การแข่งขันยึดกฎกติกาตามการแข่งขันบาสเกตบอลนานาชาติ ซึ่งแบ่งเป็นทั้งหมดสี่ช่วง แต่ละช่วงมีสิบนาที ในช่วงที่สองและสามจะมีเวลาพักครึ่งคือสิบห้านาที เวลาคั่นในแต่ละช่วงคือสองนาที เวลาการจู่โจมคือยี่สิบสี่นาที และต้องผ่านไปถึงครึ่งสนามภายในเวลาแปดวินาที หากคนหนึ่งทำผิดกติกาครบห้าครั้งจะต้องถูกปลดออกจากสนาม
เริ่มจากการกระโดดตบบอลกลางสนามก่อน มิเชลยืนอยู่ด้านหลังสุด เขาเป็นคนที่เตี้ยและผอมที่สุดในสนาม เสื้อกีฬาพออยู่บนตัวเขาแล้วทั้งใหญ่ทั้งหลวม มองไปแล้วดูอนาถจริงๆ
ในตอนนี้แฟนบอลที่มาชมการแข่งขันได้ส่งเสียงโห่และเสียงหัวเราะออกมา มีคนถามไม่หยุดว่าเด็กที่เหมือนกับลิงผอมนั่นเป็นใคร มิเชลสามารถได้ยินเสียงพวกนี้ แต่ว่าใบหน้าเขามีเพียงรอยยิ้มจางๆ เท่านั้น ไม่ได้สนใจคำพูดของแฟนบอลเลยแม้แต่นิด อาการเดียวกับตอนที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันในนิวฟันด์แลนด์นั่นแหละ
ผู้เล่นวงในของทีมนานาชาติได้เปรียบก่อน ตอนที่กระโดดตบบอลเซนเตอร์คนดำคนหนึ่งจากประเทศเฮติแย่งบอลมาได้ ความจริงเขาจะต้องส่งบอลให้กับพอยต์การ์ดเพื่อจัดการต่อ แต่หลังจากชู้ตติ้งการ์ดจากทีมนานาชาติได้บอลแล้วไม่แม้แต่จะมองมิเชล เลี้ยงลูกพุ่งเข้าไปข้างหน้าเองซะงั้น
พอเห็นฉากนี้แล้วกอร์ดอนก็โกรธขึ้นมา ยืนขึ้นสะบัดกำปั้นแล้วพูดว่า “เฮ้ เบอร์ห้า นายไอ้คนโง่ ส่งบอลสิ เล่นบาสเป็นหรือเปล่าเนี่ย?”
ในยิมเสียงเอะอะโวยวายมาก แม้ว่ากอร์ดอนจะอยู่ใกล้สนามแข่งมาก แต่คำที่พูดออกไปยังคงถูกเสียงเชียร์ของแฟนคลับคนอื่นๆ กลบไปหมด แน่นอนว่าแม้จะไม่ถูกกลบก็คงไม่มีใครสนใจคำพูดเขาหรอก พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดเบอร์ห้าคนนั้นพอไปถึงสนามฝั่งคู่แข่งแล้วก็หยุดเท้าลงทันที แล้วชู้ตลูกลงไปในห่วงอย่างสวยงาม
ถึงคราวทีมอเมริกันได้บอลแล้ว ฉินสือโอวมองไปที่มิเชลอย่างเป็นกังวล พวกเขาจะต้องมารุมจัดการมิเชลอย่างแน่นอน เพราะว่าดูแล้วเขานี่แหละที่เป็นตัวที่อ่อนแอที่สุด
ดีที่พอยต์การ์ดของทีมอเมริกันก็ไม่สูง สูงแค่หนึ่งเมตรแปดสิบห้านิดๆ เท่านั้น เป็นวัยรุ่นคนผิวดำคนหนึ่ง ตอนที่เขาเลี้ยงลูกไปข้างหน้านั้น พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดของทีมอเมริกันพูดว่า “เฮ้ เจย์ ดูท่าว่าวันนี้นายจะดังแล้วล่ะ นายกะจะทำลายสถิติการทำลูกหรือเปล่า?”
พอยต์การ์ดคนผิวดำหัวเราะอย่างได้ใจแล้วพูดว่า “คอยดูแล้วกันว่าฉันจะจัดการเจ้าเด็กน่ารักนี่อย่างไร”
หลายวันมานี้พอว่างฉินสือโอวก็จะทำการวิเคราะห์รายชื่อและฐานะของนักกีฬาเหล่านี้ พอยต์การ์ดคนผิวดำคนนี้ชื่อเจย์ บรูเซน ปัจจุบันได้ถูกมหาวิทยาลัยวิลลาโนวาคัดตัวไปแล้ว เป็นพอยต์การ์ดที่ฝีมือดีมาก ความเห็นที่ ESPN พูดเกี่ยวกับเขาก็คือ นี่คือพอยต์การ์ดที่แท้จริงคนหนึ่ง เขามีความรู้สึกที่พิเศษกับการแข่งขันในขณะเดียวกันเขาได้มีพรสวรรค์ทางบาสเกตบอลที่น่าขนลุกมากอีกด้วย เขาสามารถสร้างโอกาสการชู้ตลูกได้มากมายแถมยังสามารถหาทางพาเพื่อนร่วมทีมเข้ามาร่วมเล่นกับโอกาสนั้นได้อีก
พูดง่ายๆ ก็คือ เด็กคนนี้เชี่ยวชาญในการฝ่าวงล้อมและส่งลูก เขานี่แหละคือคู่แข่งอย่างเป็นทางการคนแรกในการเดินไปสู่บาสเกตบอลอาชีพของมิเชล
พอยต์การ์ดผิวดำเข้าไปในพื้นที่ยิงประตูสามคะแนนแล้วก็ส่งสัญญาณบอกให้เพื่อนร่วมทีมแยกตัวออกมา เขาก้มตัวลงแยกขาทั้งสองออกแล้วก็ทำการส่งลูกผ่านหว่างขาอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะผ่านมิเชลไปในชั่วพริบตา
ในชั่วพริบตาที่ทั้งสองคนประมือกันนั้น มิเชลที่จ้องมองเขาตาไม่กะพริบได้ยื่นมือออกไปฉับพลัน ตัดการส่งบอลได้ในทันที จากนั้นพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดของทีมนานาชาติที่อยู่ข้างๆ ก็เข้ามาเก็บบอลไป พูดกับมิเชลด้วยน้ำเสียงปนแปลกใจว่า “ทำได้สวย เด็กชายผิวขาว!”
ในการฝึกซ้อมห้าวันที่ผ่านมา มิเชลแสดงฝีมือตามแบบฉบับทั่วไป ไม่เคยมีการแย่งลูกแบบรวดเร็วอย่างเมื่อกี้มาก่อนเลย
ความจริงแล้วสิ่งที่เขาไม่ได้แสดงออกมานั้นมีมากมายนัก มิเชลที่เข้าสู่สนามแล้วจึงจะเป็นปีศาจสาว เวลาอื่นๆ เขาเป็นเพียงแค่วัยรุ่นที่เรียบร้อยคนหนึ่งเท่านั้นเอง
หลังจากปัดลูกสำเร็จแล้ว ทีมนานาชาติก็รีบเข้าจู่โจมทันที แต่ก็ยังคงไม่มีคนสนใจมิเชลอยู่ดี เพาเวอร์ฟอร์เวิร์ดทำการบุกเข้าไปในเขตชู้ตลูกอย่างรวดเร็ว สุดท้ายมีพอยต์การ์ดจากทีมอเมริกันสองคนรีบไล่ตามมากั้นไว้ ลูกบอลที่รีบชู้ตออกไปจึงกระเด็นไปโดนห่วงเท่านั้นแล้วก็ร่วงลงมา
ชายหนุ่มสูงสองเมตรทั้งฝูงอยากจะเข้าไปรีบาวด์ลูกกัน ในตอนนี้นี่เอง เงาผอมกะหร่องเงาหนึ่งได้พุ่งออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว มิเชลชูแขนขวาขึ้นข้างหนึ่งจับลูกบอลไว้ จากนั้นก็ตามด้วยใช้มือซ้ายรับ เสียง ‘หมับ’ ดังขึ้นมา ภายใต้กลุ่มคนที่บ้าคลั่งนั้นเขาทำดีเฟนซิฟรีบาวด์สำเร็จแล้ว!
ในการประมือครั้งเดียว แฟนคลับที่มาชมการแข่งขันเริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว ความเร็วมือ ความเร็วในการวิ่ง การกระโดดและการอ่านเกมส์รีบาวด์ที่มิเชลได้แสดงออกมานั้นถือว่าเป็นพรสวรรค์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก
หลังจากทำรีบาวด์สำเร็จ มิเชลไม่ได้ชู้ตลูกในทันที แต่ส่งไปให้กับพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดที่ยิงลูกไม่เข้าคนก่อนหน้าที่ตอนนี้ได้วิ่งไปยังตำแหน่งว่างแล้ว น่าเสียดายที่วัยรุ่นคนนั้นเกิดความลังเลขึ้นมา ทำให้ไม่สามารถรับบอลมาแล้วชู้ตได้ทัน พอเป็นแบบนี้เมื่อทางทีมอเมริกันตั้งการป้องกันไว้ เขาจึงไม่มีโอกาสลงมืออีก จึงต้องส่งลูกต่อไปแทน
ทีมนานาชาติเล่นไม่เข้าขากัน เมื่อทีมอเมริกันใช้การป้องกันแล้ว พวกเขาจึงบุกเข้าไปไม่ได้ คนในวงในก็หาช่องว่างไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถชู้ตบอลออกไปได้สักที
วิธีการทำลายการป้องกันได้ดีที่สุดก็คือการชู้ต มิเชลโบกมือขอลูก เพราะการแย่งลูกและรีบาวด์ของเขาเมื่อกี้ เพื่อนร่วมทีมจึงเห็นเขามีดีขึ้นมานิดหนึ่ง พอเห็นเขายกมือขอลูกอยู่หลังเส้นสามคะแนนแล้วจึงส่งลูกให้ไป
พอได้รับบอลมา พอยต์การ์ดที่ชื่อเจย์คนนั้นก็กัดฟันแน่นอยากจะเข้าไปกันเขาไว้ สำหรับฉากเปิดตัวที่ถูกตัดหน้าไปนั้น เขารู้สึกเสียหน้ามาก จึงโบกมือแล้วพูดว่า “ฉันออกไปเอง พวกนายสี่คนกั้นต่อ…”
แผนการของเขายังไม่ทันได้พูดจบ มิเชลที่ได้ลูกแล้วก็ชูแขนขึ้นกระโดดทำแต้ม ‘สวบ’ แขนเหวี่ยงขึ้นลง สามแต้มเข้าบัญชีเรียบร้อย!
“ชิท เจ้าเด็กนี่ลงมือได้ไวจริงๆ!” แฟนบอลเริ่มพากันแปลกใจกันขึ้นมาแล้ว
ทีมอเมริกันบุกเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้เจย์ที่เป็นพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดระมัดระวังขึ้นมาก พอมาถึงหน้าสนามแล้วเขาก็หันหลังดวลกับมิเชล เมื่อเห็นแบบนี้ เหล่าแฟนบอลก็พากันพยักหน้า เจย์ตัวใหญ่กว่ามิเชลเท่าหนึ่ง คนดำเป็นคนที่เติบโตได้ง่ายมาแต่ไหนแต่ไร หากบอกว่ามิเชลคือเสือดาวตัวหนึ่งล่ะก็ งั้นเจย์ก็คือสิงโตที่แข็งแรงตัวหนึ่ง
แต่การที่เจย์ทำการบุกเข้าไปโดยหันหลังให้นั้นกลับบุกเข้าไปไม่ได้เลย เขาแปลกใจที่ได้ค้นพบว่า เด็กที่ดูผอมกะหร่องคนนี้มีพลังที่น่ากลัวมาก แม้จะทำการชนเขาหลายครั้งก็ยังชนเขาออกไปไม่ได้ แถมตัวเขายังเป็นฝ่ายถูกเบียดออกไปอีก!
เพื่อนร่วมทีมเห็นถึงปัญหานี้ จึงรีบวิ่งมาช่วยเขา เจย์จึงจำต้องส่งลูกต่ออย่างทำอะไรไม่ได้ แล้วก็ตามมาด้วยเสียงโห่ร้องของเหล่าแฟนบอล พวกเขาไม่รู้ว่าสภาพร่างกายของมิเชลดีแค่ไหน แค่รู้สึกว่าเจย์เป็นพวกไม่เอาไหน จึงพากันโห่ใส่เขากัน
เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้เจย์โกรธขึ้นมา เขาโบกมือเพื่ออยากขอลูกคืน แต่พอได้ลูกคืนแล้วเท่านั้น มิเชลก็ได้แสดงพลังที่เหมือนกับบุคลิกของเขาออกมา นั่นก็คือความรุนแรงราวกับเสือดาวที่ทำให้เขาพุ่งเข้าไป ยื่นมือออกไปแย่งบอลมา แล้วก็ทำการบุกเข้าไปสนามฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
“บุกเร็ว!” เหล่าวัยรุ่นของทีมนานาชาติพากันร้องตะโกนวิ่งตามอยู่ข้างหลัง ส่วนวัยรุ่นของทางทีมอเมริกันก็พากันยกขาวิ่งไปข้างหน้าเพื่อจะทำการตั้งแผนป้องกันด้วย
มิเชลพุ่งไปถึงครึ่งสนามแล้วก็เริ่มลดความเร็วลง ทุกคนล้วนคิดว่าเขาจะทำการบุกเข้าไป แต่ว่าพอเขาเข้าใกล้เส้นสามคะแนนแล้ว ก็กระโดดขึ้นมาเต็มแรง แขนสะบัดออกไปทีหนึ่งสามแต้มอีกแล้ว!
“สวบ!” เสียงลูกบาสกระแทกกับตาข่ายของห่วงดังออกมาเสียงดังฟังชัด แฟนบอลที่เมื่อกี้ยังหัวเราะมิเชลอยู่เลยได้พากันตาค้างไปแล้ว ว้าว นี่มันเป็นความสามารถในการชู้ตสามคะแนนแบบไหนกันเนี่ย?
เสียงดีเจในสนามดังขึ้นมา “นี่คือสามคะแนนถึงแก่ชีวิตที่มาจากปีศาจสาว! มิเชล เออร์บักกกกกกก…หนุ่มน้อยปริศนาที่เหมือนใส่เครื่องชี้เป้าไว้ในมือ ให้ผมทำการแนะนำให้ทุกท่านอย่างเป็นทางการ นี่คือมือชู้ตระดับเทพที่มาจากแคนาดา ได้ข่าวว่าบรรพบุรุษของเขาทั้งสามรุ่นล้วนเป็นพลซุ่มยิง ได้ข่าวว่าในระหว่างการฝึกซ้อมเขาเคยชู้ตลูกสามคะแนนแบบติดกันมาแล้วถึงสองร้อยลูก ให้พวกเราใช้เสียงปรบมือ ต้อนรับการมาถึงสหรัฐอเมริกาของเขากัน!”
…………………………