ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1535 เลือกแม่พันธุ์หอย

บทที่ 1535 เลือกแม่พันธุ์หอย

หลังจากยุ่งกับงานมาทั้งวัน ในที่สุดการเก็บหอยด้วยแรงงานคนก็เกือบจะเสร็จสิ้นลงแล้ว เหลือไว้แต่หอยเชลล์บนชายหาด ตราบใดที่มีไอน้ำอยู่อย่างเพียงพอ พวกมันก็จะไม่มีทางตกอยู่ในอันตราย สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัย

ฉินสือโอวเคี้ยวหมากฝรั่งเดินเข้ามาดูพระอาทิตย์ตกและแม่พันธุ์หอยเหล่านี้เพื่อวางแผนงานของเขาในวันพรุ่งนี้

แสงของพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินบางเบา สภาพอากาศในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิยังคงหนาวเย็นเล็กน้อย เมื่อพัดมาบนใบหน้าก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นอยู่ หู่เป้าฉงหลัวและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ก็กำลังวิ่งไล่กันอยู่บนชายหาด

หมีโลลิมองหอยเชลล์ด้วยความสนอกสนใจ หลังจากนั้นก็อาศัยจังหวะช่วงที่ไม่มีใครเห็นเดินเข้าไปหาด้วยความระมัดระวังแล้วตบเปลือกหอยเชลล์จนแตก หลังจากนั้นก็อ้าปากเผยให้เห็นลิ้นนุ่มนิ่มพร้อมกับเลียหอยเชลล์เข้าปากไป

รสชาติสดอร่อยของหอยเชลล์สามารถพิชิตรสปากของมันได้อย่างรวดเร็ว หมีโลลิมีความสุขมากมันใช้อุ้งเท้าอ้วนๆ ของมันทุบเปลือกหอยเชลล์ แล้วเลียเนื้อและกลืนหอยเข้า ไปด้วยกัน

เมื่อสังเกตเห็นจุดนี้ อีวิลสันที่กำลังนิ่งเงียบก็รีบวิ่งถลันเข้ามาทันที เขาอุ้มหมีโลลิเอาไว้แล้วลากมันกลับมา

หมีโลลิร้องคำรามอย่างไม่ยอมแพ้ หลังจากได้ยินเสียงนี้ฉงต้าก็เผยเสียงขู่คำรามของเจ้าป่าออกมา แต่โชคไม่ดีที่มันหันหน้าไปแล้วเห็นว่าคนที่อุ้มหมีโลลิอยู่คืออีวิลสัน ทันใดนั้นมันก็นั่งลงด้วยความเหม่อลอยทันที

เห็นได้ชัดว่าอีวิลสันได้ทิ้งร่องรอยความทรงจำครั้งเยาว์วัยไว้ให้ฉงต้าอย่างลึกร้าวทีเดียว มากจนตอนนี้มันก็ยังคงมีความกลัวหลงเหลืออยู่

พวกแมวน้ำเองก็กำลังจดจ้องหอยเชลล์อยู่เหมือนกัน แต่เนื่องจากพวกมันไม่มีกรงเล็บและมีเพียงแขนขาที่เหมือนครีบ พวกมันจึงไม่สามารถขุดหอยในทรายได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อก่อนที่ฟาร์มปลามีทั้งนกจมูกหลอดหางสั้นและนกนางนวลแฮริ่ง แน่นอนว่าพวกแมวน้ำย่อมไม่ไม่สนใจกินหอยเชลล์อยู่แล้ว

ตอนนี้นกจมูกหลอดหางสั้นจากไป นกนางนวลแฮริ่งเองก็ถูกไล่ไปแล้วเช่นกัน พวกแมวน้ำจึงต้องเลือกอาหารอย่างอื่นมาทดแทน

ไม่ต้องสงสัยเลย สำหรับพวกมัน ปลาคาพีลินและปลาแฮร์ริ่งย่อมมีรสชาติดีกว่า แต่ถ้าจะกินก็ต้องไปจับมา ทว่าตอนนี้หอยเชลล์กองอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ดังนั้นสำหรับพวกแมวน้ำที่ขึ้นว่าขี้เกียจสุดๆ แล้วนั้น หอยเชลล์ก็ดูเหมือนจะเป็นอาหารที่ไม่เลวเลยเช่นกัน

ฉินสือโอวเห็นแบบนี้ก็รู้สึกไม่โอเค พวกสัตว์เลี้ยงต่างก็รุมจ้องหอยเชลล์ สัตว์พวกอื่นยังไม่เท่าไร หอยเชลล์มีอยู่ตั้งหลายหมื่นตัว ปล่อยให้พวกมันกินบ้างคงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้พวกแมวน้ำก็จ้องหอยเชลล์ตาเป็นมันเช่นกัน แบบนี้นับว่าคงวุ่นวายแล้ว แมวน้ำไม่ได้แค่มีจำนวนมากเท่านั้น แต่พวกมันแต่ละตัวล้วนแต่เป็นนักกินกันทั้งสิ้น!

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่สั่งให้ชาวประมงทำงานให้เหนื่อยขึ้นในช่วงกลางคืน เพื่อส่งหอยเหล่านี้ไปอยู่ที่รอบๆ บ่อเพาะพันธุ์

วันต่อมาเป็นวันเริ่มงานการเพาะพันธุ์หอยแล้ว

การผลิตแม่พันธุ์หอยเชลล์อ่าวแอตแลนติกเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหอยชั้นนำในแถบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกหลังจากผ่านการปรับปรุงหลายปีเทคโนโลยี การเพาะพันธุ์ก็ได้รับการปรับปรุงที่ดีขึ้นเป็นอย่างมากว่าในทุกๆ ปีก็ยังคงมีฟาร์มปลาจำนวนมากที่ไม่สามารถเพาะพันธุ์ลูกหอยเชลล์ได้เพียงพอ เนื่องจากอัตราการฟักต่ำเกินไป ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลวของฟาร์มเพาะเลี้ยง

ดังนั้นการเพิ่มอัตราการฟักตัวของหอยเชลล์ ทำให้เทคโนโลยีจึงเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญสำหรับการเพาะเลี้ยง ฉินสือโอวไม่เพียงแต่ต้องป้อนพลังโพไซดอนเข้าไปเท่านั้น แต่แทนที่จะพึ่งพาพลังโพไซดอนเพียงอย่างเดียว เขายังพยายามใช้วิธีการเพาะพันธุ์ทางวิทยาศาสตร์มากขึ้นอีกด้วย

ชาวประมงทั้งหมดเริ่มออกสู่สนามรบ ชาร์ค ซีมอนสเตอร์ บูล แลนซ์นำทีม ทีมสิบคนเพื่อไปเลือกหอยนางรมตัวเมีย แล้ววางแยกกันไว้บนแพเพาะพันธุ์ที่แตกต่างกันตามคุณภาพ

หลังจากการคัดแยกสุดท้ายหอยเชลล์ที่มีอวัยวะเพศสมบูรณ์ ตัวใหญ่และมีลักษณะเปลือกภายนอกที่สมบูรณ์ หลังจากการคัดแยกแล้วก็จะถูกนำไปใส่ในบ่อเพาะพันธุ์บ่อต่างๆ ที่อุณหภูมิของน้ำและปริมาณออกซิเจนในน้ำจะถูกปรับให้เหมาะสม เพื่อทำการเลี้ยงหอยเชลล์ไว้ที่นี่ชั่วคราว

สิ่งที่เป็นรากฐานของการเพาะเลี้ยงแม่หอย ก็คือนิสัยในการสืบพันธุ์ของมันที่มีสองเพศในตัวเดียว การปฏิสนธินอกร่างกาย ที่โดยปกติจะวางไข่ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการเจริญเติบโตของแม่พันธุ์หอยมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของไข่

ในความเป็นจริงแล้ว ฟาร์มปลาต้าฉินไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเพาะเลี้ยงหอยทะเล ยกตัวอย่างอย่างหอยเชลล์นี่ พวกมันอาศัยอยู่ในน่านน้ำแอตแลนติกใต้รวมถึงอ่าวเม็กซิโก สามารถเก็บเกี่ยวได้สองฤดูกาลต่อปี ทว่าที่นี่พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น

แน่นอนว่าย่อมต้องมีข้อดีอยู่บ้างล่ะ เมื่อเทียบกับหอยเชลล์ในน่านน้ำเขตร้อนทางตอนใต้ หอยเชลล์ที่ถูกเพาะเลี้ยงในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ โดยเฉพาะในนิวฟันด์แลนด์มีคุณภาพดีกว่า มีมลพิษต่ำกว่า จึงสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่า

ตั้งแต่เข้าสู่ฤดูเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชนิดต่างๆ แซนเดอร์สก็รีบกลับมาจากฟาร์มปลาหมายเลข 2 เพื่อให้คำแนะนำกับเขา แล้วพาฉินสือโอวไปดูหอยเชลล์บนแพผสมพันธุ์ทีละตัว

หลังจากดูเสร็จแล้ว ศาสตราจารย์อาวุโสก็พูดอย่างกลัดกลุ้มว่า “แม่พันธุ์หอยของฟาร์ม คุณภาพไม่เลวเลย”

แม่พันธุ์หอยก็คือหอยตัวเมีย ฉินสือโอวคิดว่าคำเรียกอันหลังดูเหมาะสมกว่า แต่แซนเดอร์สเป็นนักวิชาการและใช้คำได้แม่นยำกว่า หลังจากได้ยินแบบนี้เขาก็คิดว่าหลังจากนี้ตัวเองก็จะเรียกมันว่าแม่พันธุ์หอยเช่นกัน

ส่วนเรื่องความกลัดกลุ้มของศาสตราจารย์อาวุโสเขาก็สามารถเข้าใจได้ ที่จริงแล้วแม้ว่าชายชราจะเป็นอัจฉริยะ แต่ที่ฟาร์มปลาเขากลับไม่ได้มีผลงานมากนัก ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ทำโครงการแมลงยักษ์เปลือกดำ แต่ฉินสือโอวก็ดันหยุดมันไว้เพราะขาดแคลนวัตถุดิบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเสียดายที่สุด

เมื่อได้ยินที่ศาสตราจารย์พูด ฉินสือโอวก็อ้าปากยิ้มพร้อมกับพูดว่า “หอยเชลล์พวกนี้เป็นพันธุ์หอยคุณภาพสูงที่ผมนำมาจากฟาร์มปลาที่อื่น แน่นอนว่าถ้าคุณภาพไม่ดีผมก็ไม่เอามันมาเหมือนกัน”

ปัจจุบันหอยเชลล์ที่นิยมใช้ในการประมงในแคนาดาส่วนใหญ่มี 2 ชนิดที่สำคัญ คือหอยเชลล์อ่าวอเมริกันและหอยเชลล์อ่าวเม็กซิกัน หอยเชลล์ทั้งสองชนิดมีข้อดีและข้อเสีย ปัญหาหนึ่งที่เหมือนกันก็คือคุณภาพที่ลดต่ำลงนั่นเอง

สาเหตุข้อแรกที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น ก็คือการย่อยสลายของเชื้อโรคของหอยชนิดนี้ ข้อที่สองเป็นเพราะมลพิษของสภาพแวดล้อมในการเพาะพันธุ์ สามคือปัญหาเรื่องการจัดการการดำเนินการด้านความหนาแน่นในการผสมพันธุ์ และข้อที่สี่ก็คือปัญหาด้านการผสมพันธุ์

หอยเชลล์ทั้งสองชนิดนี้ได้รับการเพาะเลี้ยงในอเมริกาเหนือมานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว หอยเชลล์อ่าวเม็กซิโกถูกนำเข้ามาจากเม็กซิโก เนื่องจากอำนาจทางการเมืองที่ไม่มั่นคงของเม็กซิโก จึงทำให้จำนวนการนำเข้าระหว่างสองประเทศถูก จำกัด อีกทั้งหอยหนึ่งรุ่น ยังเกิดการผสมพันธุ์ในทุกๆ หกเดือน ดังนั้นหลังจากผ่านการผสมพันธุ์เทียมมานานกว่าครึ่งศตวรรษ มันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดปรากฏการณ์การผสมพันธุ์ในสายเลือดใกล้เคียง

นี่ก็เหมือนกับคน สุขภาพของเด็กที่เกิดจากญาติสนิทนั้น ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะยังดีอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปสภาพการณ์ของการผสมพันธุ์หอยก็จะแย่ลง ในตอนแรกแซนเดอร์สคิดว่าที่ฟาร์มปลาก็น่าจะประสบปัญหานี้เหมือนกัน เขาจึงอยากจะแก้ปัญหานี้เพื่อแสดงศักยภาพความแข็งแกร่งของเขา

แต่แม่พันธุ์หอยที่แข็งแรงพวกนี้กลับไม่ยอมให้โอกาสเขาเลย!

หลังจากเห็นคุณภาพของหอยเชลล์แล้ว แซนเดอร์สก็แนะนำฉินสือโอว ว่าเขาจะทำฟาร์มแบบดั้งเดิมไม่ได้ ควรจะเริ่มต้นทำธุรกิจเพาะลูกพันธุ์ขายมากกว่า เนื่องจากแบบนี้ให้ผลกำไรมากกว่าการทำฟาร์มแบบดั้งเดิม ทั้งยังทำเงินได้เร็ว ไม่ต้องรอให้ถึงหนึ่งปีกว่าจะได้เก็บขาย

ปัจจุบันอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงหอยเชลล์ของแคนาดากำลังประสบกับวิกฤตคุณภาพตกต่ำ ซึ่งมีอยู่ 2 วิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาวิกฤตนี้ได้ วิธีที่หนึ่งคือการนำหอยเชลล์อ่าวเม็กซิโกสายพันธุ์ดั้งเดิมจากสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกมาปรับปรุงพันธุ์อีกครั้ง ทว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือการเลือกสายพันธุ์ที่ดีเพื่อมาผสมพันธุ์และขยายพันธุ์ด้วยตัวเอง แบบนี้มีราคาที่ถูกกว่า แต่ทำได้ไม่ง่าย และมีรอบระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ก็เหมือนการคัดเลือกแม่พันธุ์คุณภาพสูงด้วยตนเอง ที่ต้องใช้เวลาในการคัดกรองและผสมพันธุ์หลายรอบถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการเปรียบเทียบซ้ำๆ

ฉินสือโอวคิดอยู่สักพัก นี่ก็เป็นไอเดียที่ดีสำหรับการพัฒนาเช่นกัน ใช้จิตสำนึกของโพไซดอนในการเปลี่ยนแปลงร่างกายของแม่พันธุ์หอย แบบนี้เพื่อลูกพันธุ์หอยที่ผลิตได้ก็จะมีคุณภาพสูงและถือว่าเป็นการช่วยเหลือสัตว์ทะเลในด้านการเพราะพันธุ์สัตว์ซึ่งเป็นการใช้นิ้วทองคำได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด

………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน