ปัง
หลินอิ่งขยับตัว ยกเท้าขึ้น เสียงลมระเบิดกลางอากาศ เท้าฟาดไปที่ไหล่ของเจียงกู่จือ ทำเอาเขากระเด็นไปไกลยี่สิบเมตร แล้วล้มลงที่พื้นอย่างแรง กระอักเลือดไม่หยุด
“เอือกอ๊าก……”
เจียงกู่จือนอนกลิ้งอยู่บนพื้น อาเจียนเป็นเลือด ร่างกายกระตุกเหมือนโดนไฟช็อก เสียงกระดูกดังคักคัก ท่าทางดูซมซาน
เขารู้สึกได้แค่ เหมือนมีกระแสไฟส่งมาจากหัวไหล่ ไหลไปทั่วร่าง ทำให้กระดูกทั่วร่างแตกกระจาย คิดไม่ถึงเลยว่ามันเป็นวิชาที่น่ากลัวแค่ไหน
คราวนี้ ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แห่งเสฉวนเจียงกู่จือท่านนี้ ถูกทำลายวิชาและพิการแล้ว
ก่อนหน้านี้หลินอิ่งแค่ทำลายวิชากำลังภายในของเขา แต่ตอนนี้หักกระดูกทั่วร่าง แม้แต่ลุกขึ้นเดินยังลำบาก ครึ่งชีวิตที่เหลือก็ได้แค่นอนอยู่บนเตียง
“หลิน หลินอิ่ง แก แกกล้าทำกับปรมาจารย์อย่างฉัน เค่กเค่ก” เจียงกู่จือพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ ตัวสั่นทั้งร่าง สายตาโหดเหี้ยมโมโห
เป็นคนฝึกศิลปะการต่อสู้มาทั้งชีวิต กลับถูกคนทำลายกระดูกทั่วร่าง เท่าไหร่ดูถูกการฝึกซ้อมมาทั้งชีวิตของเขา ความเจ็บปวดแบบนี้ ทรมานยิ่งกว่าตายอีก
“นี่ ปรมาจารย์เจียงกู่จือถูกทำพิการไปแล้ว?”
“ปรมาจารย์เจียงกู่จือชื่อเสียงโด่งดัง ถูกทำลายในเสี้ยววินาที สู้ไม่ได้แม้กระทั่งเด็กยี่สิบต้นๆ ไม่น่าเชื่อจริงๆ”
ผู้นำระดับสูงตระกูลนิ่งที่นั่งอยู่ มีหลายคนสายตาตะลึง สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เจียงกู่จือเป็นหัวหน้าทหารลับของตระกูลนิ่ง พวกเขาเหล่านี้ต่างก็คุ้นเคยกันดี ปกติพวกเขาเหล่านี้ต่างก็เคารพนับถือ
ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง พวกเขาก็ไม่กล้าเชื่อ ว่านี่เป็นความจริง
“หลินอิ่ง แกรู้ไหมว่าเบื้องหลังฉันคือใคร? แกรู้ไหม แกทำผิดร้ายแรงขนาดไหน?” เจียงกู่จือสีหน้าบูดเบี้ยว พูดอย่างเลือดเย็น
เจียงกู่จือไม่เคยคาดคิด ว่าหลินอิ่งจะมีวิชาการต่อสู้น่ากลัวขนาดนี้ วิชาการต่อสู้ของเขา สู้กับเด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ กลับรับมือไม่ได้ กลับพ่ายแพ้ไม่มีชิ้นดี เขาไม่พอใจอย่างยิ่ง
“ฉันเป็นคนสำนักชิงฮัว คนอื่นอาจไม่รู้ว่าสำนักชิงฮัวคืออะไร แต่แกฝึกศิลปะการต่อสู้ถึงระดับนี้ ต้องเคยได้ยินชื่อเสียงสำนักชิงฮัวแน่ หลังจากวันนี้ แก รวมทั้งญาติมิตรทั้งหมดของแก ต้องถูกตามล่าจากสำนักชิงฮัวแน่ รอตายเถอะ” เจียงกู่จือพูดเสียงเย็นชา ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ขู่ผม?” หลินอิ่งสายตาเย็นชาโหดเหี้ยม มองไปทางเจียงกู่จือ
ซั๊ว
ทันใดนั้น ร่างหลินอิ่งพุ่งเข้าไป มือจับคอของเจียงกู่จือไว้ทันที หมุนมือ เสียงดังคั๊ก สีหน้าบูดเบี้ยวของเจียงกู่จือนิ่งไปทันที แววตาสลัว หมดลมหายใจ
หลินอิ่งปล่อยมือสีหน้าเรียบเฉย ปล่อยร่างเจียงกู่จือล้มลงกับพื้น ตาปิดลงอย่างไม่พอใจ
ชีวิตนี้หลินอิ่งเกลียดที่สุด ก็คือเอาครอบครัวของเขามาข่มขู่
ตอนแรกเห็นแก่ที่เจียงกู่จืออายุเยอะแล้ว แค่ทำลายวิชา แค่นั้นก็พอ คิดไม่ถึง ชีวิตสุนัขแก่ตัวนี้ยังมีความคิดเลวร้ายแบบนี้
สำหรับอะไรสำนักชิงฮัวนั่น? เหอะ ตัวเองเป็นถึงประมุขแก๊งมังกร มีศัตรูทั่วทุกสารทิศ ในวงการลึกลับ มีคนมากมายที่อยากฆ่าเขา นับไม่ถ้วน ดึงศัตรูออกมากองกำลังหนึ่ง ก็ใหญ่โตกว่าสำนักชิงฮัวอะไรนั่นสิบเท่า สำนักชิงฮัวคือตัวอะไร?
“โอหัง หลินอิ่ง แกกล้าฆ่าคนในห้องโถงตระกูลนิ่ง? กล้าฆ่าแขกพิเศษของตระกูลนิ่ง” นิ่งจองเสิ้งตะโกนต่อว่า จ้องหน้าหลินอิ่งอย่างโมโห
“หลินอิ่ง แกมันอวดดียโสโอหัง คิดว่าตระกูลนิ่งของเราทำอะไรแกไม่ได้ใช่ไหม?”
ผู้นำระดับสูงตระกูลนิ่ง ต่างก็มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าโมโหไม่พอใจ
เห็นได้ชัดว่า พฤติกรรมของหลินอิ่งเหยียบเส้นของพวกเขาแล้ว
ไม่พูดถึงฐานะผู้อาวุโสของหลินอิ่ง หัวหน้าตระกูลอย่างนิ่งจองเต้าไม่เหมือนกัน ถึงหลินอิ่งจะเป็นผู้อาวุโสตระกูลนิ่ง แต่ฆ่าเจียงกู่จือในห้องโถงตระกูลนิ่ง ความผิดรุนแรงยกโทษไม่ได้
ต้องรู้ว่า เจียงกู่จือเป็นหัวหน้าทหารลับของตระกูลนิ่ง เป็นนักสู้มือหนึ่งของตระกูลนิ่ง ยอดฝีมือสูงส่ง และมีความสัมพันธ์มากมายในมณฑลเสฉวน เป็นตัวช่วยคนสำคัญ ถูกหลินอิ่งที่มาจากข้างนอกจัดการไปแบบนี้ จะทนได้ยังไง?
นิ่งจองเต้านั่งบนเก้าอี้ มองหลินอิ่งสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อเจียงกู่จือถูกฆ่าแล้ว สีหน้าของเขากลับดูใจเย็นลง
“หลินอิ่ง แกรู้ไหมว่าปรมาจารย์เจียงกู่จือลูกศิษย์ทั่วทุกมุมโลก ฐานะเบื้องหลังแน่นหนาในเมืองเสฉวน มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับตระกูลนิ่งเราแค่ไหน? แกเพิ่งมาตระกูลนิ่ง กล้า……” นิ่งจองเต้าพูดเสียงเคร่งขรึม น้ำเสียงไม่พอใจและมีแววข่มขู่
“เสียงดัง”
หลินอิ่งพูดเย็นชา ขยับตัว ร่างก็พุ่งออกไปแล้ว สะบัดมือตบไปอย่างแรง ที่หน้าของนิ่งจองเต้า ทำให้เขากระเด็นไปพร้อมเก้าอี้ ตีลังกาล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง
“แกกล้าลงมือกับฉันในตระกูลนิ่ง” นิ่งจองเต้าลุกขึ้นจากพื้น สีหน้าโมโห จ้องหลินอิ่งอย่างโมโห หน้าข้างหนึ่งถูกตบจนแดงแสบร้อน บวมขึ้นมา ดูแล้วน่าตลก
“ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง แม้แต่พี่หกยังกล้าตบ?”
“ฉันเข้าใจแล้ว หลินอิ่งคนนี้มันตั้งใจมาสร้างเรื่องที่ตระกูลนิ่งเราชัดๆ”
“วันนี้ไม่จะตัวมันไว้ ตระกูลนิ่งของเรายังมีศักดิ์ศรีอะไร?”
จากที่หลินอิ่งตบหน้านิ่งจงเสิ้งจนกระเด็น ผู้นำทุกคนต่างก็พากันโมโห จ่างคนเริ่มต่อว่าหลินอิ่งด้วยความโมโห
หลินอิ่งกวาดสายตามองไป ฟังจนเหลืออด
เขาสะบัดมือไปดึงเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง ยกเท้าขึ้นถีบเก้าอี้ออกไป เสียงดังกึกก้อง เก้าอี้หมุนกลางอากาศ พุ่งไปข้างหน้าเหมือนรถแข่ง
เสียงดังแพร๊งพรั้ง ผู้นำตระกูลที่นั่งเรียงกันเป็นแถว ต่างก็ถูกเก้าอี้ฟากหน้าจนหน้าดำหน้าเขียวบวมกันไปตามๆกัน ร้องโอดโอยเสียงดัง
“มีใครกล้าไม่เชื่อฟังอีก ผมจะฆ่าทิ้งตรงนี้ให้อย่างหมดจด” หลินอิ่งพูดเสียงเย็นชา
คำพูดออกไป ทุกคนในห้องต่างหัวใจเต้นแรง สายตาที่มองหลินอิ่งก็เปลี่ยนเป็นเกรงกลัว
ตอนนี้บนตัวหลินอิ่งมีแรงอาฆาต ทำให้พวกเขารู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว กลัวจะทำให้หลินอิ่งโกรธ
เพราะว่า หลินอิ่งแม้แต่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อย่างเจียงกู่จือ ยังถูกหลินอิ่งบีบตายเหมือนมดเลย คนอย่างพวกเขาจะไปทนมือทนเท้าได้ยังไง? ถึงแม้พวกเขาจะมีเงินมีอำนาจแค่ไหน ตอนนี้ต่อหน้าหลินอิ่ง ก็ต่อต้านอะไรไม่ได้
เวลานี้ ผู้นำตระกูลนิ่งที่ล้มไปบนพื้น ต่างก็ก้มหน้าไม่กล้าพูด ฝืนกลั้นไว้
หลินอิ่งมองไปทางนิ่งจองเต้า พูดว่า “นิ่งไท่จี๋อยู่ไหน? ให้เขาออกมาพูด”