ฉินสือโอวเลิกเสื้อของชาลส์ขึ้นมาเผยให้เห็นปืนสีดำขลับ เหล่าตำรวจน้ำเห็นแบบนั้นก็หันปากกระบอกปืนไปที่ชาลส์แทน
ความรู้สึกที่โดนคนอื่นใช้ปากกระบอกปืนจี้มันแย่มากๆ เหมือนชีวิตไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไปแต่เป็นของอีกฝ่าย เมื่อกี้ฉินสือโอวกลัว คราวนี้ถึงคราวชาลส์บ้าง เขาตกใจจนร้องโหยหวนไม่หยุด
ตอนนั้นเองก็มีคนชี้ไปที่จุดไกลๆ แล้วตะโกนขึ้นมา “ดูนั่น มีฝาโลงลอยขึ้นมาอีกแล้ว”
เหล่าตำรวจน้ำหันหน้าไปดู ชาลส์ก็พยายามหันไปมอง หลังจากนั้นสีหน้าเขาก็เผยความร้อนรนออกมา
เพราะพกอาวุธแล้วยังมีการใช้อาวุธข่มขู่คนอื่น ตำรวจน้ำเลยจับชาลส์อัดเสีย ฉินสือโอวจะแจ้งความเขาแน่นอน เขาโทรหาเออร์บักแล้วถามโต้งๆ ว่าเรื่องแบบนี้จะจัดการอย่างไรให้ชาลส์ได้รับโทษสูงสุด
เหล่าตำรวจน้ำตรวจดูกะโหลกบนฝาโลงจากนั้นก็รีบไปจุดที่ฝาโลงลอยขึ้นมา พวกเขามีชุดดำน้ำ ตำรวจน้ำสองนายสวมเสร็จก็หยิบเอาปืนยิงปลากับไฟฉายใต้น้ำจากนั้นก็กระโดดลงไป
เพราะมีสาหร่ายสีน้ำตาลการค้นหาโลงศพใต้ทะเลจึงเป็นไปอย่างยากลำบากเล็กน้อย ฉินสือโอวเอาฝาโลงอันหนึ่งกับสาหร่ายสีน้ำตาลมาพันไว้ด้วยกัน พอเจอฝาโลงอันนั้นแล้วตำรวจน้ำดำลงไปต่อก็จะเจอกับโลงมากมาย
หลังจากนั้นเมื่อตำรวจแคนาดาตามมาถึง หัวหน้าตำรวจน้ำกับหัวหน้าตำรวจแคนาดาก็ทำการเจรจา หลังจากที่พวกเขาคุยกระซิบกระซาบกันไม่กี่ประโยค รูปมากมายก็ถูกปริ้นส์ออกมาแล้วนำมาส่งให้เขาถึงมือ
พอเห็นโลงศพกับซากศพ สีหน้าของเหล่าตำรวจก็เคร่งเครียดขึ้นมา พวกเขาโทรหาหัวหน้า และวันนั้นก็มีเรือกู้ซากมาในแถบทะเลนั้น
ฉินสือโอวอยากหาเรื่องชาลส์ แต่ไม่มีตำรวจสนใจเขาจนเขาร้อนรนขึ้นมา “เฮ้ๆ เพื่อน ตรงนี้มีคนพกอาวุธปืนข่มขู่ผมอยู่นะ ช่วยจับเขาก่อนได้ไหม?”
ตำรวจนายหนึ่งพูดด้วยความติดรำคาญ “คนอเมริกันคนนั้นก็ใส่กุญแจมืออยู่ไม่ใช่เหรอ? คุณไปรอก่อนเถอะ ตรงนั้นเป็นคดีที่สำคัญกว่า!”
ความมืดเริ่มเข้าปกคลุม ฉินสือโอวก็กลับเข้าไปในตึกเล็ก บนผืนน้ำทะเลมีเรือแล่นไปแล่นมา ทั้งเรือกู้ซากทั้งเรือลาดตระเวน มีเรือมากถึงยี่สิบลำมาที่นี่ นอกจากนี้ยังมีนักข่าวจากสื่อมาด้วย ทั้งคืนนั้น เขตทะเลของฟาร์มปลาเนืองแน่นไม่มีอะไรเทียบ
เรื่องหลังจากนั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉินสือโอวแล้ว มีตำรวจมาจดบันทึกให้เขากับชาวประมง เริ่มจากบันทึกเรื่องที่ชาลส์ใช้ปืนขู่เขา ฉินสือโอวเน้นเรื่องที่อีกฝ่ายยืนยันอยากจะได้ฝาโลงกับกะโหลก ตำรวจรายงานเรื่องนี้ขึ้นไป คนที่มาบันทึกให้เขาก็เปลี่ยนเป็นหัวหน้าของตำรวจแคนาดา
สารวัตรรู้ถึงอิทธิพลของฉินสือโอว เวลาปฏิบัติกับเขาก็ใจเย็นมาก ท่าทีดีจนหาที่ติไม่ได้ ตอนที่เกือบจะบันทึกเรียบร้อยเขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง
ฉินสือโอวหูดีเป็นพิเศษ สารวัตรก็ไม่ได้หลบเลี่ยงอะไรเขา ดังนั้นเขาก็เลยพอได้ยินว่าปลายสายพูดอะไร
ฟาร์มปลามีโลงกับซากศพโผล่มาเยอะแยะแบบนี้ แล้วยังเป็นจุดใกล้ชายฝั่งแถมมีสาหร่ายสีน้ำตาลเป็นสัญลักษณ์ แม้แต่เขาก็คิดออกว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับคาร์เตอร์เจ้าของฟาร์มปลา ตำรวจจะนึกไม่ถึงได้อย่างไร?
ทางตำรวจไม่ได้แค่สงสัยคาร์เตอร์เท่านั้น ยังสงสัยเจ้าของฟาร์มปลาคนก่อนของฟาร์มปลาเบอร์สามด้วย แต่ว่าพอมีคนสอบสวนคาร์เตอร์ เขาก็รับผิดในไม่นาน บอกว่าร่างพวกนั้นเขาเป็นคนช่วยจัดการเอง
ฉินสือโอวได้ยินข้อมูลแค่เท่านี้ เขานึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับคาร์เตอร์จริงๆ ดูท่าตอนนี้หมอนั่นคงต้องอยู่ในคุกไปจนหมดอายุขัยแน่
ตอนบ่ายวันที่สอง เออร์บักมาที่ฟาร์มปลา ฉินสือโอวพาเขาไปสถานีตำรวจเพื่อจะแจ้งความชาลส์
คนที่ต้อนรับเขาก็คือสารวัตรที่ทำบันทึกให้เขาเมื่อคืน เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า “คุณไม่ต้องแจ้งความเขาแล้ว ไม่มีประโยชน์หรอก หมอนั่นน่ะโดนส่งกลับอเมริกาข้ามคืนไปแล้ว”
“เวร นี่มันบกพร่องในหน้าที่นี่!” ท่านชายฉินโกรธขึ้นมาทันใด เขานึกไม่ถึงว่าตระกูลมอร์รี่จะมีอิทธิพลขนาดนี้
สารวัตรส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “คุณฉิน ฟังผมพูดให้จบก่อน พวกเรางมโลงขึ้นมาได้ทั้งหมดสิบหกโลง ในนั้นมีผู้ตายทั้งหมดสี่สิบห้าราย ในจำนวนนี้มีส่วนหนึ่งที่ระบุตัวตนได้แล้ว ล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกแก๊งมาเฟียที่หายตัวไป”
“ตอนนี้คดีนี้กลายเป็นคดีระหว่างประเทศไปแล้ว อเมริกาให้เอฟบีไอ สำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ตำรวจอาชญากรรมของรัฐตั้งทีมมาสืบสวนคดีนี้โดยเฉพาะ คุณชาลส์ มอร์รี่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลิต ขนส่ง ค้าขายยาเสพติด และฆาตกรรมโดนทีมพิเศษนี้เอาตัวไปแล้ว”
พอได้ยินแบบนั้นแม้ว่าฉินสือโอวจะเตรียมใจมาแล้วแต่ก็ตกใจอยู่ดี เขาถามขึ้นว่า “เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับชาลส์ มอร์รี่?”
ปฏิกิริยาตอนนั้นที่ชาลส์เห็นฝาโลงกับกะโหลกก็ยืนยันว่าเขาต้องเกี่ยวแน่ๆ แต่ก็นึกไม่ถึงว่ายังเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย
“เกี่ยวกับตระกูลมอร์รี่ทั้งตระกูล” สารวัตรไขว้แขนเท้ากับโต๊ะทำงานในขณะที่เล่าไปด้วย “ตามคำให้การของคาร์เตอร์ ร่างพวกนี้ล้วนแล้วแต่แอบขนมาพร้อมกับอาหารทะเลมาที่ฟาร์มปลาของเขาให้เขาช่วยจัดการ”
“ทำไมตระกูลมอร์รี่ไม่จัดการเอง ต้องให้คาร์เตอร์ช่วย?” ฉินสือโอวถามอย่างแปลกใจ
สารวัตรยักไหล่ผายมืออย่างจนใจ “ขอโทษด้วย ผมไม่ได้รับผิดชอบการสอบปากคำเขา ก็เลยไม่รู้เหตุผลเฉพาะเจาะจง แต่ตระกูลมอร์รี่จะจัดการร่างมากมายขนาดนี้ในอเมริกาก็ไม่ง่าย เพราะเอฟบีไอกับสำนักปราบปรามยาเสพติดจับตามองพวกเขาอยู่ตลอด”
คุยกับสารวัตรได้สักพัก ฉินสือโอวถึงรู้ว่าตระกูลมอร์รี่ไม่ได้เป็นอย่างที่เขารู้จัก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเอฟบีไอกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติดก็เดาว่าพวกเขาอาจจะเกี่ยวข้องกับการขนส่งยาเสพติดข้ามชายแดนอเมริกาและแคนาดา แต่แค่หาหลักฐานไม่ได้
ตอนนี้ในที่สุดก็มีหลักฐาน พวกเขาทำการจับกุมตระกูลมอร์รี่ยกใหญ่
หลายวันต่อมา ฟาร์มปลาก็ไม่เงียบสงบ คดีใหญ่นี้เป็นกระแสมากในทั้งอเมริกาและแคนาดา มีนักข่าวไม่น้อยมาสัมภาษณ์ฉินสือโอวที่ฟาร์มปลากับเจ้าของคนเก่าของฟาร์มปลาคาร์เตอร์
และจากทุกคน ฉินสือโอวกับชาร์คและคนอื่นๆ กลายเป็นจุดสำคัญของการสัมภาษณ์ เพราะพวกเขาเป็นคนพบฝาโลง กระทั่งพูดได้ว่าพวกเขาเป็นคนจับชาลส์ได้
ฉินสือโอวโยนงานสัมภาษณ์ให้พวกชาร์คไป เขาหลบไปที่คฤหาสน์ในอุทยานแห่งชาติ และสั่งห้ามไม่ให้ใครเปิดเผยการเคลื่อนไหวของเขาเด็ดขาด
แต่ว่าเขาสนใจคดีนี้อยู่ตลอด รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมากๆ ช่องทีวีของรัฐโนวาสโกเชียถึงขั้นทำรายการมาติดตามคดีนี้โดยเฉพาะ
ก่อนอื่นเลยเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นที่ประมูลฟาร์มปลาคาร์เตอร์ตระกูลมอร์รี่จะต้องทุ่มเงินมาแย่งฟาร์มกับเขา และเข้าใจแล้วด้วยว่าทำไมคาร์เตอร์ไม่สนเรื่องที่ภรรยาหักหลังเขาโดยการติดป้ายขายฟาร์มปลา
พอเขารู้ว่าตัวเองต้องติดคุกก็รู้แล้วว่าภรรยาที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาจะทำอะไร ดังนั้นเขาก็เลยเจรจากับตระกูลมอร์รี่ ให้ตระกูลมอร์รี่รักษาฟาร์มปลาเขาไว้ รอเขาออกมาจากคุกค่อยคืนให้เขา
หมากในมือของคาร์เตอร์ก็คือร่างไร้วิญาณที่ตระกูลมอร์รี่ส่งมาที่ฟาร์มปลาของเขาสองครั้งเมื่อสิบหกปีก่อน
อย่างที่สารวัตรกล่าว ตระกูลมอร์รี่มีส่วนในธุรกิจผลิตและค้าขายยาเสพติดมาตลอด เอฟบีไอจับตามองพวกเขาไม่คลาดสายตา ในอเมริกาพวกเขาไม่สามารถจัดการกับซากมากมายที่เกิดขึ้นในระหว่างการผลิตยาและการปะทะกับมาเฟียค้ายากลุ่มอื่นได้แต่ใช้วิธีทำเรื่องขนส่งอาหารทะเลที่ได้รับการยกเว้นส่งมาแคนาดาให้คาร์เตอร์จัดการ
……………………………………………..