บทที่ 191 ส่งมือถือนายออกมา
“ดูถูกทีมโปรดักชั่นของพวกคุณ?” หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตามองสำรวจผู้กำกับเกาคนนี้
มองเห็นหยางลี่ที่เขย่งเท้าอย่างเบิกบานอยู่ด้านหลัง ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
“ทำไม? นายจำคำพูดที่ตัวเองเคยพูดไม่ได้แล้วเหรอ?” ผู้กำกับเกาพูดเสียงต่ำ “ฉันขอแนะนำตัวหน่อย ฉันชื่อเกาจีไท่ ผู้ดูแลแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์เมืองโลก และเป็นผู้กำกับใหญ่ของทีมโปรดักชั่นนี้ด้วย”
“เมื่อกี้ได้ยินเสี่ยวหยางบอกว่า นายเย่อหยิ่งมาก แถมให้เสี่ยวหยางขอโทษนายด้วย” เกาจีไท่ซักถามอย่างบีบคั้น
“ใช่ค่ะ ผู้กำกับเกา ก่อนหน้านี้หลินอิ่งคนนี้อาศัยว่าตัวเองรู้จักคุณหนูหวาง จึงกลับพูดถูกเป็นผิดต่อหน้าคุณหนูหวาง ไม่เกรงใจทีมโปรดักชั่นของพวกเรา แถมยังบังคับให้ฉันขอโทษเขาอีก ฉันเห็นแก่หน้าคุณหนูหวาง จึงได้แต่ก้มหน้าอย่างจนปัญญา” หยางลี่พูดด้วยท่าทางไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างยิ่ง “เขายังแนะนำคุณหนูหวางอีกว่า ให้ปลดทีมโปรดักชั่นของเราออก บอกว่าสิ่งที่พวกเราทำคือขยะ”
“หลินอิ่ง ฉันเคยได้ยินว่า นายอยู่ที่เมืองชิงหยูนได้ชื่อว่าเป็นลูกเขยที่ไม่ได้เรื่องคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ? อยู่ในแวดวงคนดัง มีใครไม่รู้บ้างว่านายพยายามเกาะหวางหงหลิงกินไปวันๆ? ถือเอาว่าตัวเองเป็นคนมีชื่อเสียงแล้วจริงๆ?” เกาจีไท่พูดด้วยท่าทีเหยียดหยาม “ฉันจะบอกนายให้นะ อย่าคิดว่ามีหวางหงหลิงเป็นที่พึ่งแล้วจะไม่เจียมตัวได้ ฉันคือคนของไห่หยางกรุ๊ป!”
หลินอิ่งมองการแสดงของคนทั้งสอง ยิ้มไม่ได้พูดอะไร
เห็นได้ชัดว่า ผู้กำกับใหญ่ที่ชื่อเกาจีไท่คนนี้ ไม่รู้ว่าสมคบคิดอะไรกับหยางลี่เป็นการส่วนตัว ถึงได้ช่วยออกหน้าให้เธออย่างแข็งขันเช่นนี้?
“ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ? เมื่อกี้มีหวางหงหลิงอยู่ ยังอวดดีมากอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? หรือตอนนี้ไม่มีผู้หญิงคอยหนุนหลัง ก็กลัวเสียแล้ว?” หยางลี่พูดเสียงเย็น ทำหน้าตาลำพองใจ
“หลินอิ่ง เรื่องตีค่าทีมโปรดักชั่นเรา ฉันอธิบายด้วยเหตุผลให้นายฟังไปรอบหนึ่งแล้ว หากฟังไม่เข้าใจ ตอนนี้ฉันจะรีบไปตามคนมาหิ้วนายออกไปเดี๋ยวนี้เลย ถือโอกาสให้นักข่าวถ่ายคลิปลงโซเชี่ยล ทำให้นายชื่อเสียงป่นปี้” เกาจีไท่กล่าวอย่างข่มขู่
“อธิบาย? ผมเคยพูดอะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ?” หลินอิ่งกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“ทำไม? ที่เคยพูดมา ไม่กล้ายอมรับ?” เกาจีไท่พูดด้วยท่าทีเหยียดหยาม “เอาเถอะ ฉันรู้นายมันก็แค่คนปอดแหกคนหนึ่ง พึ่งพาอิทธิพลของผู้หญิง รังแกผู้หญิง หลินอิ่งจุดเด่นของนายก็มีแค่นี้ สมกับได้ชื่อว่าเป็นเศษสวะจริงๆ!”
หลินอิ่งส่ายศีรษะ มองเกาจีไท่อย่างเย็นชา พลางกล่าวว่า “คุณอยากได้ยินคนอื่นบอกว่าทีมโปรดักชั่นของคุณคือขยะขนาดนี้เชียว? ได้ งั้นผมจะบอกคุณตอนนี้เลย คุณช่างเป็นขยะจริงๆ”
เกาจีไท่ทำหน้าตาโกรธขึ้งทันที จ้องหลินอิ่งอย่างดุร้าย “นายนี่มันอวดดีเหลือเกินนะ! คนไร้ค่าอย่างนายช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ!”
เดิมทีคิดจะมาที่นี่เพื่อขู่ให้หลินอิ่งหวาดกลัวสักหน่อย คนไร้ค่าเช่นนี้ควรจะยอมขอโทษก่อน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าอวดดีถึงขนาดนี้ คิดว่าตนเองจะจัดการเขาไม่ได้จริงๆ?
“เสี่ยวหยาง เธอไปเรียกคนของหน่วยรปภ.มา ค่อยให้คนของกองถ่ายมาที่นี่ ฉันจะจัดคอลัมน์พิเศษให้หลินอิ่งสักหน่อย” เกาจีไท่ยิ้มเย็นกล่าว “ลงวิดีโอตอนที่นายถูกหิ้วออกไปให้ด้วย”
“อวดดีในวงการโทรทัศน์ นายมันแค่ไหนกันเชียว? พรุ่งนี้นายก็จะได้ยินข่าวแล้วว่า หลินอิ่ง ถ้ามองคนหนึ่งแทรกซึมเข้ามาในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เพื่อแอบถ่ายดาราสาว!” เกาจีไท่กล่าวอย่างเย้ยหยัน
“คุณรู้สึกว่ามีเส้นสายกับสื่อ ผิดถูกก็ขึ้นอยู่กับคำพูดของคุณแล้วใช่ไหม?” หลินอิ่งถามเสียงเย็น
แย่จริงๆ ถือกล้อง มีสื่อแถลงข่าว เรื่องก็อาศัยเขากุขึ้นมาทั้งหมด
“หรือว่าไม่ใช่กันล่ะ? โดยเฉพาะสวะที่เกาะผู้หญิงกินอย่างนาย มาที่กองถ่ายมีเป้าหมายอะไร? เป็นใครก็คิดได้แล้ว? ไม่คิดมาถ้ำมอง ก็คิดจะมาจับดาราสาว หาที่เกาะกินล่ะสิ?” เกาจีไท่กล่าวเยาะหยัน ท่าทางมั่นใจหนักหนา เหมือนกำลังกุมความจริงบางอย่างอยู่
จากที่เขาเห็น สวะอย่างหลินอิ่งมาสถานที่ถ่ายทำ จุดประสงค์ต้องมีแต่เรื่องเหล่านี้แน่นอน นอกจากเรื่องเหล่านี้แล้ว เขายังจะมาที่นี่ทำไมอีก?
หลินอิ่งคลึงขมับ ช่างสมกับอาชีพผู้กำกับจริงๆ จินตนาการบรรเจิดโดยแท้
“พูดไม่ออกล่ะสิ? ถูกผู้กำกับเกาเปิดโปงแผนชั่ว ก็รู้สึกอายเสียแล้ว?” หยางลี่พูดถากถางอยู่ด้านข้าง
“ฮ่าๆ พวกขยะแบบนี้ ฉันไปตั้งแต่เหนือจรดใต้ ถ่ายทำละครกับภาพยนตร์ ไม่รู้ว่าเคยพบเห็นมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ตัวเองไร้ความสามารถ ก็คิดจะมาเกาะคนอื่น ไม่มองดูสารรูปตัวเองบ้างเลย” เกาจีไท่ยิ้มกล่าวอย่างลำพองใจ
เวลานี้เอง มีรปภ.สวมเครื่องแบบกลุ่มหนึ่ง และคนแบกกล้องสองสามคน เดินมาทางนี้อย่างครึกโครม เรียงเป็นแถวอยู่ด้านหลังเกาจีไท่ ดูเป็นมืออาชีพอย่างมาก
“หลินอิ่ง อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสนายเลย การทำข่าวคนไร้ค่าอย่างนาย ฉันก็รู้สึกเสียเวลาแล้ว
เอาอย่างนี้เถอะ เดี๋ยวนายก้มหน้ารับผิดกับเสี่ยวหยาง ฉันจะยกโทษที่นายดูถูกทีมโปรดักชั่นของเราให้” เกาจีไท่โบกมือ พูดด้วยท่าทางมีเมตตาเหลือประมาณ
“หากไม่ขอโทษ ฉันคงได้แต่ให้รปภ.ไล่นายออกไป ค่อยอัดคลิปเรื่องนี้ไว้ ให้คนในโลกโซเชี่ยลวิจารณ์เรื่องโสมมที่นายบุกเข้ามาในสถานที่ถ่ายทำ แอบถ่ายผู้หญิง” เกาจีไท่กล่าวอย่างเยาะหยัน
หลินอิ่งยืดตัวขึ้นอย่างช้าๆ มองเกาจีไท่ แววตาค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นมา
“อ้อ? ไม่ยอมหรือ นายมีความสามารถอะไรถึงไม่ยอม?” เกาจีไท่กล่าวอย่างเหยียดหยาม “รปภ. เอามือถือเขาส่งมาให้ฉัน ฉันจะตรวจดูหน่อย ในมือถือถ่ายอะไรไว้บ้าง”
พูดจบ เขาก็ดีดนิ้วทีหนึ่ง รปภ.สองสามคนเดินเข้ามา พูดเสียงต่ำว่า “คุณครับ ช่วยส่งมือถือออกมาด้วย พวกเราต้องการตรวจสอบว่าคุณใช้มือถือถ่ายอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า เรื่องนี้อาจส่งผลร้ายต่อทีมโปรดักชั่นเรา!”
“มือถือ พวกคุณสามารถตรวจสอบได้ตามใจหรือ?” หลินอิ่งยิ้มเย็นกล่าว
“นั่นไง ใจฝ่อล่ะสิ? ในมือถือนายจะต้องมีอะไรที่ไม่อยากให้ใครเห็นแน่!” เกาจีไท่พูดอย่างมั่นใจ “ถ่ายไว้ให้ฉันที หลินอิ่งคนนี้ไม่ยอมเอามือถือมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แสดงว่าเขานั่นแหละกำลังแอบถ่ายทีมโปรดักชั่นของพวกเรา! จุ๊ๆ ช่างทุเรศจริงๆ”
เวลานี้ กล้องสองสามตัวก็หันมาถ่ายที่หลินอิ่ง
“เอาล่ะ รปภ. พวกคุณหิ้วนายคนนี้ออกได้แล้ว หากกล้าบุกเข้ามาที่นี่อีก ก็ตีเขาให้ผมแล้วกัน ผลที่ตามมาผมรับผิดชอบเอง!” เกาจีไท่กล่าวอย่างได้ใจ
กำลังพูดอยู่ รปภ.ร่างสูงใหญ่สองคนก็เดินเข้ามาต้องการจะจับตัวหลินอิ่ง
“พวกคุณมาสุมหัวอะไรกันอยู่ที่นี่?”
เวลานี้เอง ได้มีเสียงตำหนิดังขึ้น
พวกของเกาจีไท่หันมองไปยังที่มาของเสียง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบแหวกทางให้ทันที เห็นเพียงเจียงฉีกับหวางหงหลิงเดินเข้ามาด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“ประธานเจียง!”
“ประธานเจียง คุณมาได้ยังไง?”
พอเห็นประธานอาวุโสเจียงฉีมาเอง คนที่อยู่ตรงนั้นต่างเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา
ควรรู้ว่า เกาจีไท่ในฐานะผู้ดูแลแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์ของไห่หยางกรุ๊ป ปกติไม่มีสิทธิได้พบประธานกรรมการด้วยซ้ำ
เจียงฉีมองด้วยท่าทางเช่นนี้ สีหน้าก็เขียวคล้ำ
“ประธานเจียง เมื่อกี้พวกเรากำลังจัดการเรื่องหนึ่งอยู่ครับ นายคนนี้ชื่อว่าหลินอิ่ง ถึงกับแทรกซึมเข้ามาแอบถ่ายในทีมโปรดักชั่นเรา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อก่อความวุ่นวายให้นักแสดงสาวของเรา ทำตัวต่ำช้ามาก!” เกาจีไท่พูดอย่างเดือดดาล