บทที่ 23 เซควนเขตตะวันออก
ไม่ว่าใครได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคิดที่จะฆ่านี้ของหลินอิ่ง ต่างก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
เสิ่นซานเหงื่อที่หน้าผากออกมาเป็นเม็ดๆ ได้ยินถึงรสชาติของคาวเลือดอันคละคลุ้งอย่างรุนแรง
“คุณนัดเซควนออกมาเจรจาตอนนี้เลย” หลินอิ่งกล่าวอย่างนิ่งๆ
เสิ่นซานสีหน้าตึงเครียด กล่าวอย่างลังเลใจว่า: “ท่านหลิน ถึงเซควนจะต้องการเจรจา ก็จะต้องยินยอมเพียงแค่ที่เขตตะวันออกอย่างแน่นอน ในนั้นคืออาณาบริเวณของเขา…… ”
ในสายตาหลินอิ่งเปล่งประกายไปด้วยความคิดที่จะฆ่า: “งั้นก็ไปที่เขตตะวันออก!”
“ท่านหลิน เซควนมีอิทธิพลอย่างมากในเขตตะวันออก ฉันเกรงว่าจะเป็นการเสียเปรียบ……” สีหน้าของเสิ่นซานเปลี่ยนเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างฉับพลัน
เขาและเซควนคบค้าสมาคมกันมาหลายต่อหลายปี ย่อมรู้ชัดถึงศักยภาพของเซควน
ท่านเสิ่นซานเขาเป็นใหญ่ในเมืองหนานเฉิง แต่เขาต้องการนำคนเข้าไปที่เขตตะวันออกไปสร้างความรบกวนให้เซควน เขาก็ไม่ได้รับผลดีนัก
ในที่สุดหลายปีมานี้ พวกเขาก็ต่างคนต่างอยู่………
“คุณไม่กล้า?” หลินอิ่งสีหน้าท่าทางไม่ใส่ใจ มองไปยังเสิ่นซาน
เสิ่นซานเผชิญหน้ากับสายตาที่เยือกเย็นของหลินอิ่ง แล้วก้มหน้าลงทันที ภายในใจต่อสู้กันเล็กน้อย
“จะจัดการตามท่านหลินอย่างระมัดระวัง!” เสิ่นซานกัดฟัน ใจหนักแน่น กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย ลุกขึ้นแล้วออกไป เสิ่นซานติดตามเคียงข้างไปด้วยความเคารพ
ในเวลานั้น เสิ่นซานก็โทรศัพท์ไปยังเซควน นัดเซควนออกมาเจรจา
หลายนาทีต่อมา
หลินอิ่งและเสิ่นซานก็เดินทางออกจากซิงกวางหุ้ย
ด้านล่างมีรถโตโยต้าสีดำนับสินคันมารวมตัวกันอย่างมีอำนาจ แต่ละคันล้วนมีชายสวมสูทสีดำท่าทีมีความสามารถหลายคนนั่งมาด้วย
เสิ่นซานก็ตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวมาก นำหัวกะทิตัวตั้งตัวตีข้างกาย ทั้งหมดต่างก็เคลื่อนไหวเข้ามา
หลินอิ่งพร้อมด้วยเสิ่นซานนั่งรถLand Roverคันนึงไป รถนับสิบคันต่างมุ่งตรงไปยังเขตตะวันออก
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น………
เขตตะวันออก ทะเรือเฟยวูของเขตตะวันออก
นี่คือสถานที่เปลี่ยวห่างไกลความเจริญที่นึง อีกอย่างก็เป็นท่าเรือเก่าแก่รกร้างมาหลายปี โดยภาพรวมแล้วก็กลายเป็นพื้นที่กองขยะขนาดใหญ่ ซากรถเศษเหล็กล้วนทิ้งไว้ในนี้ ด้านแม่น้ำก็มีเพียงเศษซากปรักหักพังของเรือ
ด้านบนท่าเรือก็ยังมีตึกสูงโรงงานที่ทิ้งรกร้างไว้หลายหลัง โดยพื้นฐานปกติแล้วจะไม่มีคนเข้ามา
ขณะนี้ รถของเสิ่นซานพร้อมทั้งขบวนรถทั้งหมดต่างก็จอกทิ้งไว้ยังด้านนอกโรงงาน
บอดี้การ์ดสวมใส่ชุดสูทสี่ห้าสิบคน ต่างก็ลงจากรถ และเดินติดตามเสิ่นซานเข้าไปยังโรงงานร้าง
ประตูใหญ่หน้าตัวอาคารโรงงาน มีกลุ่มพวกชายสวมเสื้อสูทรูปร่างสูงใหญ่ ขวางเสิ่นซานและหลินอิ่งเอาไว้
“ท่านเสิ่นซาน คนของคุณ อยู่ได้แค่ด้านนอก” ชายรูปร่างสูงใหญ่ใส่แว่นตาดำกล่าวด้วยเสียงที่เคร่งขนขรึม
“นี่?” ท่านเสิ่นซานขมวดคิ้วเล็กน้อย และมองไปยังหลินอิ่ง
หลินอิ่งค่อยๆพยักหน้า “ไม่เป็นไร พวกเราเข้าไปสองคนก็พอแล้ว”
บอดี้การ์ของเสิ่นซานถูกขัดขวางไว้ด้านนอก หลินอิ่งและเสิ่นซานเข้าไปยังในโรงงานเพียงลำพังสองคน
ภายในตึกสูงของโรงงานร้าง แสงไฟสว่างจ้า
ภายในอาคารมีภาพเงาของคนหนาแน่น ซึ่งมากกว่าห้าหกสิบคน แต่ละคนดูนิสัยดุร้าย ทั้งหมดล้วนยืนเรียงกันเป็นแถว
ใจกลางตัวอาคารโรงงาน มีโต๊ะไม้ผืนสี่เหลี่ยมโต๊ะหนึ่งวางไว้ มีกาน้ำชาใบนึงตั้งไว้ มีถ้วยน้ำชาสองถ้วย ชายวัยกลางคนผมทรงลานบินสวมเสื้อหนังสีดำคนนึง กำลังรินน้ำชา
ชายผมทรงลานบินดูสงบเงียบมั่นคง แต่ทว่าในสายตาช่างเยือกเย็นอย่างยิ่ง
สีหน้าท่าทีที่เคร่งขรึมของเขามองมายังเสิ่นซานและหลินอิ่งที่เดินเข้ามา ยกมุมปากขึ้นอย่างยิ้มๆ
“ท่านเสิ่นซาน พวกเราไม่ได้พบหน้ากันมาตั้งหลายปีแล้ว คุณยังมีท่าทีเหมือนเดิมเลยนะ เสียงดังน่าเกรงขาม” เซควนกล่าวอย่างยิ้มๆ เหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี
“เซควน คุณไม่ต้องมามุขนี้กับฉัน” เสิ่นซานหมุนลูกประคำในมือ สีหน้าปกติ เปิดอกคุยกันอย่างตรงไปตรงมา “ฉันมาที่เขตตะวันออกวันนี้คือมาหาบุคคลสำคัญของคุณ”
“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เองหรอ? ท่านสามถึงกับต้องพาคนมาหาถึงที่ด้วยตนเองเลยหรอ?” เซควนยิ้มๆ พูดอย่างช้าว่า “เพียงแค่คนที่เป็นลูกน้องมีปัญหาขัดแย้งกันเล็กน้อย ท่านเสิ่นซานแจ้งล่วงหน้าก็แล้วกัน ฉันยังสามารถไม่ไว้ท่านสามอีกหรอ?”
เสียงหักข้อนิ้วของเซควน “ปล่อยคนของท่านสาม”
คนติดตามชุดดำข้างกายของเขา ทันทีก็นำชายชุดสูทหกคนออกมาจากในห้องเล็กๆของโรงงานทั้งหมดคือลูกน้องเสิ่นซาน ที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งให้ไปจับกุมหนูที่เขตตะวันออก
“ท่านสาม คุณกับฉันต่างคนต่างอยู่มาโดยตลอด ครั้งนี้คือคุณยื่นมือข้ามเขตมา แต่ว่าฉันก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยมากเกินไป เพียงแค่ไม่มีครั้งต่อไปแล้ว!” เซควนดื่มชาถ้วยนึง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณพาคุณกลับไปเถอะ ถ้าคุณอยากดื่มชาสักถ้วย น้องชายของคุณหลายสิบคนที่รออยู่ข้างนอกไม่สบายใจ ฉันก็จะพาไปร้านอาหารตุงหยาง ให้ทุกคนได้กินดื่มสักมื้อ มีความสัมพันธ์ที่ดี ครั้งนึงไม่ใช่เพื่อประโยชน์อะไร ถ้าหากไม่ต้องการดื่มชาแก้วนี้ งั้นตอนนี้ ท่านสามก็เชิญคุณกลับไปเถอะ!”
เขาก็ไม่รู้ว่าเมืองหนานเฉิงเสิ่นซานจู่ๆเหวี่ยงอะไร จ้องมองไปยังหนูลูกน้องของตัวเอง ยังคิดที่จะฉวยหาประโยชน์ในมือของตนเอง
เพียงแต่ ไม่ถึงขนาดที่จะไปต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายกับเสิ่นซานในเรื่องนี้ ทำเรื่องเล็กนิดเดียว วันหน้าก็ได้พบกันอีก
“เซควน คนที่ฉันต้องการในครั้งนี้ คือหนู!” เสิ่นซานกล่าวแสดงออกอย่างเคร่งขรึม
เซควนหรี่ตาลงเล็กน้อย ในสายตาพรั่งพรูแสงแห่งความเยือกเย็นออกมา
เคล้ง!
เซควนโยนถ้วยชาในมือลงพื้นจนแตกละเอียด กล่าวอย่างเย็นชาว่า: “หนู ส่งแขก!”
ท่าทีแสดงออกอย่างชัดเจน
เวลานี้ ข้างกายเซควน ก็มีชายวัยกลางคนรูปร่างผอมๆเตี้ยๆคนนึงเดินออกมา
“ท่านสามไม่รู้ว่าที่คุณมาหาฉันด้วยเรื่องอะไร เพียงแต่ว่า เขตตะวันออกยังไม่ถึงตาที่คุณจะเข้ามายุ่งเกี่ยว เชิญกลับไปซะ” การแสดงออกของหนูไม่มีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ยกมือขึ้นแล้วกล่าว
เส้นเลือดที่หน้าผากเสิ่นซานก็นูนออกมา สีหน้าท่าทางโกรธเล็กน้อย แต่ภายในใจเขาก็ชัดเจนแล้วว่า ขืนพูดต่อไปก็จะต้องผิดใจกันเป็นแน่……
“คุณคือหนูใช่ไหม? เรื่องKing of the worldของบริษัทเครื่องประดับจางซื่อนั้น คุณเป็นคนเอาไปใช่ไหม?”
หลินอิ่งยืนขึ้นมา มองไปยังหนู กล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงออก
เสิ่นซานสามารถทำจุดๆนี้ได้ ตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่มากแล้ว เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเสิ่นซานจะสามารถฆ่าเซควนในเขตเขตตะวันออก
“ คุณมายุ่งอะไรด้วย? นี่ถึงตาที่คุณจะพูดแล้วหรอ?” หนูกล่าวแล้วจ้องมองหลินอิ่ง อย่างโหดเหี้ยม
“นี่คือลูกน้องของคุณหรอ?” เซควนยิ้มอย่างเย็นชาแล้วมองไปยังเสิ่นซาน กล่าวซักถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียนว่า “คนที่คุณพามา ล้วนไม่เข้าใจกฎเกณฑ์พื้นฐานที่สุดเลยหรอ?”
“ท่านหลิน นี่คือเซควนและหนู ควรทำยังไงดี ทั้งหมดตามแต่คุณจะจัดการ” เสิ่นซานกล่าวด้วยสีหน้าเข้มงวด และหลังจากนั้นก็ถอยมาอยู่ด้านหลังของหลินอิ่ง
เห็นเสิ่นซานให้ความเคารพต่อหลินอิ่ง เซควนก็ขมวดคิ้วขึ้น กล่าวถามอย่างสงสัยว่า: “คุณเป็นใคร?”
“หลินอิ่ง” หลินอิ่งกล่าวอย่างไม่สนใจ มองไปยังเซควน “ฉันถามคุณ King of the world อยู่ในมือของคุณใช่ไหม?”
“King of the world? หลินอิ่ง?” เซควนสีหน้าท่าทางลังเลใจ ดูเหมือนว่าจะนึกอะไรขึ้นได้ แล้วก็ยิ้มขึ้นมาทันที
“คุณก็คือหลินอิ่งไอ่คนไร้ประโยชน์คนนั้นที่แต่งเข้าเป็นลูกเขยของตระกูลจางใช่ไหม? ฮ่า ฮ่า! ไอ่คนไร้ประโยชน์อย่างคุณนี้ สะเออะมาร่วมสนทนากับกู?” เซควนหัวเราะขึ้นมาอย่างเต็มที่
เขารู้แล้วว่า ชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้านี้ มาเพื่อเรื่องอัญมณีมูลค่ากว่าสิบล้านนั้น
ก่อนหน้านี้สองวัน จางเถียนไห่ลูกชายคนที่สามของตระกูลจางมาหาตนเอง แนะนำการซื้อขายที่ดี บอกว่าจางซื่อกรุ๊ปจะทำเครื่องประดับอัญมณีมูลค่ากว่าสิบล้านออกมา จางเถียนไห่รับปากที่จะช่วยเป็นไส้ศึกในการปล้น หลังจากเรื่องราวสิ้นสุดลงก็ส่งอัญมณีคืนตนเอง
เขาคิดๆดู นี่ไม่ใช่เรื่องดีที่มาส่งถึงประตูบ้านหรอ? แถมยังไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงอีก! ทันทีจึงจัดการให้หนูไปทำเรื่องนี้ เดิมทีหนูก็เป็นคนชำนาญการ บวกกับได้จางเถียนไห่ช่วยเหลือภายในบริษัทอีก ก็ยิ่งขโมยของออกมาได้อย่างสบายๆ
คิดไม่ถึงว่าเจ้าโง่หลินอิ่งคนนี้ จะกล้ามาที่เขตตะวันออกเพื่อหาสิ่งของกับตนเอง รนหาที่ตายจริงๆ
“เสิ่นซาน? ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่า คุณแม่งเป็นคนแรกที่มีตำแหน่งสูงสู่ในกลุ่มมาเฟียของหนานเฉิง ไม่นึกเลยว่าจะเรียกหลินอิ่งไอ่คนขี้ขลาดตาขาวไร้ความสามารถนี้ว่าท่านหลิน?” เซควนหัวเราะขึ้นมา สีหน้าเย่อหยิ่งอย่างมาก
“แล้วก็คนไร้ประโยชน์อย่างคุณอะ ทำของหายแล้วยังกล้ามาตามหากับเซควนอย่างฉันหรอ? คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่ยาวๆหรือไง?”
พูดพลาง เซควนก็ควักปืนพกสีเงินออกมา เล็งไปยังบนหน้าผากของหลินอิ่ง!