู่กลางนภา แต่มันก็ไม่ได้เจิดจ้าสว่างไสวอย่างที่ฉินสือโอวคุ้นเคย แสงอาทิตย์ที่นี่คล้ายกับกำลังอ่อนกำลังลงทั้งยังไม่มีแม้แต่ไอความร้อนเลยสักนิด
อันที่จริงเขารู้สึกผิดหวังในการมาที่นี่ กรีนแลนด์หนาวเกินไป ถ้ารู้เร็วกว่านี้ว่าที่แห่งนี้หนาวจนส่วนล่างแข็งได้ขนาดนี้ เขาคงไม่มาดูแสงออโรร่าอะไรนี่หรอก สู้พาวินนี่กับเถียนกวาไปนอนอาบแดดที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟยังจะดีกว่าเป็นไหนๆ
ช่วงเวลาประมาณนี้ของปีที่แล้ว เขาไปเข้าร่วมการประชุมประจำปีของบริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรส หลังจากนั้นทุกครั้งที่ถึงช่วงฤดูนี้ เขามักจะคิดถึงแสงแดดอันอบอุ่นและน้ำทะเลที่ใสสะอาดที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ
ซึ่งที่กรีนแลนด์ก็มีมหาสมุทรที่ใสสะอาดไม่ต่างจากเกรตแบร์ริเออร์รีฟ ทว่าด้วยอุณหภูมินั้นต่างกันลิบลับ
ฉินสือโอวเงยหน้าไปมองพระอาทิตย์ที่เซื่องซึม เลยถามอย่างไม่แน่ใจว่า “พวก เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ? ว่ายน้ำในทะเลในช่วงฤดูหนาวงั้นเหรอ? ฮ่าๆ ฉันกล้าพนันได้เลย ด้วยสภาพอากาศแบบนี้ ไขกระดูกพวกนายแข็งแน่”
ถึงแม้จะยังไม่ได้ดูเครื่องวัดอุณหภูมิ แต่เขาก็เดาได้เลยว่าอุณหภูมิข้างนอกห้องตอนนี้อย่างน้อยก็ลบสิบองศา
ชาร์คถูมือไปมาพร้อมกับพูดว่า “ผมก็คิดว่าอย่างนั้นนะ แต่ก็ได้รับปากปีเตอร์สันไปแล้วน่ะสิบอส”
ดูเหมือนว่าพวกฉินสือโอวจะไม่กล้าลงน้ำในสภาพอากาศเช่นนี้ ทำให้พวกปีเตอร์สันดีใจมาก พวกเขาพากันแสดงท่าทางอย่างผู้ได้รับชัยชนะ จากนั้นปีเตอร์สันก็พูดว่า “พวก อากาศดีแบบนี้น้อยนักที่จะเห็นได้ในเกาะแอตตู แล้วพวกเราจะไม่ไปว่ายสักรอบสองรอบเลยเหรอ? พวกเราต่างก็คือชายที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่รึไง?”
“ใช่ แต่ไม่ใช่คนบ้าน่ะสิ” ฉินสือโอวกลอกตาอย่างหยิ่งยโส
จากนั้นพวกปีเตอร์สันที่สวมเสื้อนวมหนาๆ พากันเดินไปทางท่าเรือ ซึ่งดูแล้วเหมือนจะฝ่าความหนาวที่สามารถแช่แข็งจนกลายเป็นไอติมแท่งลงไปว่ายน้ำกันจริงๆ ชาร์คและคนอื่นๆ รู้สึกว่าน่าสนุกจึงตามพวกเขาไปด้วย
ฉินสือโอวเรียกให้ชาร์คหยุดก่อน และเรียกเขากับเกิงจุนเจี๋ยเข้าไปในห้อง แล้วพูดว่า “ฉันกับวินนี่เตรียมจะไปดูแสงเหนือที่ทุนดราฟรีดริช เรื่องจับปูทางนี้ก็ฝากให้เป็นหน้าที่ของพวกนายแล้วกันนะ ชาร์ค นายจำเส้นทางที่จะเข้าสู่น่านน้ำแนวโขดหินพวกนั้นได้แล้วใช่ไหม”
ชาร์คพยักหน้า “ใช่ครับบอส บอสไปเที่ยวอย่างสบายใจได้เลย เรื่องทางนี้ให้เป็นหน้าที่ของผม ไม่มีปัญหาแน่นอน”
ฉินสือโอวเตือนเขาพวกให้ระวังเกี่ยวกับเรื่องในทะเล และให้ชาร์คคอยดูแลพวกเกิงจุนเจี๋ย จากนั้นเขาก็ไปหาเจ้าของโรงแรมแล้วถามเขาว่ามีช่องทางไหนบ้างที่จะสามารถไปทุนดราฟรีดริชได้
ได้ฟังดังนั้น เจ้าของโรงแรมก็พอจะเดาจุดประสงค์ของเขาออก แล้วพูดขึ้นว่า “พวกเธอจะไปดูแสงเหนือกันใช่ไหม? ที่นี่ห่างจากทุนดราฟรีดริชประมาณหนึ่ง แต่พวกเธอสามารถนั่งเครื่องบินไปได้นะ นั่นเป็นทางที่ดีที่สุดหากจะไปทุนดราฟรีดริช”
นอกจากถนนทางหลวงของเมืองใหญ่หลายแห่งในกรีนแลนด์แล้ว เขตอื่นบนเกาะเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์จะไม่เดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางของที่นี่จะใช้รถลากเลื่อนที่ใช้สุนัขเป็นตัวลากหรือเฮลิคอปเตอร์ และเกาะนี้ยังมีสนามบินน้ำแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดในโลก
พอฉินสือโอวจัดแจงเรื่องบนเรือประมงเรียบร้อยแล้วเขาก็ถือโอกาสในวันที่อากาศดีในช่วงเที่ยงพาวินนี่ ลูกสาวและแบล็คไนฟ์ห้าคนขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรงสู่อิลลูลิแซทเมืองที่ใหญ่ที่สุดของทุนดราฟรีดริช
อิลลูลิแซทไม่ถึงกับขนาดที่ต้องเรียกว่าเมือง เพราะเขตนี้ไม่ได้ดูเหมือนเมือง แต่เหมือนสถานที่ที่คนมารวมตัวกันมากกว่า แถมอิลลูลิแซทยังเป็นถิ่นฐานที่ใหญ่เป็นอันดับสาม มีประชากรประมาณสี่พันคน
ซึ่งที่นี่อยู่ในวงกลมอาร์กติกละตินทั้งหมด ชื่อของมันในภาษาละตินคือ “ภูเขาน้ำแข็ง” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในกรีนแลนด์ที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะถูกโอบล้อมด้วยธารน้ำแข็งอิลลูลิแซทที่สวยงามตระการตา
นอกจากบอดี้การ์ดแล้ว เขายังพาพวกหู่เป้าฉงหลัวมาด้วย เพราะพวกมันเป็นเจ้าถิ่นแห่งทุนดรา หากเจอวิกฤตการณ์อะไรบนทุนดรา พวกมันจะน่าไว้วางใจได้มากกว่ามนุษย์
ไม่ว่าจะเป็นเฟอเรทเบลคฟุต แมวป่า จิ้งจอกขาว สุนัขพันธุ์แลบราดอร์รีทรีฟเวอร์ อีกทั้งหมีสีน้ำตาลโคโลราโด พวกนี้เป็นสัตว์ชนิดที่เอาชีวิตรอดได้ดีในหิมะ
ฉินสือโอวเช่าเครื่องบินชนิดปีกสองชั้นลำที่ใหญ่ที่สุดของเกาะแอตตูหนึ่งลำ เครื่องบินขึ้นเวลาเที่ยงนาฬิกาและมุ่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นสี่ชั่วโมงต่อมาพอเข้าสู่ความมืดก็มีแสงไฟเป็นดวงๆ ปรากฏขึ้นที่ใต้เครื่องบิน
“นี่ก็คืออิลลูลิแซทใช่ไหม?” ฉินสือโอวมองลงไปแล้วถามขึ้น
นักบินเลยตอบว่า “ใช่ครับ นี่คือเมืองแห่งแสงเหนือที่สวยงามมาก แน่นอน ว่าผมไม่รู้หรอกนะว่ามันได้ชื่อนี้มาจากไหน แต่ที่นี่มีเพียงหนึ่งพันครอบครัว และสิบกว่าปีก่อนหน้านี้ยังเป็นแค่พื้นที่แห้งแล้งกันดารอยู่เลย”
เมื่อลงจากเครื่องบิน ฉินสือโอวก็ได้สังเกตุเห็นเกล็ดหิมะที่เริ่มโปรยลงมาจากท้องฟ้า เขายื่นมือออกไปรองเกล็ดหิมะไว้ แล้วก็พบว่าเกล็ดหิมะที่นี่ไม่เหมือนกับที่เซนต์จอห์น ที่นี่จะแข็งกว่า และเมื่อเอาไปส่องกับไฟสีขาวดูก็รู้สึกได้ว่ามันระยิบระยับแพรวพราวเป็นพิเศษ
ฉินสือโอวมองดูนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสี่โมงครึ่ง แต่ท้องฟ้าที่นี่มืดมาก
เมื่อนักบินเห็นเขามองดูนาฬิกาก็หัวเราะกับเขา “เวลาใช้กับที่นี่ไม่ได้หรอกนะคุณ การที่คุณจะใช้ชีวิตที่นี่ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามความรู้สึก”
ฉินสือโอวกล่าวขอบคุณเขา จากนั้นก็มีชายร่างกำยำในเสื้อคลุมของกองทัพโซเวียตคนหนึ่งเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็วพร้อมกับทักทายขึ้น “คุณฉินที่มาจากเกาะแอตตูใช่ไหม?”
“ใช่แล้วเพื่อน” เขาเข้าไปจับมือทักทายกับชายผู้นี้ พวกเขาพักที่โรงแรมในสนามบินเป็นการชั่วคราวก่อน รอให้พรุ่งนี้ตอนที่มีแสงสว่างอ่อนๆ แล้วค่อยไปหาโรงแรมใหม่พักกัน
ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำสูงใหญ่ผู้นี้เป็นผู้จัดการโรงแรม เขามารับฉินสือโอวด้วยตนเอง เพราะสำหรับเขาแล้วนี่คือรายการใหญ่รายการหนึ่ง ทั้งคนและสัตว์พักหนึ่งคืนค่าใช้จ่ายก็สองหมื่นดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
หลังจากจับมือกับฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนก็ทำการแนะนำตัวเอง “ผมชื่อเวนท์ลี่ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณฉิน เห็นทีพวกเราคงจะเป็นเพื่อนร่วมชาติกันว่างั้นไหม?”
เวนท์ลี่เป็นชาวอินูเปียตซึ่งก็เป็นพวกเดียวกันกับชนชาติมองโกเลีย ความต่างของรูปลักษณ์ก็มีให้เห็นน้อยมาก และในปัจจุบันมีการศึกษาค้นคว้าแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายมีบรรพบุรุษเดียวกัน
ฉินสือโอวจึงพูดว่า “ใช่แล้ว อย่างน้อยพวกเราก็คล้ายกัน อ้อ แต่ดูเหมือนอากาศจะเปลี่ยนแล้วนะเนี่ย ผมเห็นหิมะตกลงมาแล้ว?”
เวนท์ลี่จึงพูดขึ้น “แต่พวกคุณนี่โชคดีนะ นี่ถ้ามาช้ากว่านี้สักหนึ่งชั่วโมงล่ะก็ น่าจะบินลงลำบาก แต่ดูท่าแล้วน่าจะมาล็อตใหญ่เลยล่ะนั่น พวกเราก็รีบเดินกันเถอะ ภรรยาผมเตรียมกาแฟกับชาร้อนไว้เรียบร้อยแล้ว”
ในอาร์กติกเซอร์เคิลการพยากรณ์อากาศไม่มีประโยชน์ หมายความว่าหากกระแสลมหนาวเปลี่ยนทิศทางเมื่อชนกับภูเขาน้ำแข็งก็จะทำให้เกิดพายุหิมะรุนแรงซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้เลย
หิมะยังคงตกลงมาตลอดเวลาจนกระทั่งในช่วงเวลาเกือบเที่ยงของวันที่สองท้องฟ้าถึงค่อยสว่างขึ้น ฉินสือโอวออกไปดู เกล็ดหิมะแวววาวระยิบระยับก็โปรยลงมาท้องฟ้า
ฉินสือโอวเลยถือโอกาสที่ฟ้าเปิดเตรียมพาวินนี่และคนอื่นๆ ไปเดินเล่นในเมืองสักรอบและชมวิวทิวทัศน์ของเขตเหนือสุดสักหน่อย