ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1745 สวนดอกไม้ในฟาร์มปลา

บทที่ 1745 สวนดอกไม้ในฟาร์มปลา

แน่นอนว่าฉินสือโอวกำลังล้อเล่น กลุ่มบริษัท ยูโร ส่งเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำมาให้เขาได้ก็เห็นได้ชัดว่ามีการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดของเฮลิคอปเตอร์สำหรับธุรกิจไม่ใช่จำนวนฟังก์ชันและการตกแต่งภายในที่หรูหรา แต่คือความปลอดภัย ความปลอดภัยเป็นที่หนึ่ง!

แต่ทว่าตอนหลังที่เขาทดสอบการบินของดอลฟิน BC ลำใหญ่ เขาก็พกร่มชูชีพได้ด้วยจริงๆ เพราะถ้าสถานการณ์ไม่ดีก็โดดร่มลงมาได้

เฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำบินอยู่เหนือมหาสมุทรเป็นเวลานานกว่าสองชั่วโมง หลังจากที่นักบินแสดงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการบินทะยานขึ้น ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว บินตะแคง เป็นต้น พวกเขาให้สิทธิ์ในการขับขี่แก่เบิร์ดและบีบีซวงทั้งสองคน ให้พวกเขาลองขับ เพื่อทำความคุ้นเคยกับประสิทธิภาพของเฮลิคอปเตอร์นี้

เฮลิคอปเตอร์ไม่มีปัญหาอะไร อุปกรณ์เสริมที่แถมมาก็ไม่มีปัญหา ซึ่งมีกูเตอร์เรสเป็นคนรับผิดชอบส่วนนี้ ฉินสือโอวพยักหน้าให้เบิร์ดผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของบริษัทอเมริกันเอ็กเพรส หลังจากลงเครื่องมาก็กล่าวว่า “ดีมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นคนขับอยู่ด้านบน แต่นั่นก็เป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง”

ฉินสือโอวเซ็นชื่อในใบเสร็จรับเงินและชำระยอดเงินงวดสุดท้ายให้กับผู้จัดการบัญชีที่ บริษัท ยูโรส่งมา จากนั้นธีโอฟิลล์ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทยูโร สาขาแคนาดาได้โทรหาเขาและถามเขาเกี่ยวกับการรับเครื่องบินอย่างกระตือรือร้น

สำหรับนักธุรกิจเหล่านี้ แต่เป็นฉินสือโอวนายใหญ่ก็เพียงพอแล้ว ถ้าเขาไม่ได้จ่ายเงินก็คงไม่เห็นผู้จัดการโทรมา ทันทีที่ทางด้านนี้จ่ายเงิน เขาที่อยู่ทางนั้นก็โทรมาทันที

แต่เฮลิคอปเตอร์นั้นดีจริงๆ ทั้งเขาและวินนี่ต่างพึงพอใจกับสิ่งนี้แล้ว เฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำยังติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบพิเศษซึ่งเป็นเบาะนั่งแบบนุ่มที่สามารถถอดออก ตอนนั้นฉินสือโอวลืมบอกเรื่องนี้ไป แต่นักออกแบบช่วยติดตั้งให้เขาเรียบร้อย เป็นการบริการที่รอบคอบจริงๆ

หลังจากได้รับเฮลิคอปเตอร์แล้ว ฉินสือโอวก็พาวินนี่ไปตรวจที่โรงพยาบาลสตรีและเด็กเซนต์แมรี่ในเซนต์จอห์นก่อน เขามีประสบการณ์อยู่แล้วและก็มีโอดอมคอยดูแลสุขภาพในช่วงเวลาปกติให้อยู่แล้ว ดังนั้นการตรวจนี้จึงเป็นเพียงการตรวจตามปกติทั่วไป

เพียงแค่คุณแม่ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ ถ้าเช่นนั้นโรงพยาบาลที่แคนาดาก็จะไม่จ่ายยาหรืออาหารเสริมอะไรให้สตรีมีครรภ์ทั้งนั้น

การนั่งเฮลิคอปเตอร์ธุรกิจสุดหรูย่อมดีกว่าเฮลิคอปเตอร์ธรรมดา ผู้โดยสารของเครื่องบินเล็ก AC รุ่นก่อนทำได้เพียงนั่งเท่านั้น แต่คราวนี้คุณสามารถนอนราบหรือปีนป่ายบน AS365 ได้ อีกทั้งเสียงรบกวนก็น้อยกว่า ก่อนหน้านี้ต้องสวมเฮดโฟนเพื่อป้องกันหูของคุณ แต่ตอนนี้เมื่อปิดประตูเครื่อง แม้ว่าจะยังมีเสียงรบกวน แต่ก็พอทนได้

ฉินสือโอวเทน้ำให้วินนี่หนึ่งแก้ว นั่งอยู่ข้างๆ คุยเป็นเพื่อนเธอ วินนี่มองไปซ้ายขวาแล้วกวักมือเรียก “คุณนั่งเข้ามาหน่อยสิ กอดฉันสิ”

ฉินสือโอวปล่อยที่นั่งข้างๆ ไป ทั้งสองที่นั่งสามารถประกอบเข้าด้วยกันได้ พออยู่ด้วยกันก็เป็นเตียงขนาดเล็กหนึ่งเตียงทั้งสามารถนอนพักผ่อนบนนั้นได้ และยังทำอะไรอย่างอื่นบนนั้นได้ด้วย

ขณะที่กอดวินนี่ ฉินสือโอวมองออกไปด้านล่างข้างนอกหน้าต่าง ตอนนี้โรคกลัวความสูงของเขาบรรเทาขึ้นมาก เมื่อนั่งเครื่องบินไม่รู้สึกหวาดกลัวอีกต่อไป สามารถมองวิวที่อยู่ด้านล่างได้

ไม่มีอะไรให้ดูในมหาสมุทรมากนัก แต่พอถึงเกาะแฟร์เวล ก็มีวิวทิวทัศน์ให้ดูมากขึ้น

ในฤดูร้อนเกาะนี้จะเขียวชอุ่ม ราวกับไข่มุกสีเขียวเม็ดหนึ่งที่ห้อยอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก น้ำทะเลสุกใสซัดสาดกระทบตัวเกาะทุกทิศทุกทาง กระทบหาดทรายแต่ละหาด ในฟาร์มปลาเรือประมงหลายลำกำลังเดินทางกลับ บนเรือเต็มไปด้วยปลา เครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ของบัตเลอร์จอดที่สนามบิน รอที่จะบินขึ้นไปบนฟ้าแล้วจากไป

รอบๆ ทะเลสาบเฉินเป่า บรรยากาศของสงครามผู้กล้าเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว บอลลูนลอยอยู่เหนือทะเลสาบ ด้านล่างแขวนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ สนามหญ้าริมทะเลสาบถูกแบ่งออกเป็นถนนเป็นสายๆ ฉินสือโอวจ่ายเงินเพื่อวางแผนในการทำพื้นที่สนามหญ้า โดยใช้วัสดุอย่างเปลือกกระดาษ ไม้ พลาสติก เป็นต้น สร้างเป็นประสาท และกำแพงพวกนั้น

เมื่อมองไปที่สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ เขาก็รู้สึกขึ้นมาฉับพลัน พูดว่า “คุณไม่สามารถเข้าร่วมได้แล้วสินะ? เสียดายจังเลย”

วินนี่ร้องฮึ “ทำไมจะเข้าร่วมไม่ได้ล่ะ? ได้แน่นอนสิ ฉันเป็นหัวหน้านางฟ้านะ ใช้เจ็ทแพ็คส่วนบุคคลบินไปรอบๆ ได้ ไม่ต้องขยับแม้แต่น้อย ดังนั้นไม่มีผลกระทบต่อทารกแน่นอน”

ชาวแคนาดามีทัศนคติในการใช้ชีวิตที่แข็งแกร่งมาก ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่ต้องอยู่เดือน แล้วก็ไม่ต้องห้ามทำนู่น ห้ามทำนี่ ขอเพียงแค่ไม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า กินยามั่วซั่วก็พอ หลังจากที่สตรีมีครรภ์ผ่านช่วงความเสี่ยงในตอนแรกไปได้ ก็สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไป

เมื่อกลับถึงฟาร์มปลา เดิมทีฉินสือโอวอยากจะออกไปจับกุ้งกุลาดำ แต่ชาร์คที่เพิ่งออกไปจับมาบอกว่าให้รออีกสองสามวัน เพราะว่ากุ้งตัวเมียเพิ่งวางไข่ ตอนนี้ตัวยังไม่อวบอ้วนสมบูรณ์ดี รอปลายเดือนสิงหาคมที่กุ้งจะตัวอวบอ้วนมีเนื้อนุ่มมากขึ้นค่อยไปจับ

เมื่อเป็นแบบนี้ เวลาว่างของเขาที่เหลือก็มากกว่าเดิม ตอนกลางวันพอเขาว่างก็ไปรับส่งวินนี่ไปทำงาน เล่นกับลูกสาวแถวริมชายหาด หยอกล้อเล่นกับแมวน้ำ นากทะเล และพวกเต่ามะเฟือง วันๆ หนึ่งผ่านไปอย่างสุขสบาย

บางครั้งเขาก็พาพวกเด็กๆ ไปหมักเบียร์สดที่กระท่อมเบียร์ พอทำออกมาได้เยอะ ผนวกกับสิ่งที่เรียนรู้มาเขาก็คิดค้นแผนปรับปรุงในการผลิตเบียร์ออกมาด้วยตัวเองโดยใช้เบียร์ฮ็อพ และยังทดลองผลิตเบียร์ดำออกมา รสชาติแตกต่างจากเบียร์ทั่วไป

การเปลี่ยนแปลงในฟาร์มปลามากขึ้นเรื่อยๆ โครงสร้างพื้นฐานของสวนดอกไม้ใกล้จะเสร็จแล้ว พื้นที่สี่ในห้าส่วนที่วางแผนไว้ตอนแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ในส่วนที่ห้าที่เป็นสวนดอกไม้ธรรมชาติที่มีน้ำพุร้อนยังอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงเดือนกันยายน

ตอนนี้เข้าสู่พื้นที่สวนพื้นที่แรก บริเวณแรกเริ่มจากตำแหน่งของป่าเล็กๆ เชื่อมต่อกับลำธารสายเล็กๆ ที่คดเคี้ยวไปตามเทือกเขาเคอร์บัล หลังจากถมดินและขุดดินไว้แล้ว ก็จะเปลี่ยนพื้นที่ราบเรียบให้กลายเป็นเนินเล็กๆ ได้

เนินเขาแต่ละลูกเชื่อมต่อกันตั้งแต่ต้นไปจนท้ายสุด ทุกที่จะมีทางเดินสายเล็กๆ ที่ปูด้วยหิน เมื่อยืนขึ้นไปบนเนินจะเห็นวิวลำธารไหลมาบรรจบกับมหาสมุทร แม้ว่าเนื่องด้วยต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรที่ลงทุนไป ทำให้เนินเขาไม่ได้ดูยิ่งใหญ่มาก แต่ก็มีความละเอียดอ่อนมากทีเดียว

บนเนินเขาถ้าไม่มีศาลาเล็กๆ ก็มีลานเล็กๆ ศาลาที่ทำจากไม้จันทน์ศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นที่สถานที่แห่งนี้ซึ่งอยู่บนเนินเขาที่สูงที่สุด

สวนแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยดอกไม้ มีลำน้ำคดเคี้ยวควบคู่ไปกับศาลา สวนดอกไม้แห่งนี้ทำให้ป่าเล็กๆ ของฟาร์มปลาและสวนดอกไม้อื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังดูมีการพัฒนาที่ดีขึ้น มีทั้งภูมิทัศน์ที่เป็นธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรม

นอกจากนี้แล้วตรงกลางลำธาร อังเดรยังจัดให้มีทะเลสาบเล็กๆ หรือสระน้ำขนาดเล็กที่มีขนาดประมาณสามถึงสี่หมู่ (หน่วยวัดจีน) มันอยู่ติดกับลำธารด้านข้างโดยน้ำในลำธารจะไหลลงสู่สระน้ำก่อน จากนั้นรอจนน้ำในลำธารเต็ม มันก็จะไหลล้นไปสู่มหาสมุทร

ภายในไม่กี่วันปลาแซลมอนแอตแลนติกฝูงหนึ่งก็ปรากฏตัวอยู่ในสระน้ำขนาดเล็กแห่งนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกมันมาวางไข่ พอวางไข่สุกใสที่มีขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งแล้วก็จากไป ปล่อยให้ไข่ปลาแซลมอนฟักตัวอยู่ที่นี่

สวนยังคงขยายออกไปและสุนทรียภาพทางสถาปัตยกรรมประดิษฐ์เริ่มเป็นจุดสำคัญ พื้นที่บริเวณที่สองเป็นสวนสไตล์ยุโรปซึ่งออกแบบเป็นพระราชวังโรมันโบราณภายในมีบ้านไม้ที่ทำเป็นปราสาท นอกปราสาทมีต้นไม้เขียวชอุ่มตลอดทั้งปีที่ถูกตัดแต่งเป็นทรงกลมหรือทรงดาบอยู่

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีรูปปั้นปูนขาวจำนวนมาก ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือร่องรอยของโพไซดอน ตามความต้องการของวินนี่ ฉินสือโอวได้ซื้อรูปปั้นของเทพธิดาแห่งความงามและเทพีแห่งปัญญามา จากนั้นก็รวบรวมเทพเจ้ากรีกและให้พวกเขาได้ประชุมกันที่นี่

……………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท