ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1578 การตกปลาในสายลมแห่งฤดูไม้ผลิ

บทที่ 1578 การตกปลาในสายลมแห่งฤดูไม้ผลิ

ฉินสือโอวส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปยังทะเลสาบเฉินเป่าเพื่อทำการดูลาดเลา หลังจากที่คนของพิพิธภัณฑ์ฟอสซิลและสถาบันวิจัยแห่งชาติกลับไป ทะเลสาบเฉินเป่าก็กลับมาสงบอีกครั้ง

ทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งนี้กลายเป็นเครื่องจักรในการทำเงินแห่งหนึ่งของเมืองแห่งนี้ ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ของโครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวที่สำคัญ น้ำของทะเลสาบเฉินเป่านั้นใสยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทร ดังนั้นโครงการล่องแก่งในทะเลสาบจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก

ทะเลสาบเฉินเป่าได้สร้างอาชีพมากกว่าห้าสิบตำแหน่ง ส่วนใหญ่แล้วเป็นพนักงานทำความสะอาด หลังจากที่วินนี่รับตำแหน่งนายกเทศมนตรี เธอยังคงพยายามอย่างหนักในการปกป้องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของทะเลสาบเฉินเป่า

จิตสำนึกโพไซดอนแหวกว่ายไปมาทั่วทะเลสาบเฉินเป่า มันแตกต่างจากตอนที่เขามาที่นี่ครั้งแรก ตอนนี้มีพืชน้ำจำนวนมากเติบโตอยู่ที่ก้นทะเลสาบ ทุกอย่างอุดมสมบูรณ์มาก ในบางพื้นที่มีพืชน้ำอยู่รวมกันอย่างหนาแน่น และด้านในพืชน้ำพวกนั้นก็มีปลามาหาอาหารเป็นจำนวนมาก

ปลาสายพันธุ์หลักในทะเลสาบเฉินเป่ายังคงเป็นปลาคาร์ฟเอเชีย ปลาคาร์ฟขนาดใหญ่ ปลาคาร์ฟสีดำ ปลาเฉาฮื้อ ปลาซ่งและปลาทอง นอกจากนี้ยังมีปลาท้องถิ่นของแคนาดาอย่างเช่นปลาแบสดำ ปลาควาย ปลาไพค์ ปลานอร์ทเทิร์นไพค์และอื่นๆ อีกมากมายที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต่างจากครั้งแรกที่เข้ามาที่นี่ ซึ่งปลาท้องถิ่นพวกนี้เกือบจะหายไปหมด

นอกจากนี้ ชาวเมืองยังไปนำปลานิลมาปล่อยไว้ในทะเลสาบ ซึ่งก็คือปลาทองแอฟริกัน มันเป็นปลาน้ำจืดที่มีเนื้อแน่นรสชาติอร่อย แต่ว่าจุดประสงค์ของการเพาะพันธุ์ปลาชนิดนี้ ก็คือให้พวกมันมาแข่งกับปลาคาร์ฟเอเชีย เนื่องจากปลาชนิดนี้มีความสามารถในการผสมพันธุ์ที่โดดเด่น และเจริญเติบโตได้ดี

ฉินสือโอวหาปลาบรีมยุโรปเจอแล้ว ก่อนหน้านี้เขาได้เพิ่มพลังโพไซดอนให้ปลาพวกนี้ ปลาบรีมดูมีชีวิตชีวาขึ้นเป็นอย่างมาก ความสามารถในการสืบพันธุ์ก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ในทะเลสาบมีปลาบรีมอยู่จำนวนไม่น้อย ไปๆ มาๆ เขาเจอฝูงปลาบรีมขนาดใหญ่เข้าไปแล้วหลายสิบฝูง

ปลาบรีมมีจำนวนค่อนข้างเยอะ การตกปลาไม่ส่งผลกระทบต่อประชากรปลาอย่างแน่นอน ฉินสือโอวจึงพยักหน้าให้ชาร์ค แล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหา ฉันจะไปร่วมงาน”

การแข่งขันตกปลาในครั้งนี้จัดขึ้นช่วงสุดสัปดาห์ บ้านเรือนเกือบทุกครัวเรือนจะเข้าร่วมการแข่งขันนี้ งานนี้ฮิวจ์คนน้องเป็นคนเริ่ม ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นคนจัดหารางวัล การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองหัวข้อ นั่นก็คือน้ำหนักของปลาบรีมที่จับได้และระยะเวลาในการจับ การแข่งขันครั้งนี้ถูกจัดรางวัลเป็นอันดับหนึ่ง สองและสาม

เช้าวันเสาร์ ฉินสือโอวนำอาร์ติโชคที่ดองจนได้ที่แล้วมาดื่มกับโจ๊ก จากนั้นก็ขับรถพาวินนี่ ลูกสาวและเด็กๆ ไปยังทะเลสาบเฉินเป่าเพื่อที่จะเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันตกปลา

พูดถึงการแข่งขัน อันที่จริงแล้วมันคือกลุ่มคนที่มารวมตัวกันเพื่อท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนนำอาหารมาจากที่บ้าน ในตอนเที่ยงพวกเขาสามารถนั่งรับประทานอาหารกลางวันบนสนามหญ้าข้างทะเลสาบได้แบบสบายๆ

หลังจากลงจากรถ ฉินสือโอวก็เริ่มออกใบอนุญาตตกปลา นี่คือข้อแตกต่างระหว่างแคนาดาและจีน ที่ประเทศจีนทรัพยากรธรรมชาติทุกอย่างเป็นของประชาชนทุกคน เช่นเดียวกันกับปลาและกุ้งที่อยู่ในทะเลสาบ เว้นแต่บ่อปลาส่วนตัวบางแห่งที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรม ส่วนสถานที่อื่นๆ นั้นสามารถตกปลาได้อย่างอิสระ และยังสามารถใช้ไฟฟ้าและอวนได้อีกด้วย ไม่มีกฎให้ปฏิบัติตามและไม่มีอำนาจของใครมาห้าม

แต่ที่แคนาดาไม่เหมือนกัน พวกเขาเชื่อเหมือนกันว่าทรัพยากรพวกนี้เป็นของประชาชนทุกคน ดังนั้นจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ตกปลาสุ่มสี่สุ่มห้า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ที่ไม่ได้ตกปลา นอกจากนี้การทำแบบนี้ยังเป็นการปกป้องทรัพยากรประมงและรักษาสมดุลของการสืบพันธุ์ของปลาอีกด้วย การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ใช่สโลแกนของแคนาดา ที่นี่ถือมาตรฐานที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม

ด้วยเหตุนี้ ทางแคนาดาจึงได้ออกกฎบัญญัติทางกฎหมายออกมา น่านน้ำทั้งหมดไม่สามารถตกปลาได้ตามใจชอบ นักตกปลาทุกคนต้องขอใบอนุญาตตกปลา และนั่นก็คือ ‘บัตร’ ที่ฉินสือโอวกำลังแจกจ่ายให้กับพวกวัยรุ่นทั้งหลาย

แต่ว่า นี่ไม่ได้เป็นการอนุญาตให้ตกปลาตามใจชอบ ข้อจำกัดในการตกปลาคือเรื่องของสายพันธุ์ ปลาบางชนิดไม่สามารถตกได้ตามใจชอบ เช่นปลาคาร์ฟเอเชีย ไม่เพียงแต่เป็นการตกปลาที่ผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังสามารถได้รับรางวัลอีกด้วย

ข้อจำกัดในการตกปลาส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับช่วงเวลาในการตกปลา เช่นปลากะพงสามารถตกได้เพียงช่วงวันที่สิบห้าเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนของทุกปี และยังต้องใช้เบ็ดคันเดียวหรือไม่ก็ใช้วิธียิงปลาเท่านั้น ในการใช้กระแสไฟฟ้าหรืออวนถือว่าผิดกฎหมาย

การทำประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย เทศบาลท้องถิ่นมีหน่วยงานการประมง ซึ่งคนที่รับผิดชอบก็คือวินนี่ ช่วยไม่ได้ เนื่องจากจำนวนข้าราชการน้อย จึงทำให้คนหนึ่งคนต้องรับผิดชอบหลายๆ งาน

กิจกรรมการตกปลาจำเป็นที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานประมงเข้ามาดูแล เพื่อป้องกันผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตเข้ามาตกปลา หรือมีการจับปลาขนาดใหญ่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและรวมถึงการจับปลาที่ผิดกฎหมายด้วย

วินนี่ขับรถเอสยูวีมา ส่วนฉินสือโอวขับกระบะมา รถกระบะของเขาบรรทุกเรือเด็คมาด้วย เมื่อไปถึงทะเลสาบเขาก็ทักทายคนสองสามคนแล้วให้พวกเขาช่วยยกเรือลงมา ที่ด้านหลังยังมีเรือฟักทองอยู่ด้วย วันนี้เหล่าเด็กๆ จะพากันนั่งเรือฟักทองออกไปตกปลา

หลังจากที่ใส่สารกันบูดลงไปเรือฟักทองจะสามารถใช้งานได้สองถึงสามปี ก่อนหน้านี้มีการแข่งขันเรือฟักทองบนเกาะแฟร์เวล ดังนั้นหลายครอบครัวจึงมีเรือฟักทองอยู่ในบ้าน การแข่งขันตกปลาครั้งนี้ พวกเขาขนเรือฟักทองมากันทุกคน ที่ทะเลสาบแห่งนี้จะต้องมีการแก่งแย่งกระแสน้ำกันอย่างแน่นอน

การล่องเรือฟักทองและตกปลาไปด้วยเป็นอะไรที่สนุกมาก นักท่องเที่ยวต่างก็สนใจในกิจกรรมนี้ จึงมีการเริ่มต้นทำธุรกิจขึ้นด้วยความฉลาด โดยมีการให้เช่าเรือฟักทองที่นี่ ดังนั้นผู้คนจำนวนมากที่ล่องลอยอยู่กลางแม่น้ำส่วนใหญ่จึงเป็นนักท่องเที่ยว

วินนี่และฮิวจ์คนน้องจัดกลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยขึ้นมา รวมถึงจัดเตรียมเสื้อชูชีพและห่วงชูชีพมากมายริมฝั่ง นักท่องเที่ยวที่จะล่องเรือในทะเลสาบจะต้องสวมเสื้อชูชีพทุกคนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

เรือฟักทองของเด็กๆ มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ จึงเป็นที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จู่ๆ ก็มีคนถามขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าเรือฟักทองของพวกคุณให้เช่าหรือไม่?”

เด็กๆ พากันส่ายหัว พวกเขาสามารถหารายได้จากการทำงานที่ฟาร์มปลาทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ และไม่ได้ขาดแคลนเงิน กอร์ดอนเป็นคนที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็คิดถึงเรื่องเงินตลอดเวลา แต่เมื่อเขาครุ่นคิดดีแล้วว่ารางวัลสำหรับแชมป์ตกปลาคือหนึ่งพันดอลลาร์ จะให้เขาสละเงินตรงนี้แล้วไปสนใจเงินเล็กๆ น้อยๆ จากการให้เช่าเรือได้อย่างไร

นักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นคือพ่อแม่ลูกสามคน คนเป็นแม่เจรจาว่า “พวกเราอยากไปตกปลาพร้อมกันทั้งครอบครัว แต่ว่าเรือฟักทองลำอื่นๆ ค่อนข้างเล็กไปหน่อย จะเช่าเรือของพวกเธอได้ไหม?”

เชอร์ลี่ย์ไม่ได้สนใจเรื่องตกปลาอยู่แล้ว เธอมองไปยังเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ที่มองมายังเรือฟักทองด้วยความตื่นเต้น จึงตอบกลับไปด้วยความใจดีว่า “พวกคุณใช้ของฉันก็ได้ ฉันเป็นผู้ช่วยตกปลาของฉินก็ได้”

ผู้ปกครองทั้งสองรีบขอบคุณเชอร์ลี่ย์ทันที ผู้เป็นแม่ให้เงินค่าเช่าเรือฟักทองแก่เชอร์ลี่ย์ห้าสิบดอลลาร์และค่ามัดจำอีกสองร้อยดอลลาร์ จากนั้นเรือฟักทองลำใหญ่ก็ถูกลากออกไป

ฉินสือโอวหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “เธอไปเป็นผู้ช่วยมิเชลเถอะ ฉันมีฉงต้าแล้ว”

เรือฟักทองของมิเชลถูกส่งให้คนอื่นไปนานแล้ว เขาทำได้เพียงเฝ้ามองดูเพื่อนๆ พายเรือฟักทองในทะเลสาบอย่างมีความสุขเท่านั้น ยังดีที่ยังมีเชอร์ลี่ย์อยู่เป็นเพื่อน

ไวส์ถามออกมาด้วยความคาดหวังว่า “เชอร์ลี่ย์ เธออยากมาเป็นผู้ช่วยฉันไหม? พวกเรามาเป็นโจรสลัดชายหญิงผู้ท่องเรือในทะเลสาบเฉินเป่ากันเถอะ ไม่แน่ว่าต่อไปในอนาคตพวกเราอาจจะเป็นตำนานก็ได้นะ”

เชอร์ลลี่ย์โมโหเขาเป็นอย่างมาก “อย่ามาพูดจาไร้สาระนะ โจรสลัดชายหญิงอะไรกัน? หากจะไปขโมยก็ไปขโมยเองสิ ฉันจะช่วยฉิน ฉงต้าช่วยไม่ได้หรอก ฉงต้ามีใบอนุญาตตกปลาเหรอ?”

คำถามนี้ค่อนข้างยุ่งยาก บัตรตกปลาของแคนาดาก็คือใบอนุญาตตกปลาซึ่งมีกฎระเบียบเข้มงวดมาก นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย ไม่เพียงแต่จะตกปลาไม่ได้เท่านั้น แม้แต่ผู้ช่วยก็ไม่สามารถเป็นได้

ที่แคนาดา การตกปลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ถือว่าเป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัว ผู้คนมักจะมากันเป็นครอบครัว ถ้าหากว่าผู้ใหญ่ไม่มีใบอนุญาตตกปลา พวกเขาก็จะทำได้เพียงดูการตกปลาได้จากระยะไกลเท่านั้น ไม่สามารถเข้ามาช่วยดึงคันเบ็ดหรือว่าช่วยแบกถังตกปลาได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือการเตรียมเหยื่อไว้ให้เท่านั้น

เป็นธรรมดาที่ฉงต้าจะไม่มีใบอนุญาต แต่ว่ามันไม่ใช่คน ดังนั้นกฎหมายนี้จึงใช้กับมันไม่ได้

………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน