ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1522 จอมโจรเสี่ยวหู่เป้า

บทที่ 1522 จอมโจรเสี่ยวหู่เป้า

หลังจากบดข้าวมอลต์จนละเอียดแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับต่อมาก็คือกระบวนการเปลี่ยนข้าวมอลต์ให้กลายเป็นน้ำตาล อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ได้ว่าหลังจากนำข้าวมอลต์ไปผ่านการหมักจนน้ำกลายเป็นน้ำตาลมอลโทส ก็จะเกิดเป็นน้ำเชื่อมข้าวมอลต์

คาปาไลบอกว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำ เช่นเดียวกันกับที่นี่ ที่ไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมก็ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการนี้ก็ได้ พวกเขาสามารถนำข้าวมอลต์บดไปต้มให้เดือดได้เลย แบบนี้ก็สามารถหมักเบียร์ที่มีรสชาติสดใหม่ได้เช่นกัน

ขั้นตอนนี้ก็ไม่ยาก แค่เทข้าวมอลต์ลงไปในกล่องเก็บรักษาอุณหภูมิแล้วเทน้ำร้อนลงไปให้ได้ตามสัดส่วน ข้าวมอลต์ประมาณหนึ่งกิโลกรัมต้องใช้น้ำร้อนประมาณสี่ลิตร ดังนั้นเมื่อคำนวณจากปริมาณของมอลต์ที่คาปาไลนำมา ปริมาณน้ำที่ต้องเติมจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยลิตรกว่าๆ

กระท่อมโรงเบียร์เป็นโรงผลิตขนาดเล็ก กล่องเก็บรักษาอุณหภูมิสามารถบรรจุน้ำได้เพียง 50 ลิตร ซึ่งนี่นับว่าเป็นกล่องเบอร์ใหญ่แล้ว พวกเขาจึงต้องแบ่งทำสองรอบ

อุณหภูมิของน้ำร้อนจะต้องอยู่ที่ 75 องศาเซลเซียส หลังจากปรับความร้อนเสร็จแล้วฉินสือโอวก็เติมมันลงไปในกล่องเก็บรักษาอุณหภูมิ คาปาไลบอกว่าหลังจากนั้นจะต้องรอไปอีกหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำตาลมอลโตสผสมเข้ากันกับน้ำ หลังจากนั้นค่อยนำไปกรองอีกครั้ง

ชายชาวคิวบาเป็นคนที่ไม่ชอบรออยู่เฉยๆ เขาไปที่ชายหาดแล้วขึงตาข่ายขนาดเล็กเพื่อจับนกจมูกหลอดหางสั้น พอเห็นว่าฉินสือโอวกำลังติดตามดูอยู่ เขาจึงพูดด้วยความรู้สึกไม่สบายใจว่า “คุณฉิน คุณอย่าบอกนายกเทศมนตรีวินนี่ว่าผมใช้ตาข่ายจับนกนะครับ”

ฉินสือโอวกล่าวว่า “ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนี้หรอก ในห้องแช่เย็นของผมมีเนื้อนกที่หมักไว้แล้ว มันช่วยรักษาความสดไว้ได้ ถ้าจะเอาเดี๋ยวผมให้คนไปเอามาให้”

คาปาไลยิ้มแล้วพูดว่า “คุณใช้เครื่องปรุงหมักไว้แล้วใช่ไหมครับ? ผมอยากได้เนื้อนกเปล่าๆ แบบที่ยังไม่ผ่านการหมัก”

ถึงจะเอาแบบนี้แต่ก็ไม่จำเป็นต้องจับเองเช่นกัน ฉินสือโอวกวักมือเรียกราชาเจ้าป่าซิมบ้าให้เข้ามาหา พอชี้ไปที่นกจมูกหลอดหางสั้น มันก็เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อได้ในทันที หลังจากนั้นจึงได้สะบัดหางอันใหญ่ที่มีขนนุ่มฟูวิ่งไปหานกอ้วนที่กำลังพักผ่อนอยู่บนชายหาย

แค่แป๊บเดียวซิมบ้าก็จับนกได้แล้วสองตัว หู่จือกับเป้าจือที่เห็นมันเอานกจมูกหลอดหางสั้นมาให้ฉินสือโอว ก็ไม่ยอมแพ้ลูกแมวป่าพากันวิ่งออกไปจับนกแล้วเช่นกัน

หลังจากได้พักผ่อนและกินอาหารอย่างเพียงพอมาหลายวัน ตอนนี้ฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังพร้อมกับสัมผัสที่ว่องไว พอหู่จือกับเป้าจือเข้าไปใกล้ พวกมันที่สามารถสัมผัสได้ถึงศัตรูก็ตีปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที

หู่จือกับเป้าจือโผเข้าโจมตีอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ทันใดนั้นจึงเกิดความท้อแท้ขึ้นมาขนานหนัก พวกมันจ้องมองซิมบ้าด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดพวกอ่อนหัดอย่างซิมบ้าถึงจับนกได้แต่พวกมันกลับจับไม่ได้

เหตุผลง่ายๆ ก็เพราะซิมบ้ามีอุ้งเท้าใหญ่ที่อ่อนนุ่ม ขณะที่มันกำลังหมอบตัวต่ำและย่างเท้าเดินอยู่บนชายหาดจึงไม่มีเสียงฝีเท้าเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อยนิด หากพวกนกจมูกหลอดหางสั้นมองไม่เห็นมันนั่นก็เท่ากับว่าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายแล้ว

สุนัขแลบราดอร์เกิดมาเพื่อทำงานหนัก พวกมันเป็นเหมือนคนเถื่อน จึงไม่สามารถเป็นนักฆ่าได้ พวกมันวิ่งไปบนชายหาดด้วยความเร็วดุจดั่งสายฟ้า ปากที่เหมือนกับคาบแตรเอาไว้ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนบอกว่า ‘ฉันมาแล้ว’ เพราะอย่างนี้พวกมันถึงจับนกไม่ได้

แต่พวกมันมีความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงมาก พวกมันเชื่อว่าตัวเองต่างหากที่เป็นลูกชายแท้ๆ ของฉินสือโอว ดังนั้นพวกมันจึงกลอกตามองไปรอบๆ เพื่อคิดหาวิธีที่จะจับนกจมูกหลอดหางสั้น มองไปมองมา ในที่สุดพวกมันก็นึกวิธีดีๆ ได้แล้ว นกจมูกหลอดหางสั้น พวกมันจะออกไปขโมยมา!

ปรมาจารย์อันดับหนึ่งในด้านการจับนกของฟาร์มปลาก็คือซิมบ้า ส่วนปรมาจารย์อันดับสองที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ก็คือแมวน้ำกรีนแลนด์นั่นเอง

ตอนอยู่บนบกแมวน้ำพวกนี้อาจจะดูโง่งุ่มง่าม แต่เมื่อมุดลงไปในน้ำพวกมันจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วเกินกว่าใคร พวกมันจะซ่อนตัวอยู่ในน้ำ หลังจากนั้นพอนกจมูกหลอดหางสั้นบินลงมาใกล้กับผิวน้ำก็จะสามารถจับไว้ได้อย่างแม่นยำ

นกจมูกหลอดหางสั้นแทบจะไม่สามารถต้านทานแมวน้ำได้เลย ขณะอยู่เหนือผิวน้ำพวกมันจะเคลื่อนไหวตัวได้อย่างเชื่องช้า ต้องกระพือปีกอยู่หลายครั้งถึงจะบินขึ้น ดังนั้นต่อให้พวกแมวน้ำโผล่พ้นน้ำแล้วอ้าปากหาวก่อนสักรอบก็ยังสามารถจับพวกมันเอาไว้ได้

ในฝูงแมวน้ำมีลูกแมวน้ำอยู่จำนวนหนึ่ง พวกมันยังไม่สามารถหาอาหารเองได้ ทั้งยังไม่สามารถดำน้ำเป็นเวลานานๆ ได้อีกด้วย บรรดาแม่ๆ และป้าๆ แมวน้ำจึงต้องหาอาหารมาให้พวกมัน

กลุ่มแมวน้ำกรีนแลนด์มีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจมาก โดยที่แมวน้ำตัวเมียทุกตัวจะมีเพื่อนสนิท หลังจากคลอดลูกแล้วเพื่อนสนิทของพวกมันก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นแม่ทูนหัว ซึ่งแม่ทูนหัวจะต้องรับภาระที่หนักกว่าแม่แท้ๆ ด้วยซ้ำ พวกมันต้องรับภาระเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้ลูกแมวน้ำและยังต้องหาอาหารมาให้กินอีกด้วย

ที่ขั้วโลกเหนือ หากหมีขั้วโลกต้องการจะจับลูกแมวน้ำ ผู้ที่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันที่สุดก็คือแม่ทูนหัวของลูกแมวน้ำ โดยจะต่อสู้อย่างกล้าหาญจนสุดชีวิต

ขณะที่บรรดาแม่ทูนหัวกำลังคาบนกจมูกหลอดหางสั้นปีนขึ้นมาบนชายหาดให้ลูกแมวน้ำอย่างมีความสุข หู่จือกับเป้าจือที่ซ่อนตัวอยู่อีกฝั่งหนึ่งก็ส่งเสียงขู่ร้องแล้วกระโจนเข้าไปแย่งนกจมูกหลอดหางสั้นมา หลังจากนั้นจึงวิ่งเอาไปให้ฉินสือโอว

พวกแมวน้ำถึงกับตะลึงงัน ให้ตายเถอะมีใครหน้าไม่อายกว่าพวกนี้อีกไหม? นี่มันปล้นกันชัดๆ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรก็เห็นกันอยู่ว่าพวกมันถูกรังแก!

หู่จือกับเป้าจือติดใจกับการแย่งชิง พวกมันแย่งนกมาจากแมวน้ำได้หกเจ็ดตัวติดกันต่อกันแต่ก็ยังไม่หยุด แถมพวกมันยังซนมากๆ จนคิดว่าการรังแกแมวน้ำเป็นเรื่องที่น่าสนุก ทำอะไรไม่ได้แล้ว บนชายหาดบรรดาแมวน้ำไม่สามารถต่อกรกับสุนัขแลบราดอร์ได้เลย ต่อให้พวกมันขับรถก็ตามหู่จือกับเป้าจือไม่ทันอยู่ดี

แต่แมวน้ำกรีนแลนด์ฉลาดมาก พวกมันรู้จักการดักซุ่ม หลังจากพบว่าหู่จือกับเป้าจือเอาแต่แย่งชิงนกจมูกหลอดหางสั้น เมื่อราชาแมวน้ำส่งเสียงร้องต่ำออกมาจากลำคอ แมวน้ำแต่ละตัวก็พากันปีนขึ้นมานอนแกล้งตายบนชายหาด โดยมีแมวน้ำตัวเมียไปจับนกจมูกหลอดหางสั้นมาส่งให้

หู่จือกับเป้าจือจึงวิ่งเข้าไปแย่งนกจมูกหลอดหางสั้นมาอย่างมีความสุข แต่พอหันหลังกลับไปก็พบว่าพวกแมวน้ำที่นอนอาบแดดอย่างเอื่อยเฉื่อยอยู่เมื่อสักครู่ในตอนนี้กลับพากันลุกขึ้นมา แล้วใช้ดวงตากลมโตจดจ้องพวกมันทั้งสองด้วยสายตาแปลกประหลาด

สองพี่น้องเห็นว่าท่าจะไม่ดีแล้ว จึงทิ้งนกจมูกหลอดหางสั้นแล้วคิดจะวิ่งหนี ทว่าพวกมันจะวิ่งไหนไปไหนได้ล่ะ? ในเมื่อพวกแมวน้ำปิดล้อมที่ตรงนี้ไว้แล้ว พวกมันใช้วิธีเดียวกันกับที่ใช้จัดการเหมาเหว่ยหลงในตอนนั้น โดยการบุกประชิดไปข้างหน้าแล้วบีบบังคับให้หู่จือกับเป้าจือต้องกระโดดลงไปในน้ำ

ท้องทะเลเป็นสนามเจ้าถิ่นของแมวน้ำ สมญานามเสือดาวแห่งท้องทะเลไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย ในตอนนี้มีแมวน้ำตัวอ้วนหนึ่งฝูงกำลังรออยู่ที่ด้านล่าง หลังจากหู่จือกับเป้าจือตกลงมาในน้ำ พวกมันก็เริ่มตบตีลูกหมาตกน้ำทั้งสองตัวทันที

ฉินสือโอวเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะไม่ดีแล้ว โชคดีที่แก๊งสามเกลอของบอลหิมะกำลังว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆ ละแวกนี้ เขาจึงรีบเรียกระดมพลสามเกลอให้มาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตสุนัขทั้งสองตัว

บีนเป็นโลมาปากขวดซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงในท้องทะเลขนานแท้จึงมีกำลังสู้รบระดับกลาง ทว่าไอซ์สเกตกับบอลหิมะไม่ได้มีระดับกำลังการต่อสู้ธรรมดาๆ วาฬเบลูกายังไม่เท่าไร ต้องฉลามเสือทรายสิถึงจะนับว่าเป็นนักฆ่าแห่งมหาสมุทร อย่างมากที่สุดพวกมันถึงขั้นที่ว่าสามารถฉีกทึ้งวาฬที่ยังมีชีวิตอยู่แล้วกินเป็นอาหารได้เลย ส่วนเหยื่อที่มีขนาดเล็กที่สุดก็คือปลาซาร์ดีน แมวน้ำก็นับว่าเป็นหนึ่งในอาหารของพวกมันเช่นกัน

ไอซ์สเกตว่ายน้ำบุกเข้ามาพร้อมกับอ้าปากโชว์ซี่ฟันแหลมคมเหมือนมีดกริช ลักษณะท่าทางดูดุร้ายเป็นอย่างยิ่งพร้อมกับขนาดตัวที่ใหญ่ถึงสิบกว่าเมตร ทำให้บรรดาแมวน้ำกลัวจนพากันหนีไป หู่จือกับเป้าจือถึงมีโอกาสกลับขึ้นมาบนชายหาด แล้วรีบวิ่งหนีจนหางจุกตูด

หลังจากวิ่งมาได้ครึ่งทาง สุนัขแลบราดอร์ทั้งสองตัวก็รู้สึกว่าถ้าทำแบบนี้พวกมันจะเสียหน้า เลยวิ่งกลับไปแย่งนกจมูกหลอดหางสั้นมาหนึ่งตัว ซึ่งนี่ทำให้พวกแมวน้ำโมโหสุดขีด จนพากันคลานขึ้นมาแล้วส่งเสียงขู่ด้วยความโกรธเคือง

พอลูกแมวน้ำสองตัวที่กำลังเล่นกันอยู่กับเสี่ยวเถียนกวาได้ยินสมาชิกในครอบครัวส่งเสียงขู่ก็เริ่มอ้าปากส่งเสียงร้องตาม เถียนกวากำลังเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ด้วยความสนุกสนาน เมื่อเห็นว่าอยู่ๆ พวกเพื่อนๆ ก็ไม่เล่นต่อแล้ว เธอจึงตีมือลงไปบนหัวของพวกมัน เป็นเด็กเป็นเล็กจะร้องอะไรกัน อยากหัดต่อยตีแบบผู้ใหญ่อย่างนั้นเหรอ? ยังไม่รีบเล่นต่ออีก!

สำหรับเด็กอย่างเสี่ยวเถียนกวาที่กล้าเผชิญหน้ากับหมีขั้วโลกที่เป็นศัตรูทางธรรมชาติของพวกมัน ลูกแมวน้ำรู้สึกเคารพและเสื่อมใส่เธออย่างสุดหัวใจ พอโดนเสี่ยวเถียนกวาตีหน้าผาก พวกมันก็รีบหุบปากแล้วกลับมาใช้หน้าผากตั้งลูกบอลไว้บนหัวต่อทันที

คาปาไลที่ได้เห็นภาพนี้ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณฉิน ลูกสาวของคุณมีเพื่อนสนิทถึงสองตัวเลยนะครับ ผมขอถ่ายรูปตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันได้ไหม? ลูกสาวของผมก็ชอบแมวน้ำเหมือนกัน แต่ที่ประเทศคิวบาของเรา มีแค่เมืองใหญ่ถึงจะมีสวนสัตว์ เธอเลยไม่เคยได้เห็นแมวน้ำด้วยตาของตัวเองมาก่อน”

……………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท