บทที่ 234 เทเหล้าให้เต็ม
สีหน้าหลินอิ่งไม่เปลี่ยน ดื่มชาไปคำหนึ่ง พูดอย่างเรียบเฉย “คริส คุณไม่ได้พูดกับพวกเขาให้ชัดเจนเหรอ?”
“แกรู้จัดท่านคริส?” ซูนเฉียงสีหน้าตกใจ มองหลินอิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ เขาคิดไม่ถึง ลูกเขยไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่งจะรู้จักคริสได้?
“หลินอิ่ง แกไอ้ไร้น้ำยาไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ถึงแกจะรู้จักคุณคริส ท่านเรียกแกมาร่วมงานด้วย ก็ถือว่าเป็นบุญอันใหญ่หลวงแล้ว แกนึกว่าแกเป็นใคร?” ซูนเฉียงพูดจาสั่งสอนขึ้นมา “เห็นคุณคริสมาแล้ว ยังไม่ลุกขึ้นมาทักทายอีก? ท่านอยู่นี่แล้ว แกยังกล้านั่งที่ของท่านอีก?”
เท่าที่ซูนเฉียงคิด ไอ้ไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่งก็ไม่รู้โชคดีอะไร ฐานะอย่างขยะแบบนี้ ตอนนี้ยังเกาะคุณคริสได้ แต่เสียดายก็ยังไร้น้ำยาอยู่ดี ไม่มีความคิดเอาเสียเลย เห็นคุณคริสแล้ว ยังกล้านั่งอยู่ตรงนั้นอีก?
“ท่าน หลินอิ่งคนนี้ผมรู้จัก ในเมืองชิงหยูนชื่อเสียงเลื่องลือว่าเป็นลูกเขยไร้น้ำยา ไม่รู้ว่ามันไปรู้จักท่านได้ยังไง ความเป็นจริงแล้วก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์” ซูนเฉียงสีหน้าเย้ยหยัน พูดกับคริสขึ้นมา “ท่านอาจจะไม่ค่อยรู้จักนายคนนี้ พาคนแบบนี้ ทำลายชื่อเสียงฐานะท่านเปล่าๆ”
คริสเริ่มหน้าแข็ง คิ้วกระตุก เขาคิดไม่ถึงว่าซูนเฉียงจะกล้าพูดจาเหยียดหยามประธานหลิน รนหาที่ตายจริงๆ
เขากำลังโมโหเตรียมจะด่าซูนเฉียง แต่เห็นว่าประธานหลินกำลังดื่มชาอย่างสบายใจ จึงไม่กล้ารบกวนประธานหลิน
ประธานหลินไม่แสดงอาการ เพิ่มความกล้าให้เขาร้อยเท่า ก็ไม่กล้าอารมณ์เสียต่อหน้าเขา
“ท่าน สั่งสอนคนชั้นต่ำแบบนี้ไม่สะดวก ผมทำแทนท่านเอง” ซูนเฉียงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคริสเลย มองไปที่หลินอิ่งอย่างเหยียดหยาม “ไอ้ไร้น้ำยาแกปัญญาอ่อนเหรอ? ยังไม่ลุกขึ้นให้คุณคริสนั่งอีก? ยืนไปด้านข้างยกน้ำชาให้พวกเรา ที่นี่ แกไม่มีสิทธิ์นั่ง”
ซูนเฉียงโมโหใส่หลินอิ่ง นี่เป็นสถานที่ที่คริสจะแนะนำคนใหญ่โตให้เขารู้จัก คนไร้น้ำยาแบบนี้เข้ามาได้ยังไง ยังไปนั่งตำแหน่งประธาน รนหาที่ตายจริงๆ
หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา มองไปที่คริส
คริสรู้สึกใจหวิว เขาจ้องซูนเฉียงอย่างโมโห
“ใช่แล้ว ท่านบอกว่าจะพาผมมาเจอคนใหญ่โตท่านหนึ่ง ตอนนี้เราควรจัดการสถานที่ให้เรียบร้อย รอท่านนั้นเข้ามา?” ซูนเฉียงพูดอย่างระมัดระวัง
“ใช่แล้ว ท่าน ท่านมาคุยเรื่องสำคัญ พวกเราจะให้ไอ้ไร้น้ำยานี่มาบ่อนทำลายไม่ได้” หลุยส์ก็พูดตาม
คริสสีหน้าไม่ดี ซูนเฉียงสองคนนี้ช่างโง่จนมองคนไม่ออก พระอยู่ตรงหน้าแล้วยังไม่รู้จักไหว้อีก
คริสพูดเสียงต่ำ “คนใหญ่คนโตที่ฉันจะแนะนำให้พวกเธอรู้จัก นั่งประจำที่แล้ว พวกเธอสองคนนั่งลง”
“หา?” ซูนเฉียงสีหน้าตกใจ หัวใจเต้นเร็ว ถามอย่างสงสัย “ท่าน คนที่ท่านบอกก่อนหน้านี้ คือเขาเหรอ?”
หลุยส์ก็สีหน้าตกใจ มองหลินอิ่งอีกครั้ง แล้วรีบหันกลับมามองคริส “ท่าน ท่านไม่ได้ล้อพวกเราเล่นใช่ไหม?”
นี่มันสถานการณ์อะไร? คนใหญ่โตที่ท่านคริสจะแนะนำให้พวกเขารู้จัก คือไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่ง? เป็นไปได้ยังไง?
คราวนี้ ซูนเฉียงกับหลุยส์รู้สึกตกใจ หัวใจเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา?
ถ้าไม่ใช่เพราะคริสพูดออกจากปากตัวเอง ตีเขาสองคนให้ตายก็ไม่เชื่อ ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งที่ใครก็รู้จัก ทำไมถึงกลายเป็นที่พึ่งของประธานบริษัทข้ามชาติใหญ่โตอย่างคริสได้?
ทันใดนั้น สมองของทั้งสองคนรู้สึกมึนงงไปหมด ไม่อยากเชื่อ
ส่วนคริสก็เข้านั่งที่ตำแหน่งรองประธาน เอ่ยปากพูด “พวกโง่ทั้งสองคน ยังไม่รีบนั่งลงขอโทษอีก อยากตายหรือไง?”
“หา ได้ครับ ได้ครับ นั่งลงนั่งลง” ซูนเฉียงตกใจขวัญเสีย นั่งลงตัวสั่น สภาพใจไม่อยู่กับตัว
ส่วนหลุยส์ก็สีหน้าไม่ดี ยื่นมือไปหยิบตะเกียบเพื่อปิดปังความตกใจของตัวเอง แต่พบว่ามือที่จับตะเกียบสั่นจนควบคุมไม่ได้
ทั้งสองคนตกใจสุดขีด
น่ากลัวจริงๆ หลินอิ่งปิดปังฐานะตัวเองเป็นคนใหญ่โตที่ไม่ธรรมดา
แค่คิดถึงคำพูดที่ดูถูกหลินอิ่งเมื่อครู่ อนาคตข้างหน้าคงได้อยู่ยากแน่?
“หลิน ประธานหลิน ขอโทษครับ เรื่องก่อนหน้านี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด” ซูนเฉียงพูดประจบ “ประธานหลินผู้ใหญ่อย่าถือสาผู้น้อย อย่ากล่าวโทษพวกเราเลย พวกเราสมควรตาย”
เพี๊ยะดังสองครั้ง ซูนเฉียงตบหน้าตัวเองสองครั้ง รีบยิ้มอย่างประจบประแจง
หลุยส์ก็รีบทำตาม ตบหน้าตัวเองสองครั้งตามซูนเฉียง รีบประจบอย่างดีกับหลินอิ่งไม่หยุด
ไม่ต้องพูดว่าหลินอิ่งมีอำนาจมากมายแค่ไหน ลำพังแค่คริส เพียงคำเดียวก็ทำให้พวกเขาล้มละลายได้ ชะตาชีวิตพลิกผัน
ตอนนี้พวกเขาสองคนเสียใจจนไส้พันกันหมดแล้ว รู้สึกอยากตายมาก ไม่รู้ว่าถ้าหลินอิ่งโกรธขึ้นมา จะทำอะไรน่ากลัวกับพวกเขาสองคน
คริสที่อยู่ข้างๆก็รู้สึกไม่สบายใจ ไม่กล้าพูดอะไรเลย เพราะเขาเองก็ทำตัวไม่ถูก คิดไม่ถึงว่าไอ้โง่สองคนนี้จะกล้าทำให้ประธานหลินขุ่นเคืองได้ ฉะนั้นถึงได้เชิญมาที่นี่
หลินอิ่งสีหน้าไม่เปลี่ยน ไม่ได้สนใจคำขอโทษของซูนเฉียงสองคน ว่างแก้วน้ำชาลง ชี้ไปที่ถ้วยใหญ่สองใบบนโต๊ะ พูดเย็นชา “เทเหล้าให้เต็ม”
“เทเต็ม?” ซูนเฉียงมองไปที่ถ้วยใหญ่บนโต๊ะ บีบรอยยิ้มออกมาด้วยความฝืน
นั่นมันถ้วยใส่อาหาร ถ้วยใบหนึ่งสามารถจุเหล้าได้ครึ่งลิตร แค่มองก็น่ากลัวแล้ว
นี่ทำให้ซูนเฉียงกับหลุยส์คิดได้ วันนี้ที่อาคารจางซื่อ คำพูดของหลินอิ่ง บอกว่าจะให้พวกเขาดื่มเหล้าจนพอ……
แค่คิดถึงตรงนี้ ซูนเฉียงกับหลุยส์ก็รู้สึกเกลียดจางหงจูนสองพี่น้องในใจอย่างที่สุด ไอ้โง่สองคนนี้ รนหาที่ตายไปหาเรื่องครอบครัวประธานหลิน มอมเหล้าพ่อตาประธานหลินจนเมาเละเทะ แต่ทำให้เขาสองคนต้องซวยด้วย
“ได้ครับ ประธานหลิน ท่านให้เราสองคนดื่มเหล้า ให้หน้าพวกเราแบบนี้ พวกเราต้องเทจนเต็มแน่” ซูนเฉียงบีบรอยยิ้มพูด หยิบเหล้าขาวห้าสิบดีกรีที่วางบนโต๊ะขึ้น เทลงถ้วยจนเต็ม
“ครับ ขอบคุณประหลินให้เหล้า”หลุยส์ก็พูดด้วยรอยยิ้ม เทเหล้าขาวจนเต็มถ้วย
เหล้าครึ่งลิตร เทจนหมดขวดก็ยังไม่เต็มถ้วย ทั้งสองคนต่างมองเหล้าในถ้วยตัวเอง สีหน้าขมขื่นที่สุด แต่ก็ไม่กล้าที่จะไม่ดื่ม ถ้าไม่ดื่มไม่ได้
หลินอิ่งสีหน้าไม่เปลี่ยน นั่งไม่พูดอะไร ซูนเฉียงยกถ้วยลุกขึ้นอย่างเกรงใจเคารพ
“ประธานหลิน วันนี้ผมผิดไปแล้ว หวังว่าท่านจะไม่ถือสา เหล้าถ้วยนี้ ผมดื่มหมดถ้วย”
พูดจบ ซูนเฉียงกับหลุยส์ต่างหลับตาแน่น เงยหน้าดื่มไม่หยุด จนเหล้าขาวในถ้วยจนหมดอย่างลำบาก ไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว จากนั้น ทั้งสองก็นั่งลงในที่ตัวเอง สายตาก็เริ่มมึนมองไม่ค่อยชัด ในกระเพาะก็เหมือนมีคลื่นซัดไปมา จากนั้นก็อยากอาเจียนออกมา แต่ก็ไม่กล้า