บทที่ 74 คุณคิดมากเกินไป
ชายชุดดำท่าทางเย็นชา มายืนอยู่ข้างหลังหวางจื่อเหวินอย่างเงียบๆ และยกมือที่ถือกระเป๋าตกปลาสีดำขนาดกว้างและยาวขึ้น
กระเป๋าตกปลามีรูปร่างยาวเหมือนลำกล้องปืน จ่ออยู่ที่ด้านหลังศีรษะของหวางจื่อเหวิน
“พวกข้างหลัง อย่าเข้ามายุ่ง จะถูกยิงเอา…..” หวางจื่อเหวินพูดด้วยใบหน้าซีดเซียว และยกมือสองข้างขึ้น มีเหงื่อไหลหยดจากหน้าผาก
เขารู้สึกได้ถึงความเย็นของลำกล้องปืนที่ด้านหลังหัว และร่างกายของเขาก็หนาวสั่น!!
“บอกให้ผู้คุ้มกันของแกทิ้งปืนไป และหมอบลงให้หมด!” ชายในชุดดำพูดอย่างเย็นชา
“ทุกคนทำตาม! รีบหมอบลงไปให้หมด!” หวางจื่อเหวินท่าทางหวาดกลัว ตะโกนสั่งมือปืนผู้คุ้มกันกลุ่มนั้น
ก๊องแก๊งๆ
ชายในชุดสูทเจ็ดแปดคนต่างพร้อมใจกันทิ้งปืนไป และยกมือขึ้นนั่งยองๆกับพื้น
“พวกข้างหลัง วางปืนลงได้ไหม คนพวกนี้ไม่ได้ล้อเล่นนะเว้ย” หวางจื่อเหวินตัวสั่น ด้านหลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นๆ
ขณะพูด หวางจื่อเหวินหันหน้าไป มีชายชุดดำอยู่ด้านหลัง สีหน้าก็เปลี่ยนไป
“แกคือไอ้หก แกถือปืนจ่อหัวฉันงั้นเหรอ” หวางจื่อเหวินทั้งตกใจและโกรธ และถาม “ใครส่งแกมาที่นี่”
“หุบปาก” ไอ้หกพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ฉันจำคุณได้ แต่ปืนของฉันมันจำคุณไม่ได้หรอก”
ขณะพูด ไอ้หกใช้กระเป๋าตกปลาจ่อเข้าที่หัวของหวางจื่อเหวิน
กล้ามเนื้อใบหน้าของหวางจื่อเหวินแข็งทื่อ จนหน้าซีด ตัวสั่น และขาแทบจะอ่อนแรง
ฟ่อ!
ในตอนนี้ ก็มีรถบูกัตติ เวย์รอนสีแดงกุหลาบขับเข้ามาจากตรอก และจอดอยู่กลางซอย
ชายในเสื้อคลุมสีดำคนหนึ่งเปิดประตูรถอย่างชำนาญ และมีขายาวขาวใส่รองเท้าส้นสูงสีดำคู่หนึ่งก้าวลงมา
มีหญิงสาวร่างสูง รูปร่างหน้าตาน่าหลงใหล สวมเสื้อโค้ทสไตล์วินเทจปักลายฉลุสีแดง เดินเข้ามาอย่างกระวนกระวาย
มุมปากของหวางหงหลิงยกขึ้นเล็กน้อย เธอมีรูปลักษณ์ที่สง่างาม เกล้ามวยผม เธอถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตามีเสน่ห์ชวนมองคู่หนึ่ง
เธอมองไปที่หลินอิ่งด้วยสายตาขี้เล่น จากนั้น จ้องไปที่หวางจื่อเหวินด้วยสายตาที่เย็นชา
“น้องฉี คุณจะทำอะไร แม้ว่าฉันกับคุณจะไม่ถูกคอกัน แต่ฉันก็ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณนะ หรือคุณต้องการที่จะฆ่าฉันด้วย” หวางจื่อเหวินพูดด้วยสีหน้าที่แย่มาก
“หึ หึ” หวางหงหลิงหัวเราะเยาะด้วยท่าทีรังเกียจ “ดูสภาพความขี้ขลาดของคุณสิ กลัวจนแทบจะฉี่ราดกางเกงแล้ว ยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลหวาง และยังกล้าทำท่าทำทางโอ้อวดข้างนอกอีกเหรอ”
หวางจื่อเหวินโกรธจนหน้าแดงเหมือนตับหมู เขาหายใจเข้าลึกๆ แต่ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
เขาคิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะกำลังสั่งสอนไอ้เศษสวะหลินอิ่ง หวางหงหลิงผู้หญิงบ้าคลั่งคนนี้ก็ออกมา
ไอ้เศษสวะหลินอิ่งช่างโชคดีเหลือเกิน ในเวลาที่สำคัญทุกครั้ง ก็จะมีคนออกมาทำให้เรื่องยุ่งเหยิง!
“หลินอิ่ง ฉันบอกคุณไปนานแล้ว ว่าให้ปรนนิบัติรฉันอย่างซื่อสัตย์ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันมาได้ทันเวลา ตอนนี้คุณคงตายไปแล้วรู้ไหม” หวางหงหลิงชำเลืองมองหลินอิ่งอย่างทะนงตัว
หลินอิ่งยิ้มแต่ไม่พูดอะไร
“น้องฉี รู้จักหลินอิ่งคนนี้ได้อย่างไร” หวางจื่อเหวินถามด้วยความไม่เชื่อ “หรือว่าคุณมาที่นี่เพื่อช่วยเขา”
“คุณส่งคนเอาปืนไปจ่อหัวลูกพี่ลูกน้องของคุณ เพราะไอ้คนเศษสวะแบบนี้เหรอ” หวางจื่อเหวินถามด้วยความตกใจ
จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าโลกทรรศน์ได้พังทลายลง ที่เมืองชิงหยูน หวางหงหลิงเป็นที่รู้จักในเรื่องความเย่อหยิ่งและเย็นชา เป็นผู้หญิงอย่างบูเช็กเทียนราชินีแห่งภูเขาน้ำแข็ง ไม่มีผู้ชายคนไหนในวงครอบครัวสังคมชั้นสูงกล้าสนทนากับเธอ เพราะกลัวจะเป็นการรนหาที่ตาย
แต่ผู้หญิงบ้าคนนี้ จะออกหน้าเพื่อช่วยไอ้เศษสวะหลินอิ่งนี้จริงเหรอ
“ฉันจะช่วยใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณละ” หวางหงหลิงพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา “คนที่เก่งแต่ปากขี้ขลาดตาขาวอย่างคุณไม่มั่นใจเหรอ ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณได้สมความปรารถนาหรอก ทำไม หรือคุณจะกลับไปฟ้องนายท่านว่าฉันรังแกคุณงั้นเหรอ”
“คุณ!คุณ!” หวางจื่อเหวินทั้งอายและโกรธ รู้สึกได้รับความอัปยศอดสู ที่ถูกญาติด่าต่อหน้าหลินอิ่ง เขารู้สึกเสียหน้ามากๆ
หลินอิ่งทำหน้าเฉยๆ และเดินไปที่หวางจื่อเหวิน
“ไอ้ขยะแกจะทำอะไร” หวางจื่อเหวินถามอย่างเย็นชา
ผัวะ!
หลินอิ่งต่อยหวางจื่อเหวินล้มลงกับพื้น หน้าช้ำจนกระอักเลือดออกมา
“แกกล้าต่อยฉันเหรอ” หวางจื่อเหวินโกรธหลินอิ่งมาก ทำมือกำหมัดแน่น
เสียงดังปัง ฝ่าเท้าของหลินอิ่งเหยียบเข้าที่หน้าของหวางจื่อเหวิน เหยียบจนกระอักเลือดออกมา หน้าครึ่งหนึ่งของเขาถูกเหยียบจมติดกับพื้น เผยให้เห็นแววตาที่ขุ่นเคืองและโกรธแค้นมาก!
“ถ้าหวางหงหลิงมาช้าไปหนึ่งนาที แกได้กลายเป็นศพไปแล้ว” หลินอิ่งพูดอย่างใจเย็น
“คนอย่างแกตายไป ฉันจะทำให้แกเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้ อย่าคิดว่าจะอาศัยอำนาจของหวางหงหลิง แล้วจะโจมตีฉันได้! อย่างมากแกก็เป็นได้แค่สุนัขตัวหนึ่งของเธอก็เท่านั้น!” หวางจื่อเหวินพูดอย่างไม่ยอมแพ้
ดวงตาหลินอิ่ง ส่องความเยือกเย็นออกมา และเตะออกไปด้านข้าง ร่างของหวางจื่อเหวินถูกแหวี่ยงออกไปไกลกว่าสิบเมตร และล้มลงบนรถบนซ์คันสีดำตัว ตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด จนกล้ามเนื้อกระตุก
“หวางหงหลิง! คุณจะดูฉันถูกไอ้ขยะนี่ดูถูกฉันอย่างนี้เหรอ” หวางจื่อเหวินพูด สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ ใบหน้าครึ่งหนึ่งบวมช้ำ และรู้สึกอายมาก “กลับไปฉันจะขอให้นายท่านจัดการตามกฎของตระกูลอย่างแน่นอน จะฟ้องว่าคุณเป็นพวกกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา!”
หวางหงหลิงท่าทางยังดูปกติ เหลือบมองไปที่ไอ้หก และพูด “ไปทำให้มันหุบปาก”
ไอ้หกวิ่งเข้าไปต่อยที่หน้าของหวางจื่อเหวินหมัดเดียว แล้วสลบไป
หวางหงหลิงมองไปที่หลินอิ่งด้วยความชื่นชม ดูจากการลงมือเหยียบหน้าหวางจื่อเหวินอย่างโหดเหี้ยมของชายคนนี้แล้ว คงถูกหวางจื่อเหวินรังแกที่จางซื่อกรุ๊ปเมื่อตอนบ่ายหนักเอาการพอสมควร
“ฉันออกหน้าเพื่อคุณ และยังช่วยชีวิตคุณไว้ คุณเป็นผู้ชาย คงรู้นะว่าต่อไปต้องทำอย่างไร” หวางหงหลิงพูดด้วยท่าทีติดตลก
“คุณช่วยชีวิตฉันเหรอ” หลินอิ่งส่ายหัว “คุณจะมาหรือไม่มา ผลลัพธ์มันก็เหมือนกัน”
หวางหงหลิงมองหลินอิ่งอย่างไม่พอใจ และพูด “ปืนสิบกว่ากระบอกจ่อที่หัวของคุณ คุณยังมาทำปากดีกับฉันอีกงั้นเหรอ”
“ฉันบอกคุณ ว่าคุณมาได้ทันเวลา ถ้ามาช้ากว่านี้หนึ่งนาที ญาติของคุณคงตายไปแล้ว” หลินอิ่งพูดอย่างใจเย็น
หวางหงหลิงเอามือเท้าเอว ท่าทางไม่พอใจ และมองหลินอิ่งอย่างดุดัน
เธอหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง พยายามจะไม่โกรธ และถาม:“โอเค คุณหมายความว่าฉันไม่ควรมาใช่ไหม”
หวางหงหลิงรู้สึกขุ่นเคือง เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ชาย หลินอิ่งไม่รู้สึกขอบคุณก็ไม่เป็นไร แต่มาทำท่าทีแย่ๆเช่นนี้ได้ยังไงกัน
ไม่ได้ทำด้วยตัวเอง เขาถือดีอะไรมาแสดงอำนาจ ถือดียังไงกล้าทำร้ายหวางจื่อเหวิน คิดว่าตัวเองเก่งสินะ ยังไม่รู้สึกซาบซึ้งอีก
“หลินอิ่ง คุณยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม หรือคุณอยากดันทุรัง หน้าด้านใช่ไหม” หวางหงหลิงพูดด้วยความโกรธ “ถ้าไม่ใช่ว่าฉันมาช่วยชีวิตของคุณไว้ คุณคงถูกหวางจื่อเหวินทำร้ายจนตายเหมือนหมาไปแล้วคุณรู้ไหม ตอนนี้คุณควรก้มหัวขอบคุณฉัน ให้ความจงรักภักดีแก่ฉัน”
“คุณคิดมากเกินไป” หลินอิ่งยิ้มเยาะส่ายหน้า และหันหลังเดินจากไป
“ฉัน! ฉันคิดมากไปเหรอ” หวางหงหลิงหน้าแดง และกระทืบด้วยความโกรธ ยังไม่เคยเจอใครที่ไม่รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดีอย่างหลินอิ่งมาก่อน!