ฉินสือโอวจับมือกับเฟอร์กูสัน อย่างที่คิด เขาแนะนำตัวเองว่า “ผมทำงานที่หอสันติภาพ เป็นคน อืม สามารถเรียกว่าเป็นยามรักษาการณ์ แน่นอนว่าหากต้องแนะนำตัว ผมชอบแนะนำตัวเองว่าเป็นคนตีระฆังมากกว่า ดังนั้นคุณสามารถเรียกผมว่ากาซีโมโด”
กาซีโมโดเป็นบุคคลหนึ่งใน ‘มหาวิหารน็อร์ธดามแห่งปารีส’ ที่มีชื่อเสียงของโลก เขาเป็นคนตีระฆังคนหนึ่ง มีรูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์ถึงที่สุด รูปหน้าหลายเหลี่ยม จมูกทรงสี่หน้า ปากรูปเกือกม้า ฟันที่ไม่เรียบเสมอกัน ตาบอดหนึ่งข้าง หูหนวก หลังค่อม…
แต่ว่าเขากลับเป็นคนที่มีจิตใจดีที่สุด ซื่อสัตย์ที่สุด กล้าหาญที่สุดของตัวละครชายทั้งหมดในหนังสือ มีคุณธรรมทั้งหมดที่ผู้ชายควรมี
ฉินสือโอวบอกว่า “อย่างนั้นนายก็เป็นคนตีระฆังที่หล่อมาก ใช่สิ เพื่อน งานตำแหน่งนี้ของนายยังไม่เลวใช่ไหม?”
เฟอร์กูสันหัวเราะขึ้นมา บอกว่า “ยังดี อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวทั้งบ้านได้ นี่จะต้องขอบคุณผลงานที่ผมเคยทำไว้ตอนเข้ารับราชการในกรมทหาร มันช่วยทำให้ผมได้รับงานแบบนี้”
พูดอยู่ เขาก็ส่ายหัวอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “เมื่อก่อนตอนอยู่ในกรม พวกเราเหมือนเป็นฮีโร่ที่เต็มไปด้วยพลังและเลือดร้อน หลังเกษียณเข้าสู่สังคม สามารถหางานได้อย่างผมก็ถือว่าไม่ง่ายแล้ว”
“แต่ในตอนนี้ อย่างน้อยคุณก็สามารถมีชีวิตอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบปลอดภัย ที่จริงไม่จำเป็นจะต้องเป็นฮีโร่เสมอไป ไม่ใช่หรือ?” ฉินสือโอวบอกเรียบๆ
เฟอร์กูสันยักไหล่ ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วเชิญพวกเขาขึ้นไปยังหอสันติภาพ
บนหอสันติภาพยังมีระเบียงชมวิว นี่เป็นถึงสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดในออตตาวา สามารถยืนดูทั่วทั้งเมืองได้จากข้างบน และสามารถชมวิวอันสวยงามของแม่น้ำออตตาวาได้
ฉินสือโอวและวินนี่ชมวิวด้านล่าง เฟอร์กูสันต้มกาแฟยกมาให้ทั้งสองคน ถามด้วยรอยยิ้มว่า “ปกติเวลาที่ผมอารมณ์ไม่ดี ผมจะมาดื่มกาแฟแก้วหนึ่งที่นี่ หลังดื่มทั้งอารมณ์และจิตใจก็จะดีมาก”
ระหว่างดื่มกาแฟหอมๆ ฉินสือโอวพูดขึ้นว่า “เป็นอย่างนี้นะ เพื่อน ตอนนี้ผมไม่ได้มีเรื่องอะไรกวนใจ แต่ดื่มกาแฟพร้อมชมวิวสวยๆ อยู่ที่นี่ อารมณ์ก็ดีขึ้นอย่างมากเลยจริงๆ”
เฟอร์กูสันหัวเราะ เขาบอกว่า “มาเถอะ ผมจะพาพวกคุณไปดูการียง นั่นเป็นตัวที่ดีที่สุดของที่นี่ เป็นตัวที่ใหญ่มากๆ!”
การียงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของหอสันติภาพ มีระฆังสำริด 53 ใบประกอบขึ้น ครอบคลุมบันไดเสียง 4 ชุดครึ่ง น้ำหนักรวม 66 ตัน
เฟอร์กูสันแนะนำว่า “เสียดายที่พวกคุณมาไม่ถูกเวลา ถ้าหากมาตอนบ่าย งั้นเวลาตอนบ่ายโมงสามารถได้ยินเสียงดังกังวานที่มันปล่อยออกมา”
สุดท้าย ทั้งสองคนก็ไปดูนาฬิกาสี่หน้าของหอสันติภาพ ภายในห้องหนึ่งมีกลไกเริ่มต้นของนาฬิกา เริ่มใช้งานในปี 1927 ทุกๆ 30 วินาทีจะเช็กเวลากับหอดูดาวของทางการครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันเวลาคลานเคลื่อน
แต่ว่าตอนนี้กลไกแบบนี้ถูกยกเลิกนานแล้ว ตั้งแต่ปี 1970 นาฬิกาก็เริ่มใช้จักรกลไฟฟ้ามาใช้นับเวลา แบบนี้จะยิ่งแม่นยำ
ทริปเที่ยวชมของพวกเขาที่พบโดยบังเอิญนี้เพิ่มสีสันไม่น้อย ตอนที่จากไปเฟอร์กูสันได้ให้กระดิ่งแก่ทั้งสองคนหนึ่งใบ บอกว่าเป็นกระดิ่งที่ถอดออกมาตอนที่หอสันติภาพทำการบูรณะ สามารถใช้เป็นของที่ระลึกได้
เที่ยวข้างนอกจนถึงแปดโมง อาคารรัฐสภาและส่วนงานต่างๆ เริ่มทำงาน มีบางพื้นที่สามารถเที่ยวชมได้ อย่างเช่นหอสมุดและห้องประชุมต่างๆ
ภายในห้องประชุมตกแต่งได้โอ่อ่าตระการตา ฉินสือโอวรู้สึกว่าวันหลังถ้ามีคนบอกกับเขาว่าอาคารสำนักงานของทางการต่างประเทศประหยัดมัธยัสถ์ขนาดไหน เขาจะต้องตบคนนั้นแน่ ดูได้จากการตกแต่งของห้องประชุม ฉินสือโอวไม่เคยเห็นอาคารของทางการไหนที่จะแข่งกับมันได้
หอประชุมรักษาการตกแต่งและตำแหน่งที่นั่งเหมือนกันกับของหอประชุมสภาอังกฤษ เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แท่นปราศรัยเป็นใจกลางของห้อง พรรคฝ่ายรัฐบาลนั่งด้านขวา เหล่าพรรคฝ่ายค้านนั่งด้านซ้าย
ต่อมาก็เที่ยวชมหอสมุด ทางที่จะไปสถานที่นี้ จะต้องเดินผ่านทางเดินยาวๆ ทางหนึ่ง
วินนี่แนะนำให้เขา บอกว่าทางเดินเส้นนี้เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญของเนินแคปพิตอล ได้สร้างผลงานเอาไว้ เนินแคปพิตอลเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาก่อน ทางเดินนี้ทำการแยกหอสมุดออกจากอาคารอื่นๆ ดังนั้นจึงป้องกันหอสมุดจากเหตุไฟไหม้ไว้ได้
ห้องอ่านหนังสือหลักของหอสมุดเป็นห้องทรงโค้ง ตรงกลางมีรูปปั้นราชินีวิคตอเรียตั้งอยู่ รอบข้างเป็นรูปปั้นอดีตนายกรัฐมนตรีของแคนาดา
เดินอยู่ในหอสมุด ฉินสือโอวอดถอนใจไม่ได้ กล่าวว่า “โชคดีที่ตอนนั้นหลีกเลี่ยงเหตุไฟไหม้ครั้งนั้นไว้ได้ ไม่อย่างนั้นหนังสือเยอะขนาดนี้ คงจะหมดกันแน่เลย! นี่ต้องสูญเสียเท่าใดกันเนี่ย!”
วินนี่บอกว่า “ไม่เพียงแต่ปัญหาเรื่องหนังสือ วัสดุที่ใช้สร้างหอสมุดก็เป็นไม้ล้วน ถ้าหากไฟไหม้ขึ้นมา ไม่นานก็ทำลายสถานที่แห่งนี้ได้”
ฉินสือโอวเกาหัวถามว่า “สถาปัตยกรรมไม้ล้วน? ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนเป็นวัสดุหินล่ะ?”
วินนี่อธิบายว่า “เป็นอย่างนี้ เมื่อก่อนอาคารรัฐสภาก็ใช้ไม้ล้วนในการสร้าง ต่อมาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ถูกทำลายไปไม่ใช่เหรอ? ตอนที่สร้างใหม่เลยได้รับบทเรียน เปลี่ยนมาใช้วัสดุหินในการสร้างทั้งหมด ตอนนั้นมีเพียงแค่หอสมุดนี้เท่านั้นที่ยังคงรักษาโครงสร้างไม้ล้วนเอาไว้ได้”
“น่าจะผ่านมาอีกสี่ห้าสิบปี เนินแคปพิตอลเกิดเหตุไฟไหม้อีกครั้ง ครั้งนี้อาคารรัฐสภาที่ใช้หินจึงรอดพ้นไฟไหม้ แต่ว่าหอสมุดกลับไฟไหม้ขึ้น ดังนั้นตอนที่สร้างใหม่ ที่นี่เองก็ใช้หินเป็นวัสดุหลักด้วย”
ฉินสือโอวหัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา กล่าวว่า “เนินแคปพิตอลนี่คือไม่ถูกกับไฟขึ้นมาแล้วสินะ?”
คนดูแลของหอสมุดเริ่มมาทำงานแล้ว มีคนจำฉินสือโอวได้ ทักทายเขา ชื่นชมความกล้าหาญของเขาในคดีฆาตกรรมบนทะเล จากนั้นถามเขาว่าทำไมไม่พาหู่จือและเป้าจือดาราน้อยทั้งสองตัวมาด้วย
วันนี้แลบราดอร์อยู่กับแบล็คไนฟ์ เพราะว่าหลังจากนี้ฉินสือโอวต้องเข้าประชุม พาพวกมันมาที่เนินแคปพิตอลไม่สะดวก
เขาอธิบายไปอย่างนี้ คนดูแลที่นั่นทำสีหน้าเสียดาย บอกว่าเขาชอบสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์มาก เป็นแฟนคลับของหู่จือและเป้าจือ ยังสมัครบัญชีทวิตเตอร์เพื่อติดตามเจ้าตัวน้อยทั้งสองโดยเฉพาะ
ฉินสือโอวขอบใจแทนหู่จือและเป้าจือ คนดูแลให้หนังสือเขาเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือแนะนำเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ แนะนำสุนัขประเภทนี้ทุกด้าน
เดินวนไปรอบหนึ่ง พระอาทิตย์ขึ้นสูง อุณหภูมิของออตตาวาอบอุ่นขึ้นมา ฉินสือโอวซื้อชานมร้อนมาสองแก้ว หาที่นั่งในลานสนามนั่งลงพักผ่อนกับวินนี่
พวกเขานั่งลงไม่เท่าไหร่ ก็มีกระรอกน้อยกระโดดโลดเต้นวิ่งมา มันจ้องมองฉินสือโอวอย่างสนใจ ใช้จมูกดม มองดูเขาอย่างสงสัย จากนั้นก็ค่อยๆ เข้ามาใกล้ กระโดดนั่งลงบนรองเท้าหนังของเขา
วินนี่ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาอยากจะถ่ายสักรูป จากนั้นก็ยิ้มแล้วไม่ได้ทำอย่างนั้น เธอกลัวว่าจะทำให้กระรอกน้อยตกใจหนีไป
ฉินสือโอวเดาว่า กระรอกน้อยนี้คงจะถูกกลิ่นของเสี่ยวหมิงบนตัวเขาดึงดูดมาเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นแม้ว่าสัตว์ที่นี่จะไม่กลัวคน ก็คงไม่เข้าใกล้คนมากขนาดนี้
แคนาดาจัดการดูแลสิ่งแวดล้อมได้ดีจริงๆ แม้ว่าออตตาวาจะเป็นเมืองหลวง นอกจากกระรอกน้อยแล้ว พวกเขายังเห็นกราวด์ฮอกอ้วนถ้วนกลุ่มหนึ่งในลานสนามนี้ด้วย
กราวด์ฮอกน้อยจากไป ก็มีนกพิราบฝูงหนึ่งมา กราวด์ฮอกพักผ่อนเป็นเพื่อนฉินสือโอวที่ลานสนามนี้สักพัก เห็นว่าใกล้เวลาเริ่มประชุมแล้วถึงจากไป
………………………………….