หลังจากกลับฟาร์มปลาแล้ว ฉินสือโอวก็โทรหาบัตเลอร์ บอกเขาว่าต่อไปเวลาทำการโปรโมต อย่าพุ่งเป้าไปแต่ที่ฟาร์มปลาอย่างเดียว จะต้องทำการขยายวิสัยทัศน์ออกไปหน่อย เมืองนี้มีสภาพแวดล้อมที่ดีขนาดนี้ คุณภาพอากาศก็สูงขนาดนี้ ให้เป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมตไปด้วยสิ
บัตเลอร์อึ้งไปพักหนึ่ง “ฉันรู้ แต่ว่าปลาไม่ได้เติบโตในเมืองสักหน่อย แล้วพวกมันก็ไม่ได้สูดอากาศบนน้ำด้วย”
ฉินสือโอวพูดว่า “หัวธุรกิจ เพื่อนฝูง หัวธุรกิจน่ะ! ก่อนอื่น นายต้องเสนอก่อนว่าพวกมันอาศัยอยู่ที่ไหน แล้วก็เสนอว่าพวกมันสูดอากาศจากไหน ปั่นกระแสน่ะรู้จักไหม? อีกอย่าง ปลาโอแถบแห้งต้องพึ่งการตากแดดด้วยไม่ใช่เหรอ? ปลาตากแห้งที่ตากโดยอากาศและแสงแดดของเมืองนี้จะเหมือนกับปลาตากแห้งที่ตากโดยแสงแดดจากเมืองที่เต็มไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมเหรอ?”
“ไหนจะยังพวกสาหร่ายคอมบุ สาหร่ายจีฉ่ายอีก ของพวกนี้ก็ล้วนเติบโตบนผิวน้ำไม่ใช่เหรอ แล้วของที่ผลิตจากในเมืองนี้จะเหมือนกันได้อย่างไร? พวกเราต้องปั่นกระแส ฉันพูดกับนายเลยนะ อากาศของเมืองเราได้มีคนมาซื้อแล้วนะ”
บัตเลอร์พูดว่า “นายพูดถูก ฉันจะทำการใส่เข้าไปในรายการโปรโมตหลังจากนี้ให้ แต่ว่าที่นายบอกว่ามีคนมาซื้ออากาศนี่คืออะไรเหรอ?”
ฉินสือโอวเล่าบทสนทนาที่เขากับหวังฉางไข่ได้คุยกันวันนี้ให้บัตเลอร์ฟัง และแน่นอนว่าได้มีการใส่สีใส่ไข่เข้าไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของแคนาดาในประเทศจีนให้มากขึ้นไปหลายเท่า
บัตเลอร์หัวเราะร่าออกมา จากนั้นก็พูดว่า “นี่น่าสนุกจริงๆ เลย ตอนนี้ไม่เพียงแต่มีขายน้ำสะอาดเท่านั้น ยังมีขายอากาศที่บริสุทธิ์ด้วยเหรอเนี่ย? แต่ทว่า ชิท ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นธุรกิจที่ดีจริงๆ ก็ได้ ฉันว่านะนายหาที่ว่างบนเกาะให้ฉันสักที่หนึ่ง ฉันจำได้ว่าที่ฟาร์มปลาของนายมีที่ว่างสำหรับสร้างบ้านพักได้สิบกว่าหลังว่างอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? เหลือไว้ให้ฉันสักที่หนึ่ง ฉันจะไปสร้างบ้านพัก เอาไว้มาพักตอนแก่!”
อันนี้ง่ายเลย ฉินสือโอวไม่เอาเงินด้วย ให้เขาพาทีมก่อสร้างมาสร้างบ้านพักได้ทุกเวลาเลย
หินอ่อน หินแกรนิต อิฐกับกระเบื้อง ต้นเอฟเวอร์กรีน และดอกไม้อีกนานาชนิดล้วนถูกขนเข้าไปในฟาร์มปลา นี่คือวัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดที่ต้องใช้ในการสร้างสวนดอกไม้ แถมยังเป็นส่วนเล็กๆ เพียงส่วนเดียวเท่านั้น ต่อไปยังจะมีวัสดุอีกมากมายที่จะมาส่งอีก
นักออกแบบผู้กำยำอันเดร์ก็กลับมาด้วย ฉินสือโอวไปรับเขาที่สนามบินด้วยตัวเอง ตำแหน่งของนักออกแบบท่านนี้ในวงการออกแบบสวนดอกไม้เหมือนกับคาเมรอนในวงการภาพยนตร์เลย แถมยังเป็นเพื่อนคนสนิทของเออร์บักอีกด้วย เขาไม่สามารถดูแลให้ขาดเหลือได้
เมื่อเห็นนักออกแบบอาวุโสแล้ว ฉินสือโอวอยากจะพาเขาไปที่ท่าเรือเลย แต่เขาบอกว่าอย่าเพิ่งรีบร้อน ฝั่งเขามีของไม่น้อยเลย
ฉินสือโอวรออยู่สักพัก รถขนส่งของสนามบินสองคันก็ขับเข้ามา คนขับพูดอย่างมีมารยาทว่า “คุณผู้ชายครับ สัมภาระของคุณส่งถึงที่นี่ใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวตกใจแล้วถามว่า “คุณอันเดร์ ของพวกนี้คงไม่ใช่ของที่จะเอาไปใช้ในการสร้างสวนดอกไม้ทั้งหมดใช่ไหมครับ?”
เขาแอบดีใจในใจ ดีที่ไม่ได้สร้างสวนดอกไม้ในฟาร์มปลาก่อนงานแต่ง เพราะนี่ได้เหมือนกับที่เขากังวลเลย จะต้องเละเทะมากอย่างแน่นอนเลย
ตาเฒ่าหัวเราะเหอๆ แล้วพูดว่า “ไม่หรอก ของพวกนี้ไม่ใช่ นี่น่ะเป็นของใช้ส่วนตัวของผมเอง เป็นของจำพวกเสื้อผ้าของผมน่ะ”
ฉินสือโอวเข้าใจแล้ว การสร้างสวนดอกไม้ไม่ใช่งานที่จะเสร็จได้ในเวลาอันสั้น ตาเฒ่านี่จะต้องมาอยู่ที่เขาเป็นเวลาสักพัก เพื่อมาคุมงานก่อสร้างด้วยตัวเอง
นี่ทำให้เขารู้สึกตื้นตันใจอย่างมาก จึงรีบพูดออกไปว่า “ขอบคุณคุณมากครับ คุณอันเดร์ ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี งานสวนดอกไม้นี้ทำให้คุณต้องเหนื่อยแล้ว แถมยังต้องมาพักที่นี่เพื่อคุมงานอีก”
ตาเฒ่าปัดมือไปมาแล้วพูดพร้อมหัวเราะว่า “ไม่ๆ คุณคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ ที่ผมย้ายของมาน่ะ เพราะว่าผมจะย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้แล้ว”
ฉินสือโอวถามอย่างตกใจว่า “ย้ายมาเหรอครับ?”
ตาเฒ่าหัวเราะอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า “ใช่ครับ ย้ายมาอยู่ที่นี่เลย แบบนี้ผมกับเจ้าเออร์บักก็จะสามารถดื่มชา เล่นหมากรุกกับล่าสัตว์ด้วยกันได้แล้ว ที่สำคัญที่สุดก็คือที่นี่ทิวทัศน์ดีมาก จะมีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่ย้ายมาที่นี่ครับ?”
เอาเถอะ เป็นตัวเขาที่คิดมากไปเอง ฉินสือโอวยิ้ม แต่ว่าถึงจะเป็นแบบนี้เขาก็ยังยินดีอยู่ดี หากว่าเมืองนี้ดึงดูดคนอย่างอันเดร์มาอยู่มากกว่านี้อีกหน่อยแล้วล่ะก็ ชื่อเสียงและคุณภาพของคนในเมืองจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ดีที่เขาขับเรือมาเอง จึงจ้างรถกระบะคันหนึ่งเพื่อส่งของจำพวกกระเป๋าเดินทางไปที่ท่าเรือแล้วเอาขึ้นเรือ แล้วก็พาตาลุงไปที่ฟาร์มปลา
คืนนี้ต้องเลี้ยงต้อนรับคุณลุง ฉินสือโอวออกเรือเพื่อไปตกปลาไส้ตันฟลอริดาโดยเฉพาะเลย
สำหรับเรื่องที่ฟาร์มปลามักจะมีปลาและของแปลกๆ โผล่ออกมาให้เห็นเสมอนั้น เหล่าชาวประมงไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรแล้ว พวกเกิงจุนเจี๋ยไม่รู้จักปลาชนิดนี้ เมื่อเห็นฉินสือโอวยื่นให้กับชาร์คอย่างระมัดระวังแล้ว จึงถามว่า “ปลานี่มีค่ามากเหรอครับ?”
หลังจากรับพลังโพไซดอนไปแล้ว ปลาไส้ตันฟลอริดาก็ยิ่งอยู่ยิ่งอ้วนขึ้นทุกวัน ไม่ใช่ปลาที่ผอมกะหร่อง และมีขนาดตัวแค่สามสิบถึงสี่สิบเซนติเมตรในบรรดาฝูงปลาอีกต่อไปแล้ว แต่ว่าปลาชนิดนี้น้ำหนักเบา หนึ่งตัวมีน้ำหนักแค่หนึ่งชั่งนิดๆ เท่านั้น
ชาร์คยกปลาขึ้นมาแล้วพูดว่า “มีค่า? ฮ่า ถ้าเอาปลาพวกนี้ไปวางในตลาดแล้วล่ะก็ แม้ว่าไม่ได้อยู่ในอาหารทะเลแบรนด์ตาฉิน ก็สามารถขายได้หลักหมื่นเหรียญแคนาดาเลย! ถ้านำไปขายภายใต้อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินแล้วล่ะก็ ขายในราคาแสนเหรียญก็สามารถขายได้นะ!”
พวกของเกิงจุนเจี๋ยพากันตกใจเฮือกใหญ่ พากันถามไม่หยุดว่านี่คือปลาอะไร ราคาแพงกว่าปลิงทะเลกับเป๋าฮื้ออีก
ชาร์คบอกว่า “นี่คือปลาไส้ตันฟลอริดา เป็นปลาที่มีค่าและมีน้อยมากชนิดหนึ่ง เนื้อปลาเนียนละเอียดมาก แต่ว่าราคาที่สูงนี้เป็นราคาที่ถูกปั่นออกมานะ ปลิงทะเลกับเป๋าฮื้อในตอนนี้ราคาถูกแล้วนะ ปีที่แล้วเป๋าฮื้อก็ถึงขั้นขายไม่ออกด้วยไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา ปลิงทะเลกับเป๋าฮื้อถูกเหรอ? นั่นน่ะเป็นแบบพันธุ์ทั่วๆ ไปแหละ รอจนหอยเป๋าฮื้อพันธุ์บริติชลายสลับสีของเขามั่นคงแล้วส่งออกไปขายก่อนเถอะ พวกชาวประมงจะได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าเป๋าฮื้อราคาสวรรค์
อันเดร์เป็นนักจัดสวนดอกไม้ระดับสูง มีประสบการณ์มากมาย เขาเคยกินปลาไส้ตันฟลอริดามาหลายครั้งแล้ว แต่ว่าปลาไส้ตันที่อ้วนและนุ่มขนาดนี้เขาเพิ่งเคยกินเป็นครั้งแรก
การทำกับข้าวของคนแคนาดาชอบใช้การทอดเจียวและย่าง ปลาไส้ตันฟลอริดาเหมาะกับการนำไปนึ่ง การทำแบบนี้จึงจะสามารถเผยคุณภาพเนื้อที่ทั้งเนียนนุ่มและอวบอิ่มของเนื้อปลาได้ ตอนที่ฉินสือโอวนำไปนึ่งนั้นได้ใช้ผักจากแปลงผักสวนครัวมารองไว้ใต้ปลา ทำให้สามารถเผยถึงเนื้อที่ขาวดุจหิมะของปลาไส้ตันฟลอริดาได้ดียิ่งขึ้น
พอดีกับที่เบียร์ที่หมักไว้ก็ถึงเวลาดื่มได้แล้ว แต่ว่าเพราะใช้ตู้แช่ฟรีชไว้ เลยทำให้อุณหภูมิต่ำไปหน่อยเท่านั้น
แต่ว่าสำหรับคนแคนาดาแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลย คนแคนาดาเหมือนกับคนอเมริกัน ไม่มีความเคยชินในการดื่มน้ำอุ่นหรือซุปร้อนๆ แม้จะเป็นฤดูหนาว พวกเขาก็ดื่มน้ำเย็น ส่วนเบียร์ยิ่งแล้วใหญ่ที่ต้องดื่มแบบเย็นๆ ทั้งสี่ฤดูเลย
อันเดร์เหมือนกับเพื่อนชาวรัสเซียของเขา ชอบดื่มเหล้า ปกติไม่ค่อยดื่มเบียร์ แต่เบียร์ที่ฉินสือโอวหมักนั้นเขาสามารถดื่มได้นิดหน่อย เพราะว่าเบียร์ที่หมักกันเองในครอบครัวนั้นจะมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างสูง
เบียร์ได้ถูกแบ่งบรรจุลงในขวด และเหมือนกับปูว์เรที่ทั้งเหนียวข้นและหอม เพียงเปิดฝาขวดเบียร์ออกเท่านั้น ก็มีฟองล้นทะลักออกมา ทำให้กลิ่นของจมูกข้าวที่หมักแล้วยิ่งหอมเตะจมูกกว่าเดิม
หลังจากอันเดร์รับมาแล้วก็ดื่มไปก่อนอึกหนึ่ง ดื่มไปเพียงอึกเดียวเบียร์ก็หายไปครึ่งหนึ่ง เขาพูดว่า “อื้ม รสชาติไม่เลว ดีกว่าน้ำเยอะเลย ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่ะ เบียร์นี่สุดยอดมาก เสียอย่างเดียวคือไม่แรงพอ”
พ่อของฉินสือโอวพูดว่า “คุณชอบดื่มเหล้าเหรอครับ? งั้นพอดีเลย ตอนฤดูใบไม้ร่วงเราได้รับข้าวฟ่างมาจำนวนหนึ่ง ที่บ้านเกิดของเรามีวิธีหมักเหล้าข้าวฟ่างที่ดีอยู่วิธีหนึ่ง เดี๋ยวจะหมักเหล้าข้าวฟ่างให้คุณลองชิมดูนะครับ”
……………………………