บทที่135 ไอ้แก่ตายยากที่ต่ำช้าไร้ยางอาย
ปังปังปัง!
บรรยากาศเสียงดังไม่หยุด เสียงหมัดและเท้าปล่อยใส่กล้ามเนื้อ สามพี่น้องหลิวจุนกับตาแก่ติงสู้กันอย่างรุนแรง
ทั้งสองฝ่ายดูหมดหวัง หมัดและเท้าสู้อย่างไร้ร่องรอย เป็นการประลองนัดหนึ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
ถึงแม้ตาแก่ติงอายุมากกว่าหกสิบแล้ว แต่เมื่อครั้งยังหนุ่มก็เป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งในตุงไห่ เผชิญหน้ากับสามคนพี่น้องหลิวจุนที่รุมเข้ามาถือว่าเป็นเรื่องง่าย
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว!
ตาแก่ติงสะบัดแขน เรียกฝุ่นละอองและเม็ดทรายออกมา โจมตีใส่อย่างรุนแรงและรวดเร็ว สาดใส่บนใบหน้าสามพี่น้องหลิวจุน
ไม่ทันป้องกัน สามพี่น้องหลิวจุนก็ถูกทรายกลบใส่ตา ส่งผลต่อสายตา และคิดไม่ถึงว่าจู่ๆตาแก่ติงจะใช้วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนี้!
ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว!
ตาแก่ติงคว้าโอกาส ปล่อยไปสองหมัดแรงๆ ไปที่หน้าท้องหลิวจุน จนสำลักเลือด ลอยออกไปหลายเมตร ล้มลงที่พื้นอย่างโมโห
หมุนตัวกลับไป ตาแก่ติงใช้สองแส้เตะไปที่เอวสองพี่น้องหลิวจุน จนสั่นสะเทือนไปทั้งพื้นที่ ลอยออกไปหลายสิบเมตร
“คุณมันน่ารังเกียจจริงๆ!แล้วยังมีหน้ามาเรียกว่าเป็นคณบดีของศิลปะการต่อสู้ของชาติในตุงไห่ ที่จริงก็แค่ของชั้นต่ำ!”หลิวจุนพูดด้วยความโมโห ในดวงตายังมีทรายและฝุ่นละออง ลืมตาไม่ขึ้น
“หมาแก่ติ่ง คุณนี่มันเป็นหมาแก่จริงๆเลย แม้แต่ผงทรายวิธีการแบบนี้ก็ยังเอามาใช้?ผมดูถูกคุณ!”
“หน้าไม่อายจริงๆ คุณมันหมาแก่ติ่ง!”
สามพี่น้องตระกูลหลิวต่อว่าด้วยความโมโห สีหน้าโกรธจัด พูดไปจมูกก็ไหลออกมาเป็นเลือดไปด้วย
เพียงแต่คนที่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้ประเทศหลุง นั่นแน่นอนว่าต่างดูถูกพฤติกรรมที่น่ารังเกียจเช่นนี้ เทียบกับตอนที่สู้ศิลปะการต่อสู้แล้ว โยนฝุ่นทราย ตาแก่ติงนี่ยังจะเรียกตัวเองว่าเป็นอาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนัก แล้วยังสร้างแก๊งเองอีก?
“เหอะเหอะ ไอ้เด็กเปรตพวกคุณสามคน ฝีมือก็สู้ไม่ได้ ยังมีอะไรต้องพูดอีก?”ติงเสินอีลูบเคราและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“โยนฝุ่นทรายแล้วยังไง?แค่ชนะได้ นั่นก็อยู่ที่ความสามารถผม คุณไม่พอใจเหรอ?”
“ไม่คิดหน่อยเหรอ อาจารย์อย่างผม เรียกกันว่าจองเสินอี!เป็นถึงอาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักรุ่นหนึ่ง แค่ขยะอย่างพวกคุณสามคน จะมากล้าสู้กับผม?ไม่รู้จักเป็นตายเลยหรือไง”ติงเสินอีหัวเราะเสียงดัง ส่ายหัว อิ่มเอมใจมาก
พอคิดว่าเขาติงเสินอี มีชื่อว่าจองเสินอี ความหมายก็คือเทพสุดยอดแห่งการโม้รุ่นแรก!ระดับบรรพบุรุษเก่าแก่ผู้ก่อตั้งสำนัก!
หลายปีมานี้ สามารถสู้กับฝีมือต้นๆของตุงไห่ได้ นอกจากต้องมีฝีมือเหนือกว่า แน่นอนว่ายังมีวิธีการที่เลวทรามต่างๆอีก เช่นโยนฝุ่นทรายแบบนี้ เป็นแค่วิธีการเล็กๆ!
หลิวจุนทั้งสามคนโกรธจนแทบอ้วกเป็นเลือด ไม่เคยเห็นคนที่เลวทรามเช่นนี้!
เสียดายอย่างทำอะไรไม่ได้ ทั้งสามถูกทำร้ายเจ็บตา ตาใช้งานไม่ได้ชั่วคราว แล้วยังถูกแอบโจมตีไปที่เอว เจ็บไปถึงอวัยวะภายใน หมดแรงไปชั่วขณะ
“ขยะก็คือขยะ!ลุกขึ้นสิ กล้ามาสู้กับจองเสินอีที่สง่างามอย่างผม?”ติงเสินอีพูดด้วยใบหน้าพึงพอใจ มองจางฉีโม่อย่างหยอกล้อขี้เล่น
จางฉีโม่มีใบหน้าตื่นตระหนก มองจนตะลึง ตาแก่ที่เรียกว่าจองเสินอีนี้ ทำไมถึงได้หน้าไม่อายขนาดนี้?
“สาวน้อยจาง ตามอาจารย์ไปเป็นแขกที่ตระกูลหวางเถอะ”ติงเสินอีหัวเราะอย่างเยือกเย็น ค่อยๆเดินไปที่จางฉีโม่ คิดในใจ ครั้งนี้ช่วยตระกูลหวางทำเรื่องใหญ่ ทำเงินได้หลายสิบล้าน ต่อไปเลี้ยงชีวิตแก่ๆนี้ก็เพียงพอแล้ว!
“ตระกูลหวาง?คุณอย่าเข้ามา!”จางฉีโม่ถอยหลังไป เธอรู้เพราะเคยเห็นสภาพบ้าคลั่งของพ่อลูกหวางกั๋วคาง คิดไม่ถึงว่ายังจะให้คนมาจับตัวเองอีก ไม่มีขื่อมีแปจริงๆ
ติงเสินอีหัวเราะอย่างสนุก ในสายตาเขา จางฉีโม่คือธนบัตรสีแดงหลายสิบล้านที่มีชีวิต พาไปก่อนค่อยว่ากัน
คิดอย่างนั้น ติงเสินอีก็พุ่งเข้าไป กำลังจะจับจางฉีโม่ เตรียมที่จะตบไปฝ่ามือก่อนเพื่อให้สลบแล้วค่อยว่ากัน
เวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงลมดังขึ้น เสียงดังโครม ร่างหนึ่งที่ดูน่ากลัวเหมือนผีเข้ามา ขาถีบติงเสินอีแรงๆลอยออกไป ร่างล้มลงออกไปสิบกว่าเมตร แล้วอ้วกออกมา
“ใครน่ะ?ต่ำช้าไร้ยางอายได้ขนาดนี้ กล้ามาแอบโจมตีปรมาจารย์จองเสินอีที่สง่างามอย่างผม?”ติงเสินอีพูดด้วยความโกรธ มองขึ้นไป
เห็นแค่ คนแก่ผมขาวที่ดูเหมือนไม่ลึกลับซับซ้อน สวมสูทสีน้ำตาล สภาพเหมือนพ่อบ้าน
เป็นหลี่ผูมา พ่อบ้านใหญ่คนนี้ของตระกูลฉีตอนนั้น ไม่ใช่แค่ทำอาหารหรือติ่มซำได้อย่างเดียว แต่ในฝีมือนั้นก็ยังเป็นกังฟูด้วย!
“พ่อบ้านหลี่?คุณเหรอ?”จางฉีโม่พูดด้วยความตกใจ พบว่าเป็นหลี่ผูช่วยตัวเอง ก็แปลกใจขึ้นมา
จู่ๆพ่อบ้านหลี่ก็มีฝีมือสูงขนาดนี้ แล้วยังยอมเป็นพ่อบ้านที่บ้านตัวเองด้วย?
หลี่ผูคือคนที่หลินอิ่งเชิญมา หรือว่า ก็เป็นคนที่หลินอิ่งจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อมาแอบปกป้องตัวเองด้วย?
สายตาจางฉีโม่เริ่มซับซ้อน เริ่มนึกถึงหลินอิ่ง
“หมาแก่หน้าไม่อายอย่างคุณ ก็กล้าเรียกตัวเองจองเสินอี?”หลี่ผูส่ายหน้ายิ้มอย่างเย็นชา
“ผมคือจองเสินอี!คุณคิดว่าไงล่ะ?แอบโจมตีผมแล้วยังกล้าพูดจาน่าละอายเช่นนี้อีก!”ติงเสินอีพูดอย่างไม่พอใจ พลิกตัว พุ่งไปจะสู้กับหลี่ผู
หลี่ผูหรี่ตา สายตาคมกริบเหมือนมีด พุ่งเข้าไปปล่อยหมัดและเท้าใส่ คว้าผมของจองเสินอี สองฝ่ามือตบใส่เขารอบๆอย่างแรง จากนั้นขาทั้งคู่ก็เหยียบใส่ ทำร้ายจนจองเสินอีร้องไห้เสียงดัง
ชายผู้นี้มาจากไหน ฝีมือถึงได้เก่งกล้าขนาดนี้?
หลิวจุนทั้งสามคนเช็ดทรายในตา มองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่ไม่ใช่พ่อบ้านของบ้านจางฉีโม่เหรอ?ทำไมฝีมือสูงส่งเช่นนี้?คิดๆดู ก็ถูก ลูกน้องของท่านหลิน ต่างมือดีเยี่ยมทั้งนั้น
“สถานที่เล็กเช่นนี้ ดันมีนักเลงเยอะจริงๆเลย ในเมืองเล็กๆอย่างชิงหยูน ฝึกกังฟูพื้นๆแบบนี้ ยังจะกล้าเรียกตัวเองว่าจองเสินอี?”หลี่ผูพุ่งไปใช้เท้าเหยียบใส่หน้าตาแก่ติง จนอ้วกเป็นเลือด
“จองเสินอีสามคำนี้คุณเรียกตัวเองด้วยเหรอ?คุณควรจะชื่อว่าหมาแก่จอง จองที่แตกหักถึงจะถูก เข้าใจไหม?ขยะสังคมเอ๊ย”หลี่ผูด่าอย่างรังเกียจ ถ่มน้ำลายใส่หน้า“จองเสินอี”คนนี้
จู่ๆก็กล้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงมาจับคุณนายน้อย ต้องอยู่ที่เขาหลี่ผูตอนช่วงวัยรุ่น จนผิวแทบจะลอก!
“ผมจองเสินอีที่สง่างาม จู่ๆคุณก็กล้ามาตีผม?ผมจะให้ศิษย์ของสำนักผมมาแก้แค้น!” ตาแก่ติงพูดออกมา รู้สึกอับอายละอายใจสุดๆ
สายตาหลี่ผูโหด เหยียบลงไปแรงๆหลายครั้งเรื่อยๆ เหยียบจนตาแก่ติงร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วยังอ้วกเป็นเลือด น้ำมูกน้ำตาก็ไหลออกมา จะยังมีความเป็นปรมาจารย์อาจารย์จองที่ไหนอีก
“คุณยังเป็นจองเสินอีที่สง่างามอีก?ลองเรียกอีกครั้งสิ!”หลี่ผูพูดอย่างเย็นชา“รีบขอโทษคุณนายหลิน คุกเข่า ไม่งั้น ตาย!”
“อ๋า?คุณจะทำผมตาย?”ตาแก่ติงตกใจจนขาอ่อน สั่นไปทั้งตัว
“ขอโทษ อย่าฆ่าผม!ท่านพูดถูก ผมจองเสินอีเป็นแค่ขยะ เป็นของที่ต่ำช้าไร้ยางอาย”คุณท่านติงร้องไห้ขอร้อง กลัวตาย“ถือว่าผมเป็นปู่คุณเถอะ ปล่อยผมไปนะ คุณจาง ไม่สิ นายหญิงจาง นายหญิงใหญ่จาง!ไว้ชีวิตผมเถอะ!”
มองคุณท่านติงคุกเข่าขอร้องหน้าไม่อายเช่นนี้ หลี่ผูแปลกใจ โลกช่างใหญ่เสียจริง มีแต่อะไรแปลกๆ!
จางฉีโม่ตะลึง รู้สึกขยะแขยงมาก คนแก่หกถึงเจ็ดสิบปีคนหนึ่ง จู่ๆก็เรียกตัวเองว่านายหญิงไว้ชีวิตเถอะ?ยังเป็นคนอยู่ไหม?หรือจองเสินอี?