Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1342 : วิชาห้าธาตุสังหาร

บทที่ 1342 : วิชาห้าธาตุสังหาร

   เจ้าเห็นหรือไม่ดูเหมือนหลงเทียนฟางจะรีบร้อนจนเกินไป! 

  เย่เทียนตูเห็นหลงเทียนฟางรีบร้อนพัฒนาขั้นในระหว่างประลองเช่นนี้จึงได้แต่หันไปพูดกับเย่เทียนสุ่ยยิ้มๆ

   เฮ้อ.. 

  เย่เทียนสุ่ยส่ายหน้าไปมาพร้อมกับถอนหายใจแล้วจึงกล่าวต่อ  หลิงหยุนไม่เพียงดูดซับพลังหยางของนักบวชจากเขาหลงหู่ได้ แต่นี่เขายังดูดซับปราณมังกรของหลงเทียนฟางเข้าไปได้อีกงั้นรึ ร่างกายของหลิงหยุนเหตุใดจึงน่าอัศจรรย์เยี่ยงนี้นะ? 

  หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่งเย่เทียนสุ่ยจึงได้แต่พึมพำออกมาว่า  อยากรู้นักว่ากระบี่ลมปราณของตระกูลเย่ หลิงหยุนยังจะสามารถดูดซับเข้าไปด้วยได้หรือไม่ 

  แต่แล้วเสียงตอบก็ดังขึ้นมา..    ย่อมได้! 

  เย่ชิงซินบิดเรือนร่างงดงามหันกลับไปตอบเย่เทียนสุ่ยพร้อมกับอธิบายต่อว่า  เพราะกระบี่ลมปราณของศิษย์สำนักกระบี่คุนหลุน และของตี๋ยั่วถังแห่งสำนักกระบี่เทียนซาน ล้วนถูกหลิงหยุนดูดซับเข้าไปแล้วทั้งสิ้น.. 

  กระบี่กังฉีของหลิงหยุนนั้นล้วนเกิดจากการที่เขาดูดซับเอากระบี่ลมปราณของยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับที่สองเข้าไปนั่นเอง

  เย่เทียนสุ่ยและเย่เทียนตูถึงกับหันไปมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง!

  เย่ชิงซินจ้องมองหลงเทียนฟางที่กำลังพัฒนาขั้นพลังของตนอย่างตั้งใจ ข้าได้ยินมาว่าหลงเทียนฟางจงใจยับยั้งขั้นของตนไว้ที่ระดับสูงสุดขั้นอู่เฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-5) มานานมากกว่าหนึ่งปีแล้ว ครั้งนี้คงต้องสามารถเข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นลิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-6) ได้อย่างไม่มีปัญหา และยังมีโอกาสก้าวหน้ากว่านั้นด้วย.. 

   เห็นชัดว่าครั้งนี้หลงเทียนฟางต้องการเอาชีวิตของหลิงหยุนหลิงหยุนคงต้องเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่ทีเดียว! 

  เย่เทียนสุ่ยพยักหน้าเห็นด้วย เพียงแค่นี้หลิงหยุนก็นับว่าเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แล้ว หากหลงเทียนฟางพัฒนาขั้นได้ถึงหนึ่งขั้นใหญ่เช่นนี้ ข้าว่าหลิงหยุนต้องตกที่นั่งลำบากแน่! 

  แต่เย่เทียนตูกลับไม่คิดเช่นนั้น ไม่แน่เสมอไป! อย่าลืมว่าหลิงหยุนยังมีกระบี่หยางพิสุทธิ์! 

  เย่เทียนตูยังจำได้ว่ากระบี่หยางพิสุทธิ์ของหลิงหยุนนั้นได้ทำให้ยอดฝีมือของคุนหลุนทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องล่าถอยมาแล้ว เขายังจดจำภาพนั้นได้ไม่ลืม!

  เย่ชิงซินพยักหน้ายิ้มๆ เจ้ากล่าวได้ถูก! เวลานี้อาจดูเหมือนว่าหลงเทียนฟางเป็นฝ่ายได้เปรียบหลิงหยุน แต่ก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะหลิงหยุนยังไม่ได้นำกระบี่หยางพิสุทธิ์ออกมาใช้ จึงยากที่จะสรุปได้ว่าผู้ใดจะพ่ายแพ้ถูกสังหารตายกันแน่ 

  แต่แล้วจู่ๆเย่เทียนสุ่ยก็เอ่ยถามขึ้นว่า น้าหญิง เช่นนี้แล้วหากหลิงหยุนตกอยู่ในอันตรายจริงๆ พวกเราควรเข้าไปช่วยเขาหรือไม่ 

  เย่ชิงซินตอบกลับไปทันที ไม่มีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น! 

  จากนั้นเย่ชิงซินก็หันหน้าไปทางหลงเฮ่าวเฉียนและนั่นแทนคำตอบได้เป็นอย่างดีว่า หากนางลงมือช่วยหลิงหยุนต่อสู้กับหลงเทียนฟาง หลงฮ่าวเฉียนเองก็คงไม่ยอมนิ่งเฉยแน่ และจะต้องมาสะกัดนางไว้ไม่ให้สามารถช่วยหลิงหยุนได้อยู่ดี

   แม้ว่าเทียนตูจะสามารถรับมือหลงเทียนซินได้แต่ต่อให้ประมือไปอีกกี่พันกระบวนท่า ก็ยังยากที่จะหาผู้แพ้ผู้ชนะได้ ส่วนเจ้า.. 

  เย่ชิงซินเหลือบมองไปทางเย่เทียนสุ่ยแล้วจึงกล่าวต่อ ต่อให้เจ้าอยากจะช่วยหลิงหยุน แต่ก็คงยาก เพราะด้วยกำลังของเจ้าในเวลานี้ เพียงแค่ทำลายเกราะป้องกันของหลงเทียนฟางยังไม่ได้เลย.. 

  เย่เทียนสุ่ยได้แต่เกาหัวแกรกๆ

   พวกเจ้าไม่ต้องกังวลใจไปพวกเรารอดูก่อนว่าหลิงหยุนจะตอบโต้กลับไปเช่นใด 

  เย่ชิงซินเอ่ยยิ้มๆแล้วจึงหยุดพูดทันที

  ……

  หลังจากที่พัฒนาขั้นได้สำเร็จจนพลังสีทองสุกสว่างเปล่งประกายไปทั่วร่างแล้วหลงเทียนฟางก็กระโดดตามหลิงหยุนลงมาที่พื้นดินด้านล่างทันที!

  บูม!

  กระแสวนหยิน–หยางปรากฏขึ้นหมุนอยู่รอบตัวและเวลานี้ร่างของหลิงหยุนก็มีเกราะลมปราณสีเทาที่แข็งแกร่งกว่าเดิมถึงสามเท่าครอบคลุมอยู่ทั่วร่าง อีกทั้งยังมีดวงดาวทอประกายแสงระยิบระยับ และแสงนวลของดวงจันทร์สว่างอยู่รอบตัว

  ไม่เพียงเท่านั้นเวลานี้พลังจันทราจากดวงจันทร์บนท้องนภา ก็ได้ทอดลงมาสู่ร่างของหลิงหยุน ดูประหนึ่งสายรุ้งที่กำลังทอดลงจากท้องฟ้าเบื้องบน มาสู่ร่างของหลิงหยุนที่อยู่เบื้องล่าง เป็นภาพที่งดงามและน่าตกตะลึงยิ่งนัก!

  เวลานี้ร่างกายของหลิงหยุนมีเกราะป้องกันอยู่ถึงห้าชั้นทั้งกระแสวนหยิน–หยาง เกราะลมปราณ ดาราคุ้มกาย รวมทั้งยันต์เกราะและชุดผ้าแพรไหมทองคำ!

  แม้ว่าหลงเทียนฟางจะสามารถพัฒนาขั้นได้และมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างน่ากลัว แต่หลิงหยุนกลับไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่เตรียมเกราะป้องกันตัวของตนให้พร้อมเท่านั้น

  หลงเทียนฟางคำรามลั่นอีกครั้งพร้อมกับพุ่งหมัดเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว..

   ลองลิ้มรสหมัดของข้าอีกครั้ง! 

  หมัดของหลงเทียนฟางหลังจากที่พัฒนาขั้นแล้วนั้นนับว่าแข็งแกร่งและทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้อย่างมาก!   หลิงหยุนเองก็คำรามลั่นเช่นกันจากนั้นจึงกระโดดเข้าหาหลงเทียนฟางพร้อมกับซัดหมัดปีศาจเถียนกังเข้าใส่กำปั้นของหลงเทียนฟางอย่างไม่นึกเกรงกลัวเช่นกัน

  ตูม!

  หมัดทั้งสองข้างของหลิงหยุนปะทะเข้ากับหมัดหนึ่งข้างของหลงเทียนฟางอย่างรุนแรง!

  และทันทีที่พลังปราณจากกำปั้นทั้งสามปะทะเข้าใส่กันอย่างรุนแรงนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น และเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งปฐพี..

  บนพื้นดินด้านล่างเวลานี้ก้อนหินขนาดใหญ่เกือบสองเมตรได้ลอยขึ้นจากพื้น และกำลังหมุนไปทั่วทั้งหุบเขาตามกระแสลมปราณที่รุนแรง เมื่อปะทะเข้ากับต้นไม้ ต้นไม้ก็หัก เมื่อปะทะเข้ากับก้อนหินที่เล็กกว่า ก้อนหินก็แตกกระจาย..

  ภาพที่ปรากฏอยู่เวลานี้เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของพลังปราณจากทั้งสองฝ่ายว่าน่าหวาดผวาเพียงใด!

  กระแสวนหยิน–หยางถูกพลังปราณจากหมัดของหลงเทียนฟางซัดจนแตกกระจุยเกราะลมปราณฉีกขาดในทันที และแสงดวงดาวระยิบระยับและแสงจันทร์ที่ส่องสว่างเมื่อครู่ก็ค่อยๆหม่นลงจากพลังหมัดเพียงหมัดเดียวของหลงเทียนฟาง..

  ชุดผ้าแพรไหมทองคำของหลิงหยุนก็ถูกพลังปราณจากหมัดของหลงเทียนฟางจนเวลานี้ขาดทะลุเป็นรูขนาดใหญ่!

  ส่วนร่างของหลิงหยุนนั้นก็ไม่ต่างจากก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนนั้นเลยแม้แต่น้อยเวลานี้ร่างของเขาลอยระลิ่วราวกับว่าวที่ขาดจากเชือก ไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่เจ็ดแปดต้นจนหักระเนระนาด และท้ายที่สุดก็ไปกระแทกเข้ากับหน้าผาหินอย่างแรงก่อนจะร่วงลงกระแทกกับพื้น!

  ตูม!

  เสียงร่างของหลิงหยุนร่วงหล่นดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณตามมาด้วยเสียงก้อนหินแตกกระจุยกระจาย และเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งหุบเขา!

  การที่หลงเทียนฟางเข้าสู่ขั้นลิ่วเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-6) ทำให้เขามีพลังแข็งแกร่งไม่ต่างจากอสูรกายเลยแม้แต่น้อย!

  ร่างของหลิงหยุนกระแทกกับหน้าผาและร่วงลงกระแทกกับพื้น จนกลายเป็นหลุมลึกเกือบหนึ่งเมตรจึงหยุด

   ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก! 

  หลิงหยุนได้แต่พึมพำออกมาด้วยความตกใจและพยายามกลั้นโลหิตที่กำลังจะพุ่งออกจากลำคอของตนไว้ เวลานี้หลิงหยุนรู้สึกชาไปทั้งแขน และแทบจะยกแขนทั้งสองข้างไม่ขึ้น แต่เมื่อลองสำรวจร่างกายดูอย่างละเอียด เขาจึงพบว่าหมัดของตนนั้นแตกละเอียด และเลือดสีแดงสดก็พุ่งออกจากลำคอทันที!

   หลิงหยุน! 

  เย่ซิงเฉินเห็นหลิงหยุนถูกหมัดของหลงเทียนฟางกระเด็นลอยละลิ่วออกไปเช่นนั้นใบหน้าของเธอก็ซีดเผือด และวิ่งตรงเข้าไปหาหลิงหยุนที่หน้าผาทันที!

   ซิงเฉินเจ้าอย่าได้กังวลใจไป ข้าไม่เป็นอะไร! 

  เวลานี้ริมฝีปากที่ซีดเผือดของหลิงหยุนนั้นมีเลือดไหลออกมาไม่หยุดแต่หลิงหยุนได้รับบาดเจ็บภายในไม่หนักมาก เขารู้ว่านี่คือพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของหลงเทียนฟางแล้ว แต่กลับทำให้เขาได้รับบาดเจ็บภายในเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น!

  หลิงหยุนเรียกยันต์บำบัดระดับหกออกมาสองแผ่นและทำการรักษาอาการกระดูกแตกของฝ่ามือทั้งสองข้าง แล้วจึงยกมือขึ้นเช็ดเลือดสีแดงที่ไหลออกจากมุมปาก ก่อนจะกระโดดขึ้นจากหลุมอย่างรวดเร็ว

   เอาล่ะ..คราวนี้ถึงคราวที่เจ้าต้องรับมือข้าบ้างแล้ว! 

  หลังจากที่ได้พ่ายแพ้ไปอย่างมากแล้วหลิงหยุนก็ร้องตะโกนออกมาอย่างเดือดดาลเช่นกัน!

  หลายคนในที่นั้นต่างก็นึกประหลาดใจที่หลิงหยุนไม่ยอมใช้กระบี่หยางพิสุทธิ์..

  หลิงหยุนรวบรวมพลังจิตที่แข็งแกร่งของตนและเพียงครู่เดียว กระดูกสันหลังสีทองของเขาก็สุกสว่างมากขึ้น จากนั้นแสงสีทองนี้ก็ได้กลายเป็นหอกที่มีรูปร่างคล้ายมังกรสีทองยาวกว่าสามเมตรพุ่งออกมา

  และนี่คือวิชาห้าธาตุสังหารและธาตุที่ใช้อยู่เวลานี้คือมังกรธาตุทอง!

  วิชานี้นับเป็นวิชาที่ใช้จู่โจมคู่ต่อสู้ที่ทรงอานุภาพเช่นเดียวกับวิชาหยางพิสุทธิ์และดูเหมือนจะเหนือกว่าเล็กน้อยด้วย!

  หลิงหยุนยังคงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวแต่หอกมังกรทองของเขานั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ร่างของหลงเทียนฟางอย่างรวดเร็ว!

  และความเร็วของหอกมังกรทองนั้นก็แทบไม่ต้องพูดถึง..เพราะนับว่าเร็วกว่าเสียงถึงสองเท่า!   เพราะทันทีที่พุ่งออกจากแผ่นหลังของหลิงหยุนแล้วปลายหอกก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของหลงเทียนฟางในทันที!

   คิดว่าจะทำอะไรข้าได้งั้นรึ! 

  หลงเทียนฟางยกฝ่ามือขึ้นและแบมือกำปลายหอกมังกรทองของหลิงหยุนที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วได้อย่างง่ายดาย!

  แต่แล้วหอกมังกรทองของหลิงหยุนก็พุ่งผ่านเข้าไปในฝ่ามือสีทองของหลงเทียนฟางแล้วเคลื่อนไปทางหัวไหล่ของเขาอย่างรวดเร็ว!

  แล้วโลหิตสีแดงก็พุ่งกระฉูดออกจากฝ่ามือและไหล่ของหลงเทียนฟาง ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บถึงสองแห่ง!

  หลงเทียนฟางถึงกับหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกับร้องตะโกนถามออกมาด้วยความตกใจ  นี่มันพลังอะไรกัน 

   พลังสำหรับสังหารเจ้ายังไงเล่า 

  หลิงหยุนแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันหลังจากที่จู่โจมหลงเทียนฟางจนได้รับบาดเจ็บได้สำเร็จจากนั้นเขาก็เรียกหอกมังกรทองกลับมาทันที!

  หลังจากได้ลิ้มรสของหอกมังกรทองหลงเทียนฟางก็ไม่กล้าใช้ร่างกายรับหอกของหลิงหยุนอีกเลย จึงได้แต่กระโดดหลบหนีหอกอันทรงพลังนี้แทน!

  หลิงหยุนยังคงใช้หอกมังกรทองจู่โจมใส่หลงเทียนฟางไม่หยุดเมื่อพบว่ามันสามารถทะลุเกราะป้องกันของหลงเทียนฟางไปได้ เขาจึงได้เผาหยดเสินหยวนอีกครั้ง และใช้พลังจิตสร้างหอกมังกรทองไล่ล่าหลงเทียนฟางอย่างไม่หยุดยั้ง!

  หลังจากเผาหยดเสินหยวนแล้วจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนก็ขยายขอบเขตรัศมีครอบคลุมถึงห้ากิโลเมตร จากนั้นหลิงหยุนจึงใช้จิตหยั่งรู้ของตนจับไว้ที่ร่างของหลงเทียนซินกับหลงฮ่าวเฉียน เพื่อป้องกันการจู่โจมอย่างกะทันหันจากพวกเขาทั้งคู่

  ถึงแม้ว่าหลงฮ่าวเฉียนจะมีสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อเห็นหลงเทียนฟางได้รับบาดเจ็บแต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะลงมือกับหลิงหยุนแม้แต่น้อย!

  หลิงหยุนเห็นเช่นนั้นจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกจากนั้นจึงหันไปหัวเราะใส่หน้าหลงเทียนฟาง

   หลงเทียนฟาง..เป็นอย่างไรบ้างเล่า 

  จากนั้นหลิงหยุนก็กระโดดขึ้นไปยืนบนกระบี่เหินเงาธนูแล้วเหาะไล่ล่าหลงเทียนฟางไปทันที ในขณะเดียวกันก็ใช้พลังจิตสร้างหอกมังกรทองพุ่งใส่ร่างของหลงเทียนฟางหมายสังหารให้ตาย

   อย่าคิดว่าจะหนีข้ารอด! 

  หอกมังกรทองที่มีความเร็วมากกว่าเสียงถึงสองเท่ากำลังพุ่งเข้าใส่ร่างของหลงเทียนฟางพร้อมๆกนถึงสองอัน และดูเหมือนว่าใกล้จะถึงจุดจบของหลงเทียนฟางแล้ว..

   เทียนฟางระวัง! 

  หลงฮ่าวเฉียนคิดไม่ถึงจริงๆว่าหลังจากที่หลงเทียนฟางพัฒนาขั้นแล้ว หลิงหยุนยังจะสามารถทำลายเกราะป้องกันของเขาได้ อีกทั้งยังสามารถพลิกกลับมาเป็นฝ่ายจู่โจมที่รุนแรงและน่ากลัวได้!

  หลงเทียนฟางเร่งเหาะหนีหอกมังกรทองของหลิงหยุนอย่างสุดกำลัง..

  แต่หลิงหยุนได้ใช้ยันต์วายุปิดไว้ที่ร่างและด้วยอานุภาพของยันต์วายุ มีหรือที่หลงเทียนฟางจะสามารถหลุดรอดจากการไล่ล่าของเขาไปได้

   นี่หลิงหยุน!เจ้าบอกข้าก่อนว่าเจ้าใช้พลังอะไรกันแน่ 

  หลงเทียนฟางได้รับบาดเจ็บแต่ก็สามารถรักษาได้เช่นเดียวกับหลิงหยุน และเวลานี้บาดแผลของหลงเทียนฟางก็ได้ถูกปราณมังกรผสานเข้าด้วยกันจนไม่มีเลือดไหลออกมาอีกแล้ว เขาเหาะหนีหลิงหยุนไปด้วยพร้อมกับร้องตะโกนถามด้วยความอยากรู้ไปด้วย..

   ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วไงเล่า..มันคือพลังสำหรับสังหารเจ้า! 

  ทั้งสองคน..คนหนึ่งเหาะหนี ส่วนอีกคนเหาะไล่ล่า และหลิงหยุนก็ยังคงพุ่งหอกมังกรทองเข้าใส่ร่างของหลงเทียนฟางไม่หยุด ทั้งคู่เหาะไล่ล่ากันไปทางทิศเหนือ และเพียงแค่พริบตาเดียวก็เหาะไปได้ไกลมากกว่าสิบกิโลเมตรแล้ว

  บูม!

  เมื่อเห็นว่าไม่อาจหนีหอกมังกรทองของหลิงหยุนได้พ้นหลงเทียนเจียวจึงได้เผาหยดหลงหยวนอีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ระเบิดโอสถโลหิตมังกรที่อยู่ในจุดตันเถียนของตนอีกสามเม็ดทันที

  ในขณะที่หลิงหยุนเองก็ยังคงเหาะตามร่างของหลงเทียนฟางไปไม่หยุดพร้อมกับใช้จิตหยั่งรู้ของตนจับไว้ที่ร่างของเขาด้วย!

 

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท